บทที่ 619: แยกกันเคลื่อนไหว

-A A +A

บทที่ 619: แยกกันเคลื่อนไหว

หลังจากหู่จิงได้ยินคำถามของสามี นางก็พูดขึ้นแทบจะในทันที “จะเป็นอะไรไปได้อีก ที่หลงโม่ไม่ต้อนรับพวกเขาก็คงเพราะมีความแค้นกับคนพวกนั้น!”

 

“ความแค้นงั้นหรือ?” หูชิงหลู่รู้สึกงุนงงเล็กน้อย “แล้วหลงโม่จะมีความแค้นอะไรกับคนของเผ่าตัวเอง?”

 

เมื่อหูชิงเกาได้ยินดังนั้นจึงตะโกนขึ้นมาเสียงดังว่า

 

“ไม่ว่าจะเป็นความแค้นอะไรก็ตาม หากพวกเขามีความแค้นต่อหลงโม่ ก็แสดงว่าพวกเขาต้องมีความแค้นต่อน้องเล็กของพวกเราด้วย และถ้าคนพวกนั้นมีความแค้นต่อเจียวเจียว ก็เท่ากับมีความแค้นต่อพวกเราด้วยเช่นกัน หากพวกภูตมังกรกล้ามารังแกน้องเล็กกับหลงโม่ ไม่ว่าอีกฝ่ายจะมาไม้ไหนก็ตาม ข้าจะไม่มีวันปล่อยพวกนั้นไปแน่!!”

 

ถัดมา เขาตบไหล่หูชิงหลู่เต็มแรงก่อนจะกล่าวต่อว่า

 

“เจ้าสาม กลับไปเอาอาวุธของเจ้าออกมาให้หมด ส่วนข้าจะไปเฝ้าที่ประตูเผ่า ต่อให้คนกลุ่มนั้นจะเป็นภูตมังกร เราก็จะไม่มีวันปล่อยให้พวกมันได้ก้าวออกไปจากเผ่านี้ได้!”

 

“ตกลง! ข้าจะกลับไปเอาอาวุธมาเดี๋ยวนี้!”

 

2 พี่น้องตกลงกันเสร็จสรรพก่อนจะรีบแยกย้ายกันไปคนละทิศละทางในทันทีโดยที่ไม่มีใครทันได้ห้ามพวกเขาไว้

 

หูชิงซานที่เห็นน้องชายทั้ง 2 คนรีบเร่งออกไปก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ แต่เมื่อมองไปทางน้องชายคนที่ 4 ของตน เขาก็รู้สึกว่าโชคดีที่หูชิงหยวนกับหู่จิงไม่ได้หุนหันพลันแล่นเช่น 2 คนนั้น

 

คนเป็นพี่ใหญ่มองดูทั้งคู่ก่อนจะพูดว่า “พวกเจ้า—”

 

แต่ยังไม่ทันที่หูชิงซานจะได้พูดอะไร เขาก็ต้องตกใจกับคำพูดที่โพล่งขึ้นมากะทันหันของภูตเสือสาว

 

“ไม่! ข้าต้องรีบเอาข่าวนี้ไปบอกให้ท่านแม่รู้ นางจะต้องกังวลเกี่ยวกับเจียวเจียวเป็นแน่” หู่จิงตบต้นขาของตัวเองฉาดใหญ่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าตัวเองควรจะทำอย่างไร

 

“ถ้างั้นข้าจะไปเฝ้าน้องเล็กเอาไว้ หากมีอะไรเกิดขึ้น ข้าจะมาบอกให้เจ้ารู้โดยเร็วที่สุด” หูชิงหยวนก็จัดการงานให้ตัวเองในทันที

 

“ตกลง งั้นเราแยกย้ายกันไปทำหน้าที่เถอะ”

 

พอ 2 สามีภรรยาพูดคุยกันจบแล้วก็รีบวิ่งออกไปเหมือน 2 คนก่อนหน้านี้

 

