ตอนที่ 62: ก้าวสู่ทะเลดาว

-A A +A

ตอนที่ 62: ก้าวสู่ทะเลดาว

เปิดขาย

ตอนที่ 62: ก้าวสู่ทะเลดาว

“ใช่ นายจะต้องค่อย ๆ เลือกส่วนประกอบของยานขึ้นมาทีละชิ้นและประกอบยานอวกาศขึ้นมาทีละน้อยด้วยตัวเอง”

เซี่ยเฟยเอนกายลงบนม้านั่งพร้อมกับหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดไฟ หลังจากที่เขาพ่นควันออกมา 2-3 ครั้งเขาก็กล่าวออกมาว่า

“ประกอบยานอวกาศอย่างนั้นหรอ? มันเป็นความคิดที่น่าสนใจจริง ๆ ว่าแต่พวกเราจะเดินทางไปบริษัทยานบริษัทไหนล่ะ?”

“นายจะไปบริษัทยานทำไม? ที่ที่พวกเราจะไปเป็นสุสานยานต่างหาก ที่นั่นมียานอวกาศถูกนำมาทิ้งไว้เป็นจำนวนมากแต่ส่วนประกอบของพวกมันก็ยังคงใช้งานได้”

เซี่ยเฟยเบิกตากว้างอย่างเหลือเชื่อก่อนที่จะกล่าวถาม “มีคนเอายานอวกาศไปทิ้งด้วยหรอ? ทำไมพวกเขาไม่รีไซเคิลยานพวกนั้นล่ะ ยานอวกาศแต่ละลำแพงจะตาย”

อันธหัวเราะออกมาเบา ๆ ก่อนจะอธิบายออกไป “นายคิดว่าการรื้อยานอวกาศที่มีน้ำหนักเป็นล้านตันเป็นเรื่องง่ายหรือยังไง เพียงแค่ค่าใช้จ่ายในการรื้อยานเพียงอย่างเดียวก็อาจจะเกินมูลค่าของตัวยานไปแล้ว ดังนั้นคนส่วนใหญ่จึงถอดชิ้นส่วนที่มีค่าของยานออกไปขายแล้วก็ทิ้งชิ้นส่วนที่ไม่ค่อยมีค่าเอาไว้ในสุสาน”

“นายกำลังจะบอกว่าพวกเราควรไปหาซื้อสินค้ามือ 2 ราคาถูกในสุสานยานใช่ไหม?” เซี่ยเฟยถามหลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

เมื่อได้ยินคำถามอันธกลับส่ายหัวอย่างเคร่งขรึมก่อนที่เขาจะอธิบายออกไปว่า “สิ่งที่สำคัญที่สุดคือฉันอยากให้นายได้ฝึกฝนตัวเองในอู่ขนาดเล็กแถวสุสานยาน เพราะถ้าหากว่านายไปยังบริษัทผู้ผลิตยานอวกาศรายใหญ่ นายจะไม่มีโอกาสได้เรียนรู้เรื่องอื่นเกี่ยวกับยานอวกาศเลยนอกเสียจากวิธีการขับยาน”

“นอกจากนี้ในสุสานยานอวกาศยังมักจะมีสินค้าคุณภาพสูงที่พวกทหารเอามาขายทิ้ง ดังนั้นยานอวกาศที่ประกอบขึ้นมาจากสินค้ามือ 2 พวกนี้จึงมักจะมีคุณภาพสูงกว่ายานอวกาศลำใหม่โดยทั่วไปและนายยังสามารถปรับแต่งยานอวกาศได้ตามใจของนายอีกด้วย”

“หากนายต้องการที่จะใช้เงินให้น้อยที่สุดเพื่อซื้อยานอวกาศที่มีสมรรถนะที่ดีที่สุด ทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับนายในตอนนี้มีเพียงแค่สุสานยานเพียงแห่งเดียวเท่านั้นและมันก็มีเฉพาะผู้เชี่ยวชาญที่จะประกอบยานขึ้นมาเอง”

“อีกอย่างหนึ่งที่นายต้องรู้ ถึงแม้ยานไทนี่ฟอลคอนที่นายเล็งไว้จะมีราคา 80 ล้าน แต่ถ้าหากว่านายต้องการจะเปลี่ยนมันให้กลายเป็นยานประจัญบานนายจะต้องเสียค่าแต่งยานไปอีกไม่น้อยกว่า 3,000 ล้าน!”

สิ่งที่อันธอธิบายออกมาเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลมากเพราะรถหรูโดยทั่วไปย่อมไม่สามารถวิ่งแข่งรถบ้านที่ติดตั้งเครื่องยนต์ของรถแข่งได้

สิ่งที่ยานรบต้องการที่สุดไม่ใช่รูปลักษณ์ภายนอกแต่เป็น เครื่องยนต์, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, อาวุธยุทโธปกรณ์สำหรับการรบต่าง ๆ ดังนั้นถึงแม้ว่ายานอวกาศที่ประกอบขึ้นมาจากสุสานจะเป็นสินค้ามือ 2 แต่ประสิทธิภาพของพวกมันมักจะดีกว่ายานมือใหม่ที่วางขายตามท้องตลาด

นอกจากนี้การค่อย ๆ ประกอบยานอวกาศขึ้นมาด้วยตัวเองก็เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่น่าสนใจ ยิ่งไปกว่านั้นเซี่ยเฟยยังมีเวลาอีก 2-3 เดือนก่อนที่เขาจะเข้าไปในค่ายฝึก เขาจึงสามารถใช้เวลานี้ในการหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องของยานอวกาศได้

“ถ้าฉันจำไม่ผิดนายเคยบอกว่าผู้ที่สามารถครอบครองยานอวกาศได้ต้องมีระดับสตาร์ฟิลด์เป็นอย่างน้อยไม่ใช่หรอ? แต่ระดับของฉันยังอยู่ห่างจากสตาร์ฟิลด์อีกพอสมควรเลยนะ” เซี่ยเฟยกล่าว

เมื่อได้ยินคำถามอันธก็ส่งเสียงหัวเราะออกมาเล็กน้อยก่อนที่เขาจะได้กล่าวต่อไปว่า “นายหัดอ่านคู่มือที่ทางสมาพันธ์จัสทิสให้มาบ้างนะ ถึงแม้ว่าระดับการฝึกฝนของนายจะยังไม่ถึงขั้น แต่ตอนนี้นายถือว่าเป็นจัสทิสฝึกหัดแล้วและการครอบครองยานอวกาศก็ถือว่าเป็นหนึ่งในสิทธิพิเศษของจัสทิส”

ระหว่างที่ทั้งสองกำลังพูดคุยกันมันก็มีเฮลิคอปเตอร์บินลงมาจากท้องฟ้าก่อนที่จะลงจอดบนชายหาดที่อยู่ไม่ไกล จากนั้นมันก็มีชาย 3 คนเดินลงมาจากเครื่องบินโดยใบหน้าของพวกเขาต่างก็ประดับเอาไว้ด้วยรอยยิ้ม

“ไอ้น้องชาย! ฉันได้ยินมาว่านายได้รับคัดเลือกให้กลายเป็นจัสทิสแล้วใช่ไหม! พวกเราขอแสดงความยินดีด้วย!!” อู่หลงส่งเสียงตะโกนพร้อมกับวิ่งมาด้านหน้า

เซี่ยเฟยโบกมือไปมาเพื่อทักทายก่อนที่เขาจะลุกขึ้นจากเก้าอี้และกล่าวว่า “ผมยังไม่ผ่านการประเมินเลย ไม่รู้ว่าพวกเขาคิดยังไงถึงให้โควตาพิเศษกับผม”

