บทที่ 608: แสงสีแดงในศพของกู่สือ

-A A +A

บทที่ 608: แสงสีแดงในศพของกู่สือ

“หุบปาก! หยุดร้องเดี๋ยวนี้นะ ถ้าเจ้ายังกล้าส่งเสียงออกมาอีกล่ะก็ ข้าจะกินสมองเจ้าซะ!”

 

กู่สือถลึงตาจ้องหลงเหยาพร้อมกับตะคอกอย่างเหลืออด

 

ข้าดุขนาดนี้ไอ้เด็กนี่ควรจะเชื่อฟังข้าได้แล้ว

 

หลงเหยาเบิกตากว้างจ้องมองชายตรงหน้านิ่งหลังจากถูกอีกฝ่ายข่มขู่

 

หลังจากนั้นไม่กี่วินาที…

 

“แงงงงงง!!!”

 

มังกรน้อยหลับตาปี๋แล้วเริ่มร้องเสียงดังจนคนฟังแก้วหูสั่นสะเทือนเนื่องจากระดับการแผดเสียงนั้นยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง 

 

ใบหน้าของกู่สือเคร่งเครียดทันที เจ้าตัวเล็กร้องไห้เสียงดังขนาดนี้มันคงไม่ดีแน่หากภูตมังกรได้ยินเข้า!

 

ในเมื่อไอ้เด็กนี่ไม่ยอมเชื่อฟังเขาสักที เขาคงมีทางเลือกเดียวก็คือต้องกินมันเสียแล้ว

 

วินาทีนั้นดวงตาของกู่สือฉายแววโหดเหี้ยม ไหนไม่ช้าปากสีดำเรียวยาวก็ปรากฏขึ้นก่อนจะมุ่งเป้าไปที่หัวหลงเหยา

 

อย่างไรก็ตาม 

 

เพียงชั่วพริบตา เงาดำได้เปล่งประกายราวกับสายฟ้า และทันใดนั้นปากที่เหมือนหนามสีดำก็ถูกแยกออกเป็น 2 ส่วน

 

ในเวลาเดียวกัน เพดานถ้ำก็ถูกทะลวงเป็นรูขนาดใหญ่ เผยให้เห็นท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวสุกสกาว เปิดให้คนที่อยู่ในมุมที่มืดมิดได้เห็นโลกแห่งความจริง

 

สิ่งที่เกิดขึ้นแบบไม่ทันได้ตั้งตัวทำให้กู่สือเบิกตากว้าง แล้วเขาก็ก้มหน้าลงอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเองในขณะที่เขามองดูกรงเล็บมังกรกำลังเจาะทะลุหน้าอกของตนมาจากด้านหลัง

 

“อึก!” ชายผมแดงกระอักเลือดออกมา

 

“นี่เจ้า...” มันหาตัวเขาได้เร็วขนาดนี้ได้อย่างไรกัน!

 

จากนั้นเขาก็ตระหนักว่าความแข็งแกร่งของภูตมังกรนั้นไปถึงระดับที่เขาจินตนาการไม่ถึงแล้ว

 

เป็นเพียงว่าอีกฝ่ายซ่อนมันเอาไว้ตลอดเวลาไม่ได้แสดงความแข็งแกร่งที่แท้จริงของตัวเองให้ใครได้เห็น

 

ขณะนั้นกู่สือค่อย ๆ หันหน้าไปมองมังกรตัวใหญ่ที่อยู่ข้างหลังอย่างยากลำบาก 

 

เขารู้ว่าคราวนี้ตนหนีไม่พ้นแล้ว

 

ช่วงเวลาต่อมา เขาไม่รู้ว่าตัวเองมองเห็นอะไร และทันใดนั้นเขาก็เหยียดยิ้มออกมาแปลก ๆ

 

“เคี้ยก ๆๆ... อย่างนี้นี่เอง แต่ความแข็งแกร่งจะไปมีประโยชน์อะไรถ้าเจ้าไม่อาจอยู่เคียงคู่คนที่เจ้ารักไปได้ตลอดชีวิต ชะตากรรมของเจ้าก็ไม่ได้ดีไปกว่าข้านักหรอก เคี้ยก ๆๆ...” 

 

“กรรซ์!” 

 

หุบปากไปเลย!!

