บทที่ 14: โหวเสี่ยวเตียวถูกใช้เป็นเครื่องมือ
เมื่อหูเจียวเจียวเห็นว่าโหวเสี่ยวเตียวกำลังจะเดินลับตาไป เธอก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้
“แม่จะออกไปข้างนอกพักหนึ่ง อีกไม่นานแม่จะกลับมา พวกเจ้าอยู่บ้านกันก่อนนะ เดี๋ยวแม่กลับมาจัดการกับเหยื่อพวกนี้เอง”
เธอรีบสั่งลูก ๆ ให้รออยู่ที่บ้านและเดินตามชายที่นำเหยื่อมาคืนไปอย่างเร่งรีบ
นั่นทำให้เหล่าเด็กน้อยรู้สึกแปลกใจมากที่เห็นแม่จิ้งจอกเดินลับสายตาไป
“พี่ใหญ่ นางออกจากบ้านไปโดยที่ไม่เอาเหยื่อไปซ่อน แล้วยังไว้ใจให้พวกเราคอยเฝ้าเหยื่อด้วยนะ”
หลงหลิงเอ๋อเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ ในขณะที่เธอทำหน้าประหนึ่งว่าเห็นผี
ในอดีต หญิงชั่วคนนั้นมักจะฉกฉวยอาหารที่พวกนางได้รับไปเก็บไว้เอง แล้วเด็ก ๆ จะไม่ได้รับอนุญาตให้แตะต้องเหยื่อพวกนั้นเลย
“หรือว่าเราควรเอาเหยื่อไปซ่อนตอนที่นางไม่อยู่บ้านดี?”
เด็กสาวมองไปที่เหยื่อตัวอ้วนหลายตัวแล้วเสนอความคิดออกมาแบบนั้น
หลงอวี้ส่ายหัวพลางตอบเสียงเรียบนิ่ง “ไม่ บางทีนางอาจจะจงใจทดสอบเรา”
ตลอดเวลาที่ผ่านมานางมักจะหลอกเหล่าเด็กน้อยด้วยวิธีนี้ และพอถูกหลอก พวกเขาจะต้องทนทุกข์ทรมานยิ่งกว่าเดิม
ตอนนี้เด็กทั้ง 5 คิดว่าจะไม่ยอมตกหลุมพรางแม่ใจมารง่าย ๆ
เมื่อได้ยินคำพูดของคนเป็นพี่ใหญ่ หลงหลิงเอ๋อก็นึกถึงความทรงจำที่เลวร้ายบางอย่างขึ้นมาได้ ร่างกายของนางจึงสั่นสะท้าน แล้วไม่นานเด็กสาวก็พยายามปัดความคิดนี้ทิ้งอย่างรวดเร็ว
ในขณะนี้ หูเจียวเจียวกำลังติดตามโหวเสี่ยวเตียวไปแบบไม่ให้อีกฝ่ายรู้ตัว
หลังจากที่เธอเดินไปประมาณ 10 นาที ลิงเจ้าเล่ห์ก็หยุดกะทันหัน
เมื่อเห็นดังนั้นหญิงสาวจึงรีบไปซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้
“โหวเสี่ยวเตียว เจ้าเป็นอะไรไป ทำไมเจ้าถึงเอาเหยื่อไปคืนนางทั้งหมดเสียล่ะ?”
“เหยื่อของข้าอยู่ไหน? เอาออกมาเร็ว อย่ามัวชักช้า ข้าจะกลับบ้านไปกินข้าวแล้ว”
ยามนี้มีเสียงที่ไม่คุ้นเคยของคน 2-3 คนดังมาจากข้างหน้า หญิงสาวจึงโน้มใบหน้าออกไปมองก่อนจะเห็นว่ามีคน 10 คนกำลังยืนล้อมโหวเสี่ยวเตียวอยู่
“นางรู้ความจริงแล้ว ข้าเลยทำได้แค่คืนเหยื่อให้นางเท่านั้น...”
ชายหนุ่มหดหัวตอบกลับคนพวกนั้นด้วยสีหน้าลำบากใจ
“อะไรนะ!” สตรีหน้าตาบูดบึ้งคนหนึ่งตะโกนลั่น จากนั้นนางก็คว้าหูของ โหวเสี่ยวเตียว “เจ้าคืนเหยื่อให้นางไปแล้วหรือ แล้วเจ้าจะให้ข้ากับลูก ๆ กินอะไร!”
