บทที่ 5...1/3
เช้าวันนี้หลังจากประชุมเพื่อสรุปงานขั้นสุดท้ายกับทีมออร์แกไนซ์แล้ว ปรานต์ก็กลับมาห้องทำงานที่ชั้นบนสุดของตึก M กรุ๊ปซึ่งสูง 12 ชั้น โดยชั้นที่ 1-10 เปิดให้บริษัทอื่นเช่า ส่วนชั้นที่ 11 และ 12 จะเป็นส่วนสำนักงานของบริษัทในเครือมินธรากรุ๊ปทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจเก็บรังนก ไข่มุกและเครื่องประดับที่กำลังจะมีขึ้นในอนาคต แม้งานจะมาก แต่การวางระบบที่ดีทำให้ทุกอย่างอยู่ในการควบคุมเสมอมา
ปรานต์นั่งทำงานเงียบๆ จนผ่านไปครึ่งชั่วโมง เลขาหน้าห้องก็โทรเข้ามาบอกว่ามีเพื่อนมาขอพบซึ่งเดาได้ไม่ยากเพราะชีวิตของเขามีเพื่อนที่ไว้ใจได้น้อยจนนับมือข้างเดียวก็ครบแล้ว
“หาตัวยากจริงๆ เลยนะไอ้ปรานต์ กว่าฉันจะหาตัวนายเจอต้องถ่อมาถึงกรุงเทพฯเชียว”
ปรานต์เงยหน้าจากเอกสารที่กำลังอ่านค้างอยู่ ข้างๆ มีแบบเครื่องประดับที่ฝ่ายออกแบบส่งมาให้พิจารณาอีกครั้ง ก่อนส่งไปสู่กระบวนการผลิต
“ฉันไม่ได้หาตัวยากหรอกนะวัช แต่มีงานยุ่งๆ ต่างหาก นายมีอะไรหรือเปล่า ได้ข่าวว่ากลับมาทำงานเต็มตัวแล้ว มีอะไรให้ช่วยก็บอกนะ เรามันคนกันเองนี่หว่า”
“ขอบใจว่ะ ตอนนี้งานยังราบรื่นดี ยกเว้นเรื่องเรื่องของนายนั่นแหละ ฉันได้ข่าวที่ปรานต์ถูกลอบยิงเมื่อคืนก่อนต่างหาก สงสัยมันคงเป็นความผิดของฉันเหมือนกันที่ไม่ได้เตือนนายตั้งแต่เนิ่นๆ” สีหน้าของอวัชไม่ค่อยดีนัก
“เตือนเรื่องอะไรล่ะ นายรู้อะไรมาหรือไง”
ถ้าถึงขนาดอวัชรู้เรื่องที่เกิดขึ้นกับเขาเมื่อหลายคืนก่อนได้ ปรานต์คิดว่าคนร้ายต้องมีการเตรียมตัวอย่างรีบร้อน แต่เพื่ออะไรในเมื่อการประมูลยังอีกเป็นเดือน
“ก็ประมาณนั้น การประมูลคราวนี้นายตฤณก็มีชื่อด้วย นายก็รู้ว่าชื่อเสียงของเจ้านี่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่”
ปรานต์พยักหน้า แต่เขากับตฤณเคลียร์กันแล้ว แม้จะยังสงสัย แต่ไม่มีหลักฐาน เขาก็จะมองผ่านไปก่อน ในอดีตมีข่าวลือว่าคนที่ฆ่าพี่ปัถย์อาจเป็นพ่อของตฤนด้วยซ้ำ แต่หลักฐานต่างๆ มีไม่มากพอให้จับตัวคนบงการมาลงโทษได้ ความสงสัยจึงยังไม่เคยเป็นความจริงขึ้นมา
“พวกใช้กฎหมู่มากกว่ากฎหมาย แล้ววันก่อนที่คนของนายจะถูกลอบยิง คนของฉันเห็นตฤณนั่งเรือออกไปพร้อมคนเกือบสิบ ไม่นานนายก็เกิดเรื่อง”
ปรานต์ได้ข่าวมาเหมือนกัน แต่ยังไม่ปักใจนักเพราะทิศทางที่ตฤณไปมันคนละทางกับเขา ทว่าคนมีเงินและอิทธิพลจะสั่งฆ่าอีกทาง แล้วไปอีกทางเพื่อใช้เป็นหลักฐานในเรื่องสถานที่และเวลาให้ตัวเองย่อมไม่ใช่เรื่องยาก