“นายไม่ต้องมาถ่อมตัวเลย การเคลื่อนไหวของนายในระหว่างการประลองเป็นเรื่องที่น่าทึ่งจริง ๆ” อู่หลงกล่าวพร้อมกับเหยียดแขนกว้างและถอดเซี่ยเฟยเข้าไปเต็มแรง

หลังจากเวลาผ่านไปชายทั้งสี่ก็นอนเรียงกันบนเก้าอี้ชายหาด โดยในปัจจุบันอู่หลงได้ซดเบียร์เย็น ๆ เข้าไปมากกว่าสองลังแล้ว ขณะที่เซี่ยเฟยไม่สามารถดื่มสังสรรค์ในขณะที่เขากำลังฟื้นฟูร่างกายได้ ดังนั้นเขาจึงดื่มเพียงน้ำเปล่าในขณะที่นั่งพูดคุยกับสหายต่างวัยทั้ง 3 คน

เมื่อเห็นชาร์ลีนั่งดื่มเบียร์ด้วยท่าทางอันเขินอาย เซี่ยเฟยก็เผยรอยยิ้มพร้อมกับถามออกไปว่า “ชาร์ลีนายได้พลังพิเศษมาหรือเปล่า?”

เมื่อได้ยินคำถามสีหน้าของชาร์ลีก็บิดเบี้ยวไปเล็กน้อยก่อนที่เขาจะพยักหน้าอย่างเงียบ ๆ และตอบกลับไปว่า “ผมได้พลังพิเศษมาแล้ว แต่มันเป็นพลังพิเศษเกี่ยวกับการคำนวณ ไม่ใช่พลังเกี่ยวกับความเร็วที่ผมชอบ”

ท่าทางหมดหวังของชาร์ลีเป็นสิ่งที่ทำให้ชายทั้งสามรู้สึกเอ็นดูและมันก็ทำให้พวกเขาอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้

“เพียงแค่นายได้รับพลังพิเศษมาก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมากแล้ว ความจริงความสามารถเรื่องการคำนวณก็ไม่ได้เลวร้ายสำหรับนายมากเกินไป เพราะนายกำลังเรียนรู้เรื่องการเงินและความสามารถในด้านการคำนวนก็คงจะช่วยให้นายมีความโดดเด่นในวิชาชีพของตัวเอง” เซี่ยเฟยกล่าว

“แต่ผมต้องการพลังความเร็ว… เหมือนคุณ” ชาร์ลีกล่าวพร้อมกับถอนหายใจ

เมื่อได้เห็นปฏิกิริยาของชาร์ลี อันเดร์ก็ลูบหัวหลานชายด้วยรอยยิ้มโดยในดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความรัก

“ว่าแต่คุณได้พลังอะไรมาไหมลุงอันเดร์?” เซี่ยเฟยถาม

“ฉันไม่ได้พลังอะไรกลับมาเลย” อันเดร์กล่าวตอบพร้อมกับส่ายหัว

“อ๋อ… น่าเสียดายจริง ๆ” เซี่ยเฟยอุทานอย่างรู้สึกเสียใจเล็กน้อยก่อนที่เขาจะดื่มน้ำยาฟื้นฟูแก้วใหญ่เข้าไปอีกแก้ว โดยน้ำยาพวกนี้เขาต้องกินเป็นประจำทุกชั่วโมงแล้วมันก็ถึงเวลาการกินยาของเขาแล้ว

ในร่างกายของเซี่ยเฟยยังคงมีสารตกค้างจากยาชุดก่อนหลงเหลืออยู่ เพราะท้ายที่สุดในระหว่างการต่อสู้กับเฉินตงเขาก็ต้องกินสมุนไพรฟื้นฟูกำลังเข้าไปเป็นจำนวนมาก ดังนั้นสารตกค้างที่หลงเหลืออยู่ในร่างกายของเขาจึงมีปริมาณที่ค่อนข้างสูง

