8 กำเนิดนักสู้-คู่มังกรโฉดกระหวัดพัน
“หาเวลามาหาข้าบ้างนะ อย่าลืม”
ควบเหนือเต้าอึ๋มเอ่ยทิ้งท้ายไว้และลุกเดินออกไปพร้อมใบหน้าสำราญใจ หลิวลู่ถูกทิ้งไว้ตามลำพังกับเงินค่าน้ำชา ผ่านไปหลายอึดใจกว่าหลิวลู่จะลุกขึ้นและเดินออกจากโรงเตี๊ยมเล็กนั้น
หลิวลู่เดินท่องไปตามทางดินในแสงแดดร้อนและลมอ่อนพริ้ว ทางดินข้างหน้าแยกเป็นสองสาย ขวามือมุ่งลงเนินและเป็นทางที่มุ่งสู่กระท่อม ซ้ายมือคือทางขึ้นเนินและมุ่งไปสู่ผืนทรายโล่งที่สองพี่น้องใช้ฝึกวิชากระบี่ แต่หลิวลู่นึกขึ้นได้ว่ายามนี้ไผ่โล้อาจจะอยู่ที่ลานก่อสร้างและกำลังทำงาน ชายหนุ่มจึงเดินตรงไปทางกระท่อมเพื่อหวังจะเข้าไปพักผ่อน
แต่ความหวังที่จะได้พักผ่อนก็มีอันต้องยกเลิกไปเมื่อหลิวลู่ได้ยินเสียงคนพูดคุยกันในกระท่อม เสียงของพวกเขากระซิบกระซาบคล้ายกับไม่ได้พูดเต็มปากและมีลับลมคมใน หลิวลู่จึงย่องไปด้านหลังอย่างเงียบเชียบและแนบร่างเข้ากับกระท่อมพลางเงี่ยหูฟัง
“เมียเจ้าช่างมีจิตใจดีเหลือเกินนะเจ้าจับ”
เสียงของไผ่โล้ดังแผ่วออกมา เขากำลังพูดถึงเมียของจับโปกควงที่หลิวลู่ไม่ค่อยได้พบบ่อยนัก เพราะนางขยันเกินกว่าจะอยู่เฝ้ากระท่อม อีกทั้งจับโปกควงก็ไม่ได้ตบแต่งนางเข้าตระกูลด้วย นางจึงต้องไปมาหาสู่กับจับโปกควงเป็นระยะ
“ใช่ นางดีเหลือเกิน ดีจนข้ารู้สึกผิด” จับโปกควงตอบด้วยเสียงที่แผ่วจางพอกัน “ยาที่ข้าทาให้เป็นอย่างไรบ้าง? ซินแสบอกว่ามันช่วยลดการบวมได้ดีมาก พี่ก้านน่าจะหายปวดแล้ว”
“ยานี้ดีมาก ข้าขยับได้ดีขึ้นเยอะ” ไผ่โล้ตอบและหัวเราะพร้อมเสียงแคร่โยกเขย่า
หลิวลู่มองไม่เห็นว่าเหตุใดพี่ชายและสหายจะต้องซุบซิบกันด้วยเรื่องเมียของจับโปกควงและเรื่องยา มันไม่ใช่เรื่องที่มีลัหลมคมในแต่อย่างใด ชายหนุ่มจึงผละออกจากฝากระท่อมและกำลังจะเดินกลับไปที่ประตูหน้า แต่เสียงห้วนสั้นก็ดังออกมาอีกครั้ง
“เจ้าจับ!”
ไผ่โล้กระชากเสียงเรียกสหายห้วนสั้นแบบที่ไม่ค่อยจะเป็น หลิวลู่จึงกลับไปยืนที่เดิมและลดตัวลงมองลอดรอยประกบของฝากระท่อมเข้าไป ชายหนุ่มเห็นไผ่โล้เอนกายบนแคร่และใช้มือยื้อผ้าเนื้อเลวชิ้นยาวไว้ที่สะโพก ร่างของเขาเปลือยเหมือนยามปกติที่อยู่ในกระท่อม ส่วนร่างของจับโปกควงคล่อมลอยเหนือร่างของไผ่โล้และยืดชายผ้าอีกด้านหนึ่งไว้
“เจ้ามีเมียแล้ว—!”
“ให้ข้าทำเถอะ ข้ารู้ว่ากำลังทำอะไร”
“ไม่—!”
