March Time Traveler ตอนที่ 2 ในหลอดทดลอง

March Time Traveler
คุณกำลังอ่าน: March Time Traveler

-A A +A

March Time Traveler ตอนที่ 2 ในหลอดทดลอง

ในหลอดทดลอง

 

    ห้องขนาด 20×20×20 เมตร เดิมทีมันน่าจะเป็นห้องโถงโล่งๆกว้างขนาดใหญ่ แต่สภาพตอนนี้ไม่ได้เป็นแบบนั้น มันมีซากปรักหักพังของเสาจำนวนหลายๆต้น ผนังที่พังลงมาจากหลายๆฝั่ง จนเผยให้เห็นชั้นดินหลังผนังนั่น เพดานของห้องหลายจุดก็พังลงมา มีสายไฟระโยงระยางเต็มไปหมด น้ำซึมจากด้านบนหยดลงที่พื้นจนเจิ่งนองหลายแห่ง และที่ดูจะแปลกหูแปลกตาที่สุดในห้องนี้ก็คงไม่พ้น ‘หลอดทดลองขนาดใหญ่’ที่ตั้งตะหง่านอยู่ตรงกลางห้อง ภายในหลอดทดลองนั่นมีน้ำสีเหลืองใสบรรจุจนเต็ม นอกจากนั้นยังมีร่างมนุษย์แช่อยู่ในนั้นด้วย สายหลายเส้นแปะตามตัวของร่างนั้นไม่ต่างจากสายไฟที่อยู่ในซากห้องเท่าไรนัก ไม่ไกลจากหลอดทดลองนี้ มีโต๊ะสีขาวตัวหนึ่งตั้งไว้มีเพียงฝุ่นจับหนาเตอะ น่าแปลกที่ซากต่างๆถล่มทั่วห้องไปหมด แต่มีเพียงบริเวณหลอดทดลอง และโต๊ะสีขาวที่ยังปลอดภัยอย่างน่าอัศจรรย์  

 

    'มาร์ช'เป็นคำที่สลักอยู่บนแหวนใสๆวงหนึ่ง มันวางอยู่ตรงกลางโต๊ะสีขาวนั่น แต่คงมองเห็นค่อนข้างยากเพราะฝุ่นจับหนามาก แต่ชวนสงสัยว่า ชื่อนี้จะเป็นของนักวิทยาศาสตร์ที่เคยทำงานอยู่ในห้องนี้มาก่อนรึเปล่า 

 

    'ตึง ครืน'เสียงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง จนทำให้เศษซากเพดานและผนังหล่นลงมาเป็นจำนวนมาก จากเดิมทีที่มีสภาพแย่อยู่แล้วก็แย่ลงไปอีก และดูเหมือนว่าแรงสั่นสะเทือนครั้งนี้จะทำการปลุกร่างของมนุษย์ที่อยู่ในหลอดทดลองนั้น ให้ตื่นขึ้น นิ้วมือของร่างนั้นกระดิกอย่างช้าๆ

 

     "พวกข้าเห็นมันก่อนนะเว้ย ถ้าไม่อยากตายถอยไปซะดีๆ"ชายร่างใหญ่พูดขึ้นเสียงดัง เขาสวมชุดเกราะสีทอง ในมือข้างซ้ายของเขาถือโล่สีทองขนาดใหญ่ มีรูปสิงโตอยู่ตรงกลางและมือข้างขวาของเขาถือหอกสีทองอันใหญ่ ท่าทางน่าเกรงขาม ด้านหลังของเขานั้นมีกองทัพที่มีคนจำนวน 100 คนที่สวมใส่ชุดเกราะสีเหลืองพร้อมอาวุธครบมือยืนอยู่ ส่วนด้านหน้าของเขานั้น เป็นผู้ชายรูปร่างสง่างามยืนอยู่ เขาสวมใส่ชุดจอมยุทธแบบในหนังจีนสีขาว สายลมเบาๆช่วยพัดชายผ้าและเส้นผมสีขาวของเขาปลิวไสว 

 