“ข้า ข้าจะพยายามล่าเหยื่ออย่างสุดกำลัง ข้าจะไม่ยอมปล่อยให้เจ้ากับลูก ๆ อดตายหรอก...”
“ไร้ประโยชน์ เจ้าจับเหยื่อมาได้ครั้งละไม่กี่ตัว เจ้าอยากให้ข้ากับลูก ๆ อดตายหรือไง!”
เมื่อคนอื่น ๆ เห็นทั้งคู่ทะเลาะกัน พวกเขาก็รู้ว่าตอนนี้ไม่มีเหยื่อมาแบ่งกันแล้วจึงเดินจากไปด้วยความไม่พอใจ
ทางด้านหูเจียวเจียวที่ซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้หรี่ตาลงในขณะที่ฟังการสนทนาของคนกลุ่มนี้
ดูเหมือนว่าเธอจะเดาถูก โหวเสี่ยวเตียวถูกใช้เป็นเครื่องมือ แท้จริงแล้วกลุ่มนี้ต่างหากที่ขโมยเหยื่อของหลงโม่ไป
ในเผ่าแห่งนี้มีภูตอาศัยอยู่ประมาณ 200 คน เท่าที่เธอเห็นตอนนี้มีคนยืนรายล้อมโหวเสี่ยวเตียวมากกว่า 12 คน ถ้าเธอเดาไม่ผิด นั่นหมายความว่าคนส่วนใหญ่ในเผ่านี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย
ไม่น่าแปลกใจที่เจ้าของร่างเดิมไม่เคยสงสัยอะไรเลย กลับกลายเป็นว่าชาวบ้านส่วนใหญ่รวมหัวกันหลอกนาง ด้วยเหตุนี้นางจึงไม่สังเกตเห็นความผิดปกติใด ๆ!
ระหว่างนี้จิ้งจอกสาวชำเลืองมองโหวเสี่ยวเตียวที่ยังคงถูกดุด่า จากนั้นเธอก็หันหลังเดินออกไปอย่างเงียบ ๆ
อีกด้านหนึ่ง
ทันทีที่หูเจียวเจียวออกจากบ้านไป ผู้มาเยือนที่คาดไม่ถึงก็มุ่งหน้ามาทางบ้านของเธอ
“หูเจียวเจียว ออกมานะ!”
คราวก่อนหลังจากที่สงฮวากลับบ้านไป ยิ่งนางคิดถึงตอนที่ตนเองถูกยัยจิ้งจอกกระชากผมจนหนังศีรษะหลุด ความแค้นก็ยิ่งสุมอยู่ในอก
แล้วบังเอิญที่วันนี้ ‘สงจวง’ ผู้เป็นสามีกลับมาจากการล่าสัตว์พอดี
นางจึงพาสามีของนางมาแก้แค้นหูเจียวเจียว
ในขณะนั้นเอง เด็กน้อยทั้ง 5 ได้ยินเสียงตะโกนที่ดังราวกับฟ้าผ่าของสงฮวาตั้งแต่ที่นางยังมาไม่ถึงประตูรั้วด้วยซ้ำ
เสียงนั้นทำให้เหล่าเด็กน้อยผอมแห้งรู้สึกตกใจแล้วแสดงสีหน้าเป็นกังวลออกมา
“นั่นมันแม่ของสงชิวนี่นา นางมาที่นี่อีกแล้ว!” หลงหลิงเอ๋อมองไปที่ร่างอ้วนท้วนเหมือนหมีด้วยความหวาดกลัว
สงฮวาเป็นคนที่มีอารมณ์รุนแรง บวกกับพละกำลังมหาศาล แล้วนางมักจะทุบตีคนอื่นอย่างโหดเหี้ยม
ณ ตอนนี้ผู้เป็นแม่ก็ไม่อยู่บ้านด้วย ดังนั้นอีกฝ่ายจะต้องทำร้ายพวกเขาจนบาดเจ็บสาหัสแน่นอน!