ไผ่โล้ฝืนยกกายขึ้นและรั้งผ้าไว้ด้วยแขนที่ขึ้นเส้นกล้ามชัดเจน ในขณะที่จับโปกควงก็ยื้อผ้าผืนนั้นออกด้วยกำลังที่ไม่น้อยหน้ากัน กล้ามเนื้อแข็งแกร่งปรากฏทั่วร่างของทั้งสองดูงามราวรูปสลักหากแต่ขยับได้
ไผ่โล้พยายามอย่างยิ่งยวดที่จะบิดร่างหนีแต่อาการของไผ่โล้ดูติดขัดราวกับว่ารอยฟกช้ำยังส่งผลอยู่ แม้จะพยายามยื้อ แต่ร่างกายก็ไม่อาจทนทานต่อความเจ้บปวดได้ ชายหนุ่มร่างแข็งแกร่งจึงแพ้พ่ายให้กับร่างที่คล่อมอยู่
“ข้ายะ—ยอม เจ้าจะทำก็ได้ แต่ข้าจะเลิกคบกับเจ้า” ไผ่โล่สะอึกเสียงห้วนและปล่อยมือจากผ้าให้มันตกลงที่สะโพก “รีบทำแล้วรีบไปซะ!”
“ท่านไม่ทรมานสหายของท่านหรอก ข้ารู้” จับโปกควงส่งเสียงนุ่มตอบโต้ เสียงนั้นหลิวลู่ไม่เคยได้ยินมาก่อนในชีวิต เขาพูดพร้อมกับสอดมือเข้าไปใต้ผ้าเนื้อเลวที่พาดอยู่บนสะโพกของไผ่โล้และขยุ้มจับ “ท่านก็รู้ดีว่าข้าเป็นอย่างไร แต่ท่านก็ยังทนคบกับข้า ท่านมีจิตใจดีกว่าบุรุษคนไหน ข้าไม่คิดอะไรกับท่านก็แปลกไปหน่อยแล้วละ”
“เจ้าจะคิดเช่นไร ข้ามะ—ไม่ห้าม อ๊ะ! ตะ—แต่เจ้าไม่ควรทำเช่นนี้ จะ—เจ้าจับ! โอว!” ไผ่โล้สะอีกรัวและเริ่มเกร็ง ร่างแข็งแกร่งอ่อนยวบสลับเกร็งกระตุกอยู่บนแคร่ที่โยกไหว “ข้าไม่ใช่สตรี!”
“ข้าก็ไม่ได้หวังขนาดนั้นพี่ก้าน ข้าแค่อยากทำให้ท่านด้วยมือ”
ไผ่โล้ยกใบหน้าโกรธขึ้งขึ้นมอง ดวงตาดำขลับจับจ้องสหายร่วมทุกข์พร้อมใคร่ครวญหนัก ไม่บ่อยนักที่จับโปกควงจะร้องขอเช่นนี้
“เจ้าแน่ใจนะ?”
“ข้าสัญญาว่าจะใช้แค่มือและไม่ล่วงล้ำท่านเด็ดขาด พี่ก้าน”
แทนคำตอบ ไผ่โล้ยอมกระชากผ้าผืนเดียวที่ปกปิดร่างกายออก เครื่องเคราของบุรุษยาวเจ็ดชุ่นที่อ่อนนุ่มจึงเผยออกมา มันถูกฝ่ามือของจับโปกควงรวบกำและรูดถอกเนิบช้า ปลายยาวที่ยังอ่อนนุ่มสะบัดแกว่งอยู่ในมือกำยำของบุรุษ หนังหุ่มถูกรูดลงและดึงขึ้นจนพวงไข่แก่งไหวอยุ่ในหว่างขา เพียงไม่นานเครื่องเครายาวของบุรุษวัยสามสิบสามก็ยกตัวขึ้นตั้งตระหง่านอยู่ในพุ่มขนดกดำ
จับโปกควงไม่รอช้าที่จะยืดตัวขึ้นกระตุกเชือกฟั่นที่สะโพกออกและถอดกางเกงขว้างทิ้งอย่างไม่ใยดี เครื่องเพศยาวโง้งและแดงจัดของจับโปกควงกระดกไหวราวมีชีวิตอยู่ในกลุ่มขนดกดำตรงหว่างขา พวงอัณฑะห้อยแกว่งยามขยับตัว
“ทำไมเจ้าต้องถะ-ถอดกางเกง?” ไผ่โล่สะอึกถามในขณะที่ขยับตัวนอนหงายเหยียดยาวตามมือของจับโปกควงที่กดลงบนหัวไหล่ จากนั้นจับโปกควงก็ทิ้งสะโพกลงช้าๆ พร้อมกางขาออกว้าง จนกระทั้งเครื่องเพศแข็งโง้งของเขาแนบกับแท่งตรงตะหง่านของไผ่โล้ “เจ้าต้องใช้แค่มือซิ เจ้าจับ!”
