บทที่ 86 ประกาศสงคราม
บทที่ 86 ประกาศสงคราม
ลู่หยางมองเข้าไปยังด้านในร้านค้าประมูลและได้พบบลัดไทแรนท์, เย่กู่ซิงพร้อมกับพรรคพวกในกิลด์บลัดเติสตี้กำลังอยู่ด้านหน้าอุปกรณ์ซื้อขาย หรือมันก็หมายความว่าคนพวกนี้ได้เห็นข้อความที่เขาทิ้งเอาไว้แล้ว
“ขอโทษด้วยครับหัวหน้า” เย่กู่ซิงขอโทษบลัดไทแรนท์ด้วยความหวาดกลัว ขณะที่ดีม่อนบลัดก็กำลังก้มหน้าไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมามองบลัดไทแรนท์ด้วยซ้ำ
ขณะเดียวกันบลัดไทแรนท์ก็รู้สึกโกรธจัดจนใบหน้าแทบจะกลายเป็นสีเขียว ท้ายที่สุดเขาก็เป็นถึงหัวหน้ากิลด์ที่มีสมาชิกมากกว่า 30,000 คน แต่เขาถูกกลับใครก็ไม่รู้ท้าทายโดยตรงไม่ต่างไปจากการพยายามประกาศสงคราม และด้วยข่าวนี้ที่กำลังแพร่สะพัดออกไป ถึงไม่มีใครมาบอกเขาก็รู้ว่าตอนนี้หัวหน้ากิลด์ใหญ่คนอื่น ๆ กำลังหัวเราะเยาะเขาอยู่
“หามันให้เจอแล้วฆ่ามันซะ!” บลัดไทแรนท์ตะโกนสั่ง
“ครับ! คราวหน้าผมจะฆ่ามันให้ได้” เย่กู่ซิงรีบพูดขึ้นมาอย่างร้อนรน
“ตอนนี้พวกเราใช้ผู้เล่นชั้นยอดกว่า 40 คนคอยติดตามมันอยู่ตลอดเวลา คราวนี้เราจะต้องฆ่ามันได้แน่ ๆ ครับ” ดีม่อนบลัดกล่าวอย่างหวาดกลัว
บลัดไทแรนท์พ่นลมหายใจออกมาอย่างเย็นชาและไม่พูดอะไรอีก สาเหตุที่เขายังไม่ซื้ออุปกรณ์พวกนั้นเพื่อดับต้นตอของข่าวลือนั่นก็เพราะเขามีเงินไม่มากพอ และมันก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้เขารู้สึกโกรธมากยิ่งขึ้นไปอีก
เมื่อบลัดไทแรนท์เดินออกมาผู้เล่นที่เคยยืนแออัดอยู่ตรงบริเวณประตูก็รีบหลีกทางในทันที โดยที่ลู่หยางกำลังยืนมองหน้าบลัดไทแรนท์อยู่ตรงนั้น
ระหว่างที่บลัดไทแรนท์กำลังเดินผ่านประตูเขาก็สัมผัสได้ถึงแววตาอันเยือกเย็นของลู่หยาง ก่อนที่เขาจะหันหน้ามาสบตาอย่างท้าทาย
อย่างไรก็ตามบลัดไทแรนท์ก็เดินจากไปโดยไม่คิดจะสนใจลู่หยาง ส่วนทางด้านเย่กู่ซิงกับดีม่อนบลัดก็กำลังก้มหน้าจนพลาดสังเกตเห็นลู่หยางไป
ฝูงชนกลับสู่สภาวะปกติอย่างรวดเร็ว การสนทนาของผู้เล่นก็กลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยทุกคนกำลังสงสัยว่าใครกันที่กล้าท้าทายบลัดเติสตี้
“มันเป็นคนของฉงป้าหรือเปล่า? ฉันได้ยินมาว่าเมื่อวานคนของฉงป้ากับบลัดไทแรนท์เพิ่งจะปะทะกันในแผนที่เลเวล 5 ตอนนั้นทั้งสองฝ่ายต่างก็ระดมพลกันมามากกว่า 5,000 คนเชียวนะ”
“บางทีอาจจะเป็นฝีมือของฉือมู่ก็ได้ เขาอาจจะจงใจใส่ร้ายฉงป้าเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายทำสงครามตัดทรัพยากรกันไป”
“ฉันว่าน่าจะเป็นแบล็คบลัดมากกว่า”
…
ระหว่างนั้นลู่หยางก็กำลังรับฟังบทสนทนาของทุกคนและทำได้เพียงแต่ส่งเสียงหัวเราะขึ้นมาอย่างเย็นชา เนื่องจากมันคงไม่มีใครคิดว่าคนที่กล้าทำเรื่องแบบนี้จะเป็นคนธรรมดาที่ไม่มีกิลด์หรือกลุ่มนายทุนคอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง
อย่างไรก็ตามเมื่อชายหนุ่มได้นึกถึงสายตาอันดูถูกของบลัดไทแรนท์เมื่อสักครู่ มันก็ทำให้ลู่หยางอดที่จะกำหมัดแน่นขึ้นมาไม่ได้
“รอก่อนเถอะ อีกไม่นานฉันจะเป็นคนทำลายบลัดเติสตี้ของแกเอง”
ลู่หยางไม่สนใจการถกเถียงกันของผู้เล่นรอบข้างอีกต่อไป เขาจึงเดินตรงเข้าไปในร้านประมูล ก่อนจะใช้เครื่องประมูลอัตโนมัติเพื่อเลือกหาสมุนไพร
ราคาของหญ้าสโตน์รูท, หญ้าดรายลีฟและหญ้าซิลเวอร์ลีฟที่เป็นวัตถุดิบของน้ำยาต้านพิษยังคงอยู่ที่ระดับ 3-10 เหรียญทองแดงต่อชุด
ลู่หยางทำการกว้านซื้อสมุนไพรพวกนี้ทั้งหมด ซึ่งมีปริมาณมากกว่า 900 ชุด โดยรวม ๆ แล้วมันก็ทำให้เขาใช้เงินไปทั้งสิ้น 2 เหรียญทอง 70 เหรียญเงิน
หลังจากจ่ายเงินซื้อสมุนไพรออกไปตอนนี้ชายหนุ่มก็เหลือเงินในมืออีกเพียงแค่ประมาณ 1 เหรียญทอง แต่ลู่หยางกลับไม่รู้สึกเสียดายเลยแม้แต่น้อย เพราะในอีกครึ่งเดือนมันจะมีผู้เล่นถึงเลเวล 10 เป็นจำนวนมาก และในตอนนั้นยาต้านพิษที่ผลิตจากสมุนไพรเหล่านี้จะช่วยให้เขาร่ำรวยขึ้นจากเดิมอย่างก้าวกระโดด
เงินจากการขายน้ำยาต้านพิษจะกลายเป็นเงินทุนก้อนใหญ่ก้อนแรกที่จะช่วยให้เขาพัฒนากิลด์ไปได้อย่างรวดเร็ว และมันก็จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้เชี่ยวชาญที่เขาจะชักชวนมาในอนาคต
อย่างไรก็ตามลู่หยางก็ยังไม่ได้รีบปรุงยาในทันที แต่เก็บสมุนไพรเหล่านี้เอาไว้ในคลัง จากนั้นเขาก็หามุมที่ไม่มีคนเพื่อทำการท่องคาถาก่อให้เกิดแสงสีแดงเพลิงล้อมรอบไปทั้งร่างของเขา ซึ่งหลังจากเวลาผ่านพ้นไป 5 วินาทีร่างของลู่หยางก็ได้ไปปรากฏตัวในห้องโถงของวิหารเทพอสูร
เขามีกล่องแพนดอร่าที่ยังไม่ได้เปิด ชายหนุ่มจึงอยากจะลองเปิดกล่องเสี่ยงโชคดู แต่น่าเสียดายที่ผลลัพธ์จากการเปิดกล่องแพนดอร่ามีความผันผวนที่สูงมาก
ผู้เล่นที่โชคดีที่สุดเคยเปิดได้อุปกรณ์ระดับแพลตตินั่มจากกล่องแพนดอร่ามาแล้ว แต่ถ้าหากเขาโชคร้ายอุปกรณ์และไอเท็มทั้งหมดภายในกระเป๋าของเขามันก็จะหายไป หรือที่แย่กว่านั้นคือมันอาจจะมีบอสระดับลอร์ดเลเวล 50 ถูกอัญเชิญออกมา
ชายหนุ่มกังวลว่าตัวเองจะดวงซวยเขาจึงเดินทางมายังวิหารเทพอสูรเพื่อฝากของทั้งหมดเอาไว้บนโต๊ะในห้องโถง
วิหารเทพอสูรเป็นพื้นที่ส่วนตัวของเขาเพียงคนเดียว ผู้เล่นคนอื่นจึงไม่สามารถเข้ามายังสถานที่แห่งนี้ได้ อย่างไรก็ตามชายหนุ่มก็กลัวว่าตัวเองจะดวงซวยเรียกบอสออกมา เขาจึงเดินทางกลับไปยังนอกเมืองเซนต์กอลล์อีกครั้ง
ท้ายที่สุดหากบอสระดับลอร์ดถูกเรียกออกมาวิหารเทพอสูรก็จะไม่ใช่พื้นที่ส่วนตัวของเขาอีกต่อไป แต่มันจะกลายเป็นพื้นที่ส่วนตัวของบอสตัวนั้นแทน
แม้ลู่หยางจะสามารถต่อสู้ตัวต่อตัวกับบอสได้ แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะสามารถเอาชนะบอสระดับลอร์ดได้ทุกตัว
