บทที่ 32: จงใจฆ่าหลงเหยา
หมอผีมีค่ามากสำหรับเผ่าภูต
หากในเผ่ามีหมอผีอาศัยอยู่ สถานะของคน ๆ นั้นอาจจะสูงกว่าหัวหน้าเผ่าด้วยซ้ำ เพราะท้ายที่สุดแล้ว ไม่ว่าพวกภูตจะแข็งแกร่งเพียงใด แต่พวกเขาก็มักจะเสียชีวิตจากการได้รับบาดเจ็บหรือล้มป่วยเป็นส่วนใหญ่
หูเจียวเจียวคิดไตร่ตรองเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว
โลกภูตในแดนปีศาจมหัศจรรย์นี้ช่างเพ้อฝันมากเกินไปจริง ๆ ยาห้ามเลือดของเธอใช้ได้ผลจริง แต่เธอไม่สามารถรับประกันได้ว่ายาชนิดอื่นจะได้ผลเช่นนี้หรือเปล่า แล้วเธอก็ไม่อยากให้ใครรู้ว่าตัวเองมีมิติด้วย
เพราะฉะนั้นเธอจึงรีบส่ายหัวแล้วอธิบายว่า
“ไม่ ข้าไม่ใช่หมอผี นี่เป็นแค่ยาที่ข้าบังเอิญค้นพบ มันใช้ได้ผลดีหลังจากที่บดจนเป็นผง แล้วข้าก็พกติดตัวเผื่อเอาไว้ใช้แค่นั้น” ใบหน้าที่อ่อนเยาว์และมีเสน่ห์ของเธอเต็มไปด้วยความจริงจัง
โหวเสี่ยวเตียวพยักหน้าซ้ำ ๆ “ข้าเข้าใจ ข้าเข้าใจแล้ว! ข้าสัญญาว่าจะไม่พูด ข้าจะไม่บอกเรื่องนี้ให้ใครรู้ ข้าขอสาบานต่อเทพอสูร!”
“...”
สรุปแล้วเจ้าเข้าใจจริง ๆ ไหมเนี่ย?
หูเจียวเจียวคิดพลางขมวดคิ้ว แต่เมื่อเธอเห็นว่าชายหนุ่มรับปากว่าเขาจะไม่พูดถึงเรื่องนี้ให้ใครฟัง เธอก็ไม่ได้ติดใจสงสัยอะไรอีก
ตราบใดที่เรื่องมิติของหญิงสาวไม่ถูกเปิดเผย แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว
“ที่เจ้าได้รับบาดเจ็บก็เพราะว่าช่วยชีวิตเหยาเอ๋อ หากบาดแผลของเจ้าร้ายแรงขึ้นให้รีบมาหาข้า ข้ายังมียาอยู่...”
หูเจียวเจียวกล่าวขณะที่ชำเลืองมองบาดแผลของเขานิ่ง
ในหนังสือบรรยายว่าโหวเสี่ยวเตียวเสียชีวิตเพราะช่วยหลงเหยา ตอนนี้เขารอดมาได้แล้ว แต่ก็ยังรับประกันไม่ได้ 100% ว่าเธอจะสามารถเปลี่ยนตอนจบของนิยายได้หรือไม่
หากลิงหนุ่มสามารถเอาชีวิตรอดจากเหตุการณ์ครั้งนี้ไปได้ นั่นแสดงว่าเธอก็มีโอกาสที่จะสามารถเปลี่ยนตอนจบของเรื่องนี้ได้เช่นกัน
“เอาเถอะ ขอบคุณหมอผี... ขอบคุณหูเจียวเจียว...”
โหวเสี่ยวเตียวเกาหัวของเขาพร้อมกับกล่าวขอบคุณด้วยรอยยิ้มซื่อ ๆ
“แหะ ๆ”
ชายหนุ่มคิดในใจว่า เมื่อเผ่าของเขามีหมอผี ในภายภาคหน้าเผ่านี้ก็จะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ
เขาเคยได้ยินมาว่าเผ่าอื่นที่มีหมอผีไม่ต้องกังวลเรื่องอาหาร เสื้อผ้า แล้วพวกเขายังมีชีวิตที่เจริญรุ่งเรือง รวมถึงไม่ต้องกลัวการโจมตีจากเผ่าอื่น จากนั้นเขาก็วาดฝันอยู่ในใจว่าในอนาคตเผ่าของตนก็จะทรงพลังเช่นกัน!