    "ดูจากชุดที่พี่ชายสวมและตราสัญลักษณ์สิงโตที่อยู่กลางโล่นั่น พี่ชายคงจะเป็น ' ผู้บัญชาการหอกทองคำแห่งกิลด์ราชสีห์ทองคำ' สินะครับ" ชายสวมใส่ชุดจอมยุทธสีขาวยืนเอามือไขว้หลัง อยู่ในท่าทีสบายๆพูดขึ้น

 

    "ฮ่าๆๆใช่แล้วข้าเองแหละ ในเมื่อรู้อยู่แล้วก็ไม่ต้องพูดให้มากความรีบๆไสหัวไปได้แล้ว"ชายสวมชุดเกราะทองเงยหน้าหัวเราะชอบใจ

 

    "เกรงว่าพี่ชายจะเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า แค่รู้จักชื่อ เราไม่ได้สนิทกันซะหน่อย จะมาไล่กันง่ายๆได้อย่างไร แล้วอีกอย่างซากวิหารนี่ ก็น่าจะมีไอเทมอยู่เยอะทีเดียว เอาออกไปประมูลขายคงได้ตังค์ไม่น้อย คงจะถอยให้ง่ายๆไม่ได้หรอกครับ"ชายใส่ชุดจอมยุทธสีขาวพูดพร้อมปรายตามองไปทางซากวิหาร

 

    "พูดดีๆไม่รู้เรื่อง สงสัยต้องใช้กำลัง ตายซะเถอะแก"สิ้นเสียง ผู้บัญชาการหอกทองคำก็ไปโผล่ตรงจุดที่ชายใส่ชุดจอมยุทธสีขาวยืนอยู่

 

    'ตูม'มือข้างซ้ายของเขาใช้โล่กระแทกลงตรงหน้า จนทำให้เกิดแรงระเบิดอย่างรุนแรง เป็นหลุมลึกประมาณครึ่งเมตรกว้าง 1 เมตร ฝุ่นตลบไปทั่วบริเวณ 

 

    "โถ่นึกว่าจะแน่ แค่ทีเดียวก็จบซะแล้ว"ผู้บัญชาการหอกทองคำพูดขึ้น เขาทำการปัดฝุ่นตามชุดเกราะของเขา

 

    "ไม่ทราบว่าพี่ชายพูดว่าอะไรนะครับได้ยินไม่ค่อยถนัดเลย"ชายชุดจอมยุทธขาวพูดขึ้น ในตอนนี้เขายืนอยู่ตรงปากหลุม ในท่ายืนเอามือไขว้ไว้ด้านหลังเหมือนเดิม ดูเหมือนคำพูดของเขา จะทำให้ผู้บัญชาการหอกทองคำหางคิ้วกระตุก

 

    "แกตาย"สิ้นเสียงคำราม ผู้บัญชาการหอมทองคำ ได้ทำการพุ่งเข้าใส่ ชายชุดจอมยุทธขาวที่ยืนตรงปากหลุมทันที เพลงหอกกระบวนแล้วกระบวนเล่าถูกนำออกมาใช้ แต่มันไม่สามารถสัมผัสเป้าหมายได้เลยแม้แต่น้อย จอมยุทธชุดขาวหลบมันได้หมดด้วยท่าทีสบายราวกับเล่นกล หลังจากปะทะกันสักพัก

 

    "ระดับเท่ากับฉันสินะ ฝีมือใช้ได้เลยนิแก"ผู้บัญชาการหอกทองคำพูดขึ้น มือของเขายังคงจ้วงแทงหอกออกไปไม่หยุด

 

    "ขอบคุณพี่ชายที่ชม"ชายชุดจอมยุทธขาวตอบกลับ พร้อมรอยยิ้ม แต่มันเป็นรอยยิ้มที่ยั่วยุศัตรูตรงหน้า

 

   "เลิกเล่นกันแค่นี้แหละ พวกแกจงส่งเสียงปลุกขวัญกำลังใจให้แก่ข้า ผู้บัญชาการผู้นี้"ผู้บัญชาการหอกทองคำหยุดโจมตี กระโดดถอยหลังแล้วหันไปสั่งกองทัพของตนเอง

 

    "ผู้บัญชาการฆ่ามัน ผู้บัญชาการฆ่ามัน ตึง ตึง"เสียงกู่ร้องของคนนับร้อยดังขึ้นพร้อมเพรียงกัน มีเสียงกระแทกอาวุธลงพื้นเป็นจังหวะประกอบด้วย 