“ข้าก็จะทำอยู่นี่ไงพี่ก้าน!”
จับโปกควงเอ่ยตอบและใช้ฝ่ามือกำรวบเครื่องเคราทั้งสองไว้ในฝ่ามือ มันล้นจนจับโปกควงไม่สามารถกำได้รอบ แต่ชายหนุ่มเครารกก็ไม่สนใจ เขาโน้มกายเหนือร่างสหายและทิ้งฝ่ามือลงข้างลำคอของไผ่โล้ รอยยิ้มพึงพอใจปรากฏบนใบหน้าของจับโปกควงก่อนที่เขาจะชักมือรูด
“อา! แบบนี้มัน อะ—อื้ม! เจ้าจับ แบบนี้มัน!”
“ใช่แล้วพี่ก้าน ข้าใช้มือรูดเดือยของท่านกับข้าพร้อมกัน อา! อื้มมมมม มะ-มันดีชะมัดเลย เดือยของพี่ก้านอยู่ในมือของข้า วู้ว!”
“เจ้าจับ! เจ้าจับ! ข้า เจ้า—! โอวววว อืออออ!” ไผ่โล้สะอึกครางเสียงหลง บุรุษหนุ่มผู้ใฝ่แต่การดูแลน้องและทำงานอย่างหนักเพิ่งเคยถูกผู้อื่นจับเครื่องเพศชักรูดเป็นครั้งแรกถึงกับเกร็งตัวแอ่นสะโพกลอยรับมือของสหายอย่างลืมตัว ร่างกายบิดเกร็งสลับแอ่นยกขึ้นรับฝ่ามือหยาบ ไผ่โล้ปลดปล่อยอคติและส่งมือใหญ่ไปคว้าจับสะโพกแกร่งของสหายก่อนจะยกสะโพกหนาของตยกระเด้าสวนอย่างเพลินเพลิน ความหฤหรรษ์ยิ่งทวีขึ้นเมื่อจับโปกควงปล่อยเครื่องเพศของตนและกำรูดไผ่โล้เพียงฝ่ายเดียว มือหยาบรูดถอกถี่รัว นิ้วโป้งบดคลึงหัวแดงวาวทุกครั้งที่มีโอกาส “อา! เจ้าจับ!”
“พี่ก้านรู้สึกอย่างไร? ท่านชอบไหม?”
“มันดีมะ—มาก อา! โอว! ข้าจะทนไม่ไหวแล้ว”
จับโปกควงยิ้มสำราญพลางมองฝ่ามือของไผ่โล้ที่คว้าจับรั้งข้อมือตน มือนั้นเกร็งสั่นและกำจนแน่น อีกทั้งมัดกล้ามบนหน้าท้องก็เกร็งขมวดชัดและชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อ มันทำให้ร่างกายจับโปกควงเกร็งถี่ เครื่องเพศหลั่งน้ำเยิ้มลงมาเป็นสายและตกลงบนหน้าท้องของไผ่โล้จนโชกชุ่ม
“ท่านทำให้ข้าทนไม่ไหวจริงๆ” จับโปกควงรู้ตัวว่าความอดทนกำลังจะหมด เขาจึงเร่งมือรูดกำสหายด้วยความเร็วจนกระทั่งร่างของไผ่โล้กระตุกและปล่อยน้ำขาวพุ่งทะลักขึ้นมาอาบเต็มมือของจับโปกควงที่ยังรูดอยู่
“อา ข้าเสร็จเจ้าเสียแล้ว!”
ไผ่โล้ครางเสียงแผ่วและทิ้งร่างลงอย่างหมดแรง เสียงหายใจหอบหนักดังออกไปถึงหลิวลู่ที่แอบอยู่ แต่หลิวลู่รู้ดีว่าจับโปกควงยังไม่หมดธุระกับพี่ชาย หลิวลู่จึงออกจากตรงนั้นไม่ได้
“พี่ก้าน ท่านเสร็จแล้ว ดูซิ! ร่างกายท่านเปียกชุ่มไปหมด” จับโปกควงมองร่างของสหายที่นอนหายใจหอบ ร่างกายไผ่โล้เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อและน้ำรักนองเจิ่ง หลังจากนั้นเขาก็มองปลายแดงโร่ของตน มันเกร็งถี่และพร้อมจะระเบิดน้ำรักออกมาแทนน้ำใสเยิ้มวาวนี้ทุกเมื่อ “แต่ข้ายังไม่เสร็จ”
ไผ่โล้ยกสายตาขึ้นมอง ความตื่นเต้นและความหฤหรรษ์ทำให้เขาแทบจะลืมไปแล้วว่าสหายยังไม่ถึงฝั่ง ไผ่โล้จึงส่งมือของตนไปจับสะโพกของสหายและรั้งเข้าหาตัว
“เจ้าขึ้นมาตรงนี้ มา!” ไผ่โล้บอกกับจับโปกควงและใช้ฝ่ามือตีที่หน้าอกหนาของตน “เจ้าอยากจะทะลักใส่ที่หน้าอกข้าไหม?”
