2. เจอกันที่สน.
กิ่งฟ้าเข้าใจผิดคิดว่า เขาต้องเป็นฝ่ายโทรหาเธอ มานึกขึ้นได้เมื่อดารณีถามขึ้นตอนไปออกกำลังกายด้วยกันตอนเย็นวันต่อมา
“เฮ้ย... แก ไม่เอากระเป๋าคืนเหรอ” คำถามของเพื่อนตัวเล็กตาหยี ทำให้เธอสะดุ้งทันที
“เอ่อ... ลืมไปว่ะ ข้าพเจ้าเพิ่งนึกขึ้นได้”
“อะไรของมันวะ นังนี่... ตั้งแต่กลับมาถึงเมื่อวาน เริ่มเพี้ยนจัด” ดารณีเพื่อนตัวเล็ก กำลังควงฮูลาฮูป
“หมุนเอวไป จะได้ไซซ์ S เร็วๆ ห้ามพูดไม่ใช่เหรอ จะควงไม่มัน” กิ่งฟ้าหมั่นไส้ยัยเพื่อนตาหยีคนนี้ อยากสวยเอวบาง
เมื่อดารณีเริ่มพักเบรกหลังจาก 15 นาทีผ่านไป เธอเลยถามกิ่งฟ้าอีกครั้ง
“นี่ตกลง จะให้เขาโทรมาตามหรือไง”
“ฉันเพิ่งนึกขึ้นได้ว่า ... อีตานั่นยื่นนามบัตรอะไรนี่แหละ แต่ดันไปซุกลงตรงไหนไม่รู้” เธอนึกไม่ออกจริงๆ ว่ารับนามบัตรมาแล้วยัดไว้ตรงไหนของกระเป๋า
“แล้วเคลมกระเป๋าที่สนามบินไว้ใช่ไหม” ดารณีเตือนเธอ
“ใช่ ... ก็ไม่เห็นโทรมาตามเลย”
ในที่สุดหลังจากดูเพื่อนออกกำลังกายฟิตหุ่น กิ่งฟ้าง่วนกับการค้นกระเป๋า ไม่รู้ว่านามบัตรของชายหนุ่มคนนั้นไปซุกไว้ตรงไหน
“เอางี้... เทกระเป๋าออกมาให้หมด เดี๋ยวฉันช่วยเอง” ดารณีเริ่มเห็นความวุ่นวาย นึกตงิดๆ ว่าเพื่อนสาวแสนขี้ลืมขี้ทิ้ง ท่าจะไม่ได้เรื่อง มานั่งป่วยการรอให้ชายคนนั้นโทรมา
“ฉันคงเป๋อ แมร่งเอ้ย...กางเกงดันเป้าขาด จนใจสั่นว่ะ...แก” เธอหัวเราะเสียงดัง ยังไม่หายขำ
“ตอนนี้ไม่ใช่เวลาบันเทิงแล้ว แกจะได้กระเป๋าคืนเมื่อไหร่” ดารณีเริ่มรำคาญ
“ในนั้นไม่ได้มีอะไรนักหนา นอกจากเสื้อผ้าเหม็นๆ”
“อ้าววว... ไปอยู่เป็นเดือนไม่ได้ซักเสื้อผ้าเลยหรือไง”
“ไม่หรอก เปลืองเงิน เอากลับมาซักบ้าน” เธอนึกขึ้นได้พอตอบกลับ ตากลมโตเบิกโพลง
“ตายแล้ว... ฉันดันเก็บเงินดอลลาร์ที่เหลือไว้ในนั้น” กิ่งฟ้าใจหายนึกขึ้นได้
“เท่าไหร่เยอะไหม” ดารณีทำหน้าเหมือนอยากรู้
“เกือบสองหมื่นบาท” น้ำเสียงกระวนกระวายของเพื่อนรักทำเอาดารณีพลอยกังวล
“ต้องหาเบอร์นายคนนั้นให้ได้ ไม่งั้นเกิดเขาดันหาคนมาเปิดได้... เงินอาจชวดล่ะแก ดีไม่ดีชาตินี้จะได้กระเป๋าคืนไหม” ดารณีคะยั้นคะยอเธอ
“ฉันว่าโทรไปที่เคลมกระเป๋า ฉันเก็บเบอร์ไว้ที่ในมือถือ น่าจะได้เรื่อง” กิ่งฟ้านึกขึ้นได้
