บทที่ 101 สังหารในยามราตรี
บทที่ 101 สังหารในยามราตรี
ลู่หยางคุ้นเคยกับเทคนิคการปามีดที่ฮั่นจงสอนเป็นอย่างดี และเขายังได้ปรับปรุงวิธีการบางอย่างให้เหมาะสมกับสไตล์ของตัวเอง อย่างไรก็ตามในตอนนี้เขาได้กลับมาย้อนฟังความรู้พื้นฐานใหม่อีกครั้ง และมันก็ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกราวกับว่าตัวเองมีความเข้าใจในทักษะการปามีดมากยิ่งขึ้น
ระหว่างที่ฮั่นจงสอนลู่หยาง เขาก็สอนลูก ๆ ทั้งสามของตัวเองไปด้วย แต่เนื่องจากอาการบาดเจ็บที่ทำให้เสียเลือดมาก หลังจากสอนไปได้เพียงแค่พักเดียวในที่สุดชายคนนี้ก็หมดแรง
“อาจารย์ คุณไปนอนพักในห้องของพ่อผมก่อนเถอะ น้องอิ่งไปนอนที่ห้องฉันได้เลย ส่วนฉันกับน้องเฟยน้องอวี่จะนอนที่ห้องนั่งเล่นนี่เอง”
“แบบนั้นก็ได้ เฟย! อวี่! คืนนี้ลูกสองคนเป็นยามคอยเฝ้าระวังความปลอดภัยเอาไว้ด้วย” ฮั่นจงกล่าว
“ได้ครับ สองฝาแฝดพยักหน้ารับพร้อมกับแสดงสีหน้าออกมาอย่างโล่งอก
“ในห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำ ทุกคนไปอาบน้ำก่อนแล้วค่อยพักผ่อนกันนะครับ” ลู่หยางกล่าว
ฮั่นจงพยักหน้า จากนั้น 4 พ่อลูกก็เข้าไปอาบน้ำกันจนเสร็จ ซึ่งในระหว่างนั้นลู่หยางก็ทำการเปลี่ยนผ้าปูที่นอนผืนใหม่เอาไว้ภายในห้องนอนทั้งสองจนเรียบร้อย
หลังจากส่งฮั่นจงกับฮั่นอิ่งเข้าไปพักผ่อนในห้อง ชายหนุ่มก็เดินกลับมาที่ห้องนั่งเล่นก่อนจะได้เห็นฮั่นเฟยกับฮั่นอวี่กำลังนั่งดูโทรทัศน์อย่างสนใจบนโซฟา
“พวกนายอยากดูอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า?” ลู่หยางถามด้วยรอยยิ้ม
“พี่ลู่หยาง พี่ดูละครอะไรถึงเรียนรู้การปามีดได้แบบนั้น พวกเราอยากดูบ้าง” ฮั่นเฟยกล่าวโดยมีฮั่นอวี่พยักหน้ารับอยู่ใกล้ ๆ
พวกเขาสองพี่น้องแทบไม่มีพรสวรรค์ทางด้านการปามีดเหมือนผู้เป็นพี่ ผู้ที่ได้รับสืบทอดวิชาการปามีดจากพ่อของพวกเขาจริง ๆ จึงมีแต่ฮั่นอิ่งที่เป็นพี่สาวของพวกเขาเท่านั้น
ทันใดนั้นลู่หยางก็นึกขึ้นได้ว่าฮั่นเฟยมีความถนัดในเรื่องการต่อสู้ระยะประชิดและการลอบสังหาร ส่วนการโจมตีระยะไกลอย่างการใช้ปืนหรือการโจมตีระยะกลางอย่างการขว้างมีดก็ถือว่าเป็นจุดอ่อนของเขา
