บทที่ 108 แร่เหล็กดำ
บทที่ 108 แร่เหล็กดำ
ในขณะที่ลู่หยางกำลังไปเก็บเลเวลอยู่นั้น โลกภายนอกก็กำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
หลังจากเกมเปิดให้บริการมาถึงวันที่ 6 จำนวนของผู้เล่นทั่วโลกก็ทะลุ 300 ล้านคนเป็นผลสำเร็จ ในขณะที่จำนวนของผู้เล่นในประเทศทะลุ 70 ล้านคนแล้ว
โดยปกติแม้แต่เกมออนไลน์ที่มีเซิร์ฟเวอร์นับร้อยและมีจำนวนผู้เล่นเกินกว่า 70 ล้านคนก็ถือว่าเกมนั้นเป็นเกมระดับท็อปของโลกนี้แล้ว แต่สำหรับเซคคัลเวิลด์ผู้เล่นจำนวน 70 ล้านคนกลับกองอยู่ในเซิร์ฟเวอร์ของประเทศเดียวเท่านั้น
ด้วยจำนวนผู้เล่นปริมาณมหาศาล, กราฟฟิกที่สวยงามและระบบโฮโลแกรมที่ล้ำสมัย มันจึงทำให้เซคคัลเวิลด์สามารถพิชิตใจของผู้เล่นในยุคสมัยนี้ได้อย่างสิ้นเชิง
ช่วงบ่าย
ทีมอีสปอร์ตชั้นนำของประเทศหลายสิบประเทศประกาศเข้าร่วมเกมพร้อมกับตั้งกิลด์ขึ้นมาพร้อม ๆ กัน ซึ่งมันก็รวมถึงทีมอีสปอร์ตที่มีชื่อเสียงที่สุดอย่างทีม WE และ LGD ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 20
ขณะเดียวกันกิลด์ที่ก่อตั้งขึ้นมาแล้วก็ได้มีการประกาศเพิ่มทุน ยกตัวอย่างเช่น กิลด์ของบลัดไทแรนท์และฉงป้าที่ประกาศลงทุนเพิ่มถึงกิลด์ละ 50 ล้านเครดิต เพื่อว่าจ้างผู้เล่นระดับสูงและนำเงินทุนมาพัฒนากิลด์
เซี่ยหยูเว่ย, จางจื่อโป๋และเจิ้งหยวนก็กำลังประกาศรับสมัครผู้เล่นอยู่เช่นกัน ซึ่งในตอนนี้พวกเธอก็ได้รับสมัครสมาชิกเข้าร่วมกิลด์ไปมากกว่า 2,000 คนแล้ว ซึ่งข่าวในปัจจุบันไม่ถือว่าเป็นข่าวดีสำหรับพวกเธออย่างแน่นอน
ความเป็นจริงมันก็ไม่ต่างไปจากสิ่งที่ทุกคนทำนายเอาไว้ เพราะไม่ถึงครึ่งชั่วโมงหลังจากกิลด์ขนาดใหญ่ประกาศข่าว ผู้เล่นระดับสูงที่เพิ่งเข้าร่วมกิลด์ได้ไม่นานก็ลาออกจากกิลด์ทำให้กิลด์ของเซี่ยหยู่เว่ยที่มีสมาชิก 2,000 คนได้ลดลงมาเหลือไม่ถึง 1,300 คน ในพริบตา
“ไอ้พวกนี้มันเป็นบ้าอะไรกันหมด! ฉันเสนอเงินให้พวกมันตั้งเท่าไหร่ แต่พวกมันก็ยังลาออกไปอีก” เจิ้งหยวนกล่าวอย่างไม่พอใจ
ขณะเดียวกันจางจื่อโป๋ก็กำลังมองไปทางเจิ้งหยวนด้วยความโกรธ เพราะในตอนรับสมัครผู้เล่นอีกฝ่ายแสดงท่าทีออกมาอย่างจองหอง การกระทำนี้ย่อมทำให้สมาชิกที่เพิ่งเข้าร่วมกิลด์รู้สึกไม่ชอบใจเป็นธรรมดา เมื่อมันมีกิลด์อื่นยื่นข้อเสนอเหมือน ๆ กันมาให้ การที่คนพวกนั้นจะลาออกไปมันก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องแปลก
