บทที่ 18 ลักพาตัวอย่างเปิดเผย
“มึง! ” ทิวามองอึ้ง ไปที่เขมันต์ที่ตอนนี้กำลังยกขวดน้ำเย็นที่เมื่อกี้เอามันมาแกล้งสัมผัสที่หน้าเธอขึ้นดื่มอย่างยั่วยวนคนที่กำลังเหนื่อย แล้วก็หิวน้ำ แต่ไม่ได้เอาน้ำมากินด้วยเพราะทิวาสายแล้วเลยลืมหยิบขวดน้ำมาด้วย
อึก อึก อึก
เสียงกลืนน้ำเย็นลงคอฟังดูแล้วช่างน่าสดชื่น ทำเอาทิวาเผลอกลืนน้ำลายตามเขาไปด้วย เมื่อกินน้ำไปได้ครึ่งขวดก็หยุดกิน ปิดฝาแล้วโยนมาให้ทิวา ทิวาสาวมือคว้าขวดน้ำเย็นเกือบไม่ทัน
“เฮ้ย! นี่มึงโยนมาให้กูทำไม” เมื่อรับขวดน้ำมาได้ทิวาก็ร้องเสียงหลงถาม ถ้าเธอรับไม่ทันละก็มีหวัง ตอนนี้ขวดน้ำได้กระแทกเข้าเบ้าตาเธอเขียวหมดไปแล้ว
“กูให้มึง” เขาตอบ
“มึงให้กูทำไมกูไม่ได้หิวน้ำ แล้วอีกอย่างกูก็ไม่กินของเหลือจากมึง” ทิวาพูดโกหกออกไป ตอนนี้หิวน้ำจนกินน้ำได้ทั้งโอ่ง
“หึ มึงไม่กินของเหลือจากกู แต่มึงชอบลักกินขโมยกินมากกว่างั้นสิ” เขมันต์มีพูดพร้อมส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ให้
“ไอ้เขม! กูเลิกยุ่งกับเพทายแล้วนะ มึงจะมาพูดแบบนี้กับกูไม่ได้” เห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์นั่นแล้วทิวารู้สึกเกลียดมันชะมัด
“ตอนนี้ไม่ใช่แต่ในอดีตก็ใช่ว่าไม่เคย” เขมันต์ยังคงแกล้งยุทิวา
“ไม่ใช่ทั้งอดีตและปัจจุบัน มีแต่คนประสาทอย่างมึงเท่านั้นแหละที่จะคิดเรื่องอกุศลแบบนั้นได้” ถ้าไม่ใช่เพราะความคิดบ้า ๆ ที่เขาคิดเกี่ยวกับเธอและเพทาย ตอนนี้ชีวิตของเธอคงไม่เป็นแบบนี้
“หึ งั้นหรอ” ทิวาได้ยินคำตอบของเขาก็รู้สึกประหลาดใจคิดว่าเขาจะโกรธเธอซะอีก แต่เขากลับตอบเธอหน้าระรื่น เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรจะพูดแล้วทิวาก็ลุกขึ้นจะเดินกลับหอ แต่เขารั้งแขนเธอไว้
“เฮ้ย มึงมาจับกูทำไม” ทิวารีบสะบัดแขนเขาออกเธอเริ่มระแวง
“ไปกับกู” เขมันต์ออกคำสั่งเสียงเรียบ
“ไปไหน” ทิวามุ่นคิ้วถามอย่างสงสัย
เขมันต์หันหน้ามาสบตาทิวาก่อนพูด “มึงไม่ต้องถาม แค่ไปกับกู”
“กูไม่ไป” ทิวาเดินหน้าต่อไปทางประตูทางออก อยู่ ๆ จะมาพาเธอไปไหนก็ไม่รู้ใครจะบ้าไปกับตัวอันตรายอย่างเขา
“มึงอยากเป็นนางเอกหนังโป๊หรอ”
กึก!
