March Time Traveler ตอนที่ 1 ซากห้องวิจัย
ซากห้องวิจัยใต้ดิน
‘ ตึก ตึก ตึก ตึก’ เสียงรองเท้าทหารจำนวนมากกำลังวิ่ง
'แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก' สลับกับเสียงหอบ อย่างเป็นจังหวะ
"บัดซบ ไหนผู้กองบอกเป็นงานรับจ้างคุ้มกันง่ายๆไงวะ"เสียงตะโกนจากทหารหนุ่มที่กำลังเอาหลังพิงหลบหลังซากเสาต้นหนึ่ง
"เอ็งจะมาโทษข้าไม่ได้นะเว้ย ก็ข้าให้เอ็งกับไอ่หมวดไนซ์ไปหาข้อมูลแล้วนิ" เสียงห้าวๆจากทหารที่ค่อนข้างมีอายุตะโกนสวนกลับมา
"ก ก ก็"ทหารหนุ่มเหมือนพยายามอยากอธิบายบางอย่างแต่มันก็เถียงไม่ออก
"ก็ข้อมูลมันให้มาจำกัดนิผู้กอง แล้วเงินรางวัลมันก็ล่อตาล่อใจเหลือเกิน แต่ผมก็มาปรึกษาผู้กองอีกรอบก่อนแล้วนิ"คนที่เหมือนจะถูกเรียกว่าหมวดไนซ์ตะโกนมาจากซากเสาที่อยู่ไม่ไกลกัน
"พอๆไม่ต้องเถียงกันเรื่องนี้แล้ว มาคิดก่อนว่าจะเอายังไงกับสถานการณ์ตอนนี้"ผู้กองพูดเสียงห้าวๆตัดบท
'ปัง ปัง ปัง ปัง'พอพูดจบเสียงสาดห่ากระสุนก็ดังขึ้น แสงจากปากกระบอกปืนสว่างไปทั่วบริเวณ
"รายงานสถานการณ์ปัจจุบันด้วย" เสียงผู้กองตะโกนถามทันทีเมื่อเสียงสาดกระสุนหยุดลง
"ยังไม่แน่ใจครับผู้กอง"เสียงจากทหารนายหนึ่งตะโกนตอบกลับมา
"บ้าเอ้ย อุปกรณ์สื่อสารก็ใช้ไม่ได้ ตั้งแต่ไอ่....อ้ากกก" 1ในทหารจำนวน 13 คน ที่กำลังพูด อยู่ๆก็ร้องออกมา และภาพที่ทุกคนเห็นก็คือ สัตว์ประหลาดสีดำตัวสูงประมาณ 2.5เมตรใช้มือที่มีกรงเล็บยาวแทงจากด้านหลังทหารคนนั้นจนทะลุออกมาที่ด้านหน้า เลือดสดๆทะลักออกมาจากบาดแผลและปากของเขา
"ทิ้งคนตาย ระดมยิงสกัดกั้นและถอยร่น อย่างมีระบบ"เสียงสั่งการอย่างเชี่ยวชาญของผู้กอง ดึงสติให้ทหารที่เหลือได้สติและปฏิบัติตาม
'ปังๆๆๆๆๆ'เสียงห่ากระสุนถูกสาดไปยังร่างสัตว์ประหลาดอีกครั้ง แต่แทนที่กระสุนจะพุ่งใส่เป้าหมายที่ใหญ่โตนั่น มันกลับโดนเพียงร่างของทหารที่ถูกมันแทงทะลุก่อนหน้านี้เท่านั้น มีเพียงเงาวูบวาบพุ่งไปมาผ่านความมืด ก่อนที่หนึ่งในทหารที่เหลือคนหนึ่งจะเลือกหยุดเดินถอยหลัง ยืนนิ่งอ้าแขนและชูปืนขึ้นพร้อมทั้งตะโกนออกไปเสียงดัง