“ฉันก็แอบเสียดายเรื่องนี้อยู่เหมือนกันแต่คนแก่อย่างฉันจะมีพลังพิเศษไปทำไม ฉันคิดว่าเรื่องนี้คงเป็นพระประสงค์จากพระเจ้าแล้ว” อันเดร์กล่าวด้วยรอยยิ้มอันเบิกกว้าง

เมื่อได้ยินคำตอบจากชายชรา เซี่ยเฟยก็ไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ออกมาเพิ่มเติม แต่เขาได้นำแท็บเล็ตออกจากอ้อมแขนพร้อมกับยื่นไปทางอันเดร์และอู่หลง

“ผมกำลังวางแผนจัดตั้งบริษัทเพื่อนำเข้าเทคโนโลยีจากอารยธรรมนอกโลกมาเผยแพร่ภายในโลกของเรา”

เมื่อได้ยินเรื่องการลงทุนอันเดร์ก็เริ่มสนใจในทันทีก่อนที่เขาจะรีบอ่านแผนการที่เซี่ยเฟยได้วาดเอาไว้

“ความคิดของคุณค่อนข้างดีมากเลย ทุกวันนี้บริษัทขนาดใหญ่ทุกแห่งต่างก็กำลังประสบปัญหาที่ไม่สามารถพัฒนาเทคโนโลยีสู้กับอารยธรรมนอกโลกได้ ถ้าหากว่าคุณจัดหาเทคโนโลยีให้กับพวกเขาโดยแลกเปลี่ยนกับหุ้นส่วนเล็กน้อย การลงทุนในครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่วิน ๆ ทั้งสองฝ่าย” อันเดร์กล่าวขึ้นมาอย่างจริงใจ

หลังได้รับคำตอบเซี่ยเฟยก็เผยรอยยิ้มออกมาก่อนที่เขาจะกล่าวออกไปว่า

“ผมอยากจะขอให้ลุงกับพี่หลงเป็นคนคอยดูแลบริษัทได้ไหม อีกไม่กี่วันผมต้องออกเดินทางแล้วและมันคงจะต้องใช้เวลาอีกนานกว่าที่ผมจะได้กลับมา”

ขณะเดียวกันอู่หลงก็ไม่ใช่ผู้ที่มีความรู้เรื่องการลงทุนเหมือนกับอันเดร์ ดังนั้นถึงแม้ว่าเขาจะอ่านแผนงานที่เซี่ยเฟยได้เขียนเอาไว้แต่เขาก็ยังคงงงงวยอยู่

“ถึงฉันจะไม่ค่อยเข้าใจเรื่องการลงทุนแต่ตราบใดก็ตามที่มันเป็นความคิดของนายฉันมั่นใจว่ามันจะต้องประสบความสำเร็จ ในเมื่อนายออกปากขอความช่วยเหลือ ฉันก็จะคอยดูแลบริษัทให้กับนายเอง” อู่หลงตบหน้าอกพร้อมกับตะโกนออกไปเสียงดัง จากนั้นเขาก็หันไปทางชาร์ลีพร้อมกับกล่าวออกไปว่า

“แล้วนายล่ะชาร์ลี”

เมื่อชาร์ลีได้อ่านแผนการเบื้องต้นของเซี่ยเฟยอย่างละเอียด เขาก็วางแท็บเล็ตเอาไว้บนโต๊ะพร้อมกับกล่าวออกไปว่า “เทคโนโลยีบนโลกของเรายังล้าหลังอยู่มากแต่พวกเรามีแรงงานราคาถูกและทุกคนต่างก็มีความกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้เทคโนโลยีจากต่างดาว ในความเป็นจริงแรงงานบนโลกต้องการเงินเดือนเพียงแค่ 6,000 แอลไลคอยน์เท่านั้น เมื่อเทียบกับสตาร์คอยน์แล้วมันเป็นค่าแรงที่ถูกมาก”