 

    "เสียงกลองศึก"ผู้บัญชาการหอกทองคำพูดขึ้น ร่างกายเขาก็มีแสงสีทองขึ้นทั่วตัว ร่างกายของเขาค่อยๆใหญ่ขึ้นจนเห็นได้ชัด เขายันเท้าข้างขวาเพียงเบาๆ ตัวเขาก็พุ่งถึงชายชุดจอมยุทธขาวอย่างรวดเร็ว 

 

    'เปรี้ยง'หอกในมือของผู้บัญชาการหอกทองคำที่จ้วงแทงออกไป ปะทะกับดาบที่มีลักษณะเป็นเสี้ยวจันทร์สีขาวลอยอยู่ 

 

   'เพิ่มพลังด้วยทักษะสินะ นี่ใช้คน 100 คนเพื่อเรื่องแค่นี้เองหรอ แต่มันก็เพิ่มพลังให้เขาเยอะมากจริงๆนั่นแหละ ฉันต้องตัดกำลังเขาก่อนดีกว่า'ชายชุดจอมยุทธขาวคิดในใจ

 

   "ฝากหน่อยนะเสี้ยวจันท์"พูดจบร่างของชายชุดจอมยุทธขาวก็อันตธานหายไป ก่อนที่พริบตาต่อมาเขาจะมายืนตรงหน้ากองทัพ 100 คน 

 

    "ส่งเสียงดังน่ารำคาญจริงๆ มังกรทมิฬคำราม"ชายชุดจอมยุทธขาวพูดจบ เขาก็คำรามเสียงดังออกมา ทำให้กองทัพทั้ง 100 คนหมดสติทันที ทางด้านผู้บัญชาการหอกทองคำ เมื่อไม่มีทักษะเพิ่มพลัง เขาก็ถูกดาบเสี้ยวจันทร์โจมตีจนกระเด็นถอยหลังกลับมา นอนกองข้างเท้าของชายชุดจอมยุทธขาว

 

    "แกรู้ได้ยังไงว่านั่นคือเงื่อนไขในการใช้ทักษะของฉัน แล้วทำไมแกถึงมีทักษะมังกรทมิฬคำรามได้ ร..ร.หรือว่าแกคือยมทูตขาวเดียวดาย แค่ก แค่ก"ผู้บัญชาการหอกทองคำพูดขึ้นและสำลักเลือดออกมาจากปากด้วย

 

    "โอ้โหแสดงว่าผมนี่ก็ดังไม่ใช่เล่นนะเนี่ยถึงขั้นผู้บัญชาการหอกทองคำยังรู้จักเลย น่าดีใจจริงๆ ถ้าอย่างนั้นก็คงไม่ต้องพูดให้มากความ ผมขอสำรวจซากวิหารโบราณนี่เลยแล้วกันนะครับ แล้วก็นะ อย่าคิดจะตามเข้ามาเด็ดขาด"ยมทูตขาวเดียวดายพูดด้วยเสียงธรรมดาจนถึงประโยคสุดท้ายที่เปลี่ยนเป็นเสียงเหี้ยมพร้อมกับปล่อยออร่าจิตสังหารออกมาอย่างรุนแรง จนผู้บัญชาการหอกทองคำ ต้องหลบสายตาที่มองมา ยมทูตขาวเดียวดายเห็นดังนั้น จึงใช้เท้าข้างขวาของเขายันพื้นเบาๆ1ทีเพื่อส่งร่างของเขาไปด้านหน้า โดยพุ่งตรงเข้าไปทางประตูวิหาร เขาไม่ลืมจะหันกลับไปมองด้านหลัง ก่อนจะพยักหน้า 1 ครั้ง ดาบเสี้ยวจันทร์จึงลอยตามเขามาอย่างรวดเร็ว      

 

    "ลุยกันเถอะ นี่มันขุมทรัพย์ของป๋าคนเดียว"ยมทูตขาวเดียวดายพูดพร้อมมีท่าทีดีใจเหมือนเด็กได้ของเล่นใหม่ ผิดกับตอนที่ต่อสู้กันด้านนอกเป็นคนละคน เขาตั้งท่าจะรีบวิ่ง แต่เมื่อเขาก้าวเท้าได้ 3 ก้าว ทุกอย่างรอบตัวก็มืดสนิทลง 'ตึง ครืน'  