 

หลงโม่หรี่ตาลงพร้อมกับดวงตาที่ฉายแววอำมหิต และก่อนที่กู่สือจะพูดจบ เขาก็จัดการหักคออีกฝ่ายแบบไร้ความปรานี

 

กร๊อบ!

 

ในเวลาเดียวกัน หูเจียวเจียวกับเตี๋ยฉ่ายเพิ่งพากันวิ่งเข้ามาในถ้ำ 

 

“เหยาเอ๋อ!” จิ้งจอกสาวกวาดสายตาเพียงเสี้ยววินาทีก็เห็นหลงเหยาที่นั่งอยู่บนกองหญ้า 

 

“เหยาเอ๋อ เจ้าเป็นอะไรไหม ได้รับบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า?”

 

เมื่อแม่จิ้งจอกเห็นใบหน้าของลูกชายคนเล็กที่เปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตา คนเป็นแม่ก็ปวดใจ เธอยื่นมือไปเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้าของลูกน้อย พร้อมกับไล่สายตาตรวจสอบร่างกายของเขาเพื่อหาบาดแผล

 

“ท่านแม่?” ยามนี้หลงเหยายังดึงสติตัวเองกลับมาได้ไม่เต็มที่ “ท่านแม่มาช่วยเสี่ยวเหยาแล้วจริง ๆ หรือ?”

 

มังกรน้อยพยายามฝืนยิ้มออกมา ก่อนจะกอดแขนของแม่จิ้งจอกด้วยความตื้นตันใจทันที

 

“ท่านแม่ ในที่สุดท่านก็มาช่วยเสี่ยวเหยาแล้ว ฮือ ๆๆ... ตอนอยู่ที่นี่เสี่ยวเหยาลำบากมาก มันไม่มีทั้งอาหารหรือน้ำให้กิน แล้วผู้ชายคนนั้นก็ไม่ยอมปล่อยให้เสี่ยวเหยาไปอึ๊ด้วย เสี่ยวเหยาก็เลยต้องอึ๊ใส่กางเกงตัวเอง โฮฮฮ!”

 

คนตัวเล็กกอดผู้เป็นแม่แน่นพลางพร่ำบ่นไม่หยุดปาก

 

โชคดีที่ตอนนี้กู่สือตายไปแล้ว

 

มิฉะนั้น ถ้าเขาไม่ได้ยินที่หลงเหยาพูด เขาคงได้โมโหจนประสาทกินหัวตาย

 

เมื่อหูเจียวเจียวได้ยินว่าระหว่างที่ถูกจับตัวมาหลงเหยามีชีวิตที่น่าสังเวชแค่ไหน เธอก็รู้สึกปวดใจมากยิ่งขึ้น

 

“เหยาเอ๋อไม่ต้องกลัวนะ แม่อยู่นี่แล้ว หลังจากนี้จะไม่มีใครกล้ามารังแกเจ้าอีก พ่อของเจ้าจะช่วยล้างแค้นให้เจ้าเอง” หญิงสาวกอดลูกชายและปลอบประโลมเขาด้วยเสียงอ่อนโยน

 

ส่วนเตี๋ยฉ่ายที่อยู่ด้านข้างจ้องมองร่างของกู่สือที่นอนจมกองเลือดอยู่ในถ้ำสลับกับมองกองไฟที่ยังคงลุกไหม้อย่างเงียบ ๆ 

 

เท่าที่นางรู้จักชายผมแดงมา เขาไม่ใช่คนที่ชอบกินอาหารปรุงสุก เขามักจะกินของดิบอยู่เสมอ

 

นอกจากนี้ยังมีแกนผลไม้บางส่วนอยู่บนพื้น มันถูกแทะจนสะอาดไม่ให้เหลือเนื้อติดเลยแม้แต่น้อย

 

ถ้านางจำไม่ผิด กู่สือไม่ชอบกินผลไม้เช่นกัน เขาชอบกินแต่สมองของภูตเท่านั้น

 

หรือว่านางจำผิดไป? อาจเป็นเพราะช่วงนี้ทุกคนประสบภัยแล้งรุนแรง มันเลยทำให้อีกฝ่ายไม่เลือกกินแบบเดิม

 