ทิวาชะงักเท้าหยุดเดิน ไม่คิดว่าเขาจะเอาเรื่องนี้มาพูดอีก มือก็กำหมัดแน่น
“ว่าไง มึงจะไปกับกูมั้ย” เขาเดินมาก้มกระซิบเธอที่ข้างหูจากข้างหลัง ทำเอาทิวาชาไปครึ่งตัว
เมื่อเห็นทิวายืนนึ่งไม่เคลื่อนไหวเขมันต์ก็ลอบยิ้มอย่างได้ใจ “เดินตามกูมา” เขมันต์ออกคำสั่ง พร้อมกับก้าวเท้าเดินนำทิวาไป
ตอนนี้ทิวาหัวใจเต้นรัวเร็วภาพในวันนั้น ภาพที่เธอพยายามจะลืมมันแล่นกลับมาในหัวอีก มองตามหลังเขาที่เดินนำหน้าเธอไปแล้ว ‘จะตามเขาไปมั้ย แต่ถ้าไม่ตามแล้วเขาเอาคลิปของเธอไปโพสต์ล่ะ จะทำยังไง มีหวังอนาคตได้จบเห่แน่ แต่ถ้าตามเขาไป เขาจะทำอะไรเธออีก’ ทิวาตอนนี้ที่มือเริ่มสั่นจากความวิตก ขวดน้ำที่เขาโยนมาให้ยังติดอยู่ในมือ ตอนนี้เริ่มบิดเบี้ยวไปตามแรงบีบของทิวา
‘เอาว่ะลองตามเขาไปก่อน บางทีมันอาจจะไม่มีอะไรก็ได้’ ก็เธอเลิกยุ่งกับเพทายตามคำสั่งเขาแล้ว มันจะมีเหตุผลอะไรที่เขาจะมาทำร้ายเธออีกล่ะ ส่วนขวดน้ำนี่เอาไปเป็นอาวุธก็แล้วกันเผื่อเขาทำร้ายเธอขึ้นมา อย่างน้อยเธอก็ไม่ได้สู้มือเปล่า
ทิวาเดินตามเขามาหยุดอยู่ที่ข้าง ๆ รถของเขาไม่ยอมเข้าไปข้างใน
“เห้ย นี่มึงรอให้กูเปิดประตูรถให้อยู่หรอ” เขมันต์ลดกระจกถาม เมื่อเห็นว่าเธอยืนบื้อเป็นท่อนไม้อยู่
เมื่อได้ยินเสียงน่ารำคาญหูนั่น ทิวาจำต้องเปิดประตูรถเตรียมเข้าไปนั่ง ทั้งที่ในใจก็ยังสั่นกลัวอยู่
“ข้างหน้า” เขมันต์ออกคำสั่งเมื่อเห็นว่าทิวาเปิดประตูรถด้านหลัง เขาไม่ใช่คนขับรถของเธอ
“แต่กูจะนั่งข้างหลัง” นั่งข้างหลังจะปลอดภัยกว่าเผื่อเขาทำอะไรเธอ เธอยังมีเวลาหาทางรอดได้มากกว่านั่งข้างหน้ากับเขา
“มึงจะมานั่งข้างหน้าดี ๆ มั้ยทิวา” เขมันต์พูดเสียงแข็งขึ้น ตอนนี้เขาโผล่หัวออกมาจากกระจกรถเพื่อพูดกับเธอ เมื่อเห็นว่าเธอยังดื้อจะนั่งด้านหลังอยู่
“แล้วถ้ากูไม่ไปอ่ะ” ลองดื้อให้สุดน่าเผื่อเขาจะยอม
“ทิวา! ” เขมันต์ตะโกนออกมา เปิดประตูรถจะออกมาจากรถเพื่อเล่นงานเธอ
เมื่อเห็นอย่างนั้นทิวาก็วิ่งไปเปิดประตูรถอีกด้าน กระโดดขึ้นรถด้วยความเร็วแสง ทำเอาเขมันต์ที่ออกจากรถไปครึ่งตัวแล้วหันมามองเธอด้วยสายตาอาฆาต ทำเอาทิวาขนลุกซู่เมื่อเห็นสายตานั้น ไม่อยากจะคิดว่าถ้าช้ากว่านี้สภาพของเธอจะเป็นยังไง แต่ก็ยังเก็บอาการมาดนิ่งเอาไว้
พรึ่บ
เสียงกระแทกปิดประตูรถฝั่งเหมันต์ดังขึ้นก่อนที่รถยุโรปคันหรูจะเคลื่อนตัวออกไป
นั่งรถมาได้สักพักทิวาก็เริ่มคอแห้ง เธอวิ่งไปแปดรอบสนาม แต่ยังไม่ได้กินน้ำเลยสักหยด ตาก็มองขวดน้ำในมือ ใช้นิ้วโป้งลูบไล้ขวดน้ำไปมาอยู่อย่างนั้น
