บทที่ 156 หาเงินจากสองเผ่าพันธุ์

-A A +A

บทที่ 156 หาเงินจากสองเผ่าพันธุ์

บทที่ 156 หาเงินจากสองเผ่าพันธุ์

หลังจากจัดการเรื่องเอกสารเสร็จเรียบร้อย ผู้อำนวยการก็รีบให้ลู่หยางและเด็ก ๆ ออกจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า

หลังออกมานอกประตู ลู่หยางก็โอบไหล่มู่ยี่ด้วยมือซ้ายและจูงมือมู่หยูด้วยมือขวา

“พวกเรากลับบ้านกันเถอะ”

มู่ยี่หันไปมองตึกของสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าพร้อมกับนึกถึงประสบการณ์แย่ ๆ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เขาจึงหันไปมองหน้าลู่หยางพร้อมกับพูดขึ้นมาอย่างจริงจัง

“พี่ลู่หยาง ตอนนี้ผมยังไม่มีอะไรตอบแทนแต่ในอนาคตผมจะต้องตอบแทนบุญคุณครั้งนี้อย่างแน่นอน”

ลู่หยางกระชับไหล่ของเด็กหนุ่มเอาไว้แน่นเพื่อป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายคุกเข่าลงไปบนพื้น

“ตอนนี้พวกนายเป็นพี่น้องของฉันแล้วนะ ต่อไปพวกเราจะพยายามด้วยกันเพื่อจะทำให้ทุกคนในครอบครัวมีความสุข”

“ครอบครัว!?”  มู่ยี่และมู่หยูร้องไห้ในอ้อมแขนของลู่หยาง และดวงตาที่เคยหม่นหมองมันก็เริ่มกลับมามีความหวังอีกครั้ง

“พี่ลู่หยาง ผมพอจะทำอะไรได้บ้าง? ผมไม่อยากจะเป็นภาระของพี่” มู่ยี่กล่าว

“นายยังชอบเล่นเกมอยู่ไหม? เดี๋ยวพี่จะซื้อหมวกเกมให้นายกับน้องคนละอัน” ลู่หยางกล่าว

เมื่อก่อนมู่ยี่ชอบเล่นเกมคอมพิวเตอร์มาก แต่หลังจากเข้าสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าเขาก็ไม่ได้เล่นเกมมา 2 ปีแล้ว

“ผมไม่เล่นครับ” มู่ยี่กล่าว

ท่าทางของเด็กหนุ่มทำให้ลู่หยางเผยรอยยิ้มขึ้นมาไม่ได้ระหว่างเดินทางกลับเขาจึงเล่าสิ่งที่เขามอบหมายให้อีกฝ่ายทำ เมื่อเด็กหนุ่มรู้ว่าการเล่นเกมก็สามารถหาเงินได้ มันก็ทำให้เขาเบิกปากกว้างด้วยความประหลาดใจ

“เราหาเงินในเกมได้จริง ๆ เหรอครับ?” มู่ยี่ถาม

“ฉันจะโกหกนายไปทำไม” ลู่หยางกล่าวระหว่างพาสองพี่น้องและฮั่นจงไปยังร้านขายหมวกเกมข้างมหาวิทยาลัย ซึ่งหลังจากเลือกซื้อหมวกเกมให้ทั้งสองคนแล้วพวกเขาก็เดินทางกลับบ้าน

ตอนนี้เสี่ยวเหลียงกับสามพี่น้องตระกูลฮั่นออกจากเกมแล้วและกำลังทำอาหารด้วยกัน เพราะก่อนหน้านี้พวกเขาโทรหาลู่หยางและได้รู้ว่าทั้งคู่ออกจากบ้านไปทำอะไร

เมื่อฮั่นอิ่งเห็นใบหน้าน้อย ๆ ที่เหมือนตุ๊กตาของมู่หยู เธอก็อดไม่ได้ที่จะเข้าไปอุ้มเด็กสาวเอาไว้ในอ้อมกอด

“ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะจ๊ะ”

เมื่อมู่หยูสัมผัสได้ถึงความจริงใจของฮั่นอิง ดวงตาของเธอก็เริ่มชื้นขึ้นอีกครั้ง

ฮั่นเฟยและฮั่นอวี่ก็รู้สึกสงสารสองพี่น้องตระกูลมู่มากเหมือนกัน ท้ายที่สุดเมื่อไม่กี่วันก่อนพวกเขาก็เกือบจะเสียพ่อของตัวเองไป พวกเขาจึงเข้าใจความเจ็บปวดของการสูญเสียญาติพี่น้องเป็นอย่างดี

เดิมทีมู่ยี่กังวลว่าสามพี่น้องตระกูลฮั่นจะไม่ยอมรับพวกเขา แต่เมื่อได้เห็นท่าทางของทั้งสามเด็กหนุ่มก็วางใจไปได้แล้วครึ่งหนึ่ง