ในอีกด้านหนึ่ง หลงโม่โยนศพกู่สือออกไปด้านข้างแล้วเช็ดกรงเล็บมังกรกับพื้น จากนั้นเขาก็เปลี่ยนกลับไปเป็นร่างมนุษย์ก่อนจะเดินไปหยุดอยู่ข้างหูเจียวเจียว

 

ทางด้านหลงเหยาที่ยังคงร้องไห้และบ่นเกี่ยวกับความยากลำบากที่ผ่านมาของตัวเองจู่ ๆ ก็เปลี่ยนท่าที เขาลุกออกจากอ้อมแขนของแม่จิ้งจอก สูดหายใจเข้าลึก ๆ และแสร้งทำเป็นเข้มแข็ง 

 

“ท่านแม่ เสี่ยวเหยาไม่กลัว เสี่ยวเหยารู้ว่าท่านพ่อกับท่านแม่จะต้องมาช่วยเสี่ยวเหยาแน่นอน ดังนั้นเสี่ยวเหยาก็เลยรออยู่ที่นี่อย่างเชื่อฟัง”

 

เด็กชายตัวน้อยพูดด้วยสีหน้าจริงจัง

 

หลงโม่เหลือบมองท่าทางเข้มแข็งของลูกชายคนสุดท้อง ทันใดนั้นเขาก็ยิ่งรู้สึกโกรธกู่สือมากขึ้น

 

มังกรหนุ่มเดินกลับไปที่ศพของชายผมแดงอีกครั้งด้วยใบหน้าถมึงทึง ก่อนจะกระทืบศพบนพื้นโดยตรง

 

จากนั้นเศษฝุ่นและเศษหินก็ร่วงลงมาในถ้ำเนื่องจากแรงกระแทกที่หนักหน่วง

 

“...” เตี๋ยฉ่ายยืนอึ้งขณะมองไปที่ภูตมังกรจอมโหด

 

เป็นการแก้แค้นที่ค่อนข้างหนักหน่วงเสียจริง

 

ภาพนั้นทำให้หลงเหยาตัวสั่นทันที

 

ในเวลาเดียวกัน หูเจียวเจียวรู้สึกเพียงว่าเด็กน้อยกำลังหวาดกลัวกับความโหดร้ายของกู่สือ หญิงสาวจึงยื่นมือไปจับมือน้อย ๆ ของลูกชายเอาไว้แน่น

 

“เอาล่ะ เหยาเอ๋อฉลาดและมีเหตุผลมาก พ่อกับแม่พาเจ้ากลับบ้านตอนนี้เลยดีไหม?” 

 

“อื้อ เสี่ยวเหยาอยากกลับบ้านแล้ว” หลงเหยาพยักหน้าจนผมปรกลงมาบนใบหน้า

 

จากนั้นทั้งคู่ก็ลุกขึ้นเพื่อเตรียมตัวกลับบ้าน

 

“แล้วศพของกู่สือล่ะ?” จู่ ๆ เตี๋ยฉ่ายก็ถามตามหลังหูเจียวเจียวไป

 

“เฮอะ จะยังไงล่ะ ก็ทิ้งไว้ที่นี่แหละ เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็มีสัตว์ป่าเข้ามากินมันเอง” จิ้งจอกสาวเหลือบมองศพของกู่สือแล้วพ่นลมอย่างเย็นชา

 

เธอจะไม่สนใจจัดการกับศพของคนชั่วแบบนี้หรอก

 

แค่นี้มันก็โชคดีมากแล้วที่ได้ตายภายใต้การโจมตีเพียงคราวเดียว

 

“นั่นสินะ ถ้างั้นเราก็รีบไปกันเถอะ” เตี๋ยฉ่ายพยักหน้า ปัจจุบันสภาพถ้ำเละเทะไปหมด แถมเพดานถ้ำก็ยังถูกเจาะจนเป็นรู จนกระทั่งตอนนี้นางก็ยังรับรู้ได้ถึงลมหนาวที่พัดเข้ามาเหนือศีรษะของตน

 

นี่เป็นครั้งแรกที่หญิงสาวรู้สึกหนาว นางอดไม่ได้ที่จะกอดแขนของตัวเองไว้แน่น แต่ร่างกายก็ยังไม่หยุดสั่น นางจึงรีบขยับเข้าไปเบียดตัวอยู่ใกล้ ๆ หูเจียวเจียว 

 

นางไม่รู้ว่าทำไมหลังจากที่กู่สือตายไป สถานที่แห่งนี้ก็มืดมนลง

 

บรึ๋ย หลังจากที่กู่สือตายแล้ว มันคงไม่ได้กลายเป็นจิงหลิงจริง ๆ หรอกใช่ไหม?

