บทที่ 16 เจอ 2
กล่าวของสองสหาย ชายหนุ่มทั้งสองพลันทะยานร่างเข้าหาหญิงแปลกหน้าโดยที่ไม่คิดจะกล่าวอันใดอีก จอนยกดาบขึ้นมาประทับก่อนที่จะใช้มันจู่โจมไปเบื้องหน้า ชายหนุ่มผมแดงนามว่าเนกิก็มิได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ชายหนุ่มผนึกพลังไว้ที่ฝ่ามือก่อนที่จะชกไปยังหญิงเบื้องหน้า พลังสภาวะของทั้งสองมิได้อ่อนด้อยหากโดนไปคงมิใช่แค่บาดเจ็บ หญิงผมแดงตวัดขาขึ้นมาต้านรับการโจมตีของเนกิ ส่วนมือนั้นก็ผนึกพลังเข้าต้านรับดาบของจอน
“ฝีมือดี แต่ว่าหากเทียบกับฉันแล้วยังอ่อนมาก”
ศาสตราวุธที่จู่โจมพลันหยุดก่อนที่จะโดนพลังอันแข็งกล้าดีดออกอย่างง่ายดาย ทว่าแม้มันจะเป็นเช่นนั้นชายทั้งสองก็ยังมิคิดจะยอมปราชัยกับพลังที่ห่าง เนกิกำหมัดก่อนที่จะชกเข้าไปที่ใบหน้าของหญิงผมแดง ทว่ากำปั้นกลับโดนบางสิ่งกั้นขวางเอาไว้ ชายหนุ่มทะยานร่างออกทันใดนั้นใบดาบสีดำของจอนพลันจู่โจมมาติด ๆ ในขณะที่สองหนุ่มสองมุมกำลังต่อยเตกับหญิงนิรนาม ไบรท์พลันรีบทะยานร่างไปหาชายหนุ่มที่โดนการโจมตี
เด็กหนุ่มมองสภาพร่างที่มีโลหิตสีแดงชาติไหลออกมา ตรงทรวงอกโดนบางสิ่งแทงทะลุข้าง ๆ มีก้อนเนื้อบางอย่างที่ไร้การตอบสนอง หากมองดูดีดีแล้วจะพบว่าสิ่งนั้นก็คือหัวใจหากเป็นแบบนี้แล้วผู้ที่มีองค์ความรู้ย่อมรับรู้ว่าชายคนนี้ย่อมหมดลมหายใจสิ้นชีพแล้วได้ไปอยู่ในปรภพเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ไบรท์มองดูร่างที่ไร้การตอบสนองเขานำมือไปอังจมูกเพื่อทดสอบว่าชายคนนี้ยังมีลมหายใจอยู่หรือไม่ ก่อนที่ไบรท์จะได้ขยับร่างเขาพลันรู้สึกว่าชายหนุ่มผมสีฟ้าได้นำมือมาห้าม รูรุมีท่าทางนิ่งสงบราวกับสว่าเรื่องที่เกิดขึ้นตรงหน้านี้เป็นเรื่องปกติ เขาสั่นศีรษะ
“เขาตายแล้วล่ะ”
ไบรท์มองร่างที่ไม่เคลื่อนไหวตรงหน้า เด็กหนุ่มไม่คิดเลยว่าเพียงแค่การโจมตีแค่ครั้งเดียวมันจะทำให้คนตายได้ เขาเคยเห็นวิธีสังหารแบบนี้มาจากชายหนุ่มที่ยืนเคียงกับเขา ทว่าตอนนั้นไบรท์ยังไม่ได้ใส่ใจมากนัก ไม่เหมือนในตอนนี้
“ตายกับการโจมตีเพียงแค่ครั้งเดียวหรอว่าแต่นายรักษาไม่ได้หรอ เหมือนตอนที่ทำกับฉัน”
รูรุมองท่าทางที่เต็มไปด้วยความคาดหวังของไบรท์ เขารู้สึกเจ็บในใจหากเป็นไปได้ชายหนุ่มก็อยากรักษาชายตรงหน้าเหมือนกัน ทว่าความเป็นจริงของโลกนี้ก็คือ ไม่มีผู้ใดที่จะสามารถชุบชีวิตคนตายให้คืนกลับมาได้ เขาสั่นหน้า
“ไม่ได้หรอก ต่อให้ฉันจะมีวิชาแพทย์ที่เก่งกาจมากกว่านี้ฉันก็ไม่มีทางทำได้ แล้วอีกอย่างบาดแผลของนายมันไม่ได้เสียหายมากมายอะไรไม่เหมือนกับชายคนนี้ หัวใจของเขาถูกควักออกมาจากร่างกาย”