เสี่ยวเหลียงรู้จักพี่น้องตระกูลมู่อยู่แล้ว ทั้งคู่จึงยิ่งดีใจที่มีคนรู้จักอยู่ในบ้านเพิ่มมาอีกคน ขณะเดียวกันฮั่นจงรู้สึกไม่ค่อยสบาย เขาจึงขอกลับห้องไปพักผ่อน ลู่หยางจึงพาเด็ก ๆ นั่งพูดคุยอย่างสนุกสนานเป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมง

เมื่อพูดคุยกันถึงเรื่องเกม มู่ยี่ก็ถามขึ้นมาว่า

“พี่จะให้ผมเลือกเล่นเผ่าพันธุ์ไหนครับ?”

“น้องชาย ตอนนี้รอบ ๆ ตัวฉันมีคนที่ฉันไว้ใจเพียงแค่ไม่กี่คน หากเป็นไปได้ฉันก็อยากจะให้นายเลือกเล่นเผ่าหมาป่า” ลู่หยางกล่าวอย่างขอโทษ

“ไม่มีปัญหาครับ” มู่ยี่กล่าว ซึ่งในความเป็นจริงรูปร่างของเผ่าหมาป่าบนกล่องหมวกเกมก็ค่อนข้างเท่เลยทีเดียว

“แล้วหนูล่ะคะ ต้องทำอะไร?” มู่หยูยกมือถาม

ลู่หยางหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดว่า “หมวกเกมนี้นอกจากจะใช้เล่นเกมแล้วยังใช้เรียนหนังสือได้ด้วย ต่อไปนักเรียนจะเริ่มเข้ามาเรียนในเซคคัลเวิลด์มากขึ้น หากฉันเดาไม่ผิดหลังเปิดเทอมใหม่โรงเรียนบางแห่งก็น่าจะเริ่มทดลองใช้การเรียนผ่านทางระบบเสมือนจริงแล้ว ถ้าช่วงนี้เธอไม่มีอะไรทำก็เข้าไปเล่นเกมกับฮั่นอิงก็ได้”

“ได้ค่ะ เดี๋ยวหนูจะช่วยดูแลน้องเอง” ฮั่นอิ่งกล่าว

ตั้งแต่เด็กจนโตเธออยู่กับผู้ชายมาโดยตลอด เมื่อในวันนี้เธอมีน้องสาวเธอจึงดีใจมาก แน่นอนว่ามู่หยูก็ดีใจด้วยเช่นกัน

“ถ้างั้นพวกเรามาเข้าเกมกันเถอะ หลังจากสร้างตัวละครแล้วมู่ยี่ส่งคำขอเป็นเพื่อนมาหาพี่ด้วย ส่วนมู่หยูรอพี่ในเมืองเซนต์กอลล์ก่อน หลังพี่จัดการธุระเสร็จแล้วเดี๋ยวพี่จะรีบไปหา” ลู่หยางกล่าว

“ได้ครับ/ค่ะ” มู่ยี่กับมู่หยูพูดพร้อมกันก่อนที่ทั้งสองจะสวมหมวกเพื่อเล่นเกม

หลังจากทุกคนเข้าร่วมเกมเรียบร้อยแล้วมู่ยี่ก็ส่งคำขอเป็นเพื่อนไปหาลู่หยาง เมื่อทั้งสองนัดแนะตำแหน่งกันได้เรียบร้อยแล้วลู่หยางที่ได้เห็นหน้าตาที่เด็กหนุ่มเลือก ซึ่งมันก็ทำให้เขาอดที่จะถอนหายใจออกมาไม่ได้

รูปร่างตัวละครของมู่ยี่ดุดันมากและเพียงแค่มองมันก็ทำให้ผู้คนรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

“ทำไมแต่งตัวละครแบบนี้ล่ะ?” ลู่หยางถาม

“ถ้าผมหน้าโหดคนอื่น ๆ จะได้ไม่กล้ามารังแกผมและมันก็จะทำให้ผมปกป้องน้องสาวได้ง่ายขึ้น” มู่ยี่กล่าวอย่างภาคภูมิใจ

ลู่หยางรู้อยู่แล้วว่าเด็กหนุ่มจะพูดแบบนี้ เพราะในชาติก่อนตอนที่อีกฝ่ายเล่นเผ่าพันธุ์มนุษย์ มู่ยี่ก็เลือกรูปร่างตัวละครที่ดุดันที่สุดด้วยเช่นกัน

