บทที่ 197: ขุดหาโสม!

-A A +A

บทที่ 197: ขุดหาโสม!

“เป็นไปได้อย่างไร!” มู่จวินเซิ่งรู้ว่าคนที่ถูกพิษจะถูกคนของแคว้นหนานซวนควบคุม และตอนนี้มู่จวินฝานก็ถูกพิษเช่นกัน มันทำให้เขาตื่นตระหนก “มีวิธีถอนพิษหรือไม่? เราจะปล่อยให้พี่ใหญ่ถูกชาวหนานซวนควบคุมเช่นนี้ไม่ได้!”

สำหรับแม่ทัพจ้าวนั้นคือเรื่องหนึ่ง

แต่ในฐานะองค์รัชทายาทของแคว้นเป่ยหลง มู่จวินฝานเป็นถึงมกุฎราชกุมารที่จะครองบัลลังก์ในอนาคต

หากเขาถูกคนของแคว้นหนานซวนควบคุม มันก็ไม่อาจบอกได้ว่าในอนาคตแคว้นเป่ยหลงจะเกิดปัญหาอะไรขึ้นบ้าง

“เรารู้วิธีถอนพิษแล้ว” มู่ไป๋ไป่ตอบเสียงเบา “ยาถอนพิษอยู่ในเมืองหลวง ตอนที่ข้าอยู่ที่เมืองเย่เฉิง เสด็จอาได้ช่วยส่งจดหมายไปที่เมืองหลวงเรียบร้อยแล้ว”

“แม้ว่าเหยี่ยวตัวนั้นจะบินโดยไม่หยุดพัก แต่อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาครึ่งเดือนกว่าที่ยาถอนพิษจะมาถึงมือเรา”

“ครึ่งเดือน…” คิ้วของมู่จวินเซิ่งขมวดเข้าหากันแน่นขึ้น “ดูเหมือนว่าตั้งแต่ที่แม่ทัพจ้าวถูกพิษจะผ่านไปไม่ถึงครึ่งเดือนด้วยซ้ำ”

มู่ไป๋ไป่เม้มปากแน่นโดยที่ไม่ได้พูดอะไรออกไป

เดิมที เมื่อวานนี้เธอยังมีความหวังที่จะรักษาอาการป่วยของมู่จวินฝาน เธอภาวนาว่าพี่ชายของเธอเพียงแค่เป็นหวัดหรือไม่ก็เซียวถังอี้ตรวจชีพจรผิด 

หลังจากที่พี่ใหญ่ตื่นจากการหลับใหล ทุกอย่างก็จะกลับมาเป็นปกติ

แต่ในวันนี้ระหว่างที่เดินทาง ใบหน้าของพี่ชายคนโตกลับแย่ลงเรื่อย ๆ และตัวของเขาก็เย็นลงเรื่อย ๆ เช่นกัน จากนั้นเธอก็ได้รู้แล้วว่ามันเป็นไปตามที่เจ้าสัตว์ประหลาดพูด

มู่จวินฝานถูกพิษเล่นงานเข้าแล้ว!

“ข้าได้ส่งจดหมายถึงเจียงเหยาเรียบร้อยแล้ว ในอีก 2 วันนางจะเดินทางมาถึง” เซียวถังอี้วางถ้วยชาลงแล้วพูดเสียงแผ่วเบา “ในขณะนี้รัชทายาทยังคงปลอดภัยดี ตอนนี้เรายังมีเรื่องที่สำคัญกว่าให้ต้องไปจัดการ”

หลังจากที่เด็กหนุ่มเอ่ยเตือน มู่จวินเซิ่งจึงมีสติกลับมา

ถูกต้อง ปัจจุบันมีหลายสิ่งสำคัญกว่าที่เขาจะต้องแก้ไข

“เสด็จอา” มู่จวินเซิ่งระงับอารมณ์ของตัวเองและพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า “ตอนนี้พี่ใหญ่ถูกพิษแล้ว กระหม่อมจึงจำเป็นต้องพึ่งพาพระองค์ในการจัดการเรื่องภายในกองทัพ”

“คนของแคว้นหนานซวนได้ควบคุมแม่ทัพจ้าวไปแล้ว กระหม่อมคิดว่าพวกเขากำลังจะเริ่มสงครามกับแคว้นเป่ยหลงในไม่ช้า”

“ตอนนี้ในกองทัพมีเพียงไม่กี่คนที่รู้ความจริง พอถึงเวลาที่สงครามเริ่มต้นขึ้น กระหม่อมเกรงว่าจะเกิดความวุ่นวายจนไม่อาจควบคุมได้”

“ดังนั้นกระหม่อมจึงอยากจะไปช่วยเหลือแม่ทัพจ้าวออกจากแคว้นหนานซวนให้เร็วที่สุด”