“…” นั่นทำให้หูชิงซานได้แต่ยืนอึ้งอยู่กับที่

 

เมื่อชายหนุ่มเห็นดังนั้นจึงหันไปมองเฟิงเฉิงและหลาน ๆ ที่ยืนอยู่ข้างหลังตนด้วยสีหน้าจนใจ

 

ทางด้านเฟิงหลีสาวยิ้มแล้วเอ่ยปลอบโยนผู้เป็นสามีด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

 

“ไม่เป็นไร พวกนั้นเพียงแค่กังวลว่าจะเกิดเรื่องกับเจียวเจียว ปล่อยพวกเขาไปเถอะ พวกเขาโต ๆ กันหมดแล้ว อีกอย่างก็มีท่านผู้เฒ่าอยู่ที่นั่นด้วย คงไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอก”

 

พอหูชิงซานได้ยินคู่ของเขาที่ยืนอยู่ด้วยกันเอ่ยถ้อยคำปลอบโยน ในที่สุดเขาก็รู้สึกดีขึ้น 

 

แน่นอนว่าภรรยาของเขาเป็นคนที่มีเหตุผลที่สุด

 

“เฟิงเฉิง เจ้าใจดีมาก” จิ้งจอกหนุ่มมองเฟิงหลีสาวด้วยสีหน้าอ่อนโยน

 

“ชิงซาน เจ้าช่วยพาเด็ก ๆ กลับไปที่บ้านก่อนได้ไหม จู่ ๆ ข้าก็นึกขึ้นได้ว่าวันนี้ข้ายังไม่ได้รดน้ำดอกไม้เลย ข้าคงต้องขอตัวกลับไปทำก่อน” เฟิงเฉิงจับมือของหูชิงซานมาแกว่งเบา ๆ พร้อมกับกะพริบตากลมโตของนางแล้วถามเสียงหวาน

 

แน่นอนว่าชายหนุ่มที่ไม่สามารถทนต่อการออดอ้อนของผู้เป็นภรรยาได้ เขาจึงตอบตกลงในทันที

 

“เอาล่ะ ๆ ปล่อยเด็ก ๆ ให้เป็นหน้าที่ข้าเถอะ”

 

เมื่อเฟิงเฉิงได้ยินดังนั้นจึงยิ้มจาง ๆ แล้วหันหลังจากไปด้วยความพึงพอใจ 

 

แต่ในทันทีที่นางหันหลัง สายตาที่อ่อนโยนของนางก็มีแสงเยือกเย็นวูบไหวอยู่ในนั้น

 

นางต้องกลับไปดูว่ามีดอกไม้กับพืชมีพิษชนิดไหนที่สามารถใช้ได้บ้าง และนางจะต้องเตรียมพวกมันไว้ล่วงหน้าเผื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน

 

ทางด้านพวกหลงอวี้มองหน้ากันก่อนจะเดินตามท่านลุงใหญ่กลับบ้านอย่างเชื่อฟัง

 

 

อีกด้านหนึ่ง

 

เวลาผ่านไปสักพัก ท่านผู้เฒ่าก็พาหูเจียวเจียวกับหลงโม่ไปที่บ้านหินหลังหนึ่ง

 

หลังจากที่ภูตมังกรเดินทางมาถึงเผ่าเฟิงโชว ภูตบางคนในเผ่าก็เสียสละบ้านหินที่สร้างขึ้นมาใหม่เพื่อให้ภูตหญิงเผ่ามังกรได้พักอาศัยชั่วคราว ส่วนภูตชายนั้นอาศัยอยู่ในบ้านไม้ที่ตั้งอยู่ใกล้ ๆ กัน

 

จิ้งจอกสาวกับมังกรหนุ่มไม่ได้เดินเข้าไปข้างใน พวกเขาทำเพียงแค่ยืนรออยู่นอกบริเวณบ้าน หัวหน้าเผ่าเองก็ยืนอยู่ข้างนอกด้วยเช่นกันแล้วส่งเสียงเรียกคนที่อยู่ข้างในให้ออกมาแทน

