แผ่นดินนี้ข้าจอง ตอนที่ 12 การมาขององค์หญิง
ผ่านมา 1 สัปดาห์หลังจากการเข้าพบจวิ้นอ๋อง ตัวชูยงก็ย้ายเข้ามาอยู่ในจวนจวิ้นอ๋องอย่างเป็นทางการแล้วหลังจากการได้เข้ามาอยู่ในจวนจวิ้นอ๋องชูยงก็ได้เรียนวิชาการเเพทย์จากซุนปินในจวนเช่นเดียวกันและซุนปินเองก็ได้รับศิษย์ไว้อีกคนนอกจากด้วยคนนั้นชื่อ ซาถัว เขามาจากเมืองข้างๆต้องการที่จะมาเรียนวิชาการแพทย์โดยเฉพาะเขาอายุ 12 ปี มากกว่าชูยงไม่กี่เดือน ชูยงกับซาถัว ค่อนข้างสนิทกันพอควรและเขาก็ยังได้ไปเรียนกับหม่าต้ากู่เรื่องวิชาจิตอีกด้วย ซาถัวเห็นว่าน่าสนใจเลยได้ขอไปเรียนด้วยเช่นเดียวกันส่วนใหญ่ที่พวกเขาเรียนกับหม่าต้ากู่ก็คือการรับมือกับวิชาต่างๆที่จ้องเล่นงานที่จิตใจโดยตรงเนื่องจากชูยงไม่ได้เข้าสำนักดังนั้นวิชาเพลงกระบี่หรือทักษะการต่อสู้ก็ไม่ได้ร่ำเรียนเช่นเดียวกันส่วนเหล่ามือปราบเเม้จะพบปะกันทุกวันเเต่พวกเขาก็ค่อนข้างยุ่งเลยไม่ได้มีเวลาสอนชูยงเเต่ตัวชูยงเองก็ไม่ได้ลำบากอะไรเพราะกะว่าจะเรียนด้วยประสบการณ์ที่มือปราบมอบให้เสียดีกว่า ชูยงที่สถานะเป็นมือปราบบางวันเขาก็ได้รับภารกิจง่ายเช่นตรวจตราเมืองและได้โอกาสพบปะกับเหล่ามือปราบคนอื่นๆ เครื่องแบบมือปราบอยู่สั่งตัดเป็นพิเศษได้พอดีกับร่างกายเขายกเว้นหมวกชูยงยังใช้หมวกทรงสูงที่ มู่ต้าซานให้เขามาอยู่เนื่องจากจวิ้นอ๋องอนุญาตให้ใส่ได้เขาจึงใส่หมวกทรงสูงนั้นเรื่อยมา เเต่น่าเสียดายมู่ต้าซานเขาทำเรื่องของย้ายเข้าเมืองหลวงก่อนที่ชูยงได้เป็นมือปราบเเละเมื่อ 3 วันก่อนเขาก็ย้ายไปเมืองหลวงแล้ว และก่อนย้ายไปเขาก็เห็นหลวงนั้นเข้ากับชูยงเป็นอย่างดี เขาก็เลยยกแบบของมันให้ชูยง เพื่อว่ามันชำรุดจะได้สร้างใหม่ได้ มู่ต้าซานเองก็ไม่นึกเสียดายอยู่แล้วเพราะมันก็เป็นเเค่หมวกธรรมดา วันนี้พอตื่นเช้ามาก็เห็นถังน้ำล้างหน้าที่หลินอวิ้น เตรียมเอาไว้ให้เขาก่อนหน้านี้พร้อมกับชุดเสื้อผ้าที่หลินอวิ้นเตรียมเอาไว้ให้เขาด้วยเช่นเดียวกันหลังจากที่นางจัดเตรียมข้าวของให้เขาเสร็จทุกวันหลินอวิ้นนางก็จะไปเตรียมอาหารไว้ให้เขาแล้วนางก็จะหายตัวไป ไปทำความสะอาดตลอดสัปดาห์ชูยงมีโอกาสคุยกับหลินอวิ้นน้อยมาก และวันนี้ก็เช่นกัน ชูยงหลังจากที่ทำกิจวัตรยามเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาก็เตรียมตัวออกไปลาดตระเวนยามเช้าเนื่องจากว่าวันนี้เป็นเวรที่เขารับผิดชอบ พอถึงยามเที่ยงวันเขาค่อยไปเรียนการแพทย์กับซุนปิน เนื่องจากเขาต้องเป็นมือปราบพร้อมกับเรียนไปด้วยทำให้เวลาเรียนเขาช้ากว่า ซาถัว เเต่เขาก็รู้อยู่แล้วไม่จำเป็นต้องรีบจบการวิชาและการที่เขาได้เรีนรกับซุนปินทำให้วิชาที่เขาคิดค้นขึ้นจากตำราของอาจินเริ่มเป็นเป็นร่างมากขึ้น ชูยงออกจากจวนพร้อมกับมือปราบอีกคนที่กำลังรอเขาอยู่ ดูจากท่าทางแล้วเขาน่าจะพึ่งมารอได้ไม่นาน เขาชื่อ ลู่ลี่ เขามีรูปร่างผอม ใบหน้าคล่ำไว้หนวดเล็กน้อย พอเขาเห็นชูยงมาถึงทักทายกันตามปกติ