หลงเซียวจับขอบผนังด้วยมือข้างหนึ่งแล้วปรากฏตัวขึ้นข้างหลังพี่น้องคนอื่น “รีบเอาของของผู้หญิงคนนั้นไปซ่อนเร็วเข้า”
แม้ว่าเด็กหนุ่มจะมองไม่เห็น แต่ประสาทสัมผัสด้านอื่นของเขานั้นเฉียบคมมาก
ในเผ่านี้ไม่มีของที่หญิงชั่วนำมาใช้ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา แล้วเป็นไปได้น้อยมากที่ครอบครัวของท่านยายจะส่งของพวกนี้มาให้นางด้วย
ก่อนหน้านี้เขากับหลงจงเคยทำของของนางแตกไปแล้วครั้งหนึ่ง หากครั้งนี้สงฮวาเข้ามาทำลายของที่เปราะบางพวกนี้อีก เมื่อแม่ใจยักษ์กลับมาเห็นสภาพบ้าน นางจะต้องโกรธแน่นอน
พอหูเจียวเจียวโกรธ พวกเขาก็จะไม่ได้กินของดี ๆ อีก
สิ่งสำคัญที่สุดก็คือจะไม่มีอาหารแปลก ๆ แสนอร่อยมาให้พวกเขากินอีกในอนาคต
หลงอวี้เข้าใจที่น้องชายบอกอย่างรวดเร็ว “ฟังคำของน้องรอง รีบขนของไปซ่อนกันเร็วเข้า”
เด็ก ๆ รีบย้ายเครื่องครัวและเครื่องใช้บนโต๊ะทำครัวของหูเจียวเจียวไปซ่อนไว้หลังบ้านทันที
แม้แต่หลงเหยาก็ยังคาบชามกระเบื้องสีขาวไว้ในปากของเขาแล้วบินเซไปเซมา
หลังจากที่ 5 พี่น้องย้ายทุกอย่างไปซ่อนไว้แล้ว 1 ในพวกเขานั้นก็หาเศษหญ้ามาคลุมสิ่งของไว้
จากนั้นเด็กน้อยทั้งหลายก็แทบจะหมดแรงแล้วกลับมานั่งหอบหายใจอยู่กลางบ้าน
ทันใดนั้น หลงหลิงเอ๋อที่เพิ่งนั่งพักได้ไม่กี่อึดใจจู่ ๆ ก็ตบหน้าผากตัวเองดังฉาด
“แย่แล้ว! เหยื่อยังอยู่ข้างนอก!”
ประโยคนั้นทำให้สีหน้าของเหล่าพี่น้องเปลี่ยนไปทันที
“ข้าจะไปย้ายเหยื่อกลับเข้ามาไว้ในบ้าน” หลงจงผุดลุกขึ้นยืนพร้อมกับที่คิ้วน้อย ๆ ของเขาขมวดแน่น
“มันสายเกินไปแล้ว” ใบหน้าของพี่ชายคนโตเคร่งเครียดขึ้นในยามที่มองออกไปข้างนอก
สิ้นเสียงคำพูดนั้น สงฮวากับสามีของนางก็มาถึงประตูด้านนอกแล้ว
“หูเจียวเจียว เจ้ากล้ามากนะที่กระชากผมข้าจนหลุด ทีอย่างนี้ทำไมถึงไม่กล้าออกมา!”
“เจ้ารีบ ๆ โผล่หัวออกมาเดี๋ยวนี้นะ วันนี้ข้าจะสั่งสอนเจ้าให้รู้สำนึก ถ้าวันนี้ข้าไม่ได้ถลกหนังหัวเจ้าก็อย่ามาเรียกข้าว่าสงฮวา!” ขณะนี้ผู้หญิงร่างใหญ่เท้าสะเอวยืนจังก้าอยู่หน้าบ้าน
แต่หลังจากที่ตะโกนเรียกอยู่นานก็ไม่มีวี่แววว่าเจ้าของบ้านจะเปิดประตูออกมาเลย
นางแอบมองลอดเข้าไปในลานบ้าน แล้วทันใดนั้นดวงตาของนางก็เบิกกว้าง
“เหยื่อ? นางจิ้งจอกน้อยมีเหยื่อตัวใหญ่อยู่ในบ้าน”
ตอนนี้มีซากสัตว์ตัวใหญ่วางอยู่ตรงลานบ้าน 4 ตัว ซึ่งซากสัตว์ 3 ใน 4 ตัวนั้นยังคงมีสภาพสมบูรณ์ หากนำมันไปถลกหนังออก พวกเขาก็จะได้หนังสัตว์คุณภาพเยี่ยมมาครอบครอง!
