บทที่ 10 วางแผน 1

มนตราสะท้านโลกา
คุณกำลังอ่าน: มนตราสะท้านโลกา

-A A +A

บทที่ 10 วางแผน 1

บทที่ 10 วางแผน ½

 

หลังจากที่ไบรท์กับจอนปรึกษาหารือกันเรียบร้อยจึงค่อย ๆ

เดินออกมาจากห้องของไบรท์  ประตูห้องของไบรท์ถูกปิดลงอีกครั้ง เด็กห

หูตามันเองที่ตอนนี้ปราศจากผู้คนเช่นที่มันเคยเป็น สมุดจดงานของไอยังว่างใว้ที่เดิมที่ที่มันเคยอยู่ นานเท่าไรแล้วที่เด็กหนุ่มไม่ได้มีเวลาอยู่เพียงลำพัง

ไบรท์ละสายตาออกจากหน้าต่างก่อนที่จะค่อยๆ ลุกอย่างช้า ๆ หลังจากนั้นเด็กหนุ่มจึงคิดที่จะไปเปิดหนังสือที่ตนเองอ่านไว้ หากไม่ใช่เวทมนตร์ที่ไบรท์ได้จากหนังสือเล่นนั้นการต่อสู้กับชายแปลกหน้าก็คงไม่สามารถประสบผลสำเร็จได้ แล้วไบรท์คงไม่ได้เจอกับคาเสะเด็กสาวที่มาจากทวีปมืด

เวลาผ่านไปนานมากแล้ว ทว่าเด็กน้อยยังไม่สามารถหาวิธีให้คาเสืกลับไปยังหมู่บ้านของตนเองได้ เวทอัญเชิญนั้นใช่คิดจะใช้จะสามารถใช้ได้ดุจใจนึก หากไม่จำเป็นจริง ๆ ไบรท์ก็ไม่อยากใช้เวทมนตร์ชนิดนี้

เขาพลิกตำราเพื่อจดขจำเวทมนตร์ต่าง ๆ เพียงแค่เปิดตำราและมองดูไบรท์กลับสามารถจดจำมันได้อย่างรวดเร็ว เพียงไม่นานเขาก็รู้สึกถึงความง่วงค่อย ๆ ประเดประดังเข้ามา ตอนนี้เวลาจากนาฬิกาเรือนใหญ่ดังขึ้นอีกครั้ง เขาเหลือบตาไปมองทำให้พบว่าตอนนี้เวลาได้ผ่านไปเข็มสั้นและเข็มยานั้นอยู่เลขที่สิบสอน อันแสดงให้เห็นว่าเวลาได้ผ่านไปจนถึงวันใหม่

วันนี้คาเสะกับอาสึนะนั้นนอนอยู่ในห้องเดียวกันพวกหล่อนนั้นดูแลมายด์เปรียบเหมือนน้องสาว ส่วนพี่สาวกับปู่ของไบรท์ยยังไม่คิดจะกลับบ้านทิ้งย่าแอนนาให้อยู่เพียงลำพัง ปู่ของไบรท์เด็กหนุ่มนั้นไม่รู้หรอกว่ากำลังทำอันใดอยู่ ณ ที่แห่งไหน ทว่าไอนั้นต้องการหลีกหนีความผิดจึงไม่คิดจะกลับบ้านให้เร็วนัก ไอนั้นคงหาโรงแรมนอนอย่างแน่นอน

ไบรท์ตัดสินใจเปิดประตูห้องของตนเองอีกครั้ง ก่อนที่จะเดินลงยังชั้นล่างเพื่อไปหาน้ำดื่ม แผ่นหลังของไบรท์ยังรู้สึกเจ็บทว่าเขากลับกัดฟันข่มความเจ็บปวด เสียงรถยนต์ดังขึ้นทำลายความเงียบของค่ำคืนที่เงียบสงัด เพียงไม่นานประตูบ้านก็ค่อยถูกเปิดอย่างช้า ๆ ไฟที่ถูกปิดถูกเปิดทำให้ไบรท์พบผู้ที่เดินมาใหม่

ชายชราทั้งสองเดินมาพร้อมเพียงในมือของชายชราผู้หนึ่งถือเหล้าชั้นดี (ไบรท์ไม่รู้แต่คิดว่านะจะดี) ส่วนอีกคนหนึ่งถือกับแกล้ม โยดาค่อย ๆ วางตราขาวนมือลงกับโต๊ะแล้วมองหลานชายของตนที่ยืนมองอยู่ ผู้เฒ่าหันไปมองชายอีกคนที่กำลังเตียมตัวที่จะนั่งลง

“วันนี้เป็นวันดีจริง ๆ ใช่ไหมสุริยะ”

