the end of world Chapter 5
Chapter 5 มือปราบสายฟ้าฟาด (ตอนแรก)
…
ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุประหลาดขึ้นเพียงเล็กน้อย บริเวณป่าริมทางบนถนน
เส้นที่จะมุ่งหน้าออกนอกตัวเมือง ร่างที่อยู่ในชุดเครื่องแบบของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ หลายคน
กำลังแฝงตัวซุ่มซ่อนอยู่ในดงไม้แสนหนาทึบ เพื่อปฏิบัติภารกิจบางอย่างให้สำเร็จ
ตามข่าวลับที่เพิ่งได้ทราบมาจากสายสืบเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน
“จ่าแน่ใจนะว่ามันจะผ่านเส้นทางนี้แน่...ไม่ใช่พวกเรามาเฝ้ารอเสียเที่ยวนะ”
คำถามนั้นถูกส่งออกมาจากร่างในเครื่องแบบของชายหนุ่มผู้หนึ่ง ที่กำลังยืนเอนหลังพิงกับต้นไม้ใหญ่
สายตาคมกล้ากร้าวแกร่งจับจ้องไปบนถนนที่ว่างเปล่า อย่างไม่กระพริบตา
โดยเขาเอ่ยออกมาโดยไม่หันไปมองยังคู่สนทนาเลยแม้แต่น้อย
ชายหนุ่มคนนี้คือ ร้อยตำรวจเอก เทย์เลอร์ การ์เดียน ซึ่งเป็นหัวหน้าชุดปฏิบัติการในครั้งนี้นั่นเอง
ที่เขาต้องเอ่ยถามออกไปแบบนั้น ก็เพราะว่า
จู่ๆเขาก็ได้รับคำสั่งมาจากเบื้องบน ให้จัดเตรียมกองกำลังมาเฝ้าเส้นทานี้ อย่างกะทันหัน โดยที่ยังไม่มั่นใจ
ในข้อมูลที่ได้รับมาจากสายมากนัก
“ข่าวนี้มีความแม่นอนกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ครับ เว้นเสียแต่พวกมันจะเกิดเปลี่ยนใจภายหลัง”
นายตำรวจสูงอายุที่อยู่ออกไปไม่ไกลกล่าวตอบ
โดยมือก็กำลังง่วนกับอาวุธประจำกาย เพื่อให้มันพร้อมใช้งานได้อย่างไม่ติดขัด
เหล่าผู้พิทักษ์สันติราษฎร์คนอื่นๆ ก็กำลังปฏิบัติแบบเดียวกันอยู่
บรรยากาศรอบด้านเงียบสงัด แต่มันก็เงียบสงบอยู่ได้อีกไม่นาน
เมื่อเสียงสนทนาจากอีกฝั่งหนึ่งดังออกมาจาก วิทยุสื่อสารที่เหน็บอยู่บริเวณเอวของนายตำรวจหนุ่ม
“ขณะนี้กลุ่มรถต้องสงสัยจะถึงบริเวณที่ต้องลงมืออีก 5 นาทีทราบแล้วเปลี่ยน”
ชายหนุ่มที่ยืนพิงต้นไม้อยู่เริ่มขยับตัว พร้อมกับล้วงหยิบวิทยุสื่อสารที่เหน็บอยู่ในซองหนังข้างเอวขึ้นมา
เอ่ยตอบกลับอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงนิ่งสงบ
“ทราบแล้วเตรียมพร้อมเข้าจับกุม...ทั้งหมดเข้าประจำที่เตรียมพร้อมรถต้องสงสัยกำลังมา”
ประโยคหลังเอ่ยกับผู้ใต้บังคับก่อนที่จะเหน็บวิทยุสื่อสารไว้ในซองหนังตามเดิม
ก่อนที่จะหันมาตรวจสอบอาวุธประจำกายครั้งสุดท้าย ก่อนเข้าปฏิบัติการ
มีดพกอยู่ในซองบริเวณต้นขา ปืนสั้นกึ่งอัตโนมัติ ถูกดึงขึ้นมาจากซองข้างเอวกุมกระชับไว้ในมือ
โดยมีลูกซอง 5 นัดสะพายอยู่บริเวณแผ่นหลังอีก 1 กระบอก กระสุนสำรอง ของปืนลูกซอง 3 ชุด
กระสุนปืนสั้น 3 ชุด ถูกจัดเก็บไว้อย่างดีในกระเป๋ากางเกง
สีหน้าของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ทุกคน ในยามนี้แฝงไว้ด้วยความเครียดเขม็ง ต่างกุมอาวุธในมือไว้อย่างเตรียมพร้อม สายตาของนายตำรวจทุกนายจ้องมองไปยังท้องถนน ที่อยู่ตรงหน้าด้วยแววตาสาดประกาย