 

    "เกมบัคหรอวะ อยู่ๆก็มืด เห้ยไม่ใช่ดิ ม่ายยนะฉันฝันนี่หว่า"ยมทูตขาวเดียวดายแหกปากลั่น 

 

   'บุ๋ง บุ๋ง บุ๋ง'ฟองอากาศจำนวนมากถูกปล่อยออกมาจากปากของร่างมนุษย์ที่อยู่ในหลอดทดลอง ร่างนั้นเริ่มขยับไปมาเบาๆและค่อยๆแรงขึ้นจนสภาพเหมือนจนกำลังจมน้ำ ก่อนจะนิ่งไป ร่างนั้นทำสีหน้าเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรอยู่

 

    'นี่ฉันยังไม่ตื่นจากฝันอีกหรอ หรือว่านี่คือในเกมอยู่วะ ลืมตาสิวะ ลืมตาๆๆๆๆๆ'เมื่อมีความคิดที่จะลืมตา สมองก็สั่งการให้ร่างกายลืมตา แต่เมื่อร่างนั้นลืมตาได้เขาก็เหมือนเหม่อมองอะไรบางสิ่งในน้ำสีเหลืองใสนั่น ที่คิดแบบนั้นเพราะเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะมองเห็นอย่างอื่นในห้องที่มืดแถมยังมองในน้ำด้วย

 

    'ทักษะสภาวะจิตเกมเมอร์ (ขั้นที่ 1 )

 

    ทักษะสภาวะจิตเกมเมอร์เป็นทักษะติดตัว ทักษะนี้จะทำให้ผู้ใช้มีจิตใจสงบเมื่อเจอสถานการณ์คับขัน ช่วยให้ใจเย็นและสามารถตัดสินใจได้อย่างรอบคอบ ' กล่องข้อความ หน้าจอสีดำตัวอักษรสีขาวลอยอยู่ตรงหน้าของเขา

 

     'นี่ไง คิดไว้ไม่ผิดเลย เกมจริงๆด้วย ว่าแต่นี่ฉันไปซื้อเกมแนวนี้มาตอนไหนวะ สมจริงจัดๆ แต่เรื่องนั้นช่างหัวมันก่อน ตอนนี้ต้องทำไงดี จมน้ำก็ต้องว่ายขึ้นด้านบนเพื่อใช้อากาศหายใจสิ’สิ้นสุดความคิด ร่างนั้นก็รีบว่ายขึ้นด้านบนอย่างรวดเร็ว

 

    ‘ตึง!!!’เสียงดังสนั่นราวกับฟ้าผ่า เมื่อหัวของร่างนั้นชนกับฝาปิดด้านบนของหลอดทดลอง ด้วยความเจ็บมือที่มีสายระโยงระยางถูกยกขึ้นมากุมหัวอย่างรวดเร็ว 

 

     'ผลจากการกระทำ สร้างทักษะร่างทนทาน(ขั้นที่ 1)

 

    ทักษะร่างทนทานเป็นทักษะติดตัว ทักษะนี้จะทำให้ร่างกายทนทานต่ออาการบาดเจ็บ 5%

 

     ‘โอ้ยเจ็บโว้ย เดี๋ยวนะตอนนี้ฉันต้องรู้ก่อนว่าฉันอยู่ที่ไหน’ร่างนั้นขมวดคิ้วครุ่นคิดอีกครั้ง ก่อนจะเริ่มคลำมือสำรวจไปรอบหลอดทดลอง เขาเริ่มใช้มือดึงสายต่างๆที่ติดตามตัวเขาอยู่ออก

 

    ‘จากการรวบรวมข้อมูลคร่าวๆฉันน่าจะอยู่ในแทงค์น้ำกลมๆ หรือหลอดทดลองบางอย่างสินะ แต่ใครมันออกแบบหลอดทดลองแบบมีฝาปิดวะ หัวแทบแตก ดังนั้นถ้าออกด้านบนไม่ได้ สิ่งที่ทำได้มีแค่อย่างเดียวเท่านั้น’ไวเท่าความคิดร่างนั้นเริ่มดิ่งตัวเองไปยืนตรงพื้นหลอดทดลอง ก่อนจะค่อยๆใช่ไหล่ตัวเองกระแทกด้านข้างของหลอดทดลองซ้ำๆ ในที่สุดความพยายามก็ประสบความสำเร็จ หลอดทดลองค่อยๆเอียงและล้มลง