“ขอบใจที่มาบอกข่าว แต่นายเองก็ต้องระวังเหมือนกันเพราะคุณลุงก็มีชื่อในการเข้าประมูลเหมือนกันไม่ใช่หรือ”
อวัชถอนใจก่อนจะหัวเราะออกมา “พ่อของฉันถอนตัวไปแล้วล่ะ แก่แล้วไม่อยากไปเสี่ยงอันตราย ตอนนี้ตัวเต็งก็มีนายกับตฤณเท่านั้นแหละ”
ไม่จริงเสียทีเดียว แต่ปรานต์ไม่อยากมาแย้งกับอวัชในเรื่องนี้ หากการประมูลตัดเขากับตฤณออกไปก็ยังมีอีกบริษัท เขากำลังส่งคนไปคนสืบอยู่ว่าใครเป็นเจ้าของ ดูลึกลับจนน่าสงสัย
“เที่ยงแล้ว ไปหาอะไรกินกันดีกว่า นานๆ จะว่างมาเจอกันสักที”
อวัชยิ้มเห็นด้วย แม้จะยังมีเรื่องของนิรชาอยู่ในใจ แต่การที่ปรานต์ยังไม่มีท่าทีอะไร ทำให้เขายังไม่อยากพูดอะไรแล้วทำให้มีเรื่องระหว่างกัน เขาชอบนิรชามานานแล้ว แต่ฝ่ายหญิงต่างหากที่เอาแต่หลงใหลได้ปลื้มปรานต์ทั้งที่ดูอย่างไรก็ไร้หวัง แต่ถ้าถูกนิรชาตื๊อนานๆ เข้า เขาเองก็กลัวว่าเพื่อนจะใจอ่อนเข้าสักวัน
แหล่งข่าวของจอมขวัญขอนัดสัมภาษณ์นอกสถานที่ ทำให้เธอออกต้องมาจากสำนักงานตั้งแต่ยังไม่เที่ยงเพื่อมายังร้านอาหารสุดหรูกลางกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นเรื่องโชคดีไม่น้อยที่ไทยสารมีงบสำหรับเลี้ยงอาหารแหล่งข่าว เธอสามารถเบิกแบบฉุกเฉินได้ ซึ่งจากการประเมินแล้วมื้อนี้ค่าเสียหายของอาหารที่สวยและแพงหูดับคงราวๆ ครึ่งหมื่น
ตฤณมาถึงก่อนเวลานัดเล็กน้อย จากใบหน้าหล่อเหลาแม้จะเป็นคนไทยแท้ๆ รวมกับการแต่งตัวที่ดูโดดเด่นอย่างกับนายแบบมาเองทำให้สายตาหลายคู่พากันมองเขาอย่างสนใจ รวมทั้งหญิงสาวที่เพิ่งมาถึงในสภาพการแต่งตัวที่ต่างกันเหมือนไม่ได้นัดกันมา จอมขวัญยกมือไหว้ตฤณอย่างน้อยเขาก็อายุมากกว่า แม้ว่าหน้าตาจะดูอ่อนเยาว์อย่างกับรุ่นราวคราวเดียวกัน
“ขอบคุณมากนะคะที่เดินทางมาทั้งๆ ที่คุณตฤณงานยุ่งมาก เพื่อเป็นการตอบแทนมื้อนี้ฉันเลี้ยงเองนะคะ”
ตฤณส่ายหน้าแล้วยิ้มบางๆ อย่างสุภาพ “ผมจะให้สุภาพสตรีเลี้ยงได้ยังไงล่ะครับ เอาไว้คราวหน้าแล้วกันนะครับ”
“คราวก่อนก็พูดอย่างนี้นะคะ ถ้างั้นคราวหน้าคุณตฤณค่อยเลี้ยงแล้วกันนะคะ”
“ก็ได้ครับ” ตฤณจงใจยิ้มบาดใจใส่จอมขวัญ ก่อนจะเอ่ยต่อไปว่า “ชอบดอกไม้ที่ผมส่งไปให้ไหมครับ”