พวกเขาเฝ้ารอกันไม่กี่อึดใจ สายตาอันว่องไวของเทย์เลอร์
ก็ได้เห็นถึง รถบรรทุก ที่ตอนหลังคลุมผ้าใบสีดำปิดทึบกำลังวิ่งมาบนถนนด้วยความเร็วสูง
วิ่งเรียงกันมาฝุ่นตลบ 5 คัน
“ทุกคนเตรียมตัวเข้าปะทะได้...ดูเหมือนมันไม่ง่ายแน่งานนี้”
เทย์เลอร์เอ่ยกระซิบอย่างแผ่วเบา ลงไปในวิทยุสื่อสาร เป็นเวลาเดียวกันกับที่รถบรรทุกหัวขบวน
ก็แล่นมาถึงยังบริเวณที่ซุ่มซ่อน ของกลุ่มผู้พิทักษ์สันติราษฎร์พอดี
ผ้าใบตอนหลังถูกสะบัดขึ้น พร้อมกับปากกระบอกสีดำมะเมื่อมของอาวุธปืนหลากหลายชนิด
จะโผล่ออกมา สอดส่องไปทั้ง 2 ฟากถนน ก่อนที่ประกายไฟจะพวยพุ่งพร้อมกับเสียงแผดระเบิดดังกราวสนั่น
ของการยิงอย่างหูดับตับไหม้จะบังเกิดขึ้น
ปังปังปังปังเปรี้ยงเปรี้ยงเปรี้ยงเปรี้ยง!!!
พุ่มไม้กิ่งไม้ขาดปลิวกระจุยกระจาย พื้นดินถูกคว้านจนฝุ่นฟุ้งตลบอากาศ
เหล่าผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ทุกคนต้องรีบทิ้งตัวนอนราบลงกับพื้น เพื่อไม่ให้เป็นเหยื่อกระสุน
ที่ปลิวโฉบเฉี่ยวไปมาอย่างน่าหวาดเศียวผ่านเหนือหัวของทุกคนในขณะนี้
ประกายของอาวุธปืนยังเลื่อนลั่นอยู่อย่างต่อเนื่อง ไม่หยุดพักเพื่อกดดันฝ่ายเจ้าหน้าที่ไม่ให้ตอบโต้กลับไปได้
จนกระทั่งรถบรรทุกคันแรกผ่านจุดซุ่มของพวกเขาไป โดยที่พวกเขาไม่สามารถสกัดไว้ได้
นายตำรวจหลายคนที่ไม่สามารถทนเห็นเหล่าผู้ร้ายรอยนวลไปได้ กัดฟันฝืนยันกายขึ้น
ฝ่าเปลวปืนที่พวยพุ่งเข้ามา
พร้อมกับเล็งอาวุธในมือ ไปยังท้ายรถบรรทุกคันหน้า ที่ยังเห็นอยู่ในระยะสายตา
แต่ก่อนที่พวกเขาจะทันได้เหนี่ยวไก รถบรรทุกที่ติดตามมาเบื้องหลัง
ก็เล็งอาวุธตรงมายังพวกเขาทันที พร้อมกับประกายไฟพวยพุ่งเป็นทาง เมื่อเหล่าผู้ร้ายส่งกระสุนตรงมาอย่างแม่นยำ
ร่างในเครื่องแบบหลายนาย ที่ถูกกระสุนทะลวงร่างอย่างจัง ต่างก็กระเด็นกระดอนล้มกลิ้งไปคนละทิศคนละทาง หยาดโลหิตสีแดงสาดย้อมพื้นจนเจิ่งนอง
เทย์เลอร์ ที่ยังหมอบนิ่งอยู่มองเห็นผู้ใต้บังคับล้มตายลงไปราวใบไม้ร่วงต่อหน้าต่อตา
ชายหนุ่มขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่างโกรธแค้น พลางกระเถิบตัวเองถอยไปหลบหลังต้นไม้ใหญ่
โดยมีนายตำรวจที่เหลือเพียงไม่กี่นายทำแบบเดียวกัน เทย์เลอร์รีบยันกายขึ้นจากพื้นด้วยความรวดเร็ว
เมื่อเห็นว่าตนพ้นวิถีกระสุนของฝ่ายตรงข้าม มือแกร่งรีบกระชากรีโหมดจากกระเป๋าเสื้อมากุมไว้ในอุ้งมือ
“อย่าหวังว่าพวกแกจะรอดไปได้นะเว้ย”
เขากล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเหี้ยม เมื่อเห็นว่ารถบรรทุกคันแรกกำลังจะหลุดรอดวงล้อมออกไป
ก่อนที่จะกดนิ้วโป้งลงไปบนปุ่มสีแดง บนรีโหมดอย่างดุดัน
จนแทบจะแหลกคามือ ตูมบึ้ม!