 

    ‘เพล้งง!!’เสียงหลอดทดลองล้มกระแทกกับพื้นจนแตก ร่างนั้นเมื่อหลุดออกมาได้ก็รีบพลิกตัวนอนหงายหายใจถี่ๆบนพื้นที่เจิ่งนองไปด้วยน้ำและเศษกระจกที่แตกออกเป็นเกล็ดเล็กๆ เขานอนนิ่งอยู่อย่างนั้นเกือบ 2 นาที ก่อนจะค่อยๆพยุงตัวลุกขึ้นยืน 

 

    'ภารกิจ หาแหวน

 

    จงตามหาแหวนใสที่สลักชื่อ 1 จำนวน 

 

    รางวัล ได้รับแหวนใสสลักชื่อ '

 

     "บ้าไปแล้ว ผู้พัฒนาเกมเกมนี้โหดร้ายกับผู้เล่นเกินไป เขามีแต่ให้จุดเริ่มต้นเล่นเป็นเมืองสวยๆ บรรยากาศดีๆ นี่อะไรจับยัดหลอดทดลองซะงั้น คงมีใครตายมั่งล่ะ ดีนะที่ฉันฉลาดเลยรอดมาได้ ฮ่าๆๆ”เขายืนบ่นพึมพำกับตัวเองก่อนจะกอดอกเงยหน้าหัวเราะอย่างกับคนบ้า แต่จู่ๆเหมือนเพิ่งจะนึกอะไรออกเขารีบงอตัวลง ลดมือลงต่ำ มองซ้ายมองขวาอย่างหวาดระแวง

 

    “บ้าซ้ำบ้าซ้อน เสื้อผ้าก็ไม่มีให้ด้วย ดีนะห้องมันมืดแล้วก็ไม่มีใครอยู่ด้วย รีบหาแหวนตามภารกิจก่อนจะมีใครเข้ามาเจอฉันสภาพนี้ดีกว่า”เขาก็เริ่มเดินสำรวจไปทั่วห้อง แต่ก็ไม่พบแหวนสักวง นอกจากโต๊ะสีขาวที่หักครึ่งพังกองอยู่บนน้ำที่เจิ่งนอง ใกล้ๆกับที่เขานอนนิ่งในตอนแรก

 

    ‘ครืน’เสียงเศษซากของเสาขนาดใหญ่กำลังถูกขยับจากมุมห้องหนึ่ง เขารีบหันไปมองทางต้นเสียงทันทีและสิ่งที่เขาเห็นรางๆคือมือสีดำขนาดใหญ่สอดเข้ามาทางช่องว่างระหว่างซากปรักหักพัง มันออกแรงผลักเล็กน้อยซากเสาต้นใหญ่ก็ขยับจากจุดเดิมอย่างง่ายดาย เห็นสิ่งที่มันทำตีความได้ไม่ยากว่ามันกำลังทำอะไรอยู่ ในที่สุดร่างสีดำสูง 2.5 เมตร ก็เผยออกมาจากซากปรักหักพังให้เห็นกันแบบเต็มตา

 

    “โอ้พระเจ้า ไอ่ผู้พัฒนาเกมแกคิดอะไรอยู่ นี่ไม่ใช่สัตว์ประหลาดระดับต่ำอย่างแน่นอน มันไม่สมควรจะเป็นสัตว์ประหลาดตัวแรกที่เจอในเกมทั่วไป โชคดีอะไรขนาดนี้ฟะตู”เขาบ่นเป็นหมีกินผึ้งทันที เพราะเหตุการณ์หนักๆขนาดนี้เขาไม่เคยเจอติดๆกันแบบนี้มาก่อน เขาเริ่มเดินหนีบๆถอยหลังอย่างช้าๆ เขาพยายามใช้มือปิดเรือนร่างของเขาเท่าที่จะทำได้ ในใจก็ยังด่าผู้พัฒนาเกมไม่หยุด แต่อยู่ๆเขาก็หยุดเดินถอยหลังซะเฉยๆ เมื่อตาของเขาบังเอิญมองไปเห็นอะไรบางอย่างเข้า 