'จะกินดีมั้ยนะ ถ้าเรากินมันก็จะมีน้ำหนักเบา แล้วถ้าเขาทำอะไรเธอขึ้นมาตอนนี้ ขวดน้ำที่เบาขนาดนี้คงใช้เป็นอาวุธทำอะไรเขาไม่ได้แล้ว'
“มึงจะกินก็กิน มองมันอยู่อย่างนั้น น้ำมันจะไหลเข้าปากมึงเองมั้ย” เขมันต์ที่ลอบมองพฤติกรรมของเธอมาสักพักแล้วเอ่ยขึ้น เธอวิ่งไปเยอะจนเหงื่อแตกขนาดนั้นมีหรือว่าจะไม่หิวน้ำ
ทิวาปรายตาไปมองเขาเล็กน้อย ก่อนจะตัดสินใจยกขวดน้ำขึ้นดื่มไปครึ่งหนึ่งของจำนวนน้ำที่เหลืออยู่ ‘เหลือไว้ครึ่งหนึ่งแล้วกัน เพื่อความสบายใจ’
เมื่อเห็นทิวายกขวดน้ำขึ้นดื่มเขมันต์ก็รู้สึกพอใจ
“เอ่อ เราจะไปไหนกันหรอ” ทิวาหันไปถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงกว่าปกติหนึ่งระดับ เผื่อว่าเขาจะยอมบอก
“เดี๋ยวไปถึงมึงก็จะรู้เองแหละ” เขาเองก็ไม่รู้ว่าทำไมต้องอยากพาเธอไปที่นั่นด้วย แต่เขาแค่ไม่อยากไปที่นั่นคนเดียว แล้วเธอเองก็สามารถทำให้เขาอารมณ์ดีขึ้นได้ ขอเพียงแค่ได้รังแกเธอ ซึ่งผู้หญิงระดับรากหญ้าอย่างเธอ เขาจะทำอะไรก็ได้ จะรังแกเธอยังไงก็ได้ขอเพียงแค่มันทำให้เขาอารมณ์ดีขึ้นมา เขาทำได้ทั้งนั้นแหละ
‘อืม ถามไม่ถามก็ไม่ต่างกัน’ ทิวาคิด ตาก็มองไปยังป้ายบอกทาง ที่ตอนนี้ไกลออกไปจากมหาวิทยาลัยเรื่อย ๆ ใจคอทิวาก็เริ่มไม่ดีขึ้นมาอีกครั้ง
“เอ่อ ...คือ มึงรู้ใช่มั้ยว่าบ้านเมืองมีกฎหมาย ถ้าเกิดกูหายตัวไปแบบนี้ แม่กูคงจะไม่ยอมแน่ แม่กูคงจะทำทุกวิถีทาง เพื่อตามหากู ถึงมึงจะบอกว่ามึงรวยก็จริง แต่ว่า…”
“นี่มึงคิดว่ากูจะฆ่ามึงหรอ” เขมันต์พูดดักคอทิวาที่ดูเหมือนว่าตอนนี้เธอจะคิดไปไกลมาก
ทิวาทำท่าคิดอยู่ครู่หนึ่ง ค่อยตอบ “กูจะไปรู้ได้ยังไงล่ะ” คนอย่างเขามันทำได้ทุกอย่างอยู่แล้วหนิ
“มึงไม่ต้องห่วง กูไม่ฆ่ามึงหรอก” ก็แค่อาจจะทรมานเล่นนิดหน่อยเท่านั้นเอง แต่ไม่เอาถึงตายหรอก
“ถ้าอย่างนั้น มึงจะจับตัวกูมาทำไมอีก มึงอย่าลืมสิ กูเลิกยุ่งกับเพทายแล้วนะ” ทิวาพยายามหาเหตุผลมาพูดกับเขา
“เรื่องของกู” คำตอบของเขมันต์ทำเอาทิวาหน้าถอดสี เอาแต่ใจตัวเองสุด ๆ หาเหตุผลจากคนคนนี้ไม่ได้จริง ๆ ทิวาได้แต่ถอนหายใจ แล้วเอาหลังกระแทกเบาะรถแรง ๆ ระบายความรู้สึก
“มึงทำอะไร” เขาถามเมื่อเห็นว่ากำลังกดอะไรบนโทรศัพท์มือถือ
“กูไลน์ไปลางาน” ลาเวลากระชั้นชิดแบบนี้กลับไปโดนด่าเละแน่ เพราะที่ร้านคงจะหาคนมาแทนไม่ทัน
“เสร็จแล้วเอาโทรศัพท์มาให้กู”
“ทำไมกูต้องให้มึง”
“เพราะกูสั่ง” สำหรับเธอถ้าเขาสั่งอะไรก็ต้องทำ
“กูไม่ให้” เรื่องอะไรเธอจะให้มันเป็นสมบัติชิ้นเดียวที่เธอเอามาด้วย ให้ไปก็ไม่เหลืออะไรแล้ว