 เซียวถังอี้ประสานนิ้วและวางศอกไว้บนโต๊ะ ในขณะที่เอ่ยปากว่า “เรื่องนี้เราค่อยคุยกันอีกครั้ง ตอนนี้มีเรื่องที่สำคัญกว่าต้องจัดการ”

“เจ้าไปเรียกแพทย์ทหารทุกคนในกองทัพมาที่กระโจมของข้า ข้ามีเรื่องจะสั่งพวกเขา”

มู่จวินเซิ่งไม่ได้ตั้งคำถามกับอีกฝ่าย เขาหันหลังเดินออกไปเรียกแพทย์ทหารทันที

“องค์หญิง… พระองค์กินอะไรสักหน่อยเถิดเพคะ” หลัวเซียวเซียวกับจื่อเฟิงถืออาหารจานร้อนเข้ามา “วันนี้พระองค์แทบไม่ได้กินอะไรเลย”

“กองทัพต้องเดินด้วยท้อง หากเจ้าไม่กินข้าว เจ้าคงไม่มีแรงทำอะไรและคงจะเสียการใหญ่” เจ้าส้มที่นอนอยู่บนเก้าอี้ยาวยืดตัวอย่างเกียจคร้าน

“เจ้าส้ม!” มู่ไป๋ไป่ตวัดตามองแมวอ้วนเมื่อได้ยินคำพูดของมัน “อย่าใช้คำพูดเช่นนั้น!”

“โอ๊ย! เจ้าก็อย่าอ่อนไหวเกินไปนักสิ!” เจ้าส้มตกใจจนขนหัวลุก ก่อนที่มันจะกลอกตามองอีกฝ่าย “ข้าหมายถึงว่าพี่เจ้าจะต้องไม่เป็นอะไรแน่นอน”

“ดูสิ เซียวถังอี้ได้จัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว”

“สิ่งที่เจ้าควรทำตอนนี้คือกินข้าวให้อิ่มแล้วรอให้โสมส่งมาถึง”

มู่ไป๋ไป่เม้มปากตัวเอง แต่ก็ยังไม่ยอมขยับไปไหน

ขณะนั้นแมวตัวโตเปลี่ยนท่าทางเป็นการนั่งเก็บขาไว้ที่อก “บอกข้าหน่อยสิว่าเจ้าจะปกป้องรัชทายาทเช่นนี้ทุกวันเลยหรือ เจ้าช่วยรักษารัชทายาทได้หรือไม่ หรือเจ้าเสกโสมขึ้นมาได้?”

“ครั้งนี้นับว่าเขายังโชคดี”

“ถึงแม้จะมีคนบอกว่าการหาต้นโสมที่มีจิตวิญญาณนั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก แต่ในป่าก็มีต้นโสมมากมายที่มีจิตวิญญาณ เพราะที่แบบนั้นทำให้พวกมันได้ดูดซับพลังฟ้าดิน แม่เจ้าไม่จำเป็นต้องระวังตัวมากขนาดนั้น…”

“เจ้าส้ม! เจ้าพูดว่าอะไรนะ?!” แววตาของมู่ไป๋ไป่พลันสดใส ก่อนที่เธอจะเข้าไปกอดแมวอ้วน 

“หา?” แมวส้มทำหน้าสับสน มันไม่รู้ว่ามันพูดอะไรที่ทำให้ท่าทีของเจ้าตัวเล็กเปลี่ยนไปแบบพลิกฝ่ามือ “ข้าแค่บอกว่ามู่จวินฝานโชคดี… และต้นโสมป่าที่มีจิตวิญญาณนั้นก็หาได้ง่าย ๆ พวกมันส่วนใหญ่มีจิตวิญญาณ ครั้งแรกที่ข้าเห็น—”

“ใช่แล้ว! นั่นแหละ!” มู่ไป๋ไป่กอดคออีกฝ่ายแล้วจูบมันเต็มแรง “ข้ากำลังกังวลว่าการส่งโสมจากเมืองหลวงมานั้นใช้เวลานานเกินไป ในระหว่างนี้อาจจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้มากมาย”

“เจ้าส้ม คำพูดของเจ้าทำให้ข้าเห็นทางออก!”

“ข้าสามารถใช้ช่วงเวลานี้ออกตามหาโสมป่าที่มีจิตวิญญาณได้”

“และตอนนี้ก็บังเอิญมีพวกเสือรออยู่ในป่าด้วย ข้าขอให้พวกมันช่วยข้าได้ด้วยเช่นกัน!”