 

    “ตาสีแดงก่ำของสัตว์ประหลาดนั่นส่องแสงจนมันไปกระทบกับสิ่งที่ฉันกำลังตามหา โชคดีอะไรอย่างนี้ที่พวกเขาสร้างแหวนให้มันใส แก้ปัญหาไปได้ 1 อย่างก็ติดปัญหาอีกอย่าง ฉันจะเข้าไปเอายังไงดี มันอยู่ซะตรงเท้าสัตว์ประหลาดขนาดนั้น ขืนเข้าไปเอามีหวังไปเฝ้า NPC แน่นอน”

 

    ‘ทักษะสภาวะจิตเกมเมอร์พัฒนาเป็นขั้นที่2

 

    ทักษะสภาวะจิตเกมเมอร์ (ขั้น 2 )

 

    ทักษะสภาวะจิตเกมเมอร์เป็นทักษะติดตัว ทักษะนี้จะทำให้ผู้ใช้มีจิตใจสงบเมื่อเจอสถานการณ์คับขัน

 

ช่วยให้ใจเย็นและสามารถตัดสินใจได้รอบคอบมากขึ้น’

 

    “เอาจริงดิ มันก็อบข้อความเดิมมาเลยนี่หว่าแค่เพิ่มคำว่ามากขึ้น แบบนี้จะพัฒนาเพื่ออะไร”ในขณะที่ปากก็บ่นไปตาของเขาก็มองขึ้นลงระหว่างแหวนกับร่างของสัตว์ประหลาดตาแดงก่ำตัวดำไม่หยุด และในหัวก็คิดหาวิธีจะเอาแหวนมาให้ได้ แต่ทุกอย่างย่อมมีเวลาจำกัดของมันเสมอ เหมือนกับคำโบราณที่เขาว่า “สายน้ำไม่คอยท่า เวลาไม่คอยใคร” เจ้าสัตว์ประหลาดค่อยๆเดินเข้ามาหาเขาอย่างช้าๆ แต่สำหรับเขาแล้วต่อให้ช้ากว่านี้ก็ไวมากๆอยู่ดี ถ้านี่เป็นคนทั่วไปคงกลัวจนสลบไปแล้ว แต่ด้วยทักษะสภาวะจิตเกมเมอร์ ทำให้เขายังมีสติใจเย็นอยู่ได้ ยิ่งสัตว์ประหลาดเดินเข้าใกล้เขามากเท่าไรแสงจากตามันก็ไปสะท้อนกับน้ำที่เจิ่งนองตรงพื้น เผยให้เห็นร่างของมันชัดเจนขึ้นมาก ร่างสีดำสูง 2.5 เมตร มือมันมีกรงเล็บยาว มีปีกและหาง แต่ที่น่าสังเกตุเลยคือเหมือนมันจะบาดเจ็บหนักมาก ปีกข้างหนึ่งขาดหายไปเกือบครึ่ง เลือดสีดำไหลหยดตามทางที่มันเดินผ่านมา 

 

    “ในความโชคร้าย ฉันยังมีโชคดีอยู่ ถ้ามันบาดเจ็บขนาดนี้ ฉันน่าจะลองเสี่ยงดู”พูดจบเขาก็ทำการวิ่งสลับฟันปลาเข้าใส่สัตว์ประหลาดตรงหน้า แต่เมื่อถึงระยะห่างครึ่งเมตรก่อนถึงเจ้าสัตว์ประหลาดเขาก็หยุดตัวก่อนจะฉากตัวหลบไปทางซ้ายมืออย่างรวดเร็ว เจ้าสัตว์ประหลาดเองก็รีบหันขวามองตามเขาอย่างรวดเร็วไม่แพ้กัน เขาดีดตัวถอยหลัง1จังหวะ เจ้าสัตว์ประหลาดก็ยังตรงเข้ามาหาเขาไม่หยุด เมื่อเห็นดังนั้นเขาก็ยิ้มมุมปากเล็กน้อย ก่อนจะเตะน้ำที่ขังอยู่บนพื้น ทำให้หยดน้ำพุ่งตรงไปที่ตาของเจ้าสัตว์ประหลาด เขาตั้งใจล่อมันมาตรงนี้ เขาไม่ได้ยืนดูผลงานตัวเอง รีบม้วนตัวรอดผ่านขาของเจ้าสัตว์ประหลาดมา แล้วพุ่งตัวเอื้อมมือไปคว้าแหวนตรงตำแหน่งเดิมที่เขาเห็นมันกระทบกับแสงจากตาเจ้าสัตว์ประหลาด 