หลังจากมองซ้ายมองขวาจนแน่ใจแล้วว่าไม่มีใครอยู่ในพื้นที่บริเวณนี้ เขาจึงหยิบกล่องแพนดอร่าออกมาจากกระเป๋าและใช้มือขวาดึงฝากล่องขึ้นอย่างแรง
แสงสีทองพุ่งออกมาจากกล่องอย่างเจิดจ้าจนทำให้ลู่หยางต้องหลับตาลงโดยไม่ได้ตั้งใจ อย่างไรก็ตามเมื่อชายหนุ่มได้สังเกตเห็นแสงสีทองมันก็ทำให้เขาแอบรู้สึกตื่นเต้นอยู่ภายในใจ
การที่กล่องแพนดอร่าส่องแสงสีทองหมายถึงการที่เขาได้อุปกรณ์มาเป็นของรางวัล ในที่สุดหลังจากเวลาผ่านพ้นไป 2 วินาที แสงสีทองก็หายไปปรากฏเป็นลูกเต๋าคริสตัลใส 3 ลูกภายในมือของลู่หยาง
“ลูกเต๋าแห่งโชคชะตา!” ลู่หยางอุทานอย่างตกตะลึง เพราะเขาไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะโชคดีถึงขนาดได้ลูกเต๋าแห่งโชคชะตามาครอบครอง
ลูกเต๋าแห่งโชคชะตา
เลเวล 0
คูลดาวน์ 30 นาที
รายละเอียด หากผู้เล่นทอยลูกเต๋าแห่งโชคชะตาได้ผลรวมเกินกว่า 10 แต้ม ใน 30 นาทีถัดไปค่าความโชคดีของผู้เล่นจะเพิ่มขึ้น 10 หน่วย แต่ถ้าหากแต้มผลรวมของลูกเต๋าต่ำกว่า 10 แต้มค่าความโชคดีของผู้เล่นจะลดลง 10 หน่วย
ค่าความโชคดีตั้งต้นของผู้เล่นทุกคนคือ 0 หน่วยและการเพิ่มค่าความโชคดีจะมีผลต่อการอัปเกรดอุปกรณ์, อัญมณีและไอเท็มอื่น ๆ
อุปกรณ์แต่ละชิ้นสามารถอัปเกรดหรือที่เรียกติดปากกันว่าตีบวกได้สูงสุด 19 ระดับ ซึ่งการตีบวกแต่ละระดับจะช่วยเพิ่มค่าคุณสมบัติหลักให้กับไอเท็มเหล่านั้น
โดยปกติแล้วโอกาสที่จะทำการอัปเกรดอุปกรณ์ตี +0 เป็นตี +1 คือ 50% และยิ่งการตีบวกเพิ่มมากขึ้นไปเท่าไหร่ อัตราความสำเร็จก็จะยิ่งต่ำลงไปมากขึ้นเท่านั้น เช่น การตี +5 จะมีโอกาสสำเร็จเหลือเพียงแค่ 10%
อย่างไรก็ตามหากผู้เล่นมีค่าความโชคดีเกินกว่า 10 หน่วยโอกาสในการตีบวกอุปกรณ์จะเพิ่มขึ้นเป็น 100% จนถึง +10
ลู่หยางต้องการจะสวมใส่ไม้เท้าดีวายไฟร์สตาฟที่ได้รับมาใหม่ แต่การทำแบบนั้นเขาจำเป็นจะต้องตีบวกอุปกรณ์ที่สวมใส่รวมถึงทำการฝังอัญมณีเพิ่มเติม
แต่เดิมเขาก็ค่อนข้างกังวลปัญหาเรื่องนี้อยู่พอสมควร แต่ใครจะไปคิดว่าเขาโชคดีได้รับวิธีการแก้ปัญหามาอย่างง่ายดาย
ยิ่งไปกว่านั้นลูกเต๋าแห่งโชคชะตายังช่วยให้เขาสามารถอัปเกรดอุปกรณ์ให้กับพรรคพวกได้อย่างรวดเร็ว การได้รับลูกเต๋านี้มาครอบครองก็เปรียบเสมือนกับว่าเขาได้อาวุธวิเศษที่ช่วยเพิ่มโอกาสได้รับชัยชนะในสงคราม
สิ่งเดียวที่ลู่หยางยังขาดอยู่ในตอนนี้คือวัตถุดิบสำหรับการอัปเกรดอุปกรณ์และอัญมณีที่จะนำมาติดตั้งลงบนอุปกรณ์แต่ละชิ้น
ระหว่างที่ลู่หยางกำลังตื่นเต้นมันก็มีคนติดต่อเขามาเสียก่อน เมื่อชายหนุ่มเปิดหน้าจอขึ้นมาดูเขาก็ได้พบว่ามันเป็นการติดต่อมาจากฉือมู่
“น้องชาย ฉันขอความช่วยเหลือหน่อยได้ไหม?” ฉือมู่ถามอย่างร้อนใจ
รอบนี้พี่แกจะขอยืมอะไรน๊ออออ?
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 31
แสดงความคิดเห็น