"ไอ่สัตว์ประหลาดขี้ขลาดแน่จริงออกมาสู้กันซึ่งๆหน้าดิวะ"
"เห้ย นั่นเอ็งทำบ้าอะไรบอกให้ถอยไง"ผู้กองรีบถามทันทีที่เห็นทหารของตัวเองปฏิบัตินอกเหนือคำสั่ง แต่ทหารหนุ่มเลือกที่จะส่งสัญญาณมือบางอย่างแทนที่จะตะโกนตอบกลับไป ทันทีที่ผู้กองได้เห็นสัญญาณมือก็เบิ่งตาโต
"ม..ม..ไม่"ยังไม่ทันที่ผู้กองจะได้พูดอะไรต่อ หมวดไนซ์ และทหารอีก 3 นายก็พุ่งมาประชิดตัวผู้กอง ก่อนจะรวบตัวผู้กองแล้วออกแรงลาก แน่นอนผู้กองเองก็พยายามดิ้นขัดขืน แต่เมื่อหันไปมองเห็นใบหน้าหมวดไนซ์ ที่ตอนนี้มันสะท้อนกับแสงสว่างจากกระบอกปืน เป็นจังหวะเพียงเสี้ยววินาที ใบหน้าที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตานั่น ทำให้ผู้กองหยุดดิ้นและหันหลังออกตัววิ่งไปพร้อมกับพวกเขาแต่โดยดี
เมื่อผู้กอง หมวดไนซ์ และทหารอีก3นายวิ่งไปได้สักพัก เหล่าทหารที่เหลือ 6 นายก็พากันเดินออกมาจากซากเสา เดินไปหาทหารที่ยืนส่งสัญญาณมือให้ผู้กองก่อนหน้านี้
"บ้าดีเดือดจังนะแก แต่ว่ามันก็จริงแบบที่แกพูดนั่นแหละ"ทหารที่ถอดเสื้อคนหนึ่งพูดขึ้นเมื่อเดินมาถึง
"ฮ่าๆแกคิดว่ายศข้าจะสามารถสั่งยศผู้กองได้สักกี่ครั้งวะ"ทหารที่ส่งสัญญาณมือพูดติดตลก
"ตลกเข้าไป ไม่รู้สถานการณ์ตัวเองเลยรึไง"ทหารที่กำลังเคี้ยวหมากฝรั่งอีกคนพูดแทรกทันทีที่เห็นเพื่อนติดตลกไม่ดูเวลา
"ฉันน่ะรู้ดีเลยแหละ ถึงตัดสินใจทำเว้ย ว่าแต่พวกแกเหอะรู้สถานการณ์ตัวเองรึป่าว ถึงตัดสินใจอยู่กันตั้งเยอะขนาดนี้"นายทหารที่กำลังขำอยู่ได้หยุดขำ พูดน้ำเสียงจริงจังแทน
"รู้"เสียงใหญ่ๆของทหารอีกคนที่ตัวใหญ่กว่าทุกคนตอบสั้นๆ
"อเมซิ่ง พี่ยักษ์พูดแล้วว่ะทุกคน "เสียงเล็กแหลมจากนายทหารตัวเล็กรีบพูดดีใจราวกับถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่1
"เลิกเล่นรีบทำตามแผนกันสักทีเถอะ ไอ่ที่บอกจะแบ่งออก 2 กลุ่มถ่วงเวลาให้กลุ่มผู้กองหนี แม้จะยอมตายเนี่ย ถ้ามัวแต่เล่น จะตายกันเปล่าๆ ไม่ได้ถ่วงเวลาให้ผู้กองสักวิเอานะ"นายทหารสวมแว่นคนหนึ่งพูดจริงจัง
