บทที่ 5...2/3
วันต่อมาบทความสัมภาษณ์ตฤณพร้อมรูปของสุดหล่อในฝันของสาวๆ ก็เสร็จเรียบร้อย ช่วยบ่ายจอมขวัญจึงนั่งอ่านธุรกิจไข่มุกและกระบวนการเลี้ยงหอยมุกเพื่อที่เวลาไปทำสกู๊ปข่าวจะได้เข้าใจเนื้องานไม่เหรอหราเหมือนตอนมาเป็นนักข่าวใหม่ๆ
หลังเลิกงานจอมขวัญรีบกลับบ้านมาช่วยงานที่ร้านเพื่อที่ลลิตาจะได้พักเร็วขึ้น หญิงสาวใส่ผ้ากันเปื้อนลายน่ารักแล้วออกมารอออเดอร์จากลูกค้าซึ่งกำลังนั่งรออยู่พอดี แม้จะรู้สึกแปลกๆ ที่ลูกค้าแต่งกายด้วยสูทสีดำมีเพียงคนเดียวที่ใส่ชุดลำลอง
“ยินดีต้อนรับค่ะ รับอะไรดีคะ”
เรียวปากบางยิ้มต้อนรับเต็มที่ แต่พอเห็บใบหน้าของลูกค้าที่ใส่ชุดลำลองชัดๆ ก็เป็นอันชะงักมองเสียเอง เธอนึกไม่ออกว่าจะทักทายท่านเจ้าของเกาะที่มาโผล่ในร้านยังไงดี
“ไม่เจอกันแค่ 2 วัน ไม่นึกว่าคุณจะลืมหน้าของผมไปแล้ว” ปรานต์เป็นฝ่ายทักทายก่อน
เสียงทุ้มๆ ของชายหนุ่มช่วยดึงสติของจอมขวัญกลับมาได้ในเวลาอันสั้น
“ฉันไม่ได้ลืมค่ะ แต่ไม่ทันมองต่างหาก คุณมาธุระแถวๆ นี้เลยแวะมากินขนมหรือคะ”
“เปล่า ผมตั้งใจมาหาแม่ของคุณ พ่อของผมกับแม่ของคุณรู้จักกันมานานแล้วล่ะ วันนี้ผมเลยอาสานำของฝากมาให้แม่ของคุณ” ชายหนุ่มมองไปที่ขา วันก่อนเขาเห็นว่าเธอเดินยังไม่ค่อยปกตินัก “ขาหายดีแล้วหรือยัง”
“หายแล้วค่ะ นั่งก่อนนะคะ เดี๋ยวฉันไปบอกแม่ก่อน คุณจะกินอะไรไหมคะ”
“ปกติผมไม่ชอบกินของหวาน”
“ร้านนี้มีแต่ของหวานๆ เสียด้วยสิคะ” จอมขวัญยิ้มพอจะเข้าใจ หน้าโหดๆ แบบปรานต์จะไม่ชอบขนมหวานคงไม่น่าแปลก
ปรานต์ทำทีอ่านงานจากโทรศัพท์ แต่หางตามองตามร่างเพรียวที่เดินกลับหลังร้านก่อนจะมานั่งอยู่ที่เคาน์เตอร์ แล้วเพียงครู่เดียวหญิงวัยกลางคนใบหน้ามีเค้าของความสวยในสมัยยังสาวก็เดินออกมาจากหลังร้าน จอมขวัญถือถาดมาหาปรานต์ที่โต๊ะแล้ววางขนมที่เขาไม่ได้สั่ง
“แม่ของฉันมาแล้วค่ะ ส่วนเค้กอันนี้ฉันอยากให้คุณลองชิม ไม่หวานเท่าไหร่ค่ะ”
“อะไรที่ผมไม่ชอบหรือไม่ใช่ยังไงก็ยังไม่ชอบและไม่ใช่อยู่ดี” ปรานต์ไม่แน่ใจว่าจอมขวัญรู้เรื่องที่พ่อของเขากับแม่ของเธอวาดฝันร่วมกันหรือไม่ ถ้าเธอรู้ ตอนนี้คือคำตอบของเขา
จอมขวัญพยักหน้าพลางมองปรานต์อย่างไม่เข้าใจนัก แต่บางอย่างที่เขาคิด เธอก็มีสิทธิ์ที่จะคิดไม่เหมือนกับเขานี่นา
“บนโลกใบนี้ไม่มีอะไรที่ไม่เปลี่ยนแปลงหรอกค่ะ”