“เจ้าไม่ต้องขอบคุณข้าหรอก ข้าต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายขอบคุณเจ้า” หูเจียวเจียวยิ้มแล้วกล่าวอย่างถ่อมตน
เธอมักจะรู้สึกว่าโหวเสี่ยวเตียวแปลก แต่เธอก็ไม่สามารถบอกได้ว่าอีกฝ่ายแปลกตรงไหน...
ช่างเถอะ ๆ ปล่อยเรื่องนี้ไปก่อน
ต่อมา หญิงสาวมองหลงเหยาที่กำลังก้มหน้าแบบรู้สึกผิดแล้วเอ่ยถามว่า “เหยาเอ๋อ ทำไมเจ้าถึงมาที่นี่ ใครพาเจ้ามา?”
เจ้าตัวเล็กชำเลืองมองผู้เป็นแม่อย่างระมัดระวัง และหางของมังกรที่อยู่ข้างหลังก็แกว่งไปมาเล็กน้อย ราวกับว่าเขาต้องการทำให้เธอใจอ่อน
ในขณะที่ดวงตาสีทับทิมคู่เล็กเต็มไปด้วยความไร้เดียงสาและความสงสัย
“...”
หูเจียวเจียวลืมไปว่าหลงเหยายังไม่ได้แปลงร่างจึงยังพูดไม่ได้
แม้ว่าเธอจะถามคำถามเขา เธอก็ไม่ได้คำตอบอะไรกลับมาอยู่ดี สงสัยว่าหญิงสาวคงไม่สามารถหาสาเหตุที่ลูกชายคนเล็กมาที่นี่ได้แน่ ๆ
อาจเป็นเพียงเรื่องบังเอิญ หรือหลงเหยาอาจแค่โชคร้ายที่ถูกฝูงหมาป่าไล่ล่า...
เมื่อโหวเสี่ยวเตียวได้ยินคำถามของหูเจียวเจียว เขาก็กล่าวเสริมจากด้านข้างว่า “ข้ากลับมาจากการล่าก็พบเขาอยู่ที่นี่แล้ว เขาอยู่ตามลำพังตอนที่ข้ามาถึง แต่ข้าไม่ได้พาเขามานะ เจ้าเชื่อข้าไหม ข้ามีเหยื่อเป็นข้อพิสูจน์!”
เนื่องจากเขากลัวว่าแม่จิ้งจอกจะเข้าใจตนผิดจึงรีบอธิบายออกมา
หลังจากที่ชายหนุ่มพูดจบ จู่ ๆ เขาก็จำอะไรบางอย่างได้และตบต้นขาตัวเองอย่างหัวเสีย
“โอ้ไม่นะ! เหยื่อของข้า เหยื่อยังอยู่อีกฝั่งของแม่น้ำ... หมาป่าพวกนั้นได้กินเนื้อชิ้นใหญ่ไปแล้ว...”
