บทที่ 111 ราชาซอมบี้
บทที่ 111 ราชาซอมบี้
6 โมงเช้า
ลู่หยางลุกขึ้นจากที่นอน ก่อนที่เขาจะได้เห็นฮั่นจงกำลังนำสามพี่น้องออกกำลังกาย
“ตื่นแล้วเหรอ?” ฮั่นจงถาม
ลู่หยางพยักหน้ารับและเมื่อเขามองดูทั้งสามพี่น้องกำลังออกกำลังกายอยู่ มันก็ทำให้เขานึกถึงช่วงเวลาในอดีตที่เขาได้ฝึกฝนร่วมกันกับกลุ่มคนเหล่านี้ทุกวัน
เมื่อฮั่นจงเห็นลู่หยางกำลังมองเขาสอนพี่น้องทั้งสามออกกำลังกาย เขาจึงเผยรอยยิ้มพร้อมกับพูดขึ้นมาว่า
“นี่คือการฝึกตอนเช้าตามปกติไม่ใช่การฝึกพิเศษเพราะสถานที่ยังไม่เหมาะสม การออกกำลังกายนี้ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับร่างกายเท่านั้น นายอยากจะลองมาออกกำลังกายด้วยกันไหม?”
“อาจารย์ ผมมีวิธีการฝึกพิเศษอยู่แบบหนึ่ง คุณช่วยดูให้หน่อยได้ไหมว่ามันเป็นยังไงบ้าง?” ลู่หยางตอบ
ฮั่นจงยิ้มและคาดเดาว่าวิธีการนี้คงเป็นวิธีการฝึกที่พ่อของลู่หยางได้สอนเอาไว้ แต่วิธีการนั้นย่อมไม่มีทางสู้วิธีการฝึกของเขาได้ แต่เขาก็กลัวจะทำร้ายความภูมิใจของลู่หยาง เขาจึงพูดออกไปว่า
“ลองทำดูสิ เดี๋ยวฉันจะดูให้”
“ครับ”
ลู่หยางเดินไปตรงกลางห้องนั่งเล่น ก่อนที่เขาจะใช้วิธีการฝึกร่างกายแบบพิเศษอย่างที่เคยเรียนรู้มาในอดีต
ว่ากันว่ามืออาชีพสามารถมองการเคลื่อนไหวเพียงแค่ครั้งเดียวได้อย่างทะลุปรุโปร่ง เมื่อลู่หยางเริ่มเคลื่อนไหวสีหน้าของฮั่นจงก็เปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้นมาในทันที
แม้แต่สีหน้าของสามพี่น้องก็กำลังเปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน เพราะวิธีการฝึกของลู่หยางดูไม่ต่างไปจากการทรมานตัวเองเลยแม้แต่น้อย และพวกเขาก็ไม่เข้าใจว่าทำไมอีกฝ่ายถึงต้องลงทุนทำถึงขนาดนี้
ชายหนุ่มฝึกต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 2 ชั่วโมงโดยไม่หยุดพัก แล้วในที่สุดเขาก็ทนไม่ไหวจนล้มลงไปกับพื้น
สามพี่น้องรีบเข้ามาช่วยพยุงลู่หยางในทันที แต่ชายหนุ่มกับฮั่นจงกลับพูดขึ้นมาพร้อมกันว่า
“อย่า!”
