บทที่ 1 เข้าโรงเรียน 2
ทันใดนั้นเองรอบๆ พื้นที่ที่ไบรท์เหยียบย่างพลันสั่นเสทือนเลื่อนลั่นท้องนภาไหวหวั่นราวกับแผ่นดินจะถล่มโลกจะทะลาย ไบรท์เคลื่อนร่างอย่างรวดเร็วก่อนที่จะได้ยินเสียงที่แสนคุ้นเคยอีกครั้ง
“ไบรท์ ไบรท์ ไอ้บ้าไบรท์ตื่นไปโรงเรียนได้แล้ว”
ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นทำให้ไบรท์ต้องลืมตาตื่น หมอข้างที่แสนคุ้นเคยกำลังถูกคาเสะจับแล้วตีมายังตัวของไบรท์ ชายหนุ่มเบิกตาโพงก่อนที่จะตัดสินใจเคลื่อนร่างหลบหมอนที่ถูกฝ้าดมา นาฬิกาบนหัวเตียงกำลังร้องเพื่อทำหน้าที่ของมันอย่างไม่คิดจะหยุดหย่อน
“ตื่นแล้วหรอ ดูเวลาสิว่าตอนนี้กี่โมงแล้ว นายคิดจะไปเรียนสายตั้งแต่เปิดเรียนเลยหรอ”
ไบรท์เหลือบตามองแล้วต้องดีดร่างขึ้นจากที่นอน “ฉิบหาย สายแล้ว”
“ใช่เพิ่งรู้ตัวหรอ ทุก ๆ ออกจากบ้านไปหมดแล้วเหลือแค่พวกเราที่รอนายอยู่” เสียงของอาสึนะทำให้ไบรท์กวาดตามองรอบ เด็กหนุ่มผนึกพลังเวทไว้ที่ดวงตาแล้วใช้มันมองสำรวจรอบ ๆ บ้าน
“จริงด้วย ไม่มีใครแล้ว”
ไบรท์ดีดร่าง
(ใช่แล้วครับภาพต่อไปนี้คือชีวิตประจำวันของผู้เขียนที่คล้ายคึงกับการ์ตูนหลายเรื่อง เพื่อเป็นการไม่เสียเวลาผู้เขียนขอตัดฉากถึงตอนที่ไบรท์วิ่งออกจากบ้านเลยได้ไหมครับผู้อ่าน”
ไบรท์ดีดร่างออกจากบ้านของตนอย่างรวดเร็วดูที่มีเสียงกระปอดกระแปดของสองสาวดังตามมาติด ๆ ในปากของไบรท์กำลังคาบขนมปัง “โรงเรียนเข้าแถมกี่โมง”
“สองโมง” คาเสะกล่าว ก่อนที่จะเคลื่อนร่างนำหน้าชายหนุ่ม
“ฉันต้องไปหาพี่ไอที่โรงเรียน นายกับอาสึนะค่อยตามไปนะ”
“ไม่ได้ ฉันก็มีทำเวณ ไบรท์นายค่อย ๆ ตามมาก็แล้วกัน”
สิ้นคำกล่าว ทั้งสองสาวจึงเคลื่อนร่างหายไป ทิ้งชายหนุ่มไว้เพียงลำพัง ไบรท์ผนึกพลังเวทไว้รอบ ๆ ข้อเท้าก่อนที่จะดีดร่าง ถึงแม้ว่าพลังเวทของเขาจะเพิ่มขึ้นกว่าแต่ก่อน แต่ทักษะในการใช้งานนั้นยังห่างชั้นกับคาเสะและอาสึนะมากนัก
ทั้งสองสาวนั้นมีความสามารถในด้านเวทมากกว่าไบรท์ คาเสะเป็นเด็กพิเศษที่ไม่ต้องสอบเข้าโรงเรียนเวทมนตร์ เรื่องนี้ไบรท์ได้ยินจากปากของหญิงสาวเอง เดิมทีเธอไม่ต้องเข้าเรียนก็ได้ แต่เนื่องด้วยไออยากให้หญิงสาวผู้นี้มีความทรงจำดีดีในโรงเรียนเวทมนตร์ เธอจึงให้คาเสะเข้าไปเรียน
ไบรท์รีบกืนขนมปังลงคอ ก่อนทีจะรีบเคลื่อนร่าง ทว่าในระหว่างที่ไบรท์กำลังคุ้นคิด เขากับไม่สังเกตว่าเบื้องหน้าของตนนั้นมีรถกำลังวิ่งมาอย่างเร็ว ทั้งรถและคนปะทะร่างกายกันอย่างจัง ร่างกายของไบรท์กระเด็นไปไกล เด็กหนุ่มผนึกพลังเพื่อลดแรงกระแทกก่อนที่จะมองหน้าคนขับรถยนต์อย่างไม่พอใจ