“รูปแบบการพัฒนาที่คุณได้วางแผนเอาไว้คล้ายกันกับโมเดลของญี่ปุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ใช้แรงงานราคาถูกในการพัฒนาอุตสาหกรรมในยุคที่ 2 และยุคที่ 3 จนทำให้พวกเขาได้กลายเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม”

“ผมคิดว่าโมเดลนี้ค่อนข้างเหมาะสมสำหรับโลกของเราแล้ว ผมเชื่อว่าทันทีที่พวกเราก่อตั้งบริษัท มันไม่เพียงแต่จะทำผลกำไรได้อย่างมากมายเท่านั้นแต่มันยังช่วยเร่งการพัฒนาของโลกขึ้นไปอย่างก้าวกระโดดอีกด้วย แต่เรื่องทั้งหมดนี้จำเป็นจะต้องใช้เงินลงทุนเป็นจำนวนมาก ไม่ทราบว่าคุณวางแผนที่จะเริ่มต้นการลงทุนด้วยเงินเท่าไหร่?”

ชาร์ลีถือได้ว่าเป็นอัจฉริยะในเรื่องของการเงินและการลงทุนจริง ๆ เพราะหลังจากที่เขาได้อ่านแผนการณ์ของเซี่ยเฟยไปเพียงแค่ไม่นาน เขาก็สามารถเข้าใจเจตนาของเซี่ยเฟยได้ในทันที

“100 ล้านสตาร์คอยน์” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับยกนิ้วชี้ขึ้นมา

จำนวนเงินที่เซี่ยเฟยได้กล่าวออกมานั้นทำให้ทั้งสามคนรู้สึกตกใจมากจนไม่สามารถนั่งเก้าอี้ได้อีกต่อไป

เงิน 100 ล้านสตาร์คอยน์แปลงเป็นเงินได้จำนวน 1 ล้านล้านแอลไลคอยน์และแม้แต่อันเดร์ที่เคยเห็นเงินจำนวนมากมาก่อนก็ยังอดที่จะรู้สึกตกใจกับเงินลงทุนที่เซี่ยเฟยได้กล่าวออกมาไม่ได้

“นี่คุณวางแผนที่จะลงทุนด้วยเงิน 100 ล้านสตาร์คอยน์จริง ๆ หรอ!?” อันเดร์กล่าวถามด้วยความตื่นเต้น

“ใช่แล้วครับ” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับพยักหน้า

เมื่อคิดย้อนกลับไปว่าเซี่ยเฟยเคยใช้เงินจำนวนหลายสิบล้านสตาร์คอยน์เพื่อซื้อต้นไม้ พวกเขาทั้งสามก็เริ่มทำตัวให้เคยชินกับความร่ำรวยของชายหนุ่ม

“ตอนแรกฉันวางแผนที่จะใช้เงินทุนของตระกูลมาช่วยลงทุนตามแผนงานของคุณ แต่น่าเสียดายที่แผนการณ์ของคุณยิ่งใหญ่มากจนเกินไปและตระกูลรอธส์ไชลด์ของพวกเราคงจะมีความแข็งแกร่งทางการเงินไม่มากพอ” อันเดร์กล่าวด้วยใบหน้าอันขมขื่น

“พวกคุณไม่จำเป็นต้องคิดมากหรอก พวกคุณแค่ช่วยผมดูแลบริษัทนี้ก็พอ ผมจะให้หุ้นส่วนลุงกับพี่หลงคนละ 10%” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยท่าทางสบาย ๆ

“ไม่ได้ ๆ โครงการนี้มีมูลค่าตั้ง 100 ล้านสตาร์คอยน์เลยนะ การที่คุณให้หุ้นฉัน 10% ก็หมายความว่าฉันได้ถือครองมูลค่าของบริษัทถึง 10 ล้านสตาร์คอยน์!” อันเดร์กล่าวพร้อมกับส่ายหัวไปมา