“ผมต้องทำอะไรต่อครับ?” มู่ยี่ถาม

ลู่หยางหยิบสูตรน้ำยาต้านพิษออกจากกระเป๋า ก่อนที่จะยื่นให้กับเด็กหนุ่ม

“พอผู้เล่นเผ่าหมาป่าถึงเลเวล 8 พวกเขาจะเริ่มเข้าดันเจียนถ้ำแมงมุม แต่พิษของพวกแมงมุมรุนแรงมากพวกเขาจึงจำเป็นจะต้องใช้ยาต้านพิษเพื่อเคลียร์ดันเจียน พี่มีร้านอยู่ร้านหนึ่งทางใต้ของเมืองต่อไปนายจะต้องอยู่ที่นั่นเพื่อผลิตและขายยาต้านพิษ”

หลังกล่าวจบลู่หยางก็มอบโฉนดที่ดินให้มู่ยี่พร้อมกับพาไปซื้อวัตถุดิบสำหรับยาต้านพิษ 100 ชุด จากนั้นเขาก็เดินไปเช่าห้องปรุงยาก่อนจะสอนเด็กหนุ่มให้ผลิตยาต้านพิษไปทีละขั้นตอน

มู่ยี่สมแล้วที่เคยเป็นหัวหน้านักปรุงยาภายในกิลด์เมื่อชาติก่อน เพราะเขาสามารถเรียนรู้วิธีการผลิตยาต้านพิษได้อย่างรวดเร็ว หลังจากเวลาผ่านพ้นไปเพียงแค่ 1 ชั่วโมงอัตราความสำเร็จในการปรุงยาของมู่ยี่ก็สูงถึง 70% แล้ว

ต่อมาลู่หยางก็สอนวิธีการปรุงยาครั้งละมาก ๆ ซึ่งในคราวนี้มู่ยี่ก็ไม่ได้เรียนรู้ด้วยอัตราความเร็วเท่าเดิม

ครึ่งชั่วโมงต่อมาลู่หยางก็ดูเวลาก่อนจะเห็นว่ามันใกล้จะ 6 โมงเย็นแล้ว

“พี่บันทึกวิธีการปรุงยาทุกอย่างเอาไว้ในวิดีโอแล้วเดี๋ยวพี่จะส่งให้ทีหลัง นี่คือสูตรน้ำยาต้านพิษอีกเก้าอันเดี๋ยวนายเอาสูตรพวกนี้ไปให้กับคนเก้าคนที่พี่จะส่งข้อมูลให้ทีหลัง จงใช้สูตรยาต้านพิษดึงดูดให้พวกเขามาทำสัญญา หลังจากนี้พวกเขาจะกลายมาเป็นลูกน้องของนาย”

ลู่หยางทำการส่งตัวอย่างสัญญาพร้อมกับอธิบายวิธีการทำสัญญาให้กับอีกฝ่ายอย่างละเอียด

“ส่วนเรื่องการจัดหาวัตถุดิบ นายไปหาสกายวูฟที่เป็นหัวหน้ากิลด์สกายวูฟลีเจี้ยนได้เลย พี่บอกกับเขาเอาไว้ก่อนแล้วว่าจะส่งคนไปเจรจาเรื่องซื้อสมุนไพรในช่วงนี้ แต่อย่าบอกเขานะว่าพี่เป็นมนุษย์และอย่าบอกเขาด้วยว่าวัตถุดิบที่นายได้มาคือวัตถุดิบสำหรับการปรุงยาต้านพิษ หลังจากขายยาได้เงินมาแล้วให้เก็บเงินส่วนหนึ่งเอาไว้หมุนเวียน เงินอีกส่วนเอาไว้อัปเกรดร้านขายยา เงินที่หมุนเวียนในร้านขายยานายสามารถใช้สอยได้เลยตามสบายแค่มาบอกพี่ทีหลังว่าใช้เงินพวกนั้นไปทำอะไรก็พอ”

“ได้ครับ” มู่ยี่จดจำสิ่งที่ลู่หยางบอกอย่างตั้งใจ

“ฉันขอฝากที่นี่เอาไว้กับนายด้วยนะ แต่พี่เล่นเป็นเผ่ามนุษย์เลยไม่สามารถมาหาที่นี่ได้บ่อย ๆ ต่อไปร้านยาจะขายดีไหมมันก็ขึ้นอยู่กับนายแล้ว” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับตบไหล่เด็กหนุ่มเบา ๆ

“ผมจะพยายามพัฒนาร้านขายยาอย่างสุดความสามารถครับ” มู่ยี่กล่าวพร้อมกับพยักหน้าอย่างจริงจัง

“ดี ถ้างั้นนายก็ติดต่อไปหาสกายวูฟได้เลย เดี๋ยวพี่ต้องพามู่หยูไปเก็บเลเวลแล้ว” ลู่หยางกล่าวก่อนที่ร่างของเขาจะกลายเป็นแสงสีแดง ซึ่งหลังจากที่เขาได้มาปรากฏตัวในวิหารเทพอสูร เขาก็เดินทางผ่านทางบ้านของคาห์นเพื่อไปยังเมืองเซนต์กอลล์

 

 


 

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2025 keangun. All Right Reserved.