“ละครเรื่องนั้นมันจบไปนานแล้ว พรุ่งนี้ถ้ามีเวลาฉันจะหาในอินเตอร์เน็ตให้พวกนายดู ว่าแต่พวกนายไปหาเรื่องใครเอาไว้งั้นเหรอ? คนพวกนั้นถึงตามมาทำร้ายพวกนายแบบนี้” ลู่หยางถาม
ในชาติก่อน 4 พ่อลูกไม่เคยเล่ารายละเอียดในเรื่องนี้ให้เขาฟังเลย ส่วนตัวเขาเองก็มัวแต่หมกมุ่นอยู่กับการแก้แค้นจนลืมเรื่องนี้ไป ในตอนนี้เขามีโอกาสได้กลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง ชายหนุ่มจึงอยากจะแก้แค้นให้อาจารย์ที่ต้องเสียแขนไปในชาติก่อน
ฮั่นเฟยกับฮั่นอวี่ยังอ่อนต่อโลกมากและลู่หยางก็ยังเป็นคนที่หยิบยื่นความช่วยเหลือมาให้ยามที่พวกเขาเดือดร้อน ทั้งคู่จึงมองว่าอีกฝ่ายเป็นพี่ชายที่พวกเขาไว้ใจไปแล้ว
“เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟังเอง ตอนนั้นพวกเรา…”
หลังจากพูดคุยกันอย่างละเอียด ลู่หยางก็เข้าใจในที่สุดว่าฮั่นจงเผลอไปทำให้เจ้าถิ่นไม่พอใจจนอีกฝ่ายส่งคนมาฆ่า ฮั่นจงที่สู้เจ้าถิ่นไม่ได้จึงจำเป็นจะต้องถอยหนีกลับมาที่ประเทศจีน
อย่างไรก็ตามอีกฝ่ายก็มีอิทธิพลในประเทศจีนด้วยจึงสามารถตามหาโรงแรมที่พวกเขาเข้าพักได้ ฮั่นจงสามารถสังหารคนของอีกฝ่ายไปได้แล้วถึงสามคน แต่มันก็ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสจนซมซานหลบหนีมาที่นี่
“ตอนนี้อีกฝ่ายเหลือกี่คน?” ลู่หยางถาม
“น่าจะ 3 คนครับและพวกมันต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นนักฆ่ามืออาชีพ” ฮั่นอวี่ตอบ
“นักฆ่ามืออาชีพ?” ลู่หยางเผยรอยยิ้มอันเยือกเย็น เพราะใน 5 ปีสุดท้ายก่อนกลับมาเกิดใหม่ นักฆ่ามืออาชีพในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ถูกเขาสังหารไปไม่น้อยกว่า 200 คน
ลู่หยางลุกขึ้นยืดเส้นยืดสายแล้วถึงแม้ในตอนนี้ร่างกายของเขาจะแข็งแกร่งสู้ร่างกายในชาติก่อนของตัวเองไม่ได้ แต่มันก็ยังเป็นร่างกายที่แข็งแกร่งกว่าคนทั่วไปมาก ที่สำคัญร่างกายนี้ยังแข็งแรงกว่าร่างกายฮั่นจงที่ได้รับบาดเจ็บหนัก
ถ้าหากว่าแม้แต่ฮั่นจงที่ได้รับบาดเจ็บในชาติก่อนยังสามารถสังหารสามคนนั้นได้ ลู่หยางก็มั่นใจว่าตัวเองสามารถลงมือได้โดยไม่มีปัญหา
“พวกนายนอนพักกันสักงีบเถอะ เดี๋ยวฉันจะเป็นคนเฝ้ายามแทนพวกนายเอง” ลู่หยางกล่าว
“ไม่ได้ครับ” ฮั่นเฟยกล่าวแม้ว่าเขาจะอ่อนล้าจากการอดนอนมาหลายวันแล้วก็ตาม