"ว่าแต่ไอ่ตัวบ้านี่มันตัวอะไรกันแน่ ตัวก็ใหญ่ พละกำลังมหาศาล แถมยังไวเป็นลิงเลย"ทหารที่ใช้ผ้าสีแดงโพกหัวตั้งคำถามขึ้น แน่นอนในที่นี้คงอยากรู้คำตอบเหมือนกันแต่ใครล่ะจะเป็นคนเฉลย ในเมื่อไม่มีใครรู้คำตอบที่ถูกต้องแม้แต่คนเดียว
"เรื่องมันคือตัวอะไรเอาไว้ก่อนไหม ไอ่ตัวต้นคิดสั่งมาเลยว่ามีแผนอะไร"ทหารสวมแว่นพูดเป็นการเป็นงานดึงสติทุกคนที่กำลังสับสน พยายามหาคำตอบของสิ่งมีชีวิตประหลาดนี่
"ถ้ามันไวยิงยังไงก็ไม่โดน เปลี่ยนมาใช้อาวุธระยะประชิดแทน"นายทหารที่ส่งสัญญาณมือพูดจบทุกคนก็โยนปืนในมือทิ้ง ต่างหยิบอาวุธที่ตัวเองถนัดออกมาถือในมือแทนทันใดนั้นเอง
'แกร็งส์' เสียงปะทะของเล็บมือที่มีความแข็งและคมกับมีดสั้นดังขึ้น
"แกไวเป็นลิง แต่ข้าไวกว่าลิงเว้ย"เสียงทหารตัวเล็กพูดขึ้นในขณะที่ตัวเองลอยอยู่กลางอากาศ ในมือถือมีดสั้นปะทะกับกรงเล็บสีดำยาวของสัตว์ประหลาดอยู่ แต่หลังจากนั้นเพียงเสี้ยววินาที ร่างของเขาก็ถูกตบปลิวด้วยแรงมหาศาล จนร่างของเขาปลิวไป10เมตรและกลิ้งไปกับพื้นราวๆ1เมตร
"บ้าเอ้ย ดันลืมมือข้างซ้ายมันได้ ดีนะที่ฉันยังไวพอจะยกขาขึ้นมากันทัน นี่พวกแกจะยืนบื้อกันอีกนานไหม"ชายร่างเล็กพูดหลังจากพยุงร่างลุกขึ้นยืน ก่อนถุยเลือดออกจากปาก1ที เหมือนทหารทุกนายจะผ่านศึกมามากมาย ทันทีที่เพื่อนของเขาโดนโจมตี พวกเขาได้กระจายกำลังกันโอบล้อมเจ้าสัตว์ประหลาดเอาไว้แล้ว
"ย้ากกกส์"เสียงนายทหารที่ถอดเสื้อคำรามก้องพร้อมกับฟันมีดสปาต้าร์ลงไปตรงข้อเท้าของสัตว์ประหลาดตรงหน้า เจ้าสัตว์ประหลาดเหมือนจะรู้เป้าหมายของศัตรูมัน มันจึงรีบดีดตัวให้ลอยจากพื้น มีดสปาต้าร์จึงฟันได้เพียงแต่ลมเท่านั้น แต่ทั้งหมดมันคือขั้นตอนการล้มศัตรูในแบบฉบับที่พวกเขาคุ้นเคย พี่ยักษ์ร่างใหญ่ของกลุ่ม ง้างขวานรออยู่แล้ว ก่อนจะหวดตรงๆไปยังร่างของสัตว์ประหลาดที่ลอยอยู่กลางอากาศ
'แกร็งส์ พลั่ก เพล้ง ฉัวะ' "อ้ากกส์"ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เจ้าสัตว์ประหลาดที่ลอยอยู่กลางอากาศไม่สามารถหลบหนีได้จึงขวางกรงเล็บออกมาปะทะไว้ ขวานปะทะกับกรงเล็บเสียงดัง ก่อนที่เล็บข้างซ้ายของสัตว์ประหลาดจะขาด พร้อมๆกับเสียงแตกของขวาน และเสียงเล็บที่ข่วนลำตัวของทหารร่างใหญ่ เลือดไหลออกมาจำนวนมากจนเขาต้องกรีดร้องออกมา ร่างของเจ้าสัตว์ประหลาดก็กระเด็นไปตามทิศทางที่โดนขวานปะทะ