รุ่งขึ้นกิ่งฟ้าโทรไปจัดการถามกระเป๋าที่หายไป ปรากฏว่าสายการบินแจ้งขอโทษที่ติดแท็กผิด กลายเป็นกระเป๋าของเธอถูกชายคนนั้นเอาไป เธอจึงถามว่ากระเป๋าเดินทางที่อยู่ตรงนั้นมีหมายเลขโทรศัพท์ติดต่อกลับหรือไม่
“ได้เบอร์โทรแล้ว คืนนี้จะโทรกลับ” ดารณีได้ยินเพื่อนสาวบอกเธอ ขณะนั่งกินข้าวเย็นด้วยกัน
“แล้วทำไมไม่โทรตอนกลางวัน”
“ไม่ว่างเลย วันนี้ประชุมทั้งวัน” กิ่งฟ้าขอทำงานให้เรียบร้อย เคลียร์สมองให้โล่งเตรียมตัวลุยกับนายคนนั้น
“เฮ้อ... แกคงอยากทิ้งเงินสองหมื่นไป... รวยมากหรือไง เอามากินชาบูกันว่ะ” ดารณีเป็นเพื่อนที่ห่วงกินห่วงเที่ยว พูดถึงเงินทีไรเป็นอยากกินชาบูทุกที
หลังจากอาหารมื้อเย็นแบบลูกทุ่งข้าวราดแกงหน้าโรงยิมผ่านไป กิ่งฟ้ากดเบอร์โทรศัพท์ทันที เสียงปลายทางรับสายดูหล่อมาก
“สวัสดี ผมหมอดอนครับ… นั่นใครครับ”
“เอ่อ สวัสดีค่ะ... ฉันที่แย่งกระเป๋ากับคุณที่สนามบินค่ะ” กิ่งฟ้าไม่รู้จะแนะนำตัวยังไง
“อ้อ...ครับ ผมยังเปิดกระเป๋าไม่ได้ ตกลงว่ากระเป๋าเป็นของคุณใช่ไหม” คำพูดดูดีมากในความรู้สึกของกิ่งฟ้า
“งั้นเราไปเจอกันที่สน.นะคะ แถวไหนดีคะ”
“ผมว่าคงไม่ต้องก็ได้ครับ... ผมยังไม่ได้เปิดกระเป๋าเลย” เขาเสนอแนะ
“อย่าเลย... ในนั้นมีเงินอยู่ด้วยค่ะ” กิ่งฟ้ากลัวว่าเงินของเธอจะอันตรธานไป
“คุณเสนอสถานีตำรวจที่ใกล้คุณดีกว่า ... นัดวันเวลาด้วย”
ในที่สุดกิ่งฟ้านัดชายหนุ่มไปเจอกันตอนเที่ยงวันต่อมา ที่สถานีตำรวจใกล้ที่ทำงานของเธอ ซึ่งน่าแปลกใจที่เขามารอเธอก่อนแล้ว วันนี้เขาสวมเสื้อผ้าดูเป็นทางการ ไม่เหมือนวันนั้นกางเกงทรงสลิมฟิตขาลีบขนาดนั้น อย่างไม่น่าเชื่อผิดกันคนละคนไปได้ยังไง
“ผมเอาช่างกุญแจมาด้วย มาเปิดต่อหน้าตำรวจ” เขาพูดแล้วแค่พยักหน้าเมื่อเห็นเธอเดินขึ้นมาที่สถานีตำรวจ
“ไอ้หมอ... นี่เธอเป็นเจ้าของกระเป๋านี้หรือวะ” ตำรวจหนุ่มหันไปถามเขา
“เออ...สิวะ ถามได้ ก็เห็นอยู่” เขาทำเสียงหงุดหงิดใส่ตำรวจหนุ่มคนที่จ้องหน้ากิ่งฟ้า
“งั้น นายจัดการเปิดเลย” ตำรวจคนนี้หันไปหาช่างกุญแจ