พวกฮั่นอิ่งหยุดยืนนิ่งพร้อมกับมองไปทางพ่อของตัวเองด้วยความไม่เข้าใจ
“ขั้นตอนสุดท้ายนี้เป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับกำลังใจของเขา ถ้าเขาไม่สามารถลุกขึ้นยืนด้วยพลังใจของตัวเองได้ ผลลัพธ์ของการฝึกฝนในวันนี้มันก็จะลดลงไปจากที่ควรจะเป็นอีกหลายเท่า” ฮั่นจงกล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว
ขณะเดียวกันลู่หยางก็กำลังรู้สึกปวดไปทั่วทั้งร่างจนแทบจะทนไม่ไหว แต่เขาก็ยังคงยิ้มให้ฮั่นจงด้วยความชื่นชม เพราะท้ายสุดเมื่อชาติที่แล้วอาจารย์ของเขาก็เคยให้ความคิดเห็นวิธีการฝึกนี้ในลักษณะเดียวกัน
การฝึกในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาทำให้ลู่หยางรู้สึกเจ็บปวดไปทั่วทั้งร่าง วันนี้การที่เขาอดทนฝึกฝนได้จนถึง 2 ชั่วโมงมันก็ถือว่าเป็นขีดจำกัดของร่างกายแล้ว
ชายหนุ่มพยายามลุกขึ้นมา 3-4 ครั้งแต่ก็ยังไม่สามารถลุกขึ้นยืนเองได้ ในที่สุดในความพยายามครั้งที่ 5 ลู่หยางก็ส่งเสียงตะโกนพร้อมกับลุกขึ้นยืนด้วยความยากลำบาก ก่อนที่จะค่อย ๆ เดินเข้าไปจัดการธุระส่วนตัวในห้องน้ำอย่างช้า ๆ
“พ่อครับวิธีการฝึกของพี่ลู่หยางมีประโยชน์ต่อร่างกายจริง ๆ เหรอ?” ฮั่นเฟยถามอย่างสงสัย
ฮั่นจงคิดอยู่นานก่อนที่เขาจะตอบว่า
“ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปฮั่นเฟยกับฮั่นอวี่ให้ฝึกวิธีการเดียวกับลู่หยาง ส่วนฮั่นอิ่งให้ใช้วิธีการเดิม”
“หา?” สองฝาแฝดอ้าปากค้างด้วยความตกใจ เพราะเพียงแค่มองดูพวกเขาก็รู้แล้วว่าวิธีการฝึกของลู่หยางเป็นวิธีที่ทรมานมากขนาดไหน
ลู่หยางได้ยินบทสนทนาจากในห้องน้ำ เขาจึงพูดขึ้นมาว่า
“การฝึกด้วยวิธีของฉันมีข้อดีอีกอย่างคือมันจะช่วยเพิ่มทักษะการเคลื่อนไหวของพวกนายภายในเกมและมันก็ช่วยให้พวกนาย PK เก่งขึ้นด้วย”
“จริงเหรอครับ!?”
“จริงสิ เดี๋ยวฉันจะให้พวกนายดูวิดีโอแล้วพวกนายก็จะรู้ว่าฉันไม่ได้โกหก” ลู่หยางตอบ
ลู่หยางได้บันทึกวิดีโอการต่อสู้ตัวต่อตัวกับวอลกิน, ไทแรนท์สเกเลตัล, ลูกน้องทั้งห้าคนของแบล็คบลัดและลูกน้องทั้งแปดคนของบลัดไทแรนท์เอาไว้ เพื่อใช้เป็นวิดีโอฝึกสอนพรรคพวกของตัวเองในอนาคต
“พวกเราจะตั้งไจเรียนครับ” สองฝาแฝดพูดขึ้นมาพร้อมกัน
“พ่อคะ ทำไมหนูถึงเรียนด้วยไม่ได้?” ฮั่นอิ่งถามอย่างสงสัย
