บทที่ 10...3/3
ภายในห้องประชุมเล็กมีผู้เข้าร่วมประชุมเกือบสิบคน เมษาตื่นเต้นอยู่บ้าง แต่ความมั่นใจว่าขนมที่ทำสดและใหม่ นำมาส่งโรงแรมหลังจากออกจากเตาไม่ถึง 3 ชั่วโมง ทำให้เธอมั่นใจในคนของตัวเอง แต่ก็เผื่อใจไว้เช่นกันหากผลการตรวจพบสารปนเปื้อนที่นอกเหนือการควบคุม การรับผิดชอบจะเป็นสิ่งที่เธอไม่หลบเลี่ยงอย่างแน่นอน
เจนจิรามองเมษาเพราะรู้ว่าเป็นเจ้าของร้านเมนาที่กำลังเป็นประเด็นของการนัดเพื่อประชุมในเวลา 11 โมง ประธานในการประชุมคือปุริม เมื่อเมษาและผู้ติดตามมาถึงแล้ว การประชุมก็เริ่มขึ้นทันที
“แขกที่เกิดเหตุพักอยู่ห้อง 6019 ตอนนี้นอนพักอยู่ที่โรงพยาบาลหลังจากมีอาการปวดท้องและท้องเสียมาตลอดทั้งคืนค่ะคุณเจนนรี ทางโรงแรมคงต้องมีคำตอบ ทางนั้นมั่นใจว่าเพราะการทานขนมไป 3 ชิ้นก่อนจะกลับห้องพัก ถ้าเราไม่มีคำตอบที่ชัดเจน ทางนั้นจะส่งทนายมาค่ะ” หัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์ที่ได้พบกับลูกค้าซึ่งตอนนี้พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเป็นผู้เล่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างสรุป
“นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นค่ะคุณเมษา ทางโรงแรมตรวจสอบแล้วว่าก่อนที่แขกท่านนั้นจะกลับห้องพักไปได้ทานขนมจากร้านของคุณไป 3 ชิ้น แล้วหลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมงก็มีอาการปวดท้องและท้องเสียอย่างรุนแรง ทางโรงแรมจึงรีบนำตัวไปส่งที่โรงพยาบาล”
เจนจิราโชว์ภาพถ่ายซึ่งเป็นขนมตาลที่เกิดปัญหา ตอนนี้ทางโรงแรมได้เก็บขนมทั้งหมดจากร้านเมนาไว้ในตู้เย็น เนื่องจากยังต้องทำการตรวจสอบปัญหาที่แท้จริงจึงต้องรักษาสภาพไว้ให้คงเดิมที่สุด
เมษาฟังตั้งแต่เริ่มต้นยังไม่โต้แย้งอะไร สิ่งเดียวที่เปลี่ยนไม่ได้นั่นคือแขกคนนั้นทานขนมจากร้านของเธอไป เมษายอมรับในข้อเท็จจริงนี้ แต่การด่วนสรุปว่าสาเหตุของอาการปวดท้องอย่างรุนแรงมาจากขนมยังเร็วเกินไป
“ฉันยอมรับข้อเท็จจริงว่าแขกท่านนั้นได้มีการทานขนมที่ร้านเมนาค่ะ แต่เรื่องที่ท้องเสีย ฉันขอตรวจสอบก่อนนะคะ”
“ด้วยวิธีไหนหรือคะ” เจนจิราถามกลับพร้อมรอยยิ้ม แม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายเกี่ยวข้องกับภามอย่างไร แต่เธอไม่กังวลใจเลย หากขนมของร้านเมนาทำให้แขกท้องเสียจริง เธอย่อมมีสิทธิ์ยกเลิกสัญญาระหว่างโรงแรมกับร้านเมนา ต่อให้เป็นแฟนของภามแล้วอย่างไร ภามแยกงานกับเรื่องส่วนมาตลอด เธอมั่นใจว่าเขาไม่ช่วยแฟนเพราะเรื่องนี้แน่นอน