 

ทันทีที่คนในบ้านได้ยินว่าหลงโม่กลับมาแล้วก็มีหญิงวัยกลางคนรีบเดินออกมาจากในบ้าน

 

“หลงโม่ เจ้าคือหลงโม่ใช่หรือไม่? ลูกข้า แม่ตามหาเจ้ามานานเหลือเกิน…” หลังจากแม่มังกรเดินออกมา นางก็มองไปรอบ ๆ ก่อนที่สายตาของนางจะหยุดอยู่ที่ใบหน้าของมังกรหนุ่ม

 

บางทีระหว่างแม่กับลูกชายอาจจะมีสายสัมพันธ์บางอย่างเชื่อมโยงกัน เพราะดวงตาของแม่มังกรนั้นแดงก่ำตั้งแต่ครั้งแรกที่นางเห็นหลงโม่

 

พอหูเจียวเจียวได้ฟังคำพูดเหล่านี้ เธอก็รู้สึกว่าเหตุการณ์ตรงหน้ามันคุ้น ๆ

 

ดูเหมือนว่าหยินเสวี่ยเองก็เคยพูดในลักษณะเดียวกันเมื่อตอนที่นางพบกับหยินชางเป็นครั้งแรก

 

ยามนี้ใบหน้าของหลงโม่ยังคงเย็นชา เขาหลีกเลี่ยงมือที่ผู้เป็นแม่ตั้งใจจะยื่นออกมาเพื่อจับมือของเขา

 

แม่มังกรที่ได้เห็นปฏิกิริยาของลูกชายก็หยุดชะงักในทันที แต่เมื่อคิดว่าอาจจะเป็นเพราะว่านางไม่ได้เจอเขามาหลายปีแล้ว นางจึงยังคงมีรอยยิ้มประดับอยู่บนใบหน้า

 

“หลงโม่ หลังจากที่เจ้าออกจากเผ่า แม่ก็เป็นห่วงเจ้ามาก ไม่คิดว่าเจ้าจะโตขึ้นขนาดนี้ หลายปีที่ผ่านมาเจ้าคงจะทุกข์ทรมานที่ต้องอยู่ข้างนอกคนเดียวใช่หรือไม่?”

 

แม่มังกรพูดพลางมองสำรวจไปทั่วทั้งร่างของมังกรหนุ่ม สีหน้าท่าทางของนางดูเป็นคนใจดีมาก หากหูเจียวเจียวไม่รู้ว่าหลงโม่ถูกไล่ออกจากเผ่ามังกร เธอก็คงคิดว่านางเป็นแม่ที่รักลูกอย่างแท้จริง

 

ขณะเดียวกัน ร่างสูงมองไปยังหญิงวัยกลางคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าด้วยท่าทีเฉยเมยราวกับว่าเขากำลังมองคนแปลกหน้า

 

ในความทรงจำของเขา ชายหนุ่มยังคงจำการกระทำของแม่ตัวเองได้ และเขาก็จดจำใบหน้าของภูตมังกรทุกคนที่เคยรังแกเขาไว้ขึ้นใจ

 

สำหรับหลงโม่ นางไม่ได้ดีไปกว่าคนแปลกหน้าที่มองเขาแบบไม่แยแส เพราะอย่างน้อยคนเหล่านั้นก็ไม่ได้ทำให้เขาเจ็บปวดมากนัก

 

“เป็นความผิดของแม่เอง แม่ไม่ได้อยู่เคียงข้างเจ้าในเวลาที่เจ้าต้องการมากที่สุด” แม่มังกรพูดด้วยสีหน้ารู้สึกผิดและพยายามที่จะขยับตัวเข้าไปใกล้ลูกชายให้มากขึ้น

 

“บอกมาเถอะว่าทำไมท่านถึงมาที่นี่?” มังกรหนุ่มขัดจังหวะนางในทันที

 

บัดนี้ความห่างเหินในน้ำเสียงและความเฉยชาบนใบหน้าของเขากำลังจะถึงจุดเยือกแข็ง

 