เหยื่อที่ตกอยู่อีกฟากของแม่น้ำต้องถูกฝูงหมาป่ากัดกินจนไม่เหลือกระดูกและเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะได้มันกลับคืนมา
ประกอบกับตอนนี้ก็ใกล้เวลาที่พระอาทิตย์ตกดินแล้ว ดูเหมือนว่าการพยายามทำงานหนักมาทั้งวันของโหวเสี่ยวเตียวจะสูญเปล่า ส่งผลให้วันนี้ภรรยาและลูก ๆ ของเขาต้องทนหิวกันไปก่อน
“ข้ายังมีเนื้ออยู่ที่บ้าน เดี๋ยวเจ้าตามข้ากลับไปเอาเนื้อที่บ้านของข้าก่อนแล้วกัน!” หูเจียวเจียวเสนอขึ้นมา
เป็นเพราะชายหนุ่มเสียเหยื่อไปเพื่อช่วยหลงเหยา และเธอก็ควรจะชดเชยความเสียหายนี้ให้แก่เขา เพียงแค่เนื้อไม่กี่ชิ้นมันไม่ได้มีประโยชน์อะไรกับเธอมากนัก
“ไม่ๆๆ จะให้ข้าไปแย่งเหยื่อของเจ้าได้ยังไง! ไม่ต้องหรอก!” โหวเสี่ยวเตียวโบกมือปฏิเสธอีกฝ่ายทันที
“ข้าจะกลับบ้านก่อน เจ้าพาลูกเจ้ากลับไปเถอะ อย่าปล่อยให้เด็ก ๆ มาวิ่งเล่นแถวนี้อีกล่ะ มันอันตราย”
ราวกับว่าเขากลัวว่าหูเจียวเจียวจะเอาเนื้อให้ตัวเอง ลิงหนุ่มจึงรีบเดินหนีไปโดยไม่หันหลังกลับมาอีกเลย
อีกทั้งตอนนี้หญิงสาวเพิ่งขึ้นมาจากแม่น้ำ เธอจึงเปียกโชกไปทั้งตัว แล้วชุดหนังสัตว์ของเธอก็มีน้ำหยดลงมาไม่หยุด
แม้ว่าภูตจะแข็งแกร่ง แต่ร่างกายของหูเจียวเจียวกลับอ่อนแอกว่าคนอื่น
“ฮัดชิ้ว!”
หลงเหยาบินตรงมาที่หัวของเธอทันทีหลังจากที่เธอจาม แล้วใช้หน้าผากตัวเองวัดอุณหภูมิของผู้เป็นแม่ จากนั้นดวงตาสีแดงกลมโตก็เต็มไปด้วยความกังวล
ท่านแม่คงไม่ได้ป่วยเพราะช่วยเขาใช่ไหม?
ก่อนที่ผู้หญิงในเผ่าจะเสียชีวิตด้วยอาการป่วย นางก็เป็นแบบนี้เช่นกัน เมื่อเวลาผ่านไปไม่นาน หัวของนางก็จะร้อนจัด แล้วนางก็เสียชีวิตภายในเวลาไม่กี่วัน
พอคิดถึงสิ่งนี้ ม่านตาของมังกรน้อยก็ถูกปกคลุมไปด้วยน้ำสีใส
โฮ~ ข้าไม่อยากให้แม่ของข้าตาย...
ทางด้านหูเจียวเจียวรู้สึกจั๊กจี้จากตรงที่ถูกหลงเหยาสัมผัสจึงรั้งร่างของมังกรตัวน้อยเข้ามาในอ้อมกอด “เหยาเอ๋อ ไม่ต้องห่วง แม่ไม่เป็นอะไร”
เจ้าตัวเล็กไม่รู้ว่าควรจะเชื่อคำพูดของอีกฝ่ายดีหรือไม่ แต่ถึงกระนั้น เขาก็ซบตัวนอนอยู่ในอ้อมแขนของแม่ไม่ยอมห่างกายของเธอไปไหนอีก
อีกทั้งมังกรน้อยตัวนี้เพิ่งผ่านเหตุการณ์เฉียดตายมาจึงอาจจะยังรู้สึกเสียขวัญอยู่บ้าง
แม้ว่าหูเจียวเจียวเองก็อยากอยู่ใกล้ลูกชายคนสุดท้อง แต่ตอนนี้ตัวเธอเปียกอยู่ เธอกลัวว่าเขาจะเป็นหวัดเลยทำได้เพียงดึงเขาออกไปอย่างไม่เต็มใจ แล้วใช้มือทั้ง 2 ประคองตัวเขาไว้แทน
“เหยาเอ๋อ แม่ตัวเปียก เจ้าอยู่ในมือของแม่ไปก่อนแล้วกัน เดี๋ยวแม่จะรีบกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้าน แล้วเราค่อยกอดกันดีไหม?”
“อ้า~”
หลงเหยาอ้าปากเล็ก ๆ ก่อนจะคายลิ้นสีชมพูของเขาออกมาและส่งเสียงร้องออดอ้อน
ทว่าหญิงสาวกลับชะงักไปแล้วใช้มือเช็ดปากของมังกรน้อย
มันคือน้ำมันและเศษเนื้อ!