“ทางโรงแรมได้เก็บขนมทั้งถาดนั้นเอาไว้อยู่ไหมคะ” เมษาถาม
“เก็บเอาไว้ครับ” ปุริมช่วยตอบ “ตั้งแต่เกิดเรื่องทุกอย่างถูกเก็บไว้เป็นหลักฐานทั้งหมด”
เจนจิรายิ้มอย่างมั่นใจว่าต่อให้ตรวจสอบขนม ผลการตรวจสอบย่อมพบสาเหตุ การรอให้ได้ผลการตรวจสอบนั่นล่ะโอกาสของเธอ ช่างดีเสียจริงที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ เมษาดูไม่ยอมคนเสียด้วย หากผลออกมาว่าขนมเป็นสาเหตุคงไม่ยอมรับง่ายๆ ภามคงได้รู้จักแฟนของตัวเองชัดเจนขึ้นอีกหน่อย
“ถ้างั้นฉันจะให้นักวิทย์มาตรวจสอบตอนนี้เลย ถ้าตรวจแล้วพบว่าขนมมีปัญหาจริงๆ ฉันจะรับผิดชอบทุกอย่างค่ะ”
เจนจิราเลิกคิ้วไม่คิดว่าจะได้ยินคำว่ารับผิดชอบจากเมษา “ทุกอย่างที่คุณบอกคืออะไรบ้างคะ คงไม่ใช่แค่คำขอโทษหรอกนะคะ”
“ค่ารักษาพยาบาล การขอโทษ และหากแขกท่านนั้นอยากดำเนินการทางกฎหมาย ฉันจะรับผิดชอบเองโดยที่ไม่เกี่ยวข้องกับทางโรงแรม” คิดว่าเธอไม่กล้าหรือ เมษามองเห็นสายตาของเจนจิราก็ดูออกว่าผู้หญิงคนนั้นไม่ชอบเธอ อาจเพราะขนมกลายเป็นปัญหาให้เจนจิราต้องมายุ่งยากกระมัง
“คุณภามคง...”
“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับใครค่ะ” เมษารู้ว่าเจนจิราจะพูดอะไร ทำไมหรือคิดว่าเธอจะอ้างชื่อภามหรือไง “ฉันจะรับผิดชอบหากว่าทางร้านเป็นสาเหตุให้แขกท่านนั้นท้องเสียจากการทานขนมเองค่ะ”
ปุริมมองเจนจิราที่เลิกคิ้วแล้วเม้มปากราวกับไม่ค่อยอยากเชื่อ แม้เจนจิราจะทำงานในส่วนของตัวเองได้ดีมาตลอด แต่การนำเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวมาปนกันไม่ใช่คุณสมบัติของผู้จัดการที่ดี ชายหนุ่มคิดแต่ไม่ได้พูดอะไรออกไป เขามาเพื่อดูแนวทางการแก้ปัญหาแล้วไปรายงานท่านประธานเท่านั้น
“เพื่อความแน่ใจ ฉันคงต้องให้นักวิทย์ที่โรงแรมใช้ประจำตรวจเทียบผลด้วยเหมือนกัน ตอนนี้คงใกล้ถึงแล้ว” เจนจิราก็เตรียมแผนรองรับไว้เช่นกัน เพียงแต่นักวิทย์คนนั้นมาสายไปหน่อยเท่านั้น
ไม่ทันขาดคำนักวิทย์ที่เจนจิรานัดหมายไว้ก็มาถึง เนื่องจากขนมเป็นอาหารที่อาจมีสารบอแรกซ์ปนเปื้อนเป็นส่วนใหญ่ อีกทั้งอาการของแขกที่กำลังพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลก็คล้ายกับได้รับสารตัวนี้เข้าไป นักวิทย์ทั้งสองจึงเตรียมทดสอบสารบอแรกซ์ในขนม