"มันเสียมือซ้ายแล้ว แต่อย่าเพิ่งชะล่าใจ โจมตีตามรูปแบบต่อไป"ทหารที่ส่งสัญญาณมือพูดขึ้น ในมือของเขาถือดาบซามูไรอยู่
"โอเค"ทุกคนขานรับพร้อมกันจบ นายทหารที่เคี้ยวหมากฝรั่ง รีบเคลื่อนร่างนำหน้า พุ่งใส่เจ้าสัตว์ประหลาด เมื่อไปถึงก็กระหน่ำฟันดาบ 2 มือใส่เจ้าสัตว์ประหลาดแบบไม่ยั้ง เจ้าสัตว์ประหลาดยกมือข้างซ้ายขาดๆที่มีเลือดสีดำไหลออกมาขึ้น เพื่อป้องกันการโจมตี
"ฮ่าๆๆๆๆๆเป็นยังไงมั่ง โดนฟันมั่งรู้สึกยังไง ทำไมไม่พูดล่ะวะ บอกมาว่าแกมาจากดาวไหน โจมตีพวกฉันทำไม"นายทหารเคี้ยวหมากฝรั่ง เอ่ยปากถามในขณะที่มือยังกระหน่ำฟันดาบคู่แบบอย่างต่อเนื่อง
'ฉึกกก' เสียงอะไรบางอย่างถูกแทงอย่างแรง ก่อนที่เลือดสีแดงจะค่อยๆซึมออกมาที่เสื้อของนายทหารที่ถือดาบคู่ เขาค่อยๆทรุดตัวลง แต่เข่ายังไม่ทันจะได้แตะถึงพื้น ร่างของเขาก็ถูกสะบัดจนปลิวไปกระแทกกับผนังด้วยแรงสะบัดของหางเจ้าสัตว์ประหลาด
"ม่ายยยย"เสียงตะโกนของนายทหารโพกผ้าแดงดังลั่นก่อนที่เขาจะพุ่งเข้าไปหาเจ้าสัตว์ประหลาดพร้อมมีดสปาต้าร์ในมือ เขาฟันมีดออกไปอย่างบ้าคลั่ง แต่กลับไม่โดนเป้าหมายแม้แต่ครั้งเดียว เพราะมันได้เคลื่อนไหวเข้าสู่เงามืดอย่างรวดเร็วราวกับภูติผี
"บ้าจริงมันเร็วกว่าเมื่อกี้อีก ฉันก็ย้ำแล้วย้ำอีก ว่าอย่าชะล่าใจ"ในตอนนี้เขาได้ถือดาบซามูไรด้วยสองมือ อยู่ในท่าทางเตรียมพร้อม ถ้าหากศัตรูเร็วแค่เพียงกระสุนไม่น่ารอดจากการโจมตีของเขาแน่ๆ เพราะเขาเคยใช้ดาบซามูไรฟันลูกกระสุนมาแล้วในการฝึกของเขา
“ว่าแต่ยังต้องดำเนินการเมนูเด็ดอยู่ไหม”นายทหารใส่แว่นหันมาถาม ตอนนี้ในมือของเขากำลังถืออะไรบางอย่างอยู่
“จัดการต่อไป ฉันคิดว่าโอกาสจะได้จัดเมนูเด็ดคราวนี้มีสูงมาก”นายทหารที่ถอดเสื้อตอบกลับมาในขณะที่ยังวิ่งวนไปรอบบริเวณพร้อมมีดสปาต้าร์คู่กาย
ทางด้าน ผู้กอง หมวดไนซ์ และนายทหาร 3 คน
"บ้า บ้า บ้าที่สุด"ผู้กองบ่นพึมพำในขณะที่ยังสาวเท้าวิ่งอย่างต่อเนื่อง