เมื่อแม่มังกรเห็นลูกชายเป็นเช่นนั้น นางก็ยิ่งรู้สึกไม่สบายใจมากขึ้น

 

มันเป็นความผิดของนางเองที่ปกป้องลูกตัวเองเอาไว้ไม่ได้ตั้งแต่แรก ตอนนี้มันก็สมควรแล้วที่นางจะต้องอดทนกับการต่อต้านของอีกฝ่าย

 

“แม่ขอโทษ แม่ผิดเองที่ทำให้เจ้าต้องทุกข์ทรมานมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา ที่แม่มาวันนี้เพียงเพื่อบอกกับเจ้าว่าแม่ได้ขอร้องให้หัวหน้าเผ่าอนุญาตให้เจ้ากลับไปที่เผ่าของเราแล้ว และหลังจากนี้แม่จะเป็นคนปกป้องเจ้าเอง”

 

หญิงวัยกลางคนพูดขึ้นเพราะตนคิดว่าหลงโม่ยังคงเป็นเด็กชายผู้อ่อนแอที่ต้องการได้รับการปกป้องจากผู้เป็นแม่ดั่งเช่นแต่ก่อน

 

นางต้องการพาตัวเขากลับไป เพราะท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเรื่องมหัศจรรย์มากที่ภูตมังกรที่แปลงร่างไม่สมบูรณ์จะสามารถเอาชีวิตรอดจากโลกภายนอกได้นานถึงขนาดนี้

 

“ไม่จำเป็น ท่านกลับไปได้แล้ว” หลงโม่ปฏิเสธอย่างเย็นชา

 

การแสดงออกของแม่มังกรหยุดแม่มังกรชะงักค้างไปในทันที ก่อนที่ใบหน้าของนางจะแสดงออกถึงความเจ็บปวด

 

เมื่อภูตชาย 2 คนที่ยืนอยู่ข้างหลังนางเห็นการกระทำที่เย็นชาของชายหนุ่ม พวกเขาก็ต่อว่าอีกฝ่ายด้วยความโกรธ

 

“หลงโม่! แม่ของเจ้าตั้งใจออกมาตามหาเจ้าโดยเฉพาะ เจ้านี่มันอกตัญญูเสียจริง!”

 

“ถ้าไม่ใช่เพราะคำอ้อนวอนของแม่ของเจ้า คิดหรือว่าท่านหัวหน้าเผ่าของเราจะยอมให้เจ้ากลับไปได้ เพราะเจ้ามันก็แค่คนอ่อนแอ”

 

“ไม่ต้องมาพูดพร่ำทำเพลงกันแล้ว เจ้ารีบไปเก็บข้าวของแล้วกลับไปกับเราเสียดี ๆ หากเจ้ายังคงดื้อดึงต่อไป ถ้าหัวหน้าเผ่าเปลี่ยนใจขึ้นมา เราก็ไม่สามารถช่วยเจ้าได้อีกแล้ว”

 

ภูตชายทั้ง 2 เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความรังเกียจมังกรหนุ่ม

 

ถ้าไม่ใช่เพราะแม่มังกรที่เป็นคู่ของพวกเขาต้องการมาที่นี่ พวกเขาก็คงไม่ต้องออกมาตามหาไอ้ขยะไร้ประโยชน์คนนี้ให้เสียเวลา

 

ทันทีที่หูเจียวเจียวกับท่านผู้เฒ่าได้ยินคำพูดของภูตมังกรทั้ง 2 พวกเธอก็มีสีหน้ามืดลงทันตาเห็น

 

การแสดงออกของหัวหน้าเผ่านั้นเย็นชาจนถึงจุดเยือกแข็ง เขามองไปที่แม่มังกรและภูตคนอื่น ๆ ก่อนจะพูดขึ้นว่า

 