 

    ‘สำเร็จ รีบย้อนกลับไปทางที่มันอุตส่าเปิดไว้ให้เลยดีกว่า’คิดดังนั้นเขาก็ตรงไปทางที่สัตว์ประหลาดได้เคลียร์ไว้ให้ ตอนที่มันเดินเข้าไปหาเขา

 

    ‘ภารกิจ หาแหวน สำเร็จ

 

    ได้รับแหวนใสสลักชื่อ 1 จำนวน’ กล่องข้อความปรากฎตรงหน้า เขารีบอ่านอย่างรวดเร็ว

 

   ‘ครืนน’เขาที่กำลังวิ่งหน้าตั้งต้องเบรกเท้าจนตัวโก่ง เมื่ออยู่ๆซากเสาต้นหนึ่งได้ล้มลงมาขวางทางออกทางเดียวของเขา เมื่อหมดหนทางจะหนีได้ เขาจึงค่อยๆหันหลังกลับอย่างช้าๆเพื่อยอมรับชะตากรรม ส่วนเจ้าสัตว์ประหลาดเวลานี้มันส่ายหัวเพื่อสะบัดน้ำออกจากตามันได้แล้ว มันจึงหันหลังกลับมาทางเขา มันจ้องเขาและค่อยเดินเข้ามาหาเขาอีกครั้ง ไม่นานมันก็มาหยุดยืนตรงหน้าเขาในระยะประชิด 

 

    “กรรรรรร”มันคำรามออกมาเสียงดัง แล้วค่อยยื่นหน้ามาใกล้กับหน้าของเขา จนสัมผัสได้ถึงแรงลมที่มันหายใจออกมา

 

    “โถพ่อคุณ ผู้สูงโปร่ง ดำสนิท ดูสง่า อยากรู้จักผมหรอยื่นหน้ามาดูซะใกล้เชียว”เขารีบพูดออกไปเพราะคิดว่าบางทีสัตว์ประหลาดอาจจะบ้ายอพอจะปล่อยเขาไป แต่ก็นั่นแหละเขาคิดผิด มันไม่ได้บ้ายอ มันเริ่มดมไปทั่วตัวของเขา ก่อนจะหยุดดมทีมือนานกว่าที่อื่นๆ เขาก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าในมือขวาของเขามีแหวนที่คว้ามากำไว้อยู่ เขาค่อยๆแบมือออกช้าๆและยื่นออกไปให้เจ้าสัตว์ประหลาดตรงหน้า

 

    “โถพ่อคุณ อยากได้แหวนก็บอกดีๆไม่เห็นต้องคำรามเสียงดังให้แสบคอเลย”เขาเอ่ยปากพูดยิ้มแย้ม แต่แล้วสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปเมื่อเห็นแหวนวงใสถนัดตา 

 

   ‘มาร์ช นี่มันชื่อของฉันนี่หว่า จะว่าไปตั้งแต่เข้าเกมมาไม่เห็นจะมีการให้ตั้งชื่อเลย แล้วทำไมระบบถึงรู้ว่าเราชื่อนี้ล่ะ’เขาเริ่มตั้งข้อสงสัยอีกครั้ง แต่ก็หยุดลงทันทีที่เจ้าสัตว์ประหลาดตรงหน้า ยกมือข้างขวาของมันขึ้นมา เมื่อเขามองอย่างตั้งใจก็เห็นว่าที่นิ้วชี้ของสัตว์ประหลาดมีของสวมอยู่คล้ายแหวนสีดำ

 