"ทำไงได้ล่ะครับผู้กอง ถ้าเรายังขืนอยู่ ได้ตายกันหมดแน่ นี่คือทางเลือกที่ดีที่สุดแล้ว แฮ่ก แฮ่ก "หมวดไนซ์พูดพร้อมกับหอบหายใจ
"ฉันน่าจะเอะใจตั้งแต่ได้รับภารกิจแล้ว เงินรางวัลกับระดับความยากมันไม่เหมาะสมกัน ถ้าฉันไม่เชื่อไอ่ข้อมูลบ้าๆนั่น ฉันคงไม่ตัดสินใจเลือกใช้อาวุธระดับต่ำมาทำภารกิจแบบนี้หรอก"ผู้กองยังคงตัดพ้อต่อว่าตัวเองไม่หยุด
"มันไม่ใช่ความผิดของผู้กองคนเดียวนะครับ พวกผมเองก็ลงความเห็นกันว่าจะใช้แค่อาวุธพวกนี้เอง เพราะตั้งใจจะเอาเงินรางวัลไปฉลองหลังเสร็จภารกิจ จะได้จัดงานให้มันเต็มที่ แต่..."1ใน3 นายทหารพูดขึ้นบ้าง แต่ก็หยุดพูดแค่เพียงเท่านั้น
"ก็ได้ๆ เรื่องนั้นช่างมันก่อน ตอนนี้เรารีบไปหาไอ่พวกนักวิทยาศาสตร์พวกนั้น แล้วเค้นเอาความจริงจากมัน ว่าทำไมถึงให้ข้อมูลรายละเอียดไม่ครบกับพวกเรามา"ผู้กองพูดด้วยน้ำเสียงดุดัน แฝงไปด้วยความโกรธ หลังจากวิ่งขึ้นบันไดสลับกับวิ่งผ่านซากปรักหักมาเรื่อยๆราวๆ5นาที ทั้ง5คนก็มาถึงบริเวณที่มีแสงไฟสว่างไสว มีสายไฟต่อพ่วงกับเครื่องมือต่างๆนานา และยังมีนักวิทยาศาสตร์ 5 คน ที่กำลังร้อนรนเก็บข้าวของและเอกสารมือเป็นระวิง
"นี่พวกทหาร แกต้องคุ้มกันฉันออกไปให้ได้นะ" 1ใน5ของนักวิทยาศาสตร์พูดขึ้น เมื่อเห็นทั้ง5คนวิ่งเข้ามาใกล้
"ด ด..เดี๋ยวสิ นั่นแกจะทำอะไรฉัน"นักวิทยาศาสตร์คนเดิมยกมือขึ้น อย่างตกใจเมื่อจู่ๆผู้กองก็พุ่งเข้าไปกระชากคอเสื้อชุดกราวสีขาวที่เขาใส่อยู่
"พวกแกยังมีหน้ามาบอกให้ฉันคุ้มกันแกอยู่อีกหรอ ทั้งๆที่พวกแกให้รายละเอียดภารกิจมาผิดๆ จนคนของฉันต้องตายขนาดนี้ แกจะรับผิดชอบยังไง แล้วเป้าหมายจริงๆของภารกิจนี้คืออะไร"ผู้กองกระชากคอเสื้อของนักวิทยาศาสตร์ เข้ามาใกล้หน้าตัวเอง ตะโกนถามด้วยความโมโห
"ต่อให้นายฆ่าหมอนั่น มันก็ตอบคำถามอะไรนายไม่ได้หรอก"นักวิทยาศาสตร์ที่ดูจะอายุเยอะที่สุดในกลุ่มพูดขึ้น แต่มือของเขาก็ยังหยิบเอกสารใส่กระเป๋าไม่หยุด
"ช ช ใช่แล้ว ฉันไม่รู้อะไรหรอก ป ป ปล่อยฉันไปเถอะนะ"นักวิทยาศาสตร์ที่ถูกกระชากคอเสื้อรีบพูดเพื่อขอให้ผู้กองปล่อยตัวเอง