“หลงโม่เป็นภูตของเผ่าเรา ช่วยให้เกียรติเขาด้วย ไม่ว่าเขาจะกลับไปหรือไม่ก็เป็นเรื่องของเขาที่ต้องตัดสินใจด้วยตัวเอง ถ้าหากพวกเจ้ายังคงพูดจาแย่ ๆ แบบนี้อีก เผ่าของพวกเราก็คงไม่ขอต้อนรับพวกเจ้าอีก”

 

ชายสูงวัยแสดงท่าทางที่ไม่ได้ถ่อมตัวหรือเย่อหยิ่งจนเกินไป แต่คำพูดของเขายังคงหนักแน่นมาก 

 

เมื่อภูตมังกรคนอื่นที่อยู่ข้างหลังแม่มังกรได้ยินเข้าต่างก็มีสีหน้าที่ไม่พอใจมาก

 

“พวกเราคือภูตมังกร เจ้ารู้ไหมว่าเจ้ากำลังพูดถึงอะไร!”

 

ชายแก่ผู้นั้นกำลังพูดถึงหลงโม่ที่เป็นขยะขี้แพ้จริง ๆ น่ะหรือ?

 

ถ้าภูตพรรค์นี้ยังสามารถเป็นผู้นำของเผ่าได้ ดูเหมือนว่าเผ่าเฟิงโชวก็คงไม่มีภูตฉลาด ๆ อยู่เลยใช่หรือไม่?

 

“ข้ารู้ว่าข้ากำลังพูดถึงอะไร” หัวหน้าเผ่าพูดอย่างเย็นชาพลางมองกลับไปยังเหล่าภูตมังกรด้วยท่าทางหยาบคาย “หลงโม่เป็นนักรบของเผ่าเรา หากพวกเจ้ามาที่นี่เพื่อดูถูกเขา ก็ออกไปเสียตั้งแต่ตอนนี้เลย”

 

“เจ้าหมอนี่น่ะหรือที่เป็นนักรบ? ฮ่าๆๆๆ!” คู่ของแม่มังกรหัวเราะราวกับว่าได้ยินเรื่องตลกขบขัน 

 

ทว่ามังกรหนุ่มทำเพียงเหลือบมองไปที่พวกเขาด้วยดวงตาเฉยเมย

 

แต่ถึงกระนั้น จู่ ๆ ทั้งคู่ก็รู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองกำลังตกเป็นเป้าหมายของสัตว์ร้าย ทำให้เสียงหัวเราะเมื่อสักครู่หยุดลงทันที

 

“พอแล้ว พวกเจ้าหุบปากได้แล้ว!” แม่มังกรตำหนิคู่ตัวเองด้วยสีหน้าน่าเกลียด

 

ก่อนหน้านี้นางให้กำเนิดลูกที่ไร้ประโยชน์ ทำให้นางได้รับสายตาที่เย็นชาจากผู้หญิงหลายคนในเผ่าตลอดหลายปีที่ผ่านมา แต่ปัจจุบันลูกชายที่ไร้ค่าของนางไม่ได้อ่อนแออีกต่อไป และนางตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะพาเขากลับเผ่ามังกรให้จงได้ 

 

“อย่าไปฟังคำพูดไร้สาระของพวกเขาเลย ข้าไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น ท่านผู้เฒ่า นี่เป็นความเข้าใจผิดทั้งหมด” แม่มังกรมองหัวหน้าเผ่าเฟิงโชวด้วยท่าทางขอโทษพร้อมกับรีบอธิบายเพื่อไม่ให้ชายชราตรงหน้าเข้าใจตัวเองผิด

 

--------------------------------------------------

พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: เนื่องจากใกล้จะจบแล้ว วันเสาร์-อาทิตย์นี้เราลงให้เลยวันละ 5 ตอน! ยังไม่หมดแค่นี้! ตอนพิเศษ 2 ตอนเราจะลงให้ทุกคนอ่านฟรีเพื่อเป็นการขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่สนับสนุนเรามาตลอด ขอบคุณมาก ๆ เลยนะคะที่อยู่ด้วยกันจนจบเรื่อง ❤

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.