“สวัสดีตอนเช้าชูยง ”
“สวัสดีตอนเช้ารุ่นพี่ ลู่ลี่” ชูยงจะเรียกทุกคนในมือปราบว่ารุ่นพี่ทุกคน
“วันนี้ฟ้ามืดผิดปกติเนอะว่าไหม” อันที่จริงเวลานี้พระอาทิตย์พึ่งขึ้นได้เเค่ครึ่งชั่วยาม ก็อยากจะไม่สว่างเเต่วันนี้ก็มืดกว่าทุกวันจริงๆ
“ฝนจะตกหรอครับ” ชูยงถามกลับตามสถานการรณ์เพราะเมฆมันก็มากจริงๆ
“ก็อาจจะนะ งั้นเรารีบไปกันเถอะ" พอสิ้นสุดเสียงชูยง กับ ลู่ลี่ก็ได้ไปลาดตระเวนตามปกติบางที่ชูยงก็นึกสงสัยว่าเมืองซิวซันมีขนาดใหญ่ 1 ใน 3 ของเมืองหลวง ถึงมีมือปราบน้อยเเค่ 7 คนเท่านั้น สาเหตุนี้สามารถอธิบายได้หลายประการเช่น บางคนก็ฝึกเวทย์มนต์ไม่ได้ หรือบางคนก็ไม่อยากไปเสี่ยง แม้เมืองซิวซันจะสงบสุขก็ไม่มีใครกล้าไปเสี่ยงอยู่ดี
แม้ฟ้าวันนี้จะมืดมิดกว่าทุกๆวัน เเต่เมืองก็ยังปกติชาวเมืองต่างก็ออกมาทำกิจวัตรประจำวันตามปกติระหว่างที่ชูยงกับลู่ลี่กำลังตรวตราเมืองอยู่นั้น ก็มีคนรวบรถม้าผ่านหน้าพวกเขาไปด้วยความเร็ว ดูสภาะของรถม้าแล้วน่าจะเป็นของชนชั้นสูงบางคนพอรถม้าผ่านไป ลู่ลี่ก็พูดขึ้นเหมือนรู้ว่าเป็นใคร
"เห็นท่านอ๋องบอกว่าจะมีแขกคนสำคัญมาเยือนในเร็วๆนี้ ไม่เเน่อาจจะเป็นคนนั้นก็ได้นะ"
ณ จวนจวิ้นอ๋อง
รถม้าได้ลงจอดพร้อมด้วยคน 2 คนที่ลงมาจากรถผู้ม้าเป็นผู้หญิงทั้งคู่ คนเเรกที่เดินนำหน้ามามีอายุราวๆ 20 ต้นๆเดินสวมชุดคลุมยาวสีดำ พร้อมด้วยกระบี่ในมือ หน้าตาของนางสะสวยแบบสาวเเกร่งดูแล้วน่าจะเป็นคนคุ่มกันส่วนตัวของคนที่อยู่ด้านหลังที่เดินตามนาง นางค่อนข้างดูอ่อนเยาวน์ น่าจะอายุประมาณ 12-14 ปีโดยประมาณสวมชุดสีทองพร้อมด้วยเสื้อคลุมสีขาวหน้าเหมือนกับเชื้อพระวงศ์สะสวยกว่าทุกคนในรุ่นเดียวกันที่อยู่เมืองซิวซัน นางกับองค์รักษ์ก้าวเข้ามายังห้องโถง ซึ่งจวิ้นอ๋องถึงกับออกมารับด้วยตนเอง มาอยู่ต่อหน้าจวิ้นอ๋อง นางทั้งสองก็ประสานมือทำความเคารพ
“ข้าถังหนิง ขอคารวะเสด็จอา” เด็กสาวอยู่อ่อนเยาวน์ เอ่ยขึ้น พร้อมกับจวิ้นอ๋องที่ประสานมือเคารพกลับ
“คนนี้คือ ชิงชิง องค์รักษ์ข้าเอง” นางแนะนำให้รู้จัก จวิ้นอ๋องที่ไม่ได้องค์หญิงมานานจึงเอ่ยขึ้น
“หนิงหนิงข้าไม่ได้เจอเจ้าตั้งนานเจ้าโตเป็นสาวขึ้นมากเลยนะ”
“ขอบพระทัยเสด็จอา หนิงหนิงถึงท่านจะว่ายังไงข้าก็ยังเป็นเด็กอยู่ดีนั้นเเหละโดยเฉพาะในสายตาของเสด็จพ่อ" นางกล่าวพร้อมด้วยสีหน้าที่เเลดูผิดหวัง ก่อนจวิ้นอ๋องจะตัดความรู้สึกนั้น
“งั้นพวกเราเข้าไปคุยข้างในกันเถอะ” จวิ้นอ๋องกล่าวขึ้นพร้อมกับเดินนำทางทั้งสองไปยังห้องรับแขกคนสำคัญ
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 684
ความคิดเห็น
สนุกดีครับ
แสดงความคิดเห็น