"งั้นใครรู้เรื่องนี้ รีบอธิบายมาให้หมดก่อนที่ฉันจะสั่งลูกน้องฆ่าพวกแกที่นี่เพื่อเป็นการระบายความโกรธแค้น"ผู้กองปล่อยคอเสื้อนักวิทยาศาสตร์ ก่อนหันไปทางนักวิทยาศาสตร์ที่อายุเยอะ
"พวกฉันทั้ง5คนไม่มีใครรู้เรื่องอะไรทั้งนั้นแหละ ถ้าจะเอาความจริงเลย ก็คงต้องถามรัฐบาลโดยตรงเอง พวกฉันก็ได้ข้อมูลมา แค่ให้มาสำรวจซากห้องวิจัยนี้เผื่อว่า จะมีงานวิจัยอะไรตกหล่น เพราะที่นี่มันเป็นห้องวิจัยเมื่อ500ปีที่แล้ว ถ้าได้ข้อมูลสำคัญ แล้วเอาไปใช้ประโยชน์ได้ ทางรัฐบาลก็จะเอาไปสานต่อ โดยให้พวกฉันคุมโครงการต่อ เรื่องที่รู้ก็มีแค่นี้แหละ"นักวิทยาศาสตร์อายุเยอะตอบและรูดซิปปิดกระเป๋าถือในมือ ผู้กองค่อยๆหันไปมองนักวิทยาศาสตร์คนอื่น ซึ่งแต่ละคนก็พยักหน้าตอบ เป็นเชิงบอกว่า จริงตามนั้นทุกประการ
"รัฐบาลเฮงซวย!! นายและนาย คุ้มกันพวกเขาออกจากห้องวิจัย ส่วนนายช่วยหมวดไนซ์หาทางซ่อมอุปกรณ์สื่อสาร ฝากด้วยหมวดไนซ์ ฉันจะช่วยเหลือทีมของฉันจนสุดความสามารถ"ผู้กองหันไปออกคำสั่งกับลูกน้องของตน
"ครับ"ทุกคนขานรับอย่างพร้อมเพรียง
"เอ้ารีบตามมาสิ"นายทหารคนหนึ่งเดินนำหน้าหันมาพูดกับนักวิทยาศาสตร์ ก่อนที่ทั้ง5จะรีบเดินตามเขาไปและประกบด้วยนนายทหารอีกคน ส่วนอีกคนที่ได้รับมอบหมายให้ช่วยซ่อมอุปกรณ์สื่อสาร ก็ตรงดิ่งไปที่เครื่องมือของพวกนักวิทยาศาสตร์ก่อนจะลงมืองัดแงะชิ้นส่วนต่างๆออกมา
เวลาผ่านไป 10 นาที
ผู้กองเดินวนไปมายังกับหนูติดจั่น
"ได้แล้วครับผู้กอง"หมวดไนซ์รีบแจ้งต่อผู้กองหลังจากพยายามซ่อมอุปกรณ์สื่อสารมาสักพัก
"วาฬเรียกโลมา ได้ยินแล้วตอบด้วย วาฬเรียกโลมา ได้ยินแล้วตอบด้วย"ผู้กองพยายามพูดติดต่อผ่านเครื่องสื่อสารที่เพิ่งซ่อมเสร็จ
"เปลี่ยน ติดต่อกลับมาได้แบบนี้แสดงว่าผู้กองปลอดภัยแล้วสินะครับ อัก อัก"ปลายสายตอบกลับมา
"เฮ้ สถานการณ์ทางนั้นเป็นยังไงมั่ง ปลอดภัยกันไหม ให้ฉันกลับไปช่วยพวกนายไหม"ผู้กองเมื่อรู้ว่าลูกน้องยังไม่ตายก็รีบระดมคำถามใส่ไม่ยั้ง
"ก็ไม่ได้ดีมากครับผู้กอง แต่ผมได้ยินเสียงผู้กองแบบนี้ก็แสดงว่าเป้าหมายของพวกผมสำเร็จแล้ว แต่เดี๋ยวจะเพิ่มเติมเมนูเด็ดให้ผู้กองอีกหนึ่งเมนู แค่ก แค่ก"ปลายสายนายทหารตอบกลับมา เขามองไปรอบๆตัวที่ตอนนี้เหลือเพียงเขาที่ยังมีลมหายใจอยู่