    “รึว่าพ่อคุณจะกำลังจะบอกให้ฉันสวมแหวนหรอ”เขาตัดสินใจเอ่ยปากถามกับสัตว์ประหลาดตรงหน้า ซึ่งมันก็ไม่ได้ตอบคำถามเขาแต่อย่างใด มีแต่ถอนหายใจแรงๆใส่เขา 1 ที 

 

    “งั้นผมถือว่านั่นคือคำตอบว่า ใช่ นะครับ”มาร์ชค่อยๆใช้มือซ้ายเอื้อมไปหยิบแหวนที่มือขวาของตัวเองอย่างช้าๆ พร้อมสังเกตท่าทีของเจ้าสัตว์ประหลาดไปด้วย เพราะถ้าหากเขาทำอะไรผิดพลาดแล้วเกิดไปกระตุกต่อมโมโหของมันเข้า เขาคงตายอย่างแน่นอนถ้ามันโจมตีเขาด้วยระยะห่างเท่านี้ แต่ทุกอย่างยังคงปกติ มาร์ชหยิบแหวนได้ก็ทำท่ากางมือข้างขวาให้สัตว์ประหลาดดู ก่อนจะใช้มือซ้ายที่ถือแหวนค่อยๆสวมลงที่นิ้วชี้ขวาของเขา 

 

    ความรู้สึกเจ็บเหมือนถูกเข็มเล็กๆจำนวนหลายร้อยเล่มแทงตรงโคนนิ้วชี้ขวา ทำเอามาร์ชกระตุกมือกลับมาอย่างรวดเร็ว

 

    “โอ้ย!!”มาร์ชร้องออกมาเสียงดัง เขาสะบัดมือ2-3ที แต่จู่ๆก็เกิดความรู้สึกชาไปทั่วทั้งตัวเหมือนโดนไฟดูดเขาล้มตึงไปนอนบนพื้นตัวแข็งทื่อ และปวดหัวอย่างรุนแรง จนมาร์ชต้องรีบยกมือขึ้นมากุมหัว นอนบิดตัวไปมาอย่างทรมาน

 

    ‘ท่านได้รับปัญญาประดิษฐ์ขั้นสูงสุด 

 

    วิธีการเปิดใช้ปัญญาประดิษฐ์ขั้นสูงสุดนี้ สามารถทำได้ด้วยการวาดวงกลมกลางอากาศด้วยมือข้างที่สวมแหวน ส่วนคู่มือต่างๆสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ภายหลังเปิดใช้งานปัญญาประดิษฐ์แล้ว’

 

    ‘ได้รับบาดเจ็บขั้นรุนแรง ทักษะร่างทนทานพัฒนาเป็นขั้นที่2

 

     ทักษะร่างทนทาน (ขั้น2)

 

     ทักษะร่างทนทานเป็นทักษะติดตัว ทักษะนี้จะทำให้ร่างกายทนทานต่ออาการบาดเจ็บ 10%’ กล่องข้อความเด้งขึ้นกลางอากาศแจ้งเตือนเขา เมื่อมาร์ชอ่านจบสายตาก็เหลือบไปเห็นบางอย่างจนต้องเบิ่งตาโต

 

    ‘ใช้สัตว์ประหลาดสอนการใช้ระบบเสร็จ ก็ฆ่าทิ้งเพื่อให้ไปเริ่มเกมใหม่สินะ รสนิยมแย่มากเลยนะไอ่ผู้พัฒนาเกม แต่เจ็บน้อยลงตั้ง10% โชคดีจริงแหะเรา’มาร์ชคิดในใจจบ เขาก็หลับตาลงยอมรับชะตากรรม แต่นั่นคือความเข้าใจผิดของมาร์ชแค่เพียงคนเดียว สัตว์ประหลาดตรงหน้าเขาตอนนี้มันยกมือข้างขวาขึ้นสูง กางมือจนเห็นเล็บยาวชัดเจน 

 

    ‘วูบ’เสียงกรงเล็บแหวกอากาศอย่างรวดเร็ว

สารบัญ / นำทาง

ความคิดเห็น

รูปภาพของ tor

เฮ้ยๆ นี่เอ็งจะไม่สงสัยเลยเรอะ ว่าเอ็งเข้าเกมมาตอนไหน แล้วโลกข้างนอกเป็นยังไง

แสดงความคิดเห็น

 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.