“มึงเลิกดื้อกับกูสักวันได้มั้ย! ” เขมันต์พูดกระแทกเสียง เมื่อเห็นว่าทิวายังคงเถียงเขา คำไม่ตกฝาก
“มึงก็ปล่อยกูไปสิ” เธอก็ไม่ได้อยากจะมากับเขาสักหน่อย จะมาว่าเธอไม่ได้
“มึงจะให้กูดี ๆ หรือจะให้กูโยนมันทิ้ง” เมื่อได้ยินอย่างนี้ทำเอาทิวานิ่งไปเลย ถ้าเขาจะทำอย่างนั้นจริงต้องทำได้แน่ ๆ เขาแรงเยอะกว่าเธอ แล้วอีกอย่างโทรศัพท์เครื่องนี้เธอพึ่งซื้อมาใหม่ ราคาเป็นหมื่นจะไม่ยอมเสียมันไปเด็ดขาด เมื่อคิดได้อย่างนั้นก็จำใจต้องยื่นโทรศัพท์ให้เขา เขารับมันมาแล้วเก็บมันไว้ในกระเป๋าของตัวเอง ทิวาได้แต่มองตามตาละห้อย
เมื่อขับรถมาถึงที่หมายแล้วเขมันต์ก็พาทิวา เดินออกไปยังลานคอนกรีตกว้าง
“คุณเขมมาแล้วหรอครับ พวกเราเตรียมเครื่องไว้เรียบร้อยแล้วครับ เชิญครับ” ชายวัยกลางคนผายมือเชื้อเชิญผู้เป็นนาย ทิวาเองก็เดินตามหลังเขมันต์ไปห่าง ๆ ตาก็รอบสำรวจสถานที่ไปเรื่อย
“ขึ้นไป” เขมันต์หันหลังมาสั่งทิวาที่อยู่ข้างหลังที่ตอนนี้นิ่งอึ้งไปแล้ว เมื่อมองเห็นสิ่งที่เขมันต์สั่งให้เธอขึ้นไป
“มึงจะพากูไปไหน ทำไมต้องขึ้นเครื่องบินด้วย” ทิวาที่ตอนนี้ใจเริ่มสั่นขึ้นมาอีกครั้ง เพราะไม่รู้ว่าเขาจะพาเธอไปที่ไหนกันแน่ ทำไมต้องถึงกับขึ้นเครื่องบินส่วนตัวไปด้วย
“มึงไม่ต้องถามมากขึ้นไป! ” เขมันต์ตวาดเธอทำเอาทิวาที่เดิมก็ตัวสั่นอยู่แล้ว ตอนนี่ก็ตกใจเสียงเขาวิ่งขึ้นเครื่องแทบไม่ทัน ส่วนเขมันต์ก็ตามไปติด ๆ ทิวาไม่เคยนั่งเครื่องบินมาก่อน แอบรู้สึกตื่นเต้นอยู่เหมือนกัน เมื่อมานั่งกัปตันก็บอกให้รัดเข็มขัดนิรภัยทิวาก็ทำตามอย่างว่าง่าย เพราะเธอยังรักชีวิตอยู่มาก พวกเขาเดินทางไม่นานก็ถึงแล้ว
ที่นี่เป็นเกาะเกาะหนึ่งในทะเลซึ่งทิวาเองก็ไม่รู้ว่าคือเกาะอะไร เพียงแต่มองจากวิวข้างนอกเครื่องบินลำเล็กเท่านั้น เมื่อมาถึงก็มีพนักงานต้อนรับมารับเขาอย่างเอิกเกริก จนทิวาแอบคิดว่าชุดที่เธอใส่อยู่นี่มันช่างไม่เหมาะสมเอาเสียเลย พนักงานพาพวกเธอมายังบ้านหลังหนึ่งทิวาเดาว่าน่าจะเป็นบ้านพักของเขมันต์
“ตอนนี้พวกเราได้เตรียมอาหารเช้าไว้ให้ท่านแล้วที่ริมสระครับ”
“ขอบใจมาก”
“วันนี้ท่านจะเข้าไปดูโรงแรมกี่โมงครับ” ถึงจะแทบไม่เคยเห็นหน้าเขมันต์ แต่พนักงานก็รู้จักเขาเป็นอย่างดีเพราะเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของเจ้าของเกาะแห่งนี้ ซึ่งเขามาที่นี่เพื่อดูงานแทนเจ้าของเกาะ
“หลังกินข้าวเสร็จ” พูดเสร็จเขมันต์ก็เดินไปยังริมสระ
“เอ่อ ขอโทษนะคะ ที่นี่ที่ไหนหรอคะ” ทิวาถือโอกาสถามพนักงานซะเลย
“เอ่อ ที่นี่…” พนักงานพูดยังไม่ทันจบประโยคเขมันต์ก็ขัดขึ้น
