ตอนที่ 4 .. “ วันเวลาแห่งความทรงจำ 2 ”
ตอนที่ 4 .. “ วันเวลาแห่งความทรงจำ 2 ”
รวมเรื่องสั้น นิยายรัก นักศึกษา (Romance Fiction - นิยายรัก)
ตอนที่ 4 .. “ วันเวลาแห่งความทรงจำ 2 ”
“ฉันแค่อยากจะรู้ว่า นายตามฉันมาทำไมก็เท่านั้น” ตั๊กรีบเปลี่ยนประเด็นทันที
“มีจุดประสงค์อะไรบอกมา หรือว่า แกคิดจะข่มขืนฉัน แล้วฆ่าทิ้งหมกไว้ข้างทาง หรือโยนศพทิ้งในป่า อย่านะ อย่าเข้ามา ฉันสู้นะเอ้า”
นั่นตั๊กคิดฟุ้งซ่านไปถึงโน่นนี่นั่นเลย จนแจ๊คต้องตะโกนกลับไป
“จะบ้าเหรอ นังเด็กบ้า ฮู้ คิดได้ยังไง” ไอ้แจ๊คเกาหัวแคร๊กๆและหัวเราะร่วนออกมาทันที่
“55555+ วุ๊ย กูอยากจะบ้าตาย คิดได้ยังไง เป็นตุเป็นตะ” แจ๊คไม่รู้จะขำยังไงดีแล้ว
“หน้าอย่างนี้เนี่ยนะ อย่างฉันเนี่ยนะ” ชี้มาที่หน้าตัวเอง
“เป็นไอ้บ้ากาม อุ๊ยขำ เอ้า ถึงผมจะเป็นไอ้โจรบ้ากาม คิดได้ยังไง” แจ๊คชี้กลับไปที่ตั๊ก
“ถึงผมจะเมา แล้วมาเจอเหยื่ออย่างคุณเนี่ยนะ บอกได้เลย ผมก็สร่าง”
ตั๊กแทบอยากจะร้องกรี๊ด เจอแจ๊คดูถูกอีกแล้ว
“แก แก ไอ้ทุเรศ แกดูถูกฉันอีกแล้วนะ” แจ๊คมองตั๊กแล้วก็ยิ้มเยาะ
“โธ่เอ๊ย ไม่ได้ดูสารรูปตัวเองเอาซะบ้างเล้ย อวบจนจะอ้วนอยู่แล้ว ไอ้นั่นก็ไม่มี”
สายตาจ้องไปที่หน้าอก ตั๊กรีบเอามือมาปิดไว้
“แล้วนายตามฉันมาทำไมไอ้หน้าจืด นายยังไม่ตอบฉันเลย” ตั๊กเล่นไปอีกชุด
“ก็บ้านผมอยู่ในซอยนี้หนะ ถ้าผมไม่เดินมาทางนี้ แล้วคุณจะให้ผมเดินทางไหนมิทราบครับ เหาะกลับมารึไงจ๊ะแม่คุณ ห๊ะ ไหนตอบซิ ช่วยสาธยายให้พี่ชื่นใจหน่อยซิ น้องหนู” เท่านั้นแหละ ยัยตั๊กเสียงอ่อยเลย
“บ้านนายอยู่ในนี้จริงๆเหรอ” ถามย้ำด้วยความแน่ใจ
“ก็ใช่นะซิ” แจ๊คตอบกลับ
“แล้วทำไมฉันไม่เคยเห็นคุณเลยหละ ฉันอยู่มาตั้งนาน ไม่ยักกะเคยเห็นหน้า โกหกเป่า” แหนะมีลูกเล่น เมื่อความจริงเปิดเผย
“ผมจะไปโกหกคุณทำไม มันได้อะไรขึ้นมา ผมพึ่งย้ายมาอยู่”
“พึ่งมาอยู่อย่างนั้นเหรอ” ตั๊กพูดออกมาเบาๆ
“เนี่ย” ชี้ไปที่บ้านหลังใหญ่ขวามือ
“บ้านหลังนั้น ผมไปหละ นี่ก็มืดมากแล้ว หิวข้าว ขอตัวก่อนนะครับ สวัสดี” พูดจบก็เดินเลี้ยวเข้าบ้านไปเลย
“เดี๋ยวค่ะ” ตั๊กตะโกนตามหลัง แจ๊คกำลังจะปิดประตูรั้ว จึงโผล่หน้าออกมา
“ขอโทษนะคะ <เว้นช่วงสักพัก> เออ พี่..” แจ๊คตะโกนออกไป
“แจ๊คครับ พี่ชื่อแจ๊ค” ตั๊กโบกมือให้
“แล้วพบกัน” แจ๊คยิ้มให้ ตั๊กถึงกับงง เพราะแจ๊คเปลี่ยนไปเร็วมาก
ตั๊