ขนมตาลถูกตัดมาปริมาณเล็กน้อยใส่ในหลอดทดลอง ก่อนจะเติมน้ำยาทดสอบบอแรกซ์จำนวน 5 มิลลิลิตร แล้วกวนให้สารเคมีละลาย หลังจากนั้นนักวิทย์ได้ทำการจุ่มกระดาษขมิ้นในสารละลายให้เปียกครึ่งแผ่น แล้ววางแผ่นกระดาษขมิ้นบนแผ่นกระจก ใช้ที่เป่าผมเป่า 1 นาที ถ้ากระดาษขมิ้นเปลี่ยนเป็นส้มแดงแสดงว่ามีสารบอแรกซ์
“ไม่มีสารบอแรกซ์ค่ะ” นักวิทย์ทั้งสองตอบตรงกันเพราะกระดาษขมิ้นไม่เปลี่ยนสี
“ได้ผลเหมือนกัน” ปุริมสรุป ก่อนจะถามว่า “ถ้าอย่างนั้นควรตรวจอะไรเพิ่มครับถึงจะรู้ว่ามีสารปนเปื้อนอะไรอีกบ้าง”
“ฉันจะเก็บตัวอย่างไปตรวจที่ห้องแล็บอย่างละเอียด แล้วจะเร่งหาผลให้ไม่เกินพรุ่งนี้เที่ยงคงได้คำตอบ” นักวิทย์ที่เป็นรุ่นน้องมหา’ลัยเดียวกับเมษาตอบ
นักวิทย์ที่เจนจิราจัดหามาก็จะทำแบบเดียวกันเพราะต้องใช้เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ช่วยวิเคราะห์อย่างละเอียด ทั้งสองจึงสุ่มเก็บตัวอย่างใส่หลอดเก็บตัวอย่างจากขนมทุกชิ้น รวมทั้งสิ่งที่พบได้ในถาดใส่ขนมด้วย
“ที่ถาดตรงนี้มีคราบอะไรสักอย่าง” เมษาใช้ปากกาชี้ให้ทุกคนเห็นเพราะมันมีรอยเหลืองจางๆ อยู่สองจุด
“เดี๋ยวฉันเก็บตัวอย่างให้ค่ะ ทุกอย่างที่อยู่ในถาดต้องได้รับการตรวจสอบทั้งหมด” นักวิทย์ฝั่งเจนจิราตอบพลางใช้คอตตอนบัดเกลี่ยเพื่อให้สารสีเหลืองซึมเข้ามาที่สำลี รุ่นน้องของเมษาก็ทำแบบเดียวกัน
ตัวอย่างที่ต้องตรวจได้เก็บใส่หลอดทดลองจนครบแล้วและเก็บใส่กล่องโฟมเพื่อรักษาสภาพให้เหมือนเดิมก่อนถึงห้องตรวจสอบ เจนจิราเองก็ผิดคาดจากที่คิดว่าคงได้คำตอบทันทีกลับต้องรอไปอีกวัน
“หวังว่าเรื่องนี้จะเป็นการตรวจสอบที่ตรงไปตรงมา และแยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวออกจากกันนะคะ”
“คุณหมายถึงฉันหรือคะ” เมษาถามเจนจิรากลับ เริ่มรู้สึกว่าเจนจิราตั้งแง่กับเธอจนอาจจะไม่ใช่แค่เรื่องงานหรือเปล่า “ฉันต่อสู้ด้วยตัวเองมาตลอด แล้วทำไมคราวนี้ต้องพึ่งพาใครให้มาช่วย ถ้าทางฉันผิด ฉันรับผิดชอบแน่นอน แต่ถ้าฉันไม่ผิดก็เพราะหลักฐาน ไม่ใช่เพราะใครกลับผิดให้เป็นถูกค่ะ”
เจนจิราหน้าเจื่อนไปบ้าง แต่ก็เกลื่อนสีหน้าด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ทว่าภามกลับเดินเข้ามาในห้อง หญิงสาวเกิดคำถามทันทีว่าเขามาตั้งแต่เมื่อไหร่ ได้ยินอะไรไปบ้าง