ไม่นานหลังจากช่างกุญแจเปิดกระเป๋าได้แล้ว กิ่งฟ้าเห็นเสื้อผ้าของเธออยู่ในนั้น ตำรวจคนนี้จึงพยักหน้าให้เธอเข้าไปสำรวจของภายใน เธอพยายามค้นหาเงินดอลลาร์ที่ซุกซ่อนไว้แต่ไม่พบ หน้าตาของหญิงสาวขณะนี้มองจ้องหน้านายคนที่แย่งกระเป๋ากับเธออย่างเอาเรื่อง
“คุณ... เงินฉันหายไปน่ะ เอาไงดีล่ะเนี่ย” กิ่งฟ้าชักสีหน้าไม่พอใจใส่เขา
“อ้าววว... ผมกลายเป็นจำเลย ขโมยเงินเหรอครับ มีหลักฐานไหม” เขาแย้งทันที
“จะหาใครเป็นพยานได้ไหมครับ” ตำรวจหนุ่มถามขึ้น
“จะไปหาที่ไหนได้ล่ะ ฉันอยู่ต่างประเทศ เก็บเงินไว้ในกระเป๋าใบนี้ ลืมนึกถึงไปเลยอ่ะ” น้ำเสียงละห้อย
“คุณอาจจะลืมก็ได้...” เขาพูดกลับมาดูดีมากเลย แต่ในความรู้สึกของกิ่งฟ้าหดหู่มาก
“เงินตั้งสองหมื่นบาท ถ้าแลกคืน” เธอถอนหายใจ ไม่รู้ว่าไปลืมไว้ที่ไหน แต่เธอคิดยังไงก็นึกว่าซ่อนเอาไว้ในกระเป๋าเดินทางใบนี้
“ผมจะช่วยยังไง...ได้ครับ” ตำรวจหนุ่มมองหน้าหญิงสาวที่กำลังทำหน้าละห้อย
“ยังไงล่ะ... สองหมื่นเชียวนะคุณตำรวจ” เธอมองจ้องหน้าทั้งสองคน
“ไอ้หมอ... ต้องรับผิดชอบล่ะงานนี้” ตำรวจคนนี้ท่าทางสนิทสนมกับชายคนนี้
“คุณลองเอากระเป๋ากลับไปค้นดูอีกครั้ง ผมว่าถ้าไม่ลืมไว้ตรงไหน มันต้องอยู่ในนี้ ผมไม่ได้เปิดกระเป๋าคุณเลย”
“เหรอคะ... แน่ใจ” กิ่งฟ้าทำหน้าสงสัย ไม่รู้ว่าเขาเป็นคนดีหรือคนร้าย
“เฮ้อ... ผมจะทำไปเพื่อ...???!!!” เขาชักสีหน้าไม่พอใจเธอ
“งั้นผม...จะให้เจ้าหน้าที่อีกคนลงบันทึกประจำวันไว้ล่ะกัน ว่าเงินคุณหายไปตามที่บอก” ตำรวจหนุ่มคนนี้เดินเข้าไปข้างในเรียกเจ้าหน้าที่อีกคนมาลงบันทึกประจำวันให้
“ฉันแจ้งความ... กล่าวหาคุณหรือเปล่า” กิ่งฟ้าเป็นกังวลเหมือนกัน
“ไม่เป็นไร... หากคุณหาไม่เจอ ผมใช้คืนให้” ชายหนุ่มยิ้มให้เธอ
“โห... ตั้ง สองหมื่นเชียวนะ”
“คุณอยากได้เป็นดอลลาร์ หรือเงินไทย ผมจัดการให้” สีหน้าของเขาไม่มีแววกังวลใดใด เงินแค่สองหมื่นบาทคงเล็กน้อยสำหรับเขาสินะ
หลังจากเธอได้ใบแจ้งความแล้ว ชายหนุ่มคนนี้กำลังขอตัวกลับ เขานึกขึ้นมาได้จึงหันหลังมาเอ่ยสั้นๆ
“เสาร์อาทิตย์นี้คุณพอมีเวลาไหม... ผมอยากเชิญมาทานข้าวเย็น โทรมานัดก่อน ผมจะเอาเงินให้”
“โอะ... ตกลงคุณเอาเงินของฉันไปใช่ไหม” กิ่งฟ้าโพล่งออกไป
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 10
แสดงความคิดเห็น