“ไปนอนเถอะ อย่าลืมสิว่าพ่อของพี่ก็เคยเป็นทหารเหมือนกับพ่อของพวกนาย สิ่งที่พวกนายรู้ฉันก็เคยเรียนรู้มาแล้วเหมือนกัน” ลู่หยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ความจริงแล้วพ่อของลู่หยางไม่เคยสอนเทคนิคในระหว่างการเป็นทหารให้กับชายหนุ่มเลย แต่ตอนนี้เขาจำเป็นจะต้องพูดโกหกเพื่อหลอกล่อให้เด็กหนุ่มทั้งสองเข้าพักผ่อน
“ถ้างั้นพวกเราขอพักแป๊บนึงนะครับ ถ้ามีอะไรให้รีบปลุกพวกเราได้เลย” ฮั่นเฟยกับฮั่นอวี่พิงโซฟาเพราะท้ายที่สุดพวกเขาก็เหนื่อยล้ามากจริง ๆ
ลู่หยางยิ้มแต่ไม่ได้ตอบอะไร เขารอจนทั้งสองนอนหลับไปแล้วหยิบมีดบินจากกระเป๋าของฮั่นเฟย
ชายหนุ่มปิดไฟภายในบ้านและซ่อนตัวอยู่ในตู้เสื้อผ้าของห้องนั่งเล่น ในที่สุดเวลาก็ล่วงเลยผ่านไปจนกระทั่งตี 3 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่คนมักจะหลับลึกมากที่สุด
จู่ ๆ มันก็มีเสียงอันแผ่วเบาดังมาจากบริเวณประตู ลู่หยางจึงตั้งใจฟังอย่างระแวดระวังและคนที่เข้ามาในตอนนี้มันก็สามารถการันตีได้เลยว่าอีกฝ่ายคือนักฆ่าที่ถูกส่งมาเพื่อจัดการพวกฮั่นจง
แกรก!
เสียงปลดล็อกประตูดังขึ้นเบามาก ซึ่งถ้าหากว่าคนหลับสนิทพวกเขาก็จะไม่รู้ตัวเลยว่าในตอนนี้มีคนงัดประตูบ้านเข้ามาแล้ว
แกรก ๆ ๆ
เสียงคนร้ายพยายามงัดประตูอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่มันจะตามมาด้วยเสียงที่ดังกว่าเดิมเล็กน้อย
แกรก!
ประตูถูกเปิดออกในที่สุดพร้อมกับไฟในบ้านที่สว่างขึ้น ลู่หยางจึงรีบก้มตัวลงพร้อมกับหยิบมีดบินที่เตรียมเอาไว้
ฮั่นเฟยกับฮั่นอวี่ยังคงนอนหลับไม่รู้เรื่อง แต่ฮั่นจงตื่นขึ้นมาอย่างระแวดระวังและทันทีที่เขาเดินมายังประตูห้องนั่งเล่น เขาก็ได้พบกับนักฆ่าทั้งสามที่บุกรุกเข้ามาอย่างพอดี
เมื่อนักฆ่าทั้งสามเห็นฮั่นจง พวกเขาก็ไม่ได้ใช้ปืนแต่กลับชักมีดสั้นออกมาพร้อมกัน ก่อนจะพุ่งเข้าหาฮั่นจงที่เป็นเป้าหมาย
ฮั่นจงรีบหลบเข้าไปภายในห้องเพราะเขาไม่มีทางต่อสู้กับนักฆ่าทั้งสามคนพร้อม ๆ กันได้ ทางรอดเพียงอย่างเดียวคือการสู้ที่หน้าประตูเพื่อบังคับให้ศัตรูบุกเข้ามาได้เพียงคนเดียว
นักฆ่าทั้งสามคนก็รู้ดีว่าพวกเขาจำเป็นจะต้องบุกเข้าไปภายในห้องให้ได้ถึงจะลงมือได้สำเร็จ ทั้งสามจึงรีบตามฮั่นจงไปอย่างรวดเร็ว