“องค์หญิง พระองค์จะเข้าไปเก็บสมุนไพรในป่าหรือเพคะ?” หลัวเซียวเซียวกับจื่อเฟิงรู้สึกประหลาดใจ พวกเขาไม่ได้ทราบถึงสาเหตุที่แท้จริงของอาการป่วยขององค์รัชทายาท พวกเขาคิดเพียงว่าองค์หญิงหกต้องการจะไปเก็บโสมมาเพื่อบำรุงร่างกายอีกฝ่ายเพียงเท่านั้น

“ใช่แล้ว!” มู่ไป๋ไป่รีบนั่งลงบนโต๊ะ แล้วใช้ตะเกียบจ้วงข้าวคำใหญ่เข้าปาก แล้วเอ่ยปากออกมาในขณะที่ข้าวยังเต็มปาก “ระหว่างทางที่มาที่นี่ ข้าเห็นว่ามีป่าผืนใหญ่อยู่ใกล้ ๆ”

“ในเมื่อตอนนี้เราไม่มีอะไรทำ ถือว่าข้าเข้าไปเดินเล่นก็ได้”

“เจ้าส้ม เจ้าช่วยไปถ่ายทอดคำพูดแทนข้าด้วย หากใครสามารถช่วยข้าหาโสมที่ข้าต้องการได้ ข้าจะมอบน้ำตาให้พวกมัน!”

เด็กหญิงค่อนข้างใจกว้างในการทำข้อแลกเปลี่ยนกับพวกสัตว์อยู่แล้ว

โดยเฉพาะหลังจากที่เธอรู้ว่าน้ำตาของตนเป็นสิ่งล้ำค่า

“เอาอีกแล้วนะ!” เจ้าส้มผุดลุกขึ้นด้วยความโมโห “เจ้าไม่ควรใช้น้ำตาของจ้าวอสูรผู้สง่างามเป็นของตอบแทนง่าย ๆ เช่นนี้ เจ้าช่วยเห็นค่ามันหน่อยได้หรือไม่!”

“แต่น้ำตาพวกนี้ไม่สำคัญสำหรับข้า” มู่ไป๋ไป่โบกมือบอกให้อีกฝ่ายหยุดพูดแล้วรีบไปจัดการตามที่สั่ง “เจ้ารีบไปถ่ายทอดข้อความของข้าโดยเร็วที่สุด หลังจากที่เจ้ากลับมา ข้าจะมอบน้ำตาให้เจ้าด้วยเช่นกัน”

แมวอ้วนยกหลังเท้าขึ้นมาเกาหูตัวเอง คราวนี้มันไม่ได้ประท้วงอะไรอีก มันทำเพียงแค่ส่งเสียงในลำคอ ก่อนจะกระโดดลงจากโต๊ะแล้ววิ่งออกไปจากกระโจมจนฝุ่นตลบ

“เซียวเซียว จื่อเฟิง หลังจากกินข้าวเสร็จแล้วพวกเจ้าไปกับข้า” หลังจากมู่ไป๋ไป่วางแผนในใจเสร็จเรียบร้อย เธอก็มีกำลังใจขึ้นมาทันที

ตัวเธอนั้นไม่ชอบนั่งรอคอยให้ปาฏิหาริย์เกิด

แทนที่จะเสียเวลานั่งเฝ้าท่านพี่รัชทายาทเพื่อรอโสมจากเมืองหลวงส่งมาถึง เธออยากลองพยายามค้นหาโสมที่เติบโตในป่าใกล้ ๆ ดูก่อน

“เพคะ” หลัวเซียวเซียวกับจื่อเฟิงมองหน้ากันก่อนจะพยักหน้าตกลงอย่างลังเล “แต่เราต้องคุยกับท่านอ๋องก่อนหรือไม่เพคะ?”

“ทำไมต้องบอกเขาด้วย?” มู่ไป๋ไป่ที่กำลังดื่มน้ำหลังจากกินข้าวเสร็จแทบจะสำลัก “ช่วงนี้เขายุ่งมากและต้องจัดการเรื่องภายในกองทัพกับพี่รองอีก” 

“อีกอย่าง เราไปกันไม่ไกลหรอก เดี๋ยวเดียวก็กลับมา” 

“แต่…” หลัวเซียวเซียวยังคงไม่ยอมปล่อยวางเรื่องนี้ไป “องค์หญิง เราไปคุยกับท่านอ๋องก่อนเถิดเพคะ ตอนนี้เป็นช่วงเวลาเปราะบาง และเราก็อยู่ใกล้ชายแดนของแคว้นหนานซวนมากด้วย”

“จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราพบเจอกับคนของแคว้นหนานซวนอีกครั้ง?”

หลังจากมู่ไป๋ไป่ได้ยินสิ่งที่สหายตัวน้อยพูด เธอก็ย้อนนึกถึงความทรงจำอันเลวร้ายที่เธอถูกพวกหนานซวนลักพาตัวไปครั้งที่แล้ว เธอจึงเรียกใครบางคนมาเพื่อบอกให้เขาไปแจ้งเซียวถังอี้ว่าพวกเธอกำลังจะไปตามหาโสมป่าที่ป่าใกล้เคียง

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ คัดลอก หรือนำไปดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนแล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ที่ keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2025 keangun. All Rights Reserved.