เมษาเห็นภามแล้วแต่ยังยืนที่เดิม เพียงแค่ยิ้มให้เขาบางๆ เท่านั้น ชายหนุ่มเสียอีกที่ทำหน้านิ่งใส่ทุกคน แต่มายิ้มเห็นฟันเกือบทุกซี่ตอนมองมาที่เธอ เขาไม่ได้ลืมตัวใช่ไหม
“ผมรู้เรื่องแล้วน่ะ เจนจัดการทุกอย่างตามขั้นตอนได้เลย แฟนของผมแมนพอ ถ้าทางร้านผิดจริงย่อมรับผิดชอบอยู่แล้ว แต่ถ้าไม่ใช่ก็ต้องหาสาเหตุที่แท้จริงให้พบ” ภามพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ไม่ได้กังวลแม้แต่นิดเดียว เมษาแปลกใจว่าทำไมเขามั่นใจในตัวเธอนัก
เจนจิรายิ้มในหน้า ทว่าใจกำลังร้อนผ่าว การที่ภามพูดออกมาแบบนั้นย่อมแสดงว่าเขากับเมษาเป็นแฟนกันแล้วจริงๆ เรื่องที่จะแกล้งเป็นแฟนเพราะข่าวเพื่อรักษาหน้าตาไม่น่าใช่วิธีแก้ปัญหาของเขา ผู้ชายที่ไม่ชอบการผูกมัดไม่ทำแบบนี้แน่
“เจนควรยินดีด้วยไหมคะ”
“เป็นเรื่องที่น่ายินดีนะเจน ผมมีแฟนสักทีหลังจากโสดมานาน” ภามยิ้มกว้างพลางเดินมาชิดไหล่ของเมษา ที่ผ่านมาเขาดูออกว่าเจนจิราคิดอย่างไร เธอเป็นเพื่อนกับเขามานานและไม่มีทางเป็นอื่น “เดี๋ยวผมให้โมกข์ไปส่งนักวิทย์ที่คุณพามานะ”
เมษาผินหน้ามองภามที่กำลังเอียงหน้ามองมาพอดี เขาอ่อยใส่เธอเกินงามไปแล้ว ช่างไม่รู้ตัวเสียเลย
“ขอบคุณค่ะ”
“ไปก่อนนะเจน” แขนยาวของภามเลื่อนขึ้นมาโอบไหล่บาง แม้ปกป้องเธอในเรื่องงานไม่ได้ แต่เขาอยากปกป้องเธอจากเพื่อนของตัวเอง
ปุริมรอจนภามไปแล้วจึงประสานงานต่างๆ กับเจนจิราและหัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์ จนกว่าผลการตรวจสอบจะออกมา ห้ามมีข่าวของโรงแรมออกไปเด็ดขาด
เจนจิรามองตามร่างสูงของภามที่โอบไหล่เมษาแล้วเดินออกไปด้วยกัน ใบหน้าของชายหนุ่มเอียงลงราวกับอยากฟังเมษาให้ถนัด ความอ่อนหวานและความใส่ใจของเขาต่อผู้หญิงคนนั้นทำให้เธอน้ำตาคลอ ปุริมสังเกตเห็น แต่ไม่พูดอะไร เรื่องแบบนี้ตบมือข้างเดียวไม่ดังหรอก
เปิดตัวว่าเป็นแฟนกันแล้วไปเลยจบๆ ว่าแต่ใครแกล้งเมษากันนะ
ใจดวงนี้สื่อถึงรักลงขายเป็น E-Book ใน MEB แล้วค่ะ หมวดนิยายรัก
โดยโบว์ทำโปรโมชั่นลดเหลือ 149 บาทจาก 329 บาทเป็นเวลา 20 วัน และจะลงให้อ่านถึงบทที่ 14 นะคะ
ขอบคุณสำหรับการติดตามอ่านนะคะ
บรรพตี
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 124
แสดงความคิดเห็น