“แน่นอน”
จับโปกควงปีนขึ้นไปคล่อมหน้าอกของไผ่โล้ด้วยความยินดี และเพราะความยินดีที่ได้เห็นเครื่องเพศของตนเองวางพาดบนหน้าอกของสหาย ความยินดีนั้นก็ทะลักออกมาโดยที่เขาเพิ่งขยับมือได้เพียงสามครั้งเท่านั้น
“โอ้ววววว พะ-พี่ก้าน ข้าทนไม่ไหวแล้ว!” จับดปกควงคำรามลั่น ร่างกายชุ่มชื้นที่คล่อมอยู่เหนือหน้าอกของไผ่โล้เกร็งเหยียดและกระตุกรัว มัดกล้ามขึ้นเต็มแขนล่ำ “ระวังใบหน้าของท่านด้วย”
“ไม่ทันแล้วละ” ไผ่โล้ขยับปากบ่น เขาเอามือรูดน้ำรักของเพื่อนสนิทที่ย้อยอยู่ที่ริมฝีปากออก “มันเปรอะปากของข้าไปเรียบร้อยแล้ว! เอาผ้ามาเช็ดปากให้ข้าที”
แทนคำตอบ จับโปกควงลดใบหน้าของตัวเองและดึงมือของสหายออก เขาจรดปากลงไปและใช้ลิ้นเลียริมฝีปากของไผ่โล้อย่างตั้งใจ
ไม่นานใบหน้าหยาบรกของจับโปกควงก็ยกขึ้นพร้อมกับทิ้งร่างลงนอนทับ สองร่างที่แข็แกร่งกอดก่ายอยู่บนแคร่ที่โยกไหว
“ขอโทษนะพี่ก้าน ข้ารู้สึกผิดต่อท่านจริงๆ”
“ถ้าเจ้าไม่ทำอีก ข้าก็จะไม่นึกถึงมัน”
“แต่ข้าคงอดใจไม่ไหวหรอกพี่ก้าน ตอนนี้ข้าอยากจูบท่านอีกแล้ว”
ไผ่โล้มองใบหน้าของสหายที่อยู่แนบชิดกว่าเคย ชายหนุ่มพยายามไม่เปิดปากรับลิ้นชุ่มชื้นของสหายที่กำลังกำลังไล้เลียริมฝีปากอยู่ ไผ่โล้แทบจะจำตัวตนไม่ได้ด้วยซ้ำในตอนที่ส่งมือไปรวบผมตรงท้ายทอยของจับโปกควงไว้แน่นและก็อ้าปากส่งลิ้นชุ่มร้อนของตนออกไปสัมผัสกับลิ้นของสหาย เพียงอึดใจเดียวลิ้นทั้งสองก้หระหวัดรัดพันราวกับโหยหากันมาแสนนาน
หลิวลู่ตะลึงงันกับภาพเหตุการณ์จนไม่กล้าที่จะขยับ แม้มังกรหนุ่มจะรู้ดีว่าต่อให้เขาทะยายพรวดออกไป เขาก็จะไม่สร้างเสียงขึ้นมาแม้แต่น้อย แต่ที่เขาไม่ขยับกายนั้นเป็นเพราะมังกรหนุ่มกำลังตื่นตะลึงต่างหาก
เรื่องที่มังกรหนุ่มพบนี้จะให้พี่ชายและสหายของเขารู้ไม่ได้เด็ดขาด ดังนั้นหลิวลู่จึงยืนนิ่งและรอจนเสียงพูดคุยภายในกระท่อมดังขึ้น ในตอนนั้นเขาจึงเตะเท้าและทะยานออกห่างจากกระท่อมมาราวกับร่างไร้ซึ่งน้ำหนัก
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 370
แสดงความคิดเห็น