“ไม่จริง แค่การโจมตีเพียงครั้งเดียว”
รูรุพยักหน้ารับ “ชีวิตมนุษย์มันก็เป็นแบบนี้ ถึงแม้ว่าพวกเราจะเก่งกาจแต่ในขนาดเดียวกันพวกเราก็อ่อนแอ อวัยวะของชายคนนี้ถูกโจมตีทำให้ชายคนนี้ตาย นายรู้จักหัวใจใช่ไหม อวัยวะที่สำคัญสำหรับมนุษย์มีไม่กี่อย่างหรอก หนึ่งในนั้นก็คือหัวใจหากถูกทำลายเราก็ต้องตาย ส่วนอีกหนึ่งนั้นก็คือสมอง ตอนที่นายโดนโจมตีที่ร้านโทรศัพท์นายไม่ได้โดนโจมตีที่จุดตายทำให้นายไม่ได้รับอันตรายถึงชีวิต แต่ว่านายก็ต้องรู้เอาไว้ว่าหากหัวใจของเราถูกทำลาย ต่อให้จะเป็นหมอหรือคนที่มีวิชาแพทย์ดีแค่ไหนก็ไม่สามารถช่วยได้”
ไบรท์ทอดสายตามองยังร่างที่ทอดกาย “มนุษย์เป็นสิ่งที่อ่อนแอยังงั้นหรอ อ่อแอขนาดนี้เลย คนเราตายได้ง่ายดายถึงเพียงนี้”
รูรุนำมือของตนไปปิดตาศพก่อนที่จะหันมามองไบรท์ “นายหยุดคิดเรื่องนี้ก่อนดีกว่า ตอนนี้พวกเราต้องดูการต่อสู้ของเนกิกับจอน”
“ทำไมพวกเราไม่เข้าไปช่วยพวกนั้นสู้”
รูรุสั่นหน้า “ไม่ดีกว่า ตอนนี้พลังเวทที่พวกนั้นใช้มันเกินกว่าพลังที่พวกเราสามารถตามทันแล้ว การที่เข้าไปช่วยมันก็คือการเป็นตัวถ่วงเท่านั้น ตอนนี้พวกเราดูการต่อสู้อยู่เฉย ๆ ดีกว่า แล้วอีกอย่างไม่เกินสามนาทีการต่อสู้นี้ก็คงจบลง”
“พวกเนกิจะแพ้ไหม”
รูรุสั่นหน้า “ไม่หรอก จากที่ฉันลองประเมินดูแล้วถึงแม้ว่าหญิงคนนี้จะสามารถต่อสู้ได้สูสีแต่ก็คงไม่สามารถเอาชนะได้ แล้วอีกอย่างตอนนี้พลังของผู้หญิงคนนั้นก็อยู่แค่ระดับนักเวท ในเมืองแห่งการศึกษาหากจะปลดผนึกพลังมากกว่านักเวทต้องได้รับการยินยอมเสียก่อน ถ้าปลดผนึกพลังมากกว่านักเวทหรือปล่อยพลังระดับนักลบออกมา รับลองว่าหน่อยความมั่นคงคงต้องรีบมายังที่แห่งนี้น่ แล้วถ้าสถานการณ์เป็นบบนั้นหญิงคนนั้นต้องต่อสู้กับตำรวจจำนวญนับร้อย นายคงเข้าใจใช่ไหมว่าฉันต้องการที่จะพูดอะไร”
“การหนีไปจากที่นี่ก็จะทำได้ยากขึ้น”
เนกิพยักหน้ารับกับคำตอบ ทั้งสองหนุ่มจึงทอดสายตามองการต่อสู้ของสองสหายที่กำลังเป็นไปอย่างดุเดือดเลือดผ้าน
จอนตวัดดาบคลื่นจากใบดาบปะทะร่างกายของหญิงสาว ชายหนุ่มกระโจนร่างเข้าหาก่อนที่จะเงื้อดาบในมือ เปลวไฟสีแดงฉานสาดส่องไปรอบ ๆ อาณาบริเวณ ส่วนอีกทางหนึ่งนั้น เนกิชายหนุ่มผมแดงก็มิได้ด้อย ชายหนุ่มเรียกอาวุธคู่กายออกมาสนับมือถูกสวมใส่ก่อนที่จะมีเปลวเพลิงห่อหุ้มไปรอบ ๆ มือ เพลิงสีแดงพลันค่อย ๆ แปลเป็นสีฟ้า
“ตาย”