 

ปัจจุบันทางเข้าถ้ำถูกก้อนหินถล่มลงมาขวางเอาไว้ หลงโม่ที่เดินออกไปคนแรกก็จัดการปัดกวาดเปิดทางให้ทุกคนได้เดินออกจากถ้ำ

 

ปัจจุบันศพของกู่สือยังคงมีแสงสีเขียวประปรายหลงเหลืออยู่

 

แต่ไม่มีใครสังเกตเห็นว่าภายใต้แสงสีเขียวนั้น มีบางอย่างที่ส่องแสงสีแดงเข้มกะพริบอยู่

 

แสงสีแดงเข้มนั้นดูเหมือนจะมีชีวิต มันกระโดดขึ้นมาอยู่บนร่างของคนตาย 2-3 ครั้ง จากนั้นมันก็พุ่งตรงไปยังหูเจียวเจียวและหลงโม่

 

แสงปริศนาเคลื่อนไหวได้เร็วมากจนไม่มีใครทันได้สังเกตเห็นมัน

 

ในเวลาเดียวกัน มังกรหนุ่มที่กำลังเดินออกไปด้านนอกถ้ำก็หยุดฝีเท้ากะทันหัน

 

เขาเป็นคนหนึ่งที่เคยไปเยือนป่าวิญญาณแล้วกลับมาได้ ดังนั้นเขาจึงรู้สึกไวต่อกลิ่นอายที่อันตรายของจิงหลิงมาก

 

“หลงโม่ มีอะไรหรือเปล่า?” หูเจียวเจียวเป็นเพียงผู้หญิงธรรมดา ๆ เธอไม่ได้สังเกตเห็นอะไรผิดปกติ เธอหันหน้าไปมองสามีหนุ่มอย่างสงสัย และคิดว่าเขาลืมอะไรไว้ในถ้ำหรือไม่

 

ทันทีที่จิ้งจอกสาวพูดจบ สีหน้าของหลงโม่ก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะเอื้อมมือออกไปดึงหลงเหยาให้มาอยู่ข้างหลังของเขา

 

ขณะเดียวกัน เตี๋ยฉ่ายเดินนำอยู่ด้านหน้าซึ่งห่างจากทั้ง 2 เพียงไม่กี่เมตร

 

ก่อนที่นางจะทันได้ตอบสนอง นางก็เห็นแสงสีแดงพุ่งมาจากหางตา แสงนั้นมุ่งหมายที่จะกัดหัวของหูเจียวเจียวและอีก 3 คนด้วยปากที่อ้ากว้างน่าสยดสยอง

 

แต่เนื่องจากหลงโม่ตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว เขาจึงสกัดกั้นมันเอาไว้ด้วยร่างกายของตัวเอง ดังนั้นแสงสีแดงจึงพุ่งเข้าไปกัดที่ไหล่ซ้ายของเขา 

 

“อึก...” มังกรหนุ่มขมวดคิ้วพลางสูดหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อระงับเสียงของตัวเองเอาไว้

 

“หลงโม่!” จิ้งจอกสาวหัวใจกระตุกในขณะที่เธอมองดูสิ่งที่คล้ายผีอยู่บนไหล่ซ้ายของร่างสูงด้วยความตกใจ

 

นี่มันตัวอะไร!?

 

หญิงสาวตกใจมากพร้อมกับเอื้อมมือออกไปหมายจะคว้าบางอย่างที่กัดชายหนุ่มออกตามสัญชาตญาณ

 

แต่ทันใดนั้นหลงโม่ก็จับข้อมือของเธอเอาไว้

 

“เจียวเจียว อย่าแตะต้องมัน!” หากนางสัมผัสมัน นางก็จะเข้าไปพัวพันกับสิ่งนี้!

 

--------------------------------------------------

พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: ไม่น้าาาา มันกลายเป็นตัวอะไรไปแล้วเนี่ย พ่อจะรับมือไหวไหม ; - ;

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.