“เจ้าดื่มตั้งแต่ตะวันยังไม่ลับขอบฟ้าจนวันใหม่ นี่ยังไม่คิดจะหยุดอีกหรือ”

“ผู้แบบนี้กับกันได้ไง ที่กันดื่มก็ดื่มเพื่อแสดงความยินดีให้กับหลานของกันทั้งสองคนที่สามารถสอบเข้าโรงเรียนแกได้ แล้วอีกอย่างหนึ่งวันพรุ่ง

“มันก็จริง เอกสารที่โรงเรียนกันก็จัดการจนเรียบร้อยแล้ว อันที่จริงกันก็อยากจะชวนเพื่อของเรามาดื่มด้วยแ แต่ว่าพวกนั้นคงไม่มีเวลาว่าง”

โยดามองสุริยะที่ยังไม่ได้มีอาการเมามายเนื่องจากชายคนนี้ยังมื่ได้ดื่มสุราเท่าใด มีแต่เขาที่ว่างจัดเลยดื่มสุราตั้งแต่บ่ายหลังจากที่ไบรท์ชนะชายชราก็ดื่มหนักขึ้นเพื่อฉลองให้กับหลานของตน ชายชราหันมามองเด็กที่ยืนรินน้ำอยู่ไม่ห่าง

ไบรท์มองชายชราทั้งสองก่อนที่จะยกมือไหว้ชายทั้งสอง

“ยังไม่นอนอีกหรอหลาน”

“ยังเลยปู่ พอดีเพิ่งอ่านหนังสือที่อยู่ในห้องของพี่ไอเสร็จ ว่าแต่ทำไมปู่กับของอาสึนะถึงกลับมาช้าจังครับ”

“นี่แหละหลานปู่ ถึงแม้ว่าจะสามารถชนะได้แล้วก็ยังไม่หยุดฝึกฝน ตอนนี้ทฤษฎีเวทมนตร์เกือบทั้งหมดของไอหลานคงจำได้แล้ว แต่ว่าหลานคงไม่ลืมไปหรอกนะว่าแค่ทฤษฎีนั้นยังไม่เพียงพอหรอก”

ชายชราว่าพลางเปิดขวดตราขาวที่อยู่ในมือ  โยดาองหาแก้วพลันนึกได้ว่าชายชรายังไม่ได้หยิบแก้วมา ทุกการกระทำของผู้เฒ่านั้นอยู่ในสายตาของไบรท์เมื่อไบรท์เห็นดังนั้นสายตาของเด็กหนุ่มจึงละออกจากปู่ของตน เขารีบกวาดตาหาแก้วที่ใช้ดื่มกับสุราเพียงไม่นานเด็กน้อยจึงหยิบแก้วสองใบไปบริการชายแก่ทั้งสอง ถึงไบรท์จะไม่ชอบกลิ่นของสุรา ทว่าสำหรับเด็กน้อยเขากลับเข้าใจว่าผู้คนที่กินดื่มนั้นมิได้เป็นคนที่โฉดชั่ว ทว่าสุรานั้นเป็นเครื่องดื่มที่ผู้ใหญ่สมัยโบราณนิยมดื่มกัน มันอาจจะเป็นค่านิยมชนิดหนุ่งที่ถูกปลูกฝังมาจากคนสมัยก่อน เมื่อยังเยาวัยเด็กสมัยนั้นคงเห็นหนุ่มสาวดื่ม เมื่อเติบใหญ่พวกเขาคงดื่มตาม ต่อให้รู้ว่าสิ่งนี้มันปราศจากคุณประโยชน์อันใดก็ตาม

เมื่อแก้วสองใบถูกวางลงที่โต๊ะน้ำสีเหลืองก็ถูกรินใส่แก้วในทันที ชายชราทั้งสองมองเหล้าที่อยู่ในแก้วแต่ทว่าชายทั้งสองยังไม่ได้ดื่มด่ำกับตราขาว เสียงของนาฬิกาที่เดินเหมือนว่ามันไม่มีความรู้สึกเหน็ดเหนื่อย ชายชราทั้งสองนั่งจ้องมองกัน เสียงรถเก๋งคันงามค่อย ๆ ขับออกไปอย่างช้า ๆ เพียงไม่นานเสียงก็หายไป หลงเหลือเพียงเสียงของสายลมที่พัดพาความเย็นของยามทิวา

“ดีเหมือนกันที่แอนนาหลับแล้ว ไม่เช่นนั้นกันคงโดนด่าแน่ ๆ” โยดาว่า ก่อนที่จะมองไปยังหลานของตน

“เป็นยังไรการแข่งวันนี้ เป็นการทดสอบที่ดีใช่หรือเปล่า”