เสียงดังสะเทือนเลื่อนลั่น พร้อมกับปรากฏเปลวไฟพวยพุ่งขึ้นมาจากท้องถนน
รถบรรทุกที่วิ่งอยู่ข้างหน้าสุด เจอแรงระเบิดเข้าอย่างจัง ถูกแรงอัดหนักหน่วงโถมกระแทก
จนกระดอนลอยขึ้นทั้งคัน พลิกคว่ำหงายท้องตกลงมากระแทกพื้น กลายเป็นเศษเหล็กหุ้มไฟไปในพริบตา
ไม่ต้องถามถึงเลยว่าผู้ที่อยู่ภายใน ซากรถคันนั้น จะป่นปี้ย่อยยับอยู่ภายใน
ไม่มีคนไหนหนีออกมาได้แม้แต่คนเดียว
รถอีก 4 คันที่วิ่งตามติดมาทางเบื้องหลังต่างรีบเหยียบเบรกกันจนตัวโก่ง จนท้ายรถ หมุนปัดเป็นวงอยู่กลางถนน
เหล่าผู้คุ้มกันที่อยู่ทางตอนท้ายของรถบรรทุกแต่ละคัน พากันกระโดดลงมาอย่างว่องไว
พร้อมกับสาดกระสุนจากอาวุธสงครามในมือ ออกไปยังบริเวณที่คิดว่ามีเหล่าร่างในเครื่องแบบซุ่มซ่อนอยู่ราวห่าฝน
ปังปังปังปังเปรี้ยงเปรี้ยงเปรี้ยง!
ประกายไฟแผดพุ่งสาดกระหน่ำ โดยมีตอนหลังของรถบรรทุกขนาดใหญ่เป็นกำบังอย่างดี
กระสุนร้ายกาด ปลิวโฉบเฉี่ยว ร่างในเครื่องแบบไปมาอย่างน่าหวาดเสียว
เหล่าตำรวจที่แอบอยู่ตามต้นไม้ก็ไม่ปล่อยให้ฝ่ายตนถูกโจมตีอยู่ฝ่ายเดียว
เหล่าผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ก็ตอบโต้กลับไปด้วยอาวุธในมือ
อย่างถี่ยิบเช่นเดียวกัน
และแล้วในขณะที่เหล่าเจ้าหน้าที่กับกลุ่มผู้ร้ายกำลังปะทะกันอยู่นั่นเองเหตุประหลาดก็ได้เกิดขึ้น
ร่างทั้งหมดที่พากันกลิ้งหลบหรือวิ่งหลบกระสุนที่ปลิวไปมา พร้อมกับหามุมยิง หวังจะทำร้ายอีกฝ่าย
ถูกหยุดนิ่งราวกับทั่วทั้งโลกได้ถูกหยุดเวลาไว้
พร้อมกับเสียงคลื่นแทรกดังเสียดประสาท ก่อนที่ภาพขนาดยักษ์จะฉายปรากฏขึ้นบนผืนฟ้า
โดยมันเป็นหน้าของร่างในหน้ากากประหลาด ที่ออกมากล่าวถึงเรื่อง การแย่งชิงสิ่งของอะไรสักอย่าง
ที่จะช่วยให้มีชีวิตรอดต่อไปได้ในโลกที่กำลังจะเปลี่ยนแปลงไป