“มึงมัวทำอะไรอยู่ ยังไม่รีบตามกูมา”
“อะเออ กูไปแล้ว” ทิวารู้สึกหัวเสียอยู่ไม่น้อยพาเธอมาก็ให้เธอรู้หน่อยก็ไม่ได้ว่าที่นี่ที่ไหน
ตอนนี้อาหารพร้อมแล้ว เขมันต์เองก็รู้สึกหิวแล้วเหมือนกันเขานั่งจัดการกินอาหารอย่างไม่สนใจคนที่เขาพามาด้วย ทิวาเองที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็พยายามทำเป็นไม่สนใจเขา ทั้งที่ความจริงเธอเองก็หิวอยู่เหมือนกัน
‘น่ารำคาญชะมัดทำไมต้องมายืนดูเขากินด้วยเนี่ย’ ทิวาทำท่าจะเดินหนีไปทางอื่น
“มึงจะไปไหน” เห็นทิวาขยับตัวเขมันต์ก็ทักขึ้น
“กูจะไปเดินเล่น” จะให้เธอยืนเฝ้าเขากินข้าวไปทำไมกัน
“ยืนอยู่นี่แหละ” เขมันต์ออกคำสั่งอีกครั้ง มือก็ตักอาหารเข้าปาก
ทิวาได้ยินคำสั่งนั้นกับการกระทำของเขาก็ได้แต่กำมือแน่น เป่าลมออกจากปากระบายความโกรธ
เมื่อกินจนอิ่มแล้วเขมันต์ก็หันมาออกคำสั่งกับทิวาอีกรอบ “มึงอยู่ที่นี่เดี๋ยวกูจะไปดูงานที่โรงแรม”
ความจริงทิวาอยากถามเขาว่าพาเธอมาที่นี่ทำไม แต่พอนึกถึงที่เธอเคยถามเขาก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยได้คำตอบที่ต้องการสักครั้งก็กลืนคำถามลงท้องไป
“อ้อ อาหารเหลือนี่ถ้ามึงอยากกินมึงก็กินได้นะ กูรู้ว่ามึงชอบของเหลือคนอื่น” เขาพูดเสร็จก็ลุกไปเลย ทิ้งเธอไว้อยู่ที่นี่คนเดียว แต่ก็ดีเหมือนกันทิวาก็ไม่อยากอยู่กับเขา
ตาก็มองดูอาหารบนโต๊ะเกือบสิบอย่างได้ ล้วนเป็นเมนูอาหารทะเลทั้งนั้น เขากินไปนิดเดียวเอง ก็อาหารมันเยอะขนาดนี้อ่ะเนาะจะกินจนหมดได้ยังไง
“อืมของเหลือก็ของเหลือสิ กินแล้วก็ขี้ออกมาเหมือนกันแหละ ของดี ๆ ทั้งนั้นหนิจะทิ้งก็เสียดายแย่” ทิวาบ่นกับตัวเอง ไม่สนใจคำพูดของเขาแล้วนั่งลงเก้าอี้จัดการอาหารที่เหลือตรงหน้า เมื่อกินเสร็จก็มีพนักงานมาเก็บแล้วก็กลับไป แต่ทิวาได้ขออาหารเอาไว้สองสามเมนูเผื่อว่าเขาจะไม่กลับมาเร็ว ๆ นี้เธอจะได้ไม่ต้องอดตาย ดูเหมือนพวกเขาจะไม่ได้ทำอาหารที่นี่คงจะทำที่โรงแรมแล้วเอามาเสิร์ฟให้เขาที่นี่
*****************************************
***ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปจะเป็นนิยายพลิกรักทิวา ตอนที่ 20 แล้ว นักเขียนจะเริ่มติดเหรียญตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป นักอ่านทุกท่านได้โปรดเห็นใจนักเขียน ทุกวันนี้ก็เกาะแม่กิน ไม่มีรายได้เลย ขอบคุณผู้อ่านที่รักทุกท่านล่วงหน้าที่ยังสนับสนุนนักเขียนหน้าใหม่ผู้นี้ กราบงาม ๆ ***
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 769
แสดงความคิดเห็น