“ต่อไปนายก็ช่วยระวังท่าทีหน่อยได้ไหม ถ้านายทำตัวแบบนี้แล้วใครมันจะอยากมาอยู่กับพวกเรา” จางจื่อโป๋กล่าว
“นี่มันเป็นความผิดฉันอีกแล้วเหรอ?” เจิ้งหยวนพูดอย่างไม่พอใจ
“ถ้าไม่ใช่ความผิดนายแล้วมันจะเป็นความผิดใครได้? ผู้เล่นระดับสูงหลาย ๆ คนที่ออกไปต่างก็บอกว่าพวกเขาทนอยู่กับนายไม่ได้ทั้งนั้นแหละ” จางจื่อโป๋กล่าว
“มันเป็นใคร? บอกชื่อมา”
เมื่อเซี่ยหยู่เว่ยเห็นว่าทั้งสองคนมีท่าทีจะทะเลาะกัน เธอจึงเดินเข้ามาด้วยสีหน้าอันเย็นชา ก่อนที่จะส่งสัญญาณให้ทั้งสองคนเงียบ
“เจิ้งหยวนตอนนี้เกมกำลังเข้าสู่ความวุ่นวาย เมื่อกี้ตอนที่นายรับสมัครคนนายก็ทำตัวหยิ่งจองหองเกินไปจริง ๆ หากเราต้องการจะพัฒนาไปไกลกว่านี้เราจะพึ่งพาแค่กำลังของตัวเองไม่ได้ แต่เราจำเป็นจะต้องมีลูกน้องที่ไว้ใจให้คอยพึ่งพาด้วย”
“โอเค ๆ ฉันไม่พูดอะไรแล้วก็ได้” เจิ้งหยวนกล่าวพลางยกมือแสดงท่าทีว่ายอมแพ้
เซี่ยหยู่เว่ยขมวดคิ้ว เพราะมันดูเหมือนว่าอีกฝ่ายไม่ได้รู้สึกผิดกับการกระทำของตัวเองเลย หญิงสาวจึงหันไปพูดกับจางจื่อโป๋ว่า
“พวกเราไปรับสมัครคนต่อกันเถอะ”
หลานอวี่มองทุกคนพร้อมกับแอบถอนหายใจออกมาเงียบ ๆ จากนั้นเธอก็เปิดรายชื่อเพื่อนพร้อมกับส่งข้อความไปหาลู่หยาง
“อาจารย์อยู่ไหม?”
“มีอะไรหรือเปล่า?” ลู่หยางตอบกลับ โดยในตอนนี้เขาเพิ่งจัดการกับซอมบี้ทั้งฝูงลงได้พอดี
“พวกเรามีปัญหาในการรับสมัครคนน่ะ”
“ไหนเล่ารายละเอียดมาซิ” ลู่หยางถาม
หลานอวี่เริ่มเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ลู่หยางฟัง
“ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปถึงกิลด์จะรับสมัครคนได้แต่ก็ไม่มีทางรวมกำลังกันได้อย่างเด็ดขาด ฉันไม่ได้สนใจเรื่องเงินทองพวกนั้นเท่าไหร่หรอกนะ แค่รู้สึกว่าหากเป็นแบบนี้ต่อไปกิลด์คงไปแข่งกับใครไม่ได้แน่ ๆ สุดท้ายกิลด์ก็คงถูกทำลาย ในตอนนั้นเซี่ยหยู่เว่ยคงจะเสียใจ” หลานอวี่กล่าว