แล้วทุกอย่างก็กลับมาเป็นปกติตามเดิม โดยร่างที่กำลังอยู่ในท่ากลิ้ง ในทีแรกของเทย์เลอร์
ได้พุ่งตัวไปหลบ อยู่บริเวณหน้ารถบรรทุกคันหนึ่ง ที่เหล่าผู้ที่เคยอยู่ประจำพาหนะคันนี้
ถูกเป่ากลับลงนรกไปหมดสิ้น
ไอหมอกสีดำสยดสยองค่อยทอดตัวลงมาจากท้องฟ้าเบื้องบน เข้าปกคลุมพื้นที่โดยรอบ
จนมืดมิดแทบจะมองอะไรไม่เห็น
นายตำรวจและวายร้ายบางคนที่สูดหายใจเอาไอหมอกดังกล่าวเข้าไป ก็ได้เกิดอาการผิดปกติขึ้นกับร่างของพวกเขา
หลายคนลงไปนอนกลิ้งอยู่บนพื้น ทั่วทั้งร่างแอ่นเกร็งปลายนิ้วที่สอดอยู่ในไกปืนกระตุกถี่ๆ อย่างไม่ได้ตั้งใจ ดวงตาของพวกเขาเหล่านั้นเบิกค้าง น้ำลายไหลย้อย สติเริ่มหลุดลอย
กระสุนแผดเลื่อนลั่น พร้อมปากกระบอกส่ายไปมาอย่างไร้ทิศทาง
ทำให้ผู้ที่ตกอยู่ในวิถีของกระสุนนั้นต่างได้รับบาดเจ็บและล้มตายไปด้วยน้ำมือของฝ่ายตัวเองและฝ่ายตรงข้าม
เทย์เลอร์ที่เฝ้ามองอยู่อดที่จะประหลาดใจอย่างเสียไม่ได้ เมื่อเห็นอาการแปลกๆที่จู่ๆก็เกิดขึ้นจากคนทางฝั่งตนและฝ่ายตรงข้าม
ถ้าอาการลักษณะนี้เกิดขึ้นแต่เฉพาะฝ่ายของพวกมัน นายตำรวจหนุ่มก็สามารถระบุได้ทันทีว่า
พวกมันอาจจะเสพยาเกินขนาดจนช็อก แต่นี่มันเกิดขึ้นจากทางฝ่ายเขาด้วยนี่สิ
เทย์เลอร์ก็จนปัญญาที่จะรู้ได้ ร่างกายที่สั่นกระตุกเริ่มนิ่งลงทีละเล็กทีละน้อยจนนิ่งสนิท
แต่ดวงตายังเบิกกว้างตาดำหายไปกลายเป็นสีขาวซีด น้ำลายหยดย้อยลงไปบนพื้นพร้อมกับ
ร่างที่ลงไปนอนอยู่กลับมายืนบนพื้นด้วยแขนขาที่แข็งๆผิดปกติ
“แฮ่!”
มันเปิดปากร้องราวสัตว์ร้าย มือไม้แกว่งไกวไปมาอย่างไม่รู้ทิศทาง ปล่อยให้สายสะพายปืนที่ห้อยติดกาย เหวี่ยงเปะปะไปมา
พวกมันเดินโงนเงน ตรงเข้าใส่ร่างของ เพื่อนร่วมอาชีพของตนอย่างเชื่องช้า พร้อมกับร้องขู่ด้วยเสียงต่ำลึกในลำคอ
“อย่าเข้ามานะเว้ย...แกเป็นอะไรไปวะ?”