รถเก๋งคันดำค่อย ๆ หยุดลง ไบรท์สังเกตว่าไฟหน้าของรถคันดังกล่าวมันเกิดรอยเพียงเล็กน้อย เขาจึงเตียมตัวที่จะขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ประตูรถถูกผักออกอย่างช้า ๆ พร้อมกับเสียงก่นด่าที่ดังขึ้นอย่างไม่ขาดสาย ไบรท์พยุงร่างของตนเองขึ้นก่อนที่จะเงยหน้ามอง
“หมายตัวไหนมันบ้าวิ่งไม่ดูตาม้าตาเรือวะ รถกูเป็นรอยเลย”
สิ้นคำกล่าวเด็กหนุ่มพันต้องผงะ คำขอโทษที่เขาจะเตรียมจะกล่าวนั้นถูกกลืนลงไปในลำคอทันที เด็กน้อยชี้นิ้วกลางใส่ชายตรงหน้า ร่างกายที่ไม่ได้รับความเสียหายมากมายอะไรนัก แต่ถึงกระนั้นมันก็ยังคงมีความเจ็บปวด เลือดสีแดงๆค่อยๆหยดหยาดลงสู่พื้นอย่างช้า ๆ
ไบรท์มองบาดแผลตรงแขนของตนเอง ก่อนทีจะยกยิ้มขึ้น ให้ตายยังไงเขาก็จะไม่กล่าวขอโทษไอ้บ้านนี่อย่างเด็จขาด
“ทำไมพูดแบบนี้วะพี่ชาย ถ้าพี่ไม่ขับรถมาแบบนี้ก็คงไม่ชนผมหรอก แล้วดูสิแทนที่พี่จะขอโทษกับมาด่าผม ไม่ทราบว่าใครเป็นคนสั่งสอนพี่ชาอย่างนั้นหรอ”
“โอ้โหไอ้เด็กเวณนี่ กล้าด่าฉันหรอวะ ถ้าแกไม่วิ่งข้ามถนนมาแบบไม่ดูตาม้าตาเรือรถของฉันก็คงไม่ต้องพังแบบนี้หรอกเว้ย” ชายหนุ่มว่าพลางชี้ให้ไบรท์มองไปยังไฟหน้าที่ได้รับความเสียหาย
ไบรท์กืนน้ำลายลงคอ ก่อนที่จะใจดีสู้เสือ “ไม่รู้ละพี่ ผมจะไม่ขอโทษ แล้วจะไม่ชดใช้อะไรเงินให้แม้แต่แดงเดียว พี่ตั้งหากที่ต้องชดใช้เงินให้ผม”
สิ้นคำของไบรท์ ชายหนุ่มพลันย่างสามขุมเข้ามา เขาเงื้อมือแล้วจับคอเสื้อของไบรท์ ก่อนที่จะกระชาก ร่างกายของไบรท์ลอยขึ้นจากพื้น
ก่อนที่ชายทั้งสองจะได้ปะทะร่างกายกัน เสียงกลิ่งของโรงเรียนพลันดังขึ้น ชายหนุ่มพลันปล่อยมือแล้วหันร่างขึ้นรถ
“แกนะ อย่าให้ฉันเห็นหน้าอีกเข้าใจไหมไอ้เด็กเวณ” พอสิ้นเสียงรถคันงามก็พุ่งออกไปในทันที
ไบรท์มองแขนของตนที่มีเลือดออก ถึงมันจะไม่ใช่บาดแผลยิ่งใหญ่อะไรนัก แต่หากปล่อยเอาไว้เขาเกรงว่ามันอาจจะเกิดเรื่องยุ่งยากขึ้นกับตนเองก็เป็นได้
ไบรท์มองซ้ายมองขวาระหว่างโรงเรียนเวทมนตร์กับโรงบาลที่อาจจะอยู่ใกล้ เพียงไม่นานชายหนุ่มก็ตัดสินใจได้ ก่อนที่ไบรท์จะสาวเท้านั้น พลันมีเสียงของหญิงสาวร้องขอความช่วยเหลือ ไบรท์รีบดีดตัวไปตามเสียงทันที โดยที่เขาไม่รู้เลยว่าการกระทำครั้งนี้มันจะเป็นสิ่งที่บ่งชี้ถึงอนาคตในการเรียนในวันแรก