ฮั่นจงมองไปทางฮั่นอิ่งด้วยความสงสาร เพราะในบรรดาลูก ๆ เขารู้สึกว่าตัวเองทำผิดต่อฮั่นอิ่งมากที่สุด ไม่ว่ายังไงเด็กคนนี้ก็เป็นผู้หญิงแต่เขากลับทำให้ลูกของตัวเองต้องมาทนรับความลำบาก
“สิ่งที่พ่อจะสอนให้หนูในอนาคตมันขัดกับวิธีการฝึกนี้” ฮั่นจงแต่งเรื่องโกหก
ลู่หยางที่ล้างหน้าแปรงฟันเสร็จแล้วจึงออกมาจากห้องน้ำและพูดว่า
“ฉันออกไปซื้อของก่อนนะ หลังจากฉันกลับมาพวกเราค่อยเข้าเกมด้วยกัน”
—
ลู่หยางเดินออกจากบ้านไปตลาดสดเพื่อซื้ออาหารสำหรับ 5 คนเป็นเวลา 3 วัน เมื่อเขากลับมาถึงบ้านพี่น้องทั้งสามก็ออกกำลังกายเสร็จแล้วชายหนุ่มจึงพาทั้งสามเข้าเกมอีกครั้ง
หลังสวมหมวกทั้งสี่ก็ปรากฏตัวในเมืองซาโรส เมื่อพี่น้องทั้งสามลืมตาขึ้นมาพวกเขาก็สังเกตเห็นแสงสว่างอันเจิดจ้าสีแดงสดใส
หลังจากทั้งสามปรับสภาพสายตาได้แล้วพวกเขาก็ได้พบว่าแท้ที่จริงแสงสว่างนี้มันเป็นแสงที่แผ่ออกมาจากคทาภายในมือของลู่หยาง
“อาวุธพี่มันจะเท่เกินไปแล้ว” ฮั่นเฟยกล่าว
ลู่หยางเริ่มรู้สึกว่าคทาของตัวเองโดดเด่นมากจนเกินไป เขาจึงเลือกทำการปิดเอฟเฟกต์ภายนอก
“เท่ใช่ไหมล่ะ? นี่แหละคทาใหม่ที่ฉันเพิ่งเปลี่ยนมา”
“ผมว่ามันจะต้องเป็นอาวุธที่ทรงพลังมากแน่ ๆ” ฮั่นอวี่กล่าว
“เดี๋ยวพวกนายก็รู้เองว่าคทานี่มันช่วยให้ฉันโจมตีแรงแค่ไหน” ลู่หยางกล่าว
ทั้งสี่รอเสี่ยวเหลียงอยู่ไม่นานก่อนที่พวกเขาจะเดินทางไปยังเส้นทางลับอีกครั้ง ซึ่งหลังจากเวลาผ่านพ้นไปหนึ่งคืนพื้นที่บริเวณด้านล่างของแท่นสูงก็มีซอมบี้เกิดใหม่มาประมาณ 20 กว่าตัว
“เริ่มได้” ลู่หยางสั่ง
ฮั่นอวี่ก้าวเท้าไปข้างหน้าพร้อมกับใช้สกิลยิงกระจายเพื่อดึงซอมบี้รอบ ๆ ทั้งหมดเข้ามา
ขณะเดียวกันลู่หยางก็สลับคทาพร้อมกับใช้สกิลไฟร์วอลล์จนทำให้พื้นที่ 8×8 เมตรกลายเป็นทะเลเพลิง
-544
ตัวเลขความเสียหายปรากฏขึ้นเหนือศีรษะซอมบี้อย่างต่อเนื่อง เมื่อพวกมันเดินเข้ามาในทะเลเพลิงที่ลู่หยางได้สร้างขึ้น
“แรงมาก!” ฮั่นเฟยอุทานอย่างตกใจ เพราะเขาจำได้ว่าเมื่อวานกำแพงไฟของลู่หยางสร้างความเสียหายได้ไม่ถึง 400 หน่วยด้วยซ้ำ
ทางด้านฮั่นอิ่งกับฮั่นอวี่ก็กำลังแสดงสีหน้าตกใจออกมาด้วยเช่นกัน
ทันใดนั้นมันก็มีเสียงนกกรีดร้องดังขึ้นมาพร้อมกับนกเพลิงขนาดใหญ่ที่กำลังบินเข้าหากลุ่มซอมบี้ตรงหน้า
เฟลมเบิร์ด!