"เมนูเด็ดบ้าอะไร เดี๋ยวฉันกับหมวดไนซ์ รีบลงไปช่วย แข็งใจเอาไว้"ผู้กองพูดพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองหน้าหมวดไนซ์
"อย่ากลับลงมาเด็ดขาดนะผู้กอง พวกเราดีใจมากที่ได้ร่วมทีมกับผู้กองนะครับ ถ้าชาติหน้ามีจริงไว้เจอกันใหม่ครับ สุดท้ายนี้ผมมีเรื่องจะบอกผู้กอง ผมตั้งเวลาเมนูพิเศษไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ตอนนี้ผู้กองมีเวลาแค่ 30 วินะครับ ด้วยรักและความเคารพ"เสียงปลายสายพูดจบ ผู้กอง หมวดไนซ์ และทหารอีกนายก็ไม่รอช้ารีบวิ่งตรงไปยังทางออกทันที
'บึมมมม' เสียงระเบิดดังขึ้นอย่างรุนแรง แรงระเบิดอัดใส่แผ่นหลังของผู้กอง หมวดไนซ์ และนายทหารจนกระเด็นไปไกลหลายเมตร เศษซากปูน เศษฝุ่น กระเด็น กระจายปกคลุมทั่วบริเวณ
"ม่ายยยยย"ผู้กองร้องตะโกนออกมาทันทีที่ยันตัวลุกขึ้นยืนได้ น้ำตาของชายที่ค่อนข้างมีอายุไหลออกมาจากตาข้างเดียว เข่าของเขาทรุดลงกระแทกพื้น มองเปลวเพลิงรูปทรงเห็ดที่อยู่ตรงหน้า
"ผมต้องการให้ทางรัฐบาลชดใช้ค่าเสียทั้งหมดนี่ โดยการโอนลิด(ลิด คือ หน่วยกลางที่ใช้จ่าย แลกเปลี่ยน หรือเงินนั่นแหละครับ)ให้กับครอบครัวของพวกเขาตามแอคเคาท์ทั้งหมดนี่ คงไม่ต้องสาธยายอะไรมาก พวกคงรู้ตัวดีว่าปฏิเสธการชดใช้ครั้งนี้ไม่ได้"หมวดไนซ์ปล่อยให้ผู้กองของเขานั่งคุกเข่าตตอไป แต่ตัวเองได้หันไปคุยกับทางนักวิทยาศาสตร์พร้อมทั้งส่งข้อมูลผ่านทางหน้าต่างสีแดง ที่ลอยอยู่ในอากาศ
ลึกลงไปใต้ดินของซากวิจัยที่เกิดการระเบิดมากกว่า 500 เมตร แรงระเบิดได้ปลุกบางอย่างที่อยู่ที่นั่นให้ตื่นขึ้น
'บุ๋ง บุ๋ง บุ๋ง
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 1109
ความคิดเห็น
การบรรยายดีมากเลยครับ
ติดอยู่ก็ตรงบทสนทนา ที่ชอบใช้ 'นี่' เป็น 'นิ'
'ไอ้' เป็น 'ไอ่' อะครับ
แต่เนื้อเรื่องน่าติดตามมากครับ
โห ดีใจมากเลยครับ เพิ่งเคยเจอลงตอนแรกก็มีคนมาเม้นแล้ว ขอบคุณครับ เดี๋ยวตอนรีไรท์ ผมจะปรับปรุงครับ ตอนนี้พยายามขยายฐานนักอ่านอยู่ครับ
แสดงความคิดเห็น