ไบรท์ว่างแก้วน้ำในมือลง ก่อนที่จะมองไปยังปู่ของตนอย่างไม่ค่อยชอบใจนัก “เกือบตายแล้ว ถ้าผมไม่ได้ต่อสู้กับคาเสะผมคงไม่สามารถเอาชนะได้ ว่ามันก็มีเรื่องที่ดีอยู่”

โยดายิ้มก่อนที่จะค่อยๆ  หยิบเหล้าแล้วกระดกลงคออย่างรวดเร็ว “ดีใช่ไหม หากยังอยู่ที่หมู่บ้านก็คงไม่เจอกันนักเวทที่เก่งแบบนี้ แต่ว่าจากที่ได้ฟังจากเพื่อนของปู่โมโมะกับจอนยังไม่ได้แสดงฝีมือที่แท้จริงเลยใช่ไหม”

“ใช่แล้ว การทดสอบที่โรงเรียนเวทมนตร์ไม่ได้นักเรียนใช้พลังที่แท้จริง การทดสอบนั้นมีมาตรฐานอยู่ มาตรฐานของโรงเรียนเวทมนตร์นั้นก็คือ  คนที่จะทดสอบเข้าโรงเรียนเวทมนตร์จะได้รับการทดสอบในระดับพลังเวทที่ต้องใช้ในระดับชั้น ความจริงแล้วโมโมะกับจอนมีระดับพลังที่สูงมากกว่านั้น แต่ว่าผู้ที่เรียนอยู่ในระดับเกรดสิบเอ็ดต้องมีระดับพลังเวทมนตร์อยู่ที่นักเวทฝึกหัดระดับสิบ ดังนั้นการทดสอบนี้จึงต้องใช้พลังระดับเดียวกัน แต่ว่าตาเองก็แปลกใจที่เจ้ามีระดับพลังแค่นี้ แต่กลับสามารถใช้ไหวพริบทำให้สามารถหลุดรอดและผ่านการสอบมาได้ ถึงแม้ว่าวิธีที่ทำให้ผ่านมานั้นจะไม่ค่อยดีนักก็ตาม แต่ว่ายังไงก็ถือว่าผ่าน”

“ใช่แล้วหลานปู่ มีหลายคนที่ไม่เห็นด้วย เช่นคู่กัดของพี่เจ้าก็คือศิลา แต่พวกนั้นกลับไม่สามารถดำเนินการอันใดได้ คงต้องบอกว่าการสอบครั้งนี้เจ้ามาพร้อมกับโชคจริง ว่าแต่พี่ของเจ้ายังไม่ได้กลับมาที่บ้านอีกอย่างนั้นหรือ”

ไบรท์พยักหน้ารับ “ยังเลย ว่าแต่ทำไมปู่กับตาของอาสึนะถึงสนิทสนมกันขนาดนี้”

“เป็นคำถามที่ดีนี่นาหลานข้า” ชายชราหันไปหาเพื่อนของตนก่อนที่จะกล่าว

“พวกเรานั้นเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เด็กแล้ว ดังนั้นพวกเราจึงมีความผูกพันกัน ก่อนที่ข้าจะได้เป็นจักรพรรดิเวทมนตร์และสุริยะจะได้เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนเวทมนตร์ พวกเราเคยฝึกฝนอยู่ที่เดียวกัน ว่าง่าย ๆ พวกเรานั้นเป็นคู่แข่งกัน หากเจ้าเรียนที่โรงเรียนเวทมนตร์เจ้าจะมีคู่แข่งเช่นนี้เหมือนกัน ไม่สิหากข้าคิดไม่ผิดตอนนี้เจ้าคงเจอคู่แข่งแล้วใช่ไหม”

ไบรท์คิดว่าชายชราทั้งสองคงต้องอยู่กันจนฟ้าสางเป็นแน่ เดิมทีเด็กหนุ่มรู้สึกเบื่อหน่าย ทว่าเขากลับไม่ได้คิดจะกล่าว ไบรท์เปิดตู้เย็นอีกครั้ง ก่อนที่จะหยิบน้ำสีแดงขึ้นมารินใส่แก้วแล้วค่อย ๆ เดินตรงมายังที่ชายชราทั้งสองที่กำลังนั่งรำลึกถึงความหลัง

“ไปนอนดีกว่านะไบรท์” ตาของอาสึนะว่า

“มันดึกแล้ว ไม่สิหากจะบอกให้ถูกตอนนี้มันเป็นเวลาเช้าแล้ว อีกไม่กี่ชั่วยามฟ้าก็สาง การที่เด็กต้องมาอดหลับอดนอนนั้นมันไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก แถมยังต้องมาดูตาแก่เช่นพวกข้าดื่มสุราด้วยยิ่งเป็นเรื่องที่มิสมควรเป็นอย่างยิ่ง”