-602
…
ซอมบี้ทั้ง 20 ตัวถูกโจมตีพร้อมกันจนทำให้พวกมันเหลือพลังชีวิตไม่ถึง 1,000 หน่วย จากนั้นพวกมันก็พยายามฝ่าฟันทะเลเพลิงมาอีกไม่กี่ก้าว ก่อนที่ร่างของพวกมันจะล้มลงบนพื้นทั้งหมด
ระบบ: คุณได้รับค่าประสบการณ์ 131 หน่วย
…
“โคตรเร็ว!” ฮั่นเฟยอุทานอย่างตกใจและด้วยความเร็วในการสังหารมอนสเตอร์ในระดับนี้ มันก็ช้ากว่าการใช้สกิลเมเทโอฟอลล์แค่ไม่เท่าไหร่เอง
ลู่หยางมองดูแถบแสดงค่าประสบการณ์ของตัวเองและได้พบว่ามันยังขาดประสบการณ์อีก 30,000 หน่วยก่อนจะขึ้นถึงเลเวล 12 หรือจะพูดว่าการสังหารซอมบี้อีกสองฝูงก็มากพอที่จะทำให้เลเวลของเขาเพิ่มขึ้นแล้ว
“พวกเราเดินเข้าไปข้างในกันเถอะ แผนที่ข้างในมีหลายส่วนและกว้างมาก ยิ่งเราเดินเข้าไปลึกเท่าไหร่มันก็ยิ่งมีมอนสเตอร์มากเท่านั้น” ลู่หยางกล่าว
“ได้ครับ/ค่ะ” เสี่ยวเหลียงและสามพี่น้องตอบรับก่อนจะเดินตามลู่หยางไป
ทั้งห้าคนสังหารมอนสเตอร์ตามทางไปเรื่อย ๆ จนมาถึงตำแหน่งที่พวกเขาสำรวจมาถึงเมื่อวาน หลังจากเดินมาถึงสะพานเล็ก ๆ ห่างออกไปทางด้านหน้า 60 เมตรก็เป็นทางแยกที่ทางซ้ายจะนำไปสู่สุสานชั้นที่ 2”
เมื่อลู่หยางพาเสี่ยวเหลียงและสามพี่น้องเดินมาจนถึงทางแยก ทันใดนั้นมันก็มีเสียงโซ่เหล็กดังขึ้นมาจากระยะไกล
ชายหนุ่มหยุดฝีเท้าในทันที ก่อนที่เขาจะตั้งใจฟังอย่างระมัดระวัง
“มีอะไรหรือเปล่าครับ?” ฮั่นเฟยถาม
ลู่หยางส่งสัญญาณให้ทั้งสามเงียบลง และในที่สุดพวกเขาก็ได้ยินเสียงโซ่เหล็กถูกลากไปกับพื้น
คลื่น!
“ตามฉันมา” ลู่หยางกล่าวก่อนที่จะเดินตรงไปแทนที่จะเลี้ยวซ้ายไปชั้น 2
สำหรับลู่หยางแล้วเสียงโซ่ที่ดังขึ้นนี้ช่างเป็นเสียงที่แสนไพเราะ เพราะมันมีเพียงราชาซอมบี้ที่จะสร้างเสียงโซ่แบบนี้ขึ้นมาได้
หลังจากพวกเขาสังหารมอนสเตอร์ไปเรื่อย ๆ ตามเส้นทาง ในที่สุดทั้งห้าก็มาถึงพื้นที่โล่งกว้างที่มีซอมบี้จำนวนนับไม่ถ้วน ท่ามกลางซอมบี้เหล่านั้นมีซอมบี้ตัวหนึ่งที่มีร่างกายสีดำสนิท ร่างกายของมันใหญ่โตกว่าซอมบี้ทั่วไปถึงสองเท่าและทั่วทั้งร่างของมันถูกพันด้วยโซ่เหล็กกล้า
ราชาซอมบี้ (ระดับอีลิท)
เลเวล 30
พลังชีวิต 90,000/90,000
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 29
- 👍 ถูกใจ
แสดงความคิดเห็น