ปรานต์รับฟังไม่แย้ง เขาไม่ควรเสียเวลามาเถียงกับเด็กที่อายุน้อยกว่าเขาถึง 5 ปี อีกทั้งลลิตาก็มานั่งที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามของเขาแล้ว ชายหนุ่มยกมือไหว้อย่างไรเสียผู้หญิงคนนี้ก็เป็นเพื่อนกับพ่อของเขา
“ขอบใจมากนะคะ คุณคฑาบอกน้าไว้แล้วค่ะว่าคุณจะมา”
“ผมขอเข้าเรื่องเลยนะครับเพราะคิดว่าต้องคุยกับก่อนให้เข้าใจ ก่อนที่อะไรๆ จะเกินเลยไปจากความเป็นจริงนะครับคุณน้า”
แม้ไม่พูดออกไปตรงๆ แต่ปรานต์คิดว่าลลิตาน่าจะเข้าใจว่าคำตอบของเขาคงไม่ใช่คำว่า...ตกลง หากเขาจะช่วยเหลือแม่ลูกคู่นี้นั่นเพราะเขาเห็นแก่พ่อ แต่ต้องไม่ใช่พาตัวเองไปแต่งงานกับผู้หญิงที่เขาไม่ได้รู้สึกชอบ
“น้าเข้าใจค่ะ ทุกอย่างมันเป็นความปรารถนาของน้าเอง หรือคุณอาจจะคิดว่าเห็นแก่ตัวก็คงไม่ผิดอะไร แต่น้าไม่บังคับคุณหรอกนะคะ แค่อย่าเพิ่งปฏิเสธก็พอ”
มันคือการหาคนที่จะมาดูแลลูกสาว หากนางรักษาโรคตับวายเฉียบพลันจนหายก็คงจะดี แต่โลกนี้ไม่แน่นอนและน่ากลัวสำหรับแม่ที่ต้องรู้ว่าลูกสาวอาจต้องมีชีวิตเพียงลำพัง
“ทำไมคุณถึงเลือกผม” เขาไม่ใช่คนที่จะยอมให้ใครมาบงการชีวิตได้ง่ายๆ ลลิตาเป็นรักแรกของพ่อเขาแล้วอย่างไร ผู้หญิงคนนี้ไม่มีสิทธิ์ขอด้วยซ้ำ
“เพราะพ่อของคุณเป็นคนดีน่ะสิคะ”
“แค่นั้นเองหรือครับ”
ลลิตาเห็นสายตาของปรานต์ที่มองเธอเพราะประหลาดใจที่ได้ยินคำตอบแบบนั้น มันอาจจะเชื่อได้ยาก แต่นางคิดแบบนั้นจริงๆ คนดีหากอยู่ใกล้ๆ กับจอมขวัญ แม้ไม่ได้แต่งงานกัน อย่างน้อยจอมขวัญจะได้มีคนที่พึ่งพาได้เหมือนในอดีตที่นางมีคฑาช่วยเหลือในเวลาที่ยากลำบาก ระหว่างหญิงและชายหากไม่จบลงแบบคู่รักก็ยังมีมิตรภาพที่ดีต่อกันได้ แม้หลังจากแต่งงานแล้ว เธอกับคฑาแทบจะไม่ได้ติดต่อกันอีกเลยก็ตาม
“ค่ะ ถ้าคุณกังวลเรื่องเงินทอง ฉันมั่นใจว่าถ้ายัยจอมรักคุณแล้วล่ะก็แกจะไม่หวังอะไร ขอแค่คุณจริงใจกับจอมก็พอ ไม่ว่าในฐานะไหน ถึงหลังจากฉันตายไปแล้วคุณรักจอมอย่างน้องสาว คอยดูแลอย่างพี่ชายคนหนึ่งฉันก็สุขใจแล้วล่ะค่ะ”
ถ้างั้นเรื่องที่อยากให้เขาแต่งงานกับจอมขวัญให้ได้น่าจะมาจากพ่อของเขามากกว่า หากจอมขวัญอยากมีพี่ชายแสนดีสักคนตามที่ลลิตาพูดมา เขาจะพิจารณาได้ง่ายกกว่าแต่งงานอยู่แล้ว
“ข้อแรกที่คุณน้าควรรู้ไว้คือผมไม่ใช่คนดี ข้อสองผมยังไม่คิดจะแต่งงาน และข้อสุดท้าย ผมไม่ใช่คนใจดีเหมือนพ่อ เพราะฉะนั้นการใจอ่อนให้กับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ คงเกิดขึ้นไม่บ่อยนักครับ”
“อย่างน้อยโชคชะตาก็ทำให้มนุษย์มาเจอกันเพื่อทำบางอย่างค่ะ วันนี้ขอบคุณจริงๆ ที่มา กินขนมก่อนนะคะแล้วค่อยกลับ”
ปรานต์ค้อมใบหน้าลงนิดหนึ่งแทนการเอ่ยขอตัว แล้วเดินออกไปจากร้านโดยที่ไม่แตะขนมสักคำ
ลลิตามองตามด้วยความเข้าใจ สิ่งที่นางขอจากคฑาคงทำให้ปรานต์ไม่ชอบใจนัก แต่นางขอเห็นแก่ตัวสักครั้ง หากจอมขวัญมีใครสักคนที่หันไปมองเมื่อไหร่ ใครคนนั้นพร้อมจะยื่นมือมาช่วยเหลือเหมือนที่นางมีคฑาที่แม้ไม่อาจเป็นคนรักก็ยังคงเหลือความเป็นเพื่อนแท้มาตลอด การจากไปของนางคงหมดห่วงได้
“คุณปรานต์กลับไปแล้วหรือคะแม่” จอมขวัญเพิ่งไปทำความสะอาดโต๊ะของลูกค้าที่เพิ่งจ่ายเงินเมื่อครู่ พอหันมาอีกทีปรานต์ก็ไม่อยู่แล้ว
“กลับไปแล้วล่ะจ้า”
จอมขวัญเห็นตะกร้าของฝากวางอยู่ที่เก้าอี้จึงช่วยถือกำลังจะเอาไปเก็บที่หลังเคาน์เตอร์ให้แม่ แต่พอเห็นว่าเค้กที่เธอนำมาให้เขายังเป็นหม้ายไม่ถูกกินสักคำจึงขอบ่นสักหน่อย
“คนอะไรก็ไม่รู้ไม่ชอบกินขนมหวานๆ สงสัยชอบกินบอระเพ็ดเป็นของว่างถึงได้ชอบทำหน้าเหมือนคนปวดท้อง ถ้ามาคราวหน้าจอมจะได้เตรียมยาธาตุไว้รอ”
ลลิตาหัวเราะในความช่างเปรียบของลูกสาว
“ปากจัดจริงๆ นะจอม ไปว่าพี่เขาทำไมล่ะลูก ไม่ดีเลย จอมเป็นเด็กนะลูก”
จอมขวัญเม้มปากทำหน้าอ้อนแม่ “ขอโทษค่ะ จอมไม่ว่าเขาแล้วก็ได้”
ลลิตาเห็นจอมขวัญตอนนี้ก็ยิ้มเป็นสุข นางอยากให้ลูกสาวมีความสุขตลอดไป โดยมีปรานต์คอยดูแล จากที่คิดว่าคงไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ตอนนี้จากที่ได้คุยกับปรานต์ คฑาถึงขั้นอยากให้เด็กสองคนแต่งงานกัน หากปรานต์จะต่อต้านก็คงไม่แปลกใจอะไร ถ้าจอมขวัญรู้คงไม่ยอมเหมือนกันกระมัง
เสียงข้อความดังทำให้ใครคนหนึ่งหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู แล้วเปิดอ่านข้อความอย่างสนใจ คนของเขาที่ส่งไปช่างทำงานได้คุ้มกับค่าจ้าง รูปล่าสุดที่ส่งมาเป็นการเดินทางของปรานต์ไปที่ร้านขนมแห่งหนี่งซึ่งอาจสำคัญหรือไม่สำคัญก็ได้ เพียงแต่ปรานต์ได้พบผู้หญิงคนนั้นอีกแล้ว
“คนไหนตัวจริงของไอ้ปรานต์กันแน่”
เรียวปากหนากดยิ้มที่มุมปากเมื่อการหาจุดอ่อนของปรานต์ไม่ง่ายสักเท่าไหร่ ถ้าแค่คู่ควงหรือช่วงแก้เหงาในบางเวลาจะมีประโยชน์อะไร คนที่มันรักต่างหากที่จะเปิดแผลใหญ่ไว้รอให้เขาจ้วงแทง เขารอได้
จอมขวัญลงจากรถเมล์แล้วก็เดินแกมวิ่งมาที่ตึกสูง 18 ชั้นซึ่งไทยสารมีสำนักงานอยู่อยู่ที่ชั้น 5 แม้จะยังไม่มี 8 โมงเช้า แต่เธอก็อยากมาให้เร็วหน่อย แม้ไทยสารจะไม่เข้มงวดเรื่องเวลาเข้างานเพราะบางครั้งต้องไปทำข่าวนอกสถานที่บ่อยๆ แต่หากวันไหนเธอไม่ได้ไปทำข่าวนอกสถานที่ก็จะมาให้ตรงเวลา
ทว่าพอจอมขวัญเปิดประตูกระจกเข้ามา แล้วเดินไปที่โต๊ะกลับเห็นชาวไทยสารพากันมามุงดูอะไรสักอย่าง พอเดินไปใกล้ถึงได้รู้ว่าต้นเหตุของการมุงมาจากโต๊ะของเธอเอง
“มีของมาส่งให้พี่จอมด้วยล่ะ น่าจะเป็นหมอนข้างที่คุณศกบอกไว้แน่ๆ เลย” มินตรายกกล่องใบยาวให้จอมขวัญที่รับมาแบบงงๆ เพราะเธอลืมไปแล้วว่าได้รางวัลจากการเล่นหารหัสอาร์ซีตอนไปเที่ยวฟาร์มมินธรา
“แกะกล่องดูสิจอม อยากเห็นมากเลยเนี่ย” ปริญดาพลอยตื่นเต้นไปด้วย
จอมขวัญไม่อยากขัดใจกองเชียร์เลยเกะกล่องออก แล้วดึงของที่อยู่ข้างในออกมา หมอนข้างนุ่มนิ่มกำลังพอดีกอด แต่พอเห็นว่าด้านหนึ่งเพนท์รูปหน้าของใครไว้ จอมขวัญก็แทบลืมตัวถอนใจ
“ทำไมเป็นรูปของอีตาเจ้าพ่อล่ะ สงสัยคุณศกส่งสลับกันแน่ๆ เลย เดี๋ยวจอมโทรไปถามก่อนนะ”
ปริญดากับมินตราพากันยิ้มกว้างพลางถ่ายรูปอย่างชอบใจเพราะถ้าส่งผิดก็ใช่ว่าจะไม่ดี จอมขวัญโทรหาศกเพราะเก็บนามบัตรของเขาไว้ คุยกันไม่ถึงนาทีก็ได้คำตอบ
“ส่งผิดจริงๆ ด้วย แต่ยังไม่ต้องส่งกลับ เดี๋ยวคนของคุณปรานต์จะมารับหมอนคืนไปเอง”
มินตรามองหมอนที่มีรูปหน้าปรานต์แล้วทำหน้าเสียดาย “ถ้าเป็นมินนะรับรองไม่คืนให้ โหยแค่คิดก็ฟินแล้ว เวลานอนได้กอดหมอนเป็นหน้าคุณปรานต์ทุกคืน”
จอมขวัญยู่จมูกนึกภาพตัวเองกอดหมอนข้างไม่ไหวจริงๆ ปรานต์คงไม่ชอบนักหรอกที่หมอนข้างที่เขาได้มีหน้าของเธอเพนต์อยู่
“แต่พี่ว่าคุณปรานต์คงไม่ฟินหรอก ถ้าตอนนอนเห็นหน้าพี่ที่หมอนน่ะ”
“ก็ไม่แน่นะอาจจะชอบก็ได้ ” ปริญดาแกล้งแซวจอมขวัญ
จอมขวัญส่ายหน้าแค่คิดก็รับไม่ได้แล้ว ปริญดากับมินตราไม่เห็นหน้าโหดๆ ของปรานต์ตอนมาที่ร้านเมื่อวานนี่ ถ้าเห็นคงเข้าใจว่าทำไมเธอไม่ควรเก็บหมอนใบนี้ไว้และควรขอหมอนที่มีหน้าของเธอติดอยู่กลับมา ถ้าเกิดเขาเห็นหน้าเธอที่หมอนแล้วโมโหขึ้นมา ปืนที่เขาชอบพกอาจได้ใช้เพราะความรำคาญตาก็ได้ ใครจะคิดแค่หมอนข้างก็ทำให้ชีวิตเสี่ยงได้
ของแทนใจคือหมอนข้างรูปหน้าว่าที่เจ้าบ่าวเลยนะจอมขวัญ 555
ขอบคุณสำหรับการติดตามอ่านนะคะ
อัมราน_บรรพตี
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 150
แสดงความคิดเห็น