เซี่ยเฟยจุดบุหรี่พร้อมกับพ่นควันออกมา จากนั้นเขาก็กล่าวออกไปด้วยสีหน้าที่จริงจัง “ผมไม่ได้พูดเล่นนะ สิ่งที่ผมต้องการคือลงทุนแต่บริษัทยังจำเป็นที่จะต้องมีคนจัดการ เชื่อผมเถอะว่าหุ้น 10% ที่ผมให้ไม่ใช่จำนวนที่มากเกินไป”

“ฉันมีเพื่อนในอุตสาหกรรมการลงทุนอยู่ค่อนข้างเยอะและพวกเขาทุกคนต่างก็เป็นมืออาชีพที่มีประสบการณ์ ถ้าหากว่าคุณยังขาดบุคลากรด้านการจัดการ ฉันสามารถแนะนำคนพวกนั้นให้กับคุณได้” อันเดร์กล่าวโดยพยายามไม่ยอมรับจำนวนหุ้นที่เซี่ยเฟยได้มอบให้

เมื่อได้ยินคำแก้ตัวเซี่ยเฟยก็กล่าวขึ้นมาด้วยรอยยิ้มว่า “ถึงแม้จะมีคนอื่นที่เก่งกว่าพวกคุณแต่ผมไม่ได้ไว้ใจคนพวกนั้น”

“เรื่องนี้คุณไม่ต้องกังวล พวกเขาทุกคนต่างก็เป็นมืออาชีพ ดังนั้นเรื่องการทุจริตไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอน” อันเดร์ยังคงกล่าวต่อไป

“พวกเขาไม่ได้รู้จักผมเหมือนกับคุณ เชื่อผมเถอะว่าเรื่องนี้ได้ถูกลิขิตเอาไว้แล้ว พวกเราผจญภัยในแอตแลนติสด้วยกัน, เผชิญหน้ากับความเป็นความตายมาพร้อมกัน ดังนั้นถึงแม้ว่าคุณจะรับประกันให้คนอื่นมากแค่ไหนแต่ผมก็ไม่มีวันเชื่อใจใครเหมือนกับพวกคุณ” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับส่ายหัว

เหตุผลที่เซี่ยเฟยต้องการร่วมลงทุนไปพร้อมกับอันเดร์และอู่หลงอย่างไม่ลดละนั่นก็เพราะเขามีเหตุผลอยู่ 2 ประการ 

เหตุผลประการแรกคือเขาไว้ใจชายทั้งสองคนนี้จริง ๆ ส่วนเหตุผลที่ 2 คือเขาได้รับผลกำไรจากแอตแลนติสมากเกินไปและเขาก็ต้องการที่จะชดเชยผลกำไรในส่วนนั้นกลับคืนให้พวกอันเดร์

“เอาล่ะในเมื่อคุณเชื่อใจพวกเรามากขนาดนี้ก็ปล่อยให้มันเป็นหน้าที่ของพวกเราเถอะ พวกเรารับประกันว่าพวกเราจะไม่ทำให้คุณผิดหวังเด็ดขาด” อันเดร์กล่าวพร้อมกับพยักหน้าเบา ๆ

4 วันต่อมาเซี่ยเฟยก็นำสิ่งของทั้งหมดที่เขาได้รับมาจากการประเมินในครั้งนี้ออกไปขายและทำให้เขาได้รับเงินกลับมาทั้งสิ้นถึง 1,864 ล้านสตาร์คอยน์ โดยเขาได้ทำการโอนเงินจำนวน 100 ล้านสตาร์คอยน์ไปให้กับอันเดร์ก่อนที่จะก้าวเท้าขึ้นยานอวกาศไปเผชิญหน้ากับทะเลดาวโดยลำพัง

***************

เริ่มต้นการผจญภัยรอบนี้จะไปสะดุดขาใครอีกไหมว๊าาา

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.