ตั้งแต่ที่เธอกับลูก ๆ กินข้าวกัน เวลาก็ผ่านไปครึ่งวันแล้ว เธอจำได้อย่างชัดเจนว่าหลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ เธอช่วยหลงเยาเช็ดปากจนสะอาด แล้วมันจะมีคราบน้ำมันกับเศษเนื้อติดอยู่ที่ปากเขาได้อย่างไร
“เหยาเอ๋อ เจ้าได้กินเนื้อมาหรือไม่? ใครให้เนื้อกับเจ้า?”
หูเจียวเจียวถามด้วยสีหน้าจริงจังทันที
เมื่อเด็กน้อยเห็นใบหน้าที่ค่อนข้างโกรธของแม่จิ้งจอก เขาก็หดตัวลงพลางมองเธอด้วยความกลัว
ท่าทางนั้นทำให้หญิงสาวตระหนักว่าตัวเองวิตกกังวลเกินไป เธอจึงผ่อนคลายสีหน้าลงก่อนจะถามใหม่ด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลขึ้น “เหยาเอ๋อไม่ต้องกลัวนะ แม่ไม่ได้โกรธเจ้า เหยาเอ๋อแค่บอกแม่มาว่าเจ้าไปกินเนื้อจากที่ไหนมาได้ไหม?”
แม้ว่าหลงเหยาจะซุกซน แต่เขาจะไม่วิ่งเพ่นพ่านไปมา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการวิ่งออกจากเผ่าเลย
เป็นไปได้ไหมว่าภูตบางคนจงใจใช้เนื้อล่อเจ้ามังกรตัวเล็กให้มาที่นี่!
หลงเหยาที่ได้ยินคำถามกะพริบตากลมโตน่ารักของเขา ก่อนจะส่ายหัวและพยักหน้า จากนั้นก็บินขึ้นไปในอากาศ ตามด้วยกางกรงเล็บมังกรชี้ไปยังอีกฝั่งของแม่น้ำ
เมื่อหูเจียวเจียวเห็นภาษากายของลูกชาย ดวงตาของเธอก็เย็นชาลง
เป็นเรื่องจริงหรือนี่!
ใครกันที่เอาเนื้อย่างไปทิ้งไว้ในทุ่งหญ้าแห้งแล้งนอกเผ่า? คนคนนั้นต้องรู้ว่าหลงเหยายังเด็กและคิดแต่เรื่องจะกิน นอกจากนี้เขาสามารถบินได้ ดังนั้นคนร้ายจึงไม่ต้องกังวลว่าเขาจะไม่สามารถข้ามแม่น้ำสายนี้ไปได้
อีกฝ่ายตั้งใจจะฆ่าหลงเหยา!
กลิ่นของเนื้อไม่เพียงดึงดูดเจ้าตัวเล็กเท่านั้น แต่ยังดึงดูดฝูงหมาป่าให้มาที่นี่อีกด้วย แผนนี้เป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นก 2 ตัว
เพียงแต่ว่าคนในเผ่าส่วนใหญ่เป็นภูตที่เกลียดหูเจียวเจียว เพราะฉะนั้นการค้นหาว่าใครเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังจึงยากมาก
เมื่อหญิงสาวนึกถึงสิ่งนี้ก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
จะโทษใครก็ควรโทษว่าเธอไม่ระวังตัวเอง เธอควรจะสอนเด็ก ๆ ให้ดีกว่านี้เพื่อไม่ให้คนเลวฉวยโอกาสทำร้ายพวกเขา
เวลาถัดมา เธอประคองร่างของหลงเหยาด้วยมือทั้ง 2 ข้าง แล้วใช้นิ้วหัวแม่มือลูบหัวของเขาเบา ๆ
“เหยาเอ๋อ ต่อจากนี้ไปเจ้าห้ามกินอาหารที่อยู่นอกบ้าน ไม่ว่าเจ้าจะหิวแค่ไหน เจ้าก็ห้ามกินมัน เข้าใจไหม? หลังจากนี้แม่จะเตรียมอาหารอร่อย ๆ ไว้ให้ เด็กดี จากนี้ไปเจ้าอย่ากินอะไรนอกบ้านอีกนะ”
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 258
แสดงความคิดเห็น