สินเสียงของชายทั้งสองหญิงผมแดงพลันต้องตนกตกใจ การโจมตีของเด็กทั้งสองนั้นอยู่ในระดับหาตัวจับได้อยากยิ่งสำหรับคนที่มีอายุเพียงเท่านี้ โดยเฉพาะชายหนุ่มผมแดงคนที่เธอเคยเจอในสมัยที่เขายังเป็นเด็ก
“เรื่องที่ฉันคิดว่าผิดภาพที่สุดในชีวิตก็คิอ การที่ปล่อยให้พวกแกมีชีวิตอยู่ ถ้าวันนั้นฉันจักการพวกแกไปตอนนี้คงไม่ต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้”
หญิงผมแดงปรารภกับตนเอง ในขณะเดียวกันเท้าพลันวาดวงเวทอย่างรวดเร็ว “ผืนพสุธาจงมาเป็นเกาะกำบังให้กับข้า”
สิ้นวาจาอันหยิ่งผยอง พื้นดินค่อย ๆ แปลเปลี่ยนเป็นกำแพงมาปกป้องร่างกายของหญิงสาว ใบดาบกับกำปั้นของสองสหายพลันปะทะกับกำแพงดินดังสนั่น
“ฉันยอมรับว่าพวกแกเก่งกว่าเมื่อครั้งก่อนที่ได้เจอกัน แต่ว่ามันก็ยังไม่มากพอ ถ้าฉันใช้พลังที่แท้จริงพวกแกก็คงไม่มีทางสู้”
สิ้นคำกล่าวกำแพงดินค่อย ๆ หายไป ร่างกายที่ไร้รอยขีดข่วนพลันปรากฏขึ้น หญิงสาวผมแดงมองชายทั้งสองอย่างเย้อยหยัน
“กากจริง ๆ เลย ถ้าฉันปลดผนึกพลังได้พวกแกตายไปแล้ว”
เนกิกับจอนยืนมองหญิงสาวเบื้องหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาเช่นเดียวกัน ทั้งสองหนุ่มเตียมตัวที่จะจู่โจมอีกรอบ ทว่าหญิงสาวกับโบกมือห้าม
“อย่าดีกว่า พวกนายต่อให้เข้ามาอีกกี่ครั้งก็คงไม่มีทางเอาชนะฉันได้หรอก วันนี้เลิกเล่นดีกว่า ไว้เจอกันครั้งหน้า”
สิ้นคำกล่าวหญิงสาวพลันโบกมือเพื่อจะเปิดประตูมิติ ทว่าเธอกับต้องเอี้ยวตัวหลบหลีกกระสุนพลังธาตุที่พุ่งเข้ามา “อะไรกันนายก็คิดจะร่วมวงด้วยหรือ”
“เดิมทีก็ไม่คิดหรอก แต่ว่าตอนี้พวกเราได้เปรียบสุด ๆ เลยล่ะ ดังนั้นฉันคงจะปล่อยให้ศัตรูของเพื่อนฉันหลุดไปจากที่นี่ง่าย ๆ ไม่ได้หรอก”
“คงจะเป็นแบบนั้น” รูรุยิ้มก่อนที่จะกระชับปืนในมือแน่น ก่อนที่จะหันไปกล่าวกับสองสหาย
“พวกนายใช้สิ่งนั้นเลย ส่วนไบรท์นายต้องคุ้มกันฉัน ไม่ให้ยายนั่นเข้าใกล้ฉันได้”
ไบรท์วาดเท้าก่อนที่จะผนึกพลังเพลิงไว้ทั่วมือทั้งสองข้าง “ได้เลย”
เนกิสูดหายใจก่อนที่จะกล่าว “จอนฉันคิดว่าพวกเราคงจะต้องใช้เวทผสาร”
ชายหนุ่มที่ถือดาบยิ้ม “ใช่ ฉันก็คิดเหมือนกัน ไหนไหนพวกเราก็อยากจะเด็ดหัวยายนี่ทั้งที ถ้าไม่ใส่ให้สุดฝีมือคงไม่ได้”
สิ้นคำกล่าวจอนจึงค่อย ๆ จับลูกแก้วของตน ก่อนที่จะคอ่ย ๆ อัดพลังเวทเข้าไป ทว่าก่อนที่พวกของจอนจะได้ทำสิ่งใดเสียงของผู้หญิงคนหนึ่งกลับดังขึ้น
“คงจะให้พวกนายทำแบบนั้นไม่ได้หรอกนะ”
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 140
แสดงความคิดเห็น