ไอ้วายร้ายคนหนึ่งร้องถามด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก พร้อมกับหันปากกระบอกปืนไปทางเพื่อนของมันเอง
ที่แยกเขี้ยวเข้าใส่พร้อมกับสาวเท้าหามันอย่างมุ่งร้าย
“กูบอกให้หยุดไงวะ...ถ้ายังเข้ามาอีกกูยิงจริงๆนะโว้ย...หยุดอยู่กับที่เดี๋ยวนี้”
มันร้องสั่งเพื่อนด้วยน้ำเสียงลังเล มือที่ถืออาวุธอยู่สั่นน้อยๆ เมื่อเห็นว่า ร่างตรงหน้ายังไม่ตอบสนองต่อคำสั่งของมัน ไอ้นั่นยังแยกเขี้ยวขาวน้ำลายหยดติ๋งๆ จ้องมองดวงตาสีขาวซีดตรงมาอย่างหิวกระหาย
พร้อมกับเท้าที่รุกคืบเข้าใกล้ขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเห็นว่ามือที่แกว่งไกวไปมาจวนจะคว้าลำคอของตน
เขาก็ไม่มีทางเลือกอีกต่อไป มันหลับตาปี๋ แล้วเหนี่ยวไกปลดปล่อยกระสุนตรงเข้าใส่ร่างที่เคยเป็นเพื่อนไม่นับ
ปังปังปังปังปังปัง!!!
ประกายไฟสีแดงจากเปลวปืนสว่างแลบเป็นสาย ปลดปล่อยกระสุนร้อนเข้าปะทะร่างนั้นอย่างเต็มแรง
จนร่างที่สาวเท้าตรงเข้ามาพร้อมกับมือไม้ที่ไขว่คว้า กระเด็นผึงถอยหลังไป ลำตัวท่อนบนและท่อนล่าง
ถูกแรงของหัวกระสุนนับร้อยที่ระดมเข้าใส่ ฉีกกระชากจนขาดออกจากกันลำไส้ห้อยร่องแร่งโลหิตสีแดงฉีดพุ่งสาดกระเซ็น ร่างกายท่อนบนหงายผึ่งไปตกทางเบื้องหลัง โดยมีร่างท่อนล่าง สาวเท้าตรงเข้าใส่ไอ้หมอนั่นอีก 2-3 ก้าวก่อนที่จะโงนเงนแล้วล้มลงไปบนพื้น
แต่ใช่ว่าทุกอย่างจะจบลงเพียงเท่านั้น เมื่อร่างกายท่อนบนที่ตกกระทบพื้น
กลิ้งคว่ำไปบนพื้นแล้วใช้มือยันกับผืนดินส่งร่างกายที่อ้าปากแยกเขี้ยว ตรงเข้าใส่ร่างของไอ้หมอนั่นตามเดิม
ด้วยความกระหายหิว
“แฮ่”
มันร้องคำรามแล้วเอื้อมมือคว้าข้อเท้าหมับ แล้วกระชากเต็มเหนี่ยว
ทำให้ร่างนั้นหงายหลังผึ่ง ไอ้หมอนั่นส่งเสียงร้องออกมาอย่างตกใจและหวาดกลัวสุดขีด
ก่อนที่คมเขี้ยวจะฉีกกระชากเนื้อบริเวณต้นขาของมัน
“อ้า...ม่าย...อย่ากินกู...ปล่อยกูสิวะ”
มันทำได้เพียงกระเสือกกระสนหนีตายในขณะที่ถูกเคี้ยวกิน ก่อนที่ร่างของมันจะกระตุกเยือกๆ
แขนขาแอ่นเกร็ง ก่อนที่ดวงตาจะเบิกกว้าง น้ำลายหยดย้อยแล้วก็ส่งเสียงร้องคำรามดังกระหึ่มออกมาจากลำคอ เป็นสัญญาณบ่งบอกว่า เขาได้กลายเป็นหนึ่งในพวกตัวประหลาดไปเป็นที่เรียบร้อย
ภาพอันสยดสยองได้ปรากฏต่อสายตาของนายตำรวจหนุ่มอย่างไม่ขาดตกไปแม้แต่ฉากเดียว
เทย์เลอร์ตกตะลึงนั่งตัวแข็งอยู่กับที่ มือไม้อ่อนแรงแทบทำอาวุธในมือหลุดร่วงลงไปกับพื้น
สมองประมวลผลแทบไม่ถูกว่าสิ่งที่เขากำลังเผชิญอยู่มันคือความจริงหรือคือความฝันกันแน่
************************************จบตอน
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 207
แสดงความคิดเห็น