หูเจียวเจียวไม่สมควรที่จะได้รับเหยื่อเช่นนี้!
สงฮวารู้ว่าแม่นางจิ้งจอกเป็นคนขี้ขลาดที่มักจะถูกกดขี่ข่มเหงอยู่เสมอ ดังนั้นการที่นางพาสามีมาด้วยในวันนี้ ครอบครัวของอีกฝ่ายที่มีเพียงเด็กไร้ประโยชน์เพียงไม่กี่คนคงจะไม่กล้าหือกับนางอย่างแน่นอน
ไม่นานนางก็คิดแผนบางอย่างขึ้นมาในใจแล้วหันไปพูดกับสามีของตนเองว่า “เราไปแย่งเหยื่อพวกนั้นกลับบ้านเถอะ”
สงจวงเชื่อฟังคำพูดของภรรยา เขาจึงเข้าไปเพื่อนำเหยื่อออกมาโดยไม่คิดอะไร
สาเหตุที่เขามาที่นี่วันนี้เป็นเพราะว่าสงฮวาบอกให้เขามา
ในเมื่อหูเจียวเจียวรังแกภรรยาของเขา ดังนั้นการที่นางจะใช้เหยื่อพวกนี้ชดใช้ให้แก่พวกเขา มันก็เป็นเรื่องสมควรแล้ว
ปกติคนในเผ่ามักจะคอยกลั่นแกล้งครอบครัวของหูเจียวเจียวอยู่เสมอ พวกเขาจึงเคยตัวและไม่คิดว่าการกระทำพวกนี้เป็นสิ่งที่ผิด
“อย่าแตะต้องเหยื่อของเรานะ!”
“นี่คือเหยื่อที่ท่านพ่อล่ามา มันเป็นของเรา เจ้าเอาไปไม่ได้!”
ทันทีที่สงจวงก้าวเข้าไปในลานบ้าน เด็กหลายคนก็วิ่งออกมายืนขวางอยู่หน้าเหยื่อ
“ไสหัวไปให้พ้น!” ชายตัวใหญ่ทำหน้าไม่พอใจก่อนจะตบเด็กผอมแห้งไม่มีแรงที่เข้ามาขวางทาง
เมื่อเทียบขนาดระหว่างเด็กทั้ง 5 กับสงจวง พวกเขาต่างกันราวฟ้ากับเหว ไหนจะพละกำลังของภูตที่โตเต็มวัยอีก เด็กที่โดนทำร้ายจึงล้มลงกระแทกพื้นอย่างแรง
แต่ในตอนนั้นหลงอวี้ลุกขึ้นไปกอดแขนของคนที่จะเข้ามาแย่งอาหารของตนแบบไม่คิดชีวิต
“เจ้าหยุดเดี๋ยวนี้นะ วางเหยื่อของพวกข้าลง!”
เป็นธรรมดาที่เหล่าเด็กน้อยที่ถูกเลี้ยงแบบอด ๆ อยาก ๆ มานานจะให้คุณค่ากับอาหารมากกว่าชีวิตของตน
การขโมยเหยื่อก็ไม่ต่างจากการฆ่าพวกเขาทั้งเป็น!
หลงเหยาที่พลิกตัวตีลังกากลางอากาศมึนงงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็เอาหัวเล็ก ๆ พุ่งเข้าใส่ท้องที่มีขนาดเท่ากับกระสอบทรายของสงจวง
แต่การกระทำนั้นมันเปล่าประโยชน์โดยสิ้นเชิง นอกจากจะไม่ช่วยอะไรแล้วยังทำให้เขาตกเป็นเป้าอีกด้วย
ผัวะ!
แล้วร่างมังกรสีดำก็พลิกคว่ำอยู่กับพื้น…
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 305
แสดงความคิดเห็น