ลู่หยางค่อย ๆ แง้มเปิดประตูตู้เสื้อผ้า ก่อนที่เขาจะเห็นฮั่นจงยืนป้องกันอยู่ตรงบริเวณประตู ซึ่งในตอนนี้ใบมีดของทั้งสองฝ่ายกำลังเกิดการปะทะกันอย่างดุเดือด
ฮั่นเฟยกับฮั่นอวี่ตื่นขึ้นมาเพราะเสียงอาวุธปะทะกัน แต่ก่อนที่พวกเขาจะเข้าไปช่วยพ่อของตัวเองเอาไว้ ทั้งคู่ก็ถูกชายชุดดำคนหนึ่งขวางทางเอาไว้เสียก่อน
“ฮั่นจงคราวนี้แกตายแน่! เราจะฆ่าครอบครัวของแกให้หมด!!” ชายชุดดำคนหนึ่งพูดด้วยสีหน้าอันดุร้าย
ฮั่นจงตัดสินใจจะต่อสู้จนตาย เพราะเขารู้ดีว่าหากตัวเองยอมแพ้พวกเขาพ่อลูกทั้งสี่คนจะต้องตายกันหมดแน่ ๆ มีเพียงการฆ่าสามคนนี้ให้ได้เท่านั้นจึงจะมีโอกาสช่วยลูก ๆ ของเขาได้
ฝีมือการใช้มีดของทั้งสามอยู่ในระดับที่ทำธรรมดามาก แต่น่าเสียดายที่ร่างกายของฮั่นจงได้รับบาดเจ็บจึงไม่สามารถแสดงฝีมือออกมาได้อย่างเต็มที่
ทันใดนั่นเองฮั่นจงก็สังเกตเห็นว่านักฆ่ามักจะเล็งจู่โจมไปที่แขนที่เขาได้รับบาดเจ็บ เขาจึงนึกวิธีแก้ปัญหาขึ้นมาได้ว่าถ้าหากเขาเสียสละแขนข้างนี้ไป มันก็จะเปิดโอกาสให้เขาสังหารเป้าหมายได้เหมือนกัน
ลู่หยางสังเกตเห็นว่านักฆ่าทั้งสองคนกำลังจู่โจมฮั่นจงอย่างเต็มกำลัง ขณะที่นักฆ่าอีกคนคอยขัดขวางฮั่นอวี่กับฮั่นเฟย มันจึงไม่มีใครสังเกตเขาที่ซ่อนตัวอยู่ในตู้ ชายหนุ่มจึงรอคอยจังหวะที่เหมาะสม ก่อนที่จะขว้างมีดบินทั้งสามเล่มออกไปปักหลังของนักฆ่าทั้งสามคนพร้อม ๆ กัน
ชายชุดดำทั้งสามคนชะงักค้างไปจากอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน และในการต่อสู้ระยะประชิดการเคลื่อนไหวที่ผิดพลาดเพียงแค่เล็กน้อยก็สามารถตัดสินการต่อสู้ได้ ฮั่นจงที่ได้เห็นทั้งสามเปิดช่องโหว่ออกมาพร้อมกัน เขาจึงใช้มีดสั้นเชือดคอทั้งสามจนล้มลงกับพื้น
ตอนแรกฮั่นจงคิดว่าสิ่งเหล่านี้เป็นข้อผิดพลาดของนักฆ่าทั้งสามคน แต่เมื่อเขาสังเกตเห็นมีดบินที่ปักหลังทั้งสามคนแล้วเขาจึงมองไปทางฮั่นอวี่กับฮั่นเฟยอย่างตกตะลึง
อย่างไรก็ตามเมื่อเขาสังเกตเห็นลู่หยางที่เดินออกมาจากตู้ เขาถึงได้รู้ว่าแท้ที่จริงการขว้างมีดในครั้งนี้เป็นฝีมือของลูกชายสหายเก่า
สุดยอด!
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 25
แสดงความคิดเห็น