ไบรท์จิบน้ำแดงพลางว่า “เรื่องอดหลับอดนอนนั้นเป็นเรื่องที่ผมไม่มีอะไรที่จะสามารถมาโต้แย้งได้ แต่ทว่าเรื่องที่ตาสุริยะคิดว่าผมเสียเวลาที่ต้องมาดูพวกท่านดื่มสุรานี้ ตัวของกระผมไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องที่เสียเวลามากสักเท่าใด”

เด็กน้อยหยุดกล่าว ต่อเมื่อพบว่าชายชราทั้งสองมีท่างต้องการฟังคำกล่าวเขาจึงได้กล่าวต่อ “นั่นก็เพราะว่า เวลาพวกท่านดื่มสุรานั้นพวกท่านย่อมมีเรื่องเล่าอันหน้าสนใจ หรือไม่แน่ว่าเรื่องที่พวกท่านกำลังคุยกันอยู่อาจจะเป็นประสบการณ์ที่มีคุณค่า อาจจะมีประโยชน์สำหรับตัวของกระผมในอนาคตก็เป็นได้ เรื่องนี้ผมย่อได้มากกว่าเสีย หรือต่อให้เรื่องที่พวกท่านทั้งสองคนพูดกันจะไม่ได้มีประโยชน์อันใดสำหรับกระผมเลยก็ตาม แต่ก็ถือว่ากระผมได้เปิดหูเปิดตาได้เจอะเจอโลกภายนอกผ่านการเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ยังไงล่ะ แหมพูดเหมือนนักวิชาการเลยฮ่าๆๆ”

โยดาและสุริยะยิ้มรับ ก่อนที่โยดาจะว่า “หลานของข้ามีความคิดมิใช่ชั่ว หากเป็นเด็กทั่วไปคงต้องรีบไปนอนแล้วเป็นแน่ แต่กลับเด็กคนนี้กับมองพวกเราเป็นเครื่องให้ข้อมูลชั้นดี”

“ไม่เร็ว ไม่เร็วจริง ๆ เจ้าช่างเลี้ยงดูหลานของเจ้ามาดียิ่ง เทียบกับหลานของข้ายังห่างชั้นกันมากนัก เด็กคนนั้นสนใจสิ่งที่มีสอนสั่งอยู่แต่ในตำราเพียงเท่านั้น หาสนใจสิ่งรอบ ๆ ไม่”

สุริยะนำมือมาลูบหัวของไบรท์อย่างเอ็นดู “ข้าชื่นชมกับความคิดของหลานเจ้าเสียงจริง”

ชายชราหันมามองยังไบรท์ “เอาล่ะ ตาคนนี้เห็นถึงความพยายามของเจ้า ข้ามีสิ่งที่จะตอบแทนความพยายามของเจ้า ข้าจะให้เจ้าถามคำถามข้าได้ในคืนนี้ หากข้าตอบได้ข้าจะตอบ ทว่าหากข้ามิสามารถตอบข้าจะไม่ตอบ แต่คำตอบทุกคำของข้าในคืนนี้จะเต็มไปด้วยความจริง ไม่ว่าคำถามของเจ้าจะเป็นคำถามเรื่องของโรงเรียนเวทมนตร์ หรือว่าจะเป็นคำถามที่เกี่ยวกับพลังเวทของข้าก็ตาม”

สิ้นคำกล่าวขของชายชรานามว่าสุริยะ ไบรท์ก็อยากจะยิ้มออกมา สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เขารอมานาน สำหรั้บเด็กหนุ่มข้อมูลเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากกว่าสิ่งใด ในโลกอันแสนกว้างใหญ่ใบนี้ ข้อมูลและเรื่องต่าง ๆ นั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นและไม่สามารถขาดได้ หากต้องการเจริญในหน้าที่การงานและพลังอำนาจที่ตนมี การรวบรวมข้อมูลนั้นเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นและสำคัญ

ในขณะเดียวกันที่ไบรท์กำลังถามข้อมูลกับผู้อาวุโสทั้งสอง เด็กหนุ่มผมสีฟ้าก็กำลังอ่านเอกสารงานวิจัยที่ตนเองได้นำมาจากมหาวิทยาลัย ตั้งแต่ที่รูรุได้กลับมายังบ้านของตนเอง ตอนนี้ชายหนุ่มผมฟ้าก็ยังไม่ละสายตาออกจากหน้าจอคอมพิวเตอร์

“ต้องหาให้เจอให้ได้”

 

 

 

 

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.