ณ ห้องเรียนที่แสนคุ้นเคยหญิงสาวผมน้ำตาลกวาดตามองไบรท์ที่ยังไม่ปรากฏร่าง เธอสงสัยว่าเหตุใดไบรท์จึงยังไม่มา ระหว่างที่อาสึนะกำลังนั่งคุ่นคิดประตูชั้นเรียนพลันถูกเปิดออก อาจารย์ที่แสนคุ้นเคยค่อย ๆ กล่าวเข้ามานักเรียนทุกคนต้องเงียบฟัง
ไอมองซ้ายมองขวาเพื่อหาน้องชายของเธอ ทว่าหญิงสาวกลับต้องแปลกใจเมื่อไม่พบกับเป้าหมาย “เอาล่ะ ทุกคนวันนี้ครูมีเรื่องสำคัญจะบอกพวกเราทุกคน วันนี้ห้องเรียนของเราจะมีนักเรียนใหม่ย้ายเข้ามาสองคน คนแรกเป็นเด็กที่มาจากเมืองที่ไกลแสนไกล ส่วนคนที่สองยังไม่มา”
ไอยราหยุดก่อนที่จะมองสำรวจรอบ ๆ ห้องเรียนของเธอ ก่อนที่หญิงสาวจะทำได้ผายมือเชิญนักเรียนของตนเองให้เข้ามาที่ห้อง กลับมีเสียงของนักเรียนคนหนึ่งกล่าวขัดขึ้นเสียก่อน
“นักเรียนที่จะย้ายเข้ามาใหม่เป็นผู้ชายหรือผู้หญิงหรออาจารย์”
ไอหรี่ตามองผู้พูด “มีทั้งผู้ชายและผู้หญิง ถ้าแบบนั้นเชิญนักเรียนคนแรก เธอมาจากเมืองที่ไกลแสนไกล”
สิ้นคำเชื้อเชิญประตูห้องพลันถูกผลักออกอย่างช้า ๆ ทุกสายตาล้วนจับจ้องยังผู้ที่เข้ามาใหม่ เส้นผมสีเขียวที่ยาวประบ่ายิ่งทำให้เด็กสาวเป็นจุดสนใจของเพื่อนๆรอบห้อง
ความงดงามดุจนางฟ้านางสวรรค์ของเธอ ทำให้ผู้คนต้องจับจ้องมองไปยังผู้ที่มาใหม่ กิริยาอันงดงามเหมือนชนชั้นสูงประกอบกับการแต่งตัวที่ดูล้ำสมัย เส้นผมที่ยาวประบ่าผิวสวยไปตามแรงลม หน้าตาที่จิ้มลิ้มน่ารักแก้มมันเป็นสีชมพูแดงระเรื่อราวกับผลมะปรางสุก ท่าทางกิริยาอาการที่ดูยังอาย
ยิ่งเสริมความงามงดให้กลับดารุณีน้อยตรงหน้า
คาเสะมองดูอนาคตเพื่อนร่วมชั้นเรียนของตนพลางยกยิ้มอยู่ในใจ หญิงสาวค่อยๆกล่าวคำแนะนำตัวช้าๆแต่เรียบง่าย
“สวัสดีค่ะครูอาจารย์และเพื่อน ๆ ทุกคน ดิฉันชื่อว่ามินาโตะ คาเสะค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ งานอดิเรกคือการอ่านหนังสือและฝึกฝนอักขระโบราณค่ะ ปัจจุบันอาศัยอยู่บ้านเดียวกับอาจารย์ไอยราค่ะ เป็นนักเรียนแรกเปลี่ยนจากอาณาจักรที่ไกลแสนไกล”
แต่ทว่าก่อนที่หญิงสาวจะได้กล่าวคำแนะนำตัวเสร็จนั้น จู่ๆเกิดเสียงกึกก้องกัมปนาท ทุกสายตาล้วนต้องเหนื่อยไปจับจ้องกับสิ่งที่ก่อความรำคาญ ทุกคนในชั้นเรียนเห็นควันพระคุ้ม ผู้ที่อยู่ในควันคือบุรุษหนุ่มผู้หนึ่งเส้นผมสีดำเขายาวประบ่าเช่นไบรท์อยู่ด้านหลังเดียวกับคาเสะ ร่างเต็มไปด้วยบาดแผลเลือดสีแดงกำลังหยดหยาดไหลรินลงมาสู่พื้นหญ้าของสนามโรงเรียน แต่ที่ทำให้ผู้คนต้องตระหนกตกใจก็คือสัตว์สีขาที่กำลังเตียมตัวตะปบไบรท์
“ระวัง”
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 135
แสดงความคิดเห็น