“เรื่องนี้ไม่มีใครช่วยอะไรพวกเธอได้หรอก ตอนนี้เซี่ยหยู่เว่ยแค่ยังไม่รู้สึกตัว รอให้เจิ้งหยวนสร้างเรื่องใหญ่ขึ้นมาสักเรื่องเดี๋ยวตอนนั้นเธอก็รู้ตัวเองว่าเธอต้องทำยังไง” ลู่หยางกล่าวซึ่งเขาก็พอจะคาดเดาได้อยู่แล้วว่าปัญหามันจะเป็นในลักษณะนี้
“ทำไมฉันรู้สึกว่าคุณกำลังสะใจ?” หลานอวี่พูดอย่างงอน ๆ
“คิดมากน่า ฉันแค่รู้สึกว่าเซี่ยหยู่เว่ยวางตัวสูงเกินไปหน่อย ตอนหลิวปังทำสงครามเพื่อรวมแผ่นดิน เขายังรู้จักให้เกียรตินักรบที่มีความสามารถเลย แต่หัวหน้าของพวกเธอแสดงสีหน้าเย็นชาออกมาตลอดเวลา แล้วเธอคิดว่ามันจะมีใครอยากมองหน้าเซี่ยหยู่เว่ยหรือเจิ้งหยวนล่ะ” ลู่หยางกล่าว
คำพูดของลู่หยางถูกต้องเกินไปจนทำให้หลานอวี่เถียงไม่ออก เธอจึงทำได้เพียงแต่ถอนหายใจและพูดว่า
“ช่างมันเถอะ ตอนนี้ถ้าเซี่ยหยู่เว่ยมีปัญหาฉันก็คงจะต้องใช้เงินเก็บออกมาช่วยเธอไปก่อน”
ลู่หยางทำได้เพียงแต่ส่ายหน้าอย่างจนปัญญา เพราะเรื่องนี้เขาไม่สามารถหยิบยื่นความช่วยเหลือไปให้สาวน้อยได้จริง ๆ ยิ่งไปกว่านั้นถึงแม้เขาจะหยิบยื่นความช่วยเหลือไปให้เซี่ยหยู่เว่ยได้ แต่ท้ายที่สุดเรื่องนี้ก็อาจจะทำให้คนอื่นคิดว่าเขามีเจตนาที่ไม่ดี
ชายหนุ่มปิดหน้าต่างแชทมองไปด้านหน้า ซึ่งในตอนนี้เสี่ยวเหลียงกับพวกฮั่นอิ่งกำลังเก็บรวบรวมไอเท็มที่ดรอปจากมอนสเตอร์
“ลูกพี่ อัตราการดรอปไอเท็มของที่นี่สูงมากเลย ผมได้อุปกรณ์ระดับเหล็กมาเพิ่มอีกชิ้นหนึ่งแล้ว” เสี่ยวเหลียงพูดอย่างตื่นเต้น
“ตรงนี้มีอุปกรณ์ระดับทองแดง 2 ชิ้นกับหนังสือสกิลอีกเจ็ดเล่มครับ” ฮั่นเฟยกล่าว
“มันอาจจะเพราะพวกเรามาจัดการกับพวกซอมบี้เป็นคนแรกก็ได้ อัตราการดรอปของพวกมันเลยสูงมากกว่าปกติ สกิลไหนใครเรียนได้ก็ให้เรียนไปเลย อีกสักพักพวกเราจะออกเดินทางกันต่อแล้ว” ลู่หยางกล่าว
“ได้ครับ/ค่ะ” เสี่ยวเหลียงกับสามพี่น้องขานรับ ก่อนที่พวกเขาจะแบ่งหนังสือสกิลกันเพื่อทำการเรียนรู้ ส่วนหนังสือสกิลเล่มไหนที่ไม่มีใครเรียนรู้ได้ พวกเขาก็ยื่นให้ฮั่นอิ่งเป็นคนเก็บพวกมันเอาไว้
อุโมงค์ลับมีระยะทางยาวมากและพื้นที่ด้านในก็เต็มไปด้วยซอมบี้ พวกลู่หยางจำเป็นจะต้องสังหารซอมบี้ไปถึงสามฝูงกว่าที่พวกเขาจะออกมายังลานกว้างได้สำเร็จ ในที่สุดหลังจากเดินไปยังทิศตะวันออกทุกคนก็มาหยุดพักบริเวณสะพานเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง
สะพานนี้มีความกว้างมากพอที่จะให้ผู้เล่น 2 คนเดินพร้อมกันได้ ซึ่งมันก็มีความกว้างเท่ากับระยะของสกิลไฟร์วอลล์พอดี ส่วนตัวสะพานก็มีความยาวเพียงแค่ 5 เมตร ทางผนังด้านหลังของสะพานถูกประดับเอาไว้ด้วยก้อนแร่ขนาดใหญ่สีเงินแวววาว
“ลูกพี่ นี่มันคืออะไรเหรอครับ?” เสี่ยวเหลียงเคาะก้อนแร่อย่างสงสัย
“นี่แหละคือสิ่งที่ฉันกำลังตามหาอยู่” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับหยิบอีเตอร์ออกมาส่งให้พี่น้องทั้งสามคน
“เสี่ยวเหลียงกับหมานรกสามหัวยืนขวางสะพานเอาไว้ ส่วนพวกเธอ 3 คนตามฉันมาขุดแร่ เมื่อไหร่ก็ตามที่ขุดได้แร่เหล็กดำก็ให้เอามันมาให้ฉัน เข้าใจไหม?”
อุโมงค์ลับแห่งนี้เป็นเหมือนกับเหมืองขนาดใหญ่ ซึ่งทางด้านในสามารถขุดแร่ได้ทุกด้าน เมื่อไหร่ก็ตามที่ผู้เล่นเจอก้อนแร่ในลักษณะนี้ พวกเขาก็สามารถขุดมันออกมาโดยมีอัตราการดรอปแบบสุ่มตั้งแต่แร่ดีบุก, แร่ทองแดง, แร่เงิน, แร่ทองและแร่เหล็กดำ
แร่เหล็กดำคือวัตถุดิบที่ลู่หยางต้องการนำไปตีบวกอุปกรณ์ แต่งานขุดแร่เป็นงานที่จำเป็นจะต้องใช้ทักษะไม่ใช่แค่การถืออีเตอร์เข้าไปขุดแบบสุ่ม ๆ เพราะท้ายที่สุดหากผู้เล่นทำการขุดโดยไม่รู้เรื่องอะไรเลย ถึงแม้พวกเขาจะขุดไปทั้งชั่วโมงแต่บางทีมันก็อาจจะไม่ได้แร่กลับมาเลยสักก้อน
สาเหตุที่ลู่หยางรู้วิธีการขุดแร่หนึ่งก็เพราะในชาติที่แล้วช่วงต้นเกมกิลด์ของเขาเป็นกิลด์ที่ยากจนมาก เพื่อความอยู่รอดเขาจึงพาพี่น้องภายในกิลด์มาขลุกตัวอยู่ในเหมืองตั้งแต่เช้าจรดค่ำ เมื่อนึกถึงตอนนั้นชายหนุ่มก็ทำได้เพียงแต่เผยรอยยิ้มออกมาอย่างอบอุ่น
พี่น้องทั้งสามไม่เคยขุดแร่มาก่อน แต่พวกเขาก็เป็นคนที่เรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วมาก ที่สำคัญทุกคนยังสนุกกับการขุดแร่ ทุกคนจึงขุดแร่ตั้งแต่บ่ายจนถึงค่ำ จนกระทั่งฮั่นจงมาเรียกพวกเขาด้านนอกเกมลู่หยางจึงบอกให้ทุกคนหยุดมือ
“พวกเรากลับเมืองกันเถอะ เสี่ยวเหลียงเอาอุปกรณ์ที่ได้ช่วงวันก่อนไปขายเป็นเงินเครดิตแล้วเอาเงินพวกนั้นไปให้พ่อแม่นายซะ” ลู่หยางกล่าว
ดูท่าแล้วลู่หยางจะมีคนเข้ากิลด์เพิ่มอีก 3 คน ติดกันงอมแงม 55555
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 29
- 👍 ถูกใจ
แสดงความคิดเห็น