“ดอกไม้ของคุณตฤณหรือคะ” จอมขวัญไม่รู้จะทำหน้ายังไงดีเพราะเธอดันยกดอกไม้ให้แม่บ้านไปจัดใส่แจกันในห้องรับแขกเรียบร้อยแล้ว “สวยดีค่ะ แต่คราวหน้าไม่ต้องส่งอะไรมาให้หรอกนะคะ ฉันเกรงใจ”
“ผมอยากเป็นเพื่อนกับคุณน่ะครับก็เลยคิดว่าผู้หญิงคงชอบดอกไม้”
“คุณตฤณเนี่ยสมกับเป็นหนุ่มที่สาวๆ โหวตให้เป็นหนุ่มในฝันจริงๆ นะคะ ไม่ทราบว่าคุณตฤณอยากเข้าวงการบันเทิงบ้างไหมคะ” จอมขวัญตะล่อมเปลี่ยนเรื่อง ผู้ชายหล่อๆ ใครบ้างไม่ชอบ แต่ถ้าต้องไปรบรากับผู้หญิงเป็นกองร้อย เธอไม่เอาดีกว่ายังอยากมีชีวิตสงบๆ
“คุณจอมถามเพราะอยากรู้ หรือว่าเป็นคำถามที่ลิสต์มาในบทสัมภาษณ์ล่ะครับ”
“อยู่ในบทสัมภาษณ์ค่ะ” หญิงสาวชี้ในลิสต์ให้ดูไม่อยากถูกเข้าใจผิดว่าไปสนใจเขาจนถามด้วยความอยากรู้
“ผมอยากทำธุรกิจมากกว่า แต่ถ้ามีโครงการอะไรดีๆ เพื่อสังคมผมก็ยินดีรับทำเผื่อว่าจะมีประโยชน์มากกว่าแค่เป็นหนุ่มในฝันนะครับ”
จอมขวัญถามต่อจากที่แฟนๆ หนังสือส่งมาฝากให้สัมภาษณ์หนุ่มในฝัน ห่างไปอีกมุมหนึ่งของร้านอาหารอวัชกำลังมองตฤณอยู่เช่นกัน
“โลกช่างกลมจริงๆ อุตส่าห์มาเจอกันถึงที่นี่ นายจะเข้าไปคุยไหม”
ความสนใจของปรานต์ไม่ใช่คู่แข่งทางธุรกิจที่ยังไม่แน่ชัดว่าเป็นคนส่งมือปืนมาจัดการเขาหรือเปล่า แต่ผู้หญิงที่กำลังยิ้มหวานอยู่ต่างหากทำให้เขาเกิดคำถามว่ามีเหตุผลอะไรให้จอมขวัญต้องมาพบเจอตฤณ แล้วคุยกันเหมือนสนิทสนมแบบนั้น
“ไม่จำเป็นหรอก แค่ไม่ประมาทก็พอ”
“ผู้หญิงคนนั้นคงไม่รู้ตัวว่ากำลังเล่นกันไฟ ไอ้หมอนี่มันเสือชัดๆ ขนาดนางแบบ นางเอก มันยังทิ้งเกลี้ยง แล้วมาบ้านๆ แบบนี้คงไม่เหลือแน่ๆ ลูกใคร น้องของใครก็ไม่รู้ น่าสงสารจริงๆ” อวัชเล่าตามที่ได้รู้มา เขา ปรานต์และตฤณ เรียนมัธยมปลายมาด้วยกัน แต่ตอนนี้เขาไม่สนิทกับตฤณเหมือนแต่ก่อนแล้ว
ฟังแล้วน่าจะเป็นข่าวดีสำหรับปรานต์ ถ้าจอมขวัญมีคนรักอยู่แล้ว เขาคงไม่ต้องรอหนึ่งเดือนเพื่อจะปฏิเสธพ่อเรื่องการแต่งงาน
“ถ้าเจ้าตัวเต็มใจก็ไม่ต้องสงสารไปหรอก”
ปรานต์มองไปที่จอมขวัญอีกครั้ง ทั้งที่น่าจะโล่งใจ แต่กลับรู้สึกเป็นห่วง ถ้าชื่อเสียงเรื่องผู้หญิงของตฤณไม่จริงดังที่อวัชเอ่ยมา จอมขวัญก็ต้องมาเสียใจอีกแล้วยังเรื่องที่คุณน้าลลิตาป่วย ต่อให้จิตใจเข้มแข็งแค่ไหน เจอเรื่องกระทบใจซ้ำๆ คงรับมือไม่ไหวหรอก
ปรานต์โว้ย จอมขวัญมาทำงาน แกจะเข้าใจผิดไม่ได้
ขอบคุณสำหรับการติดตามอ่านนะคะ
อัมราน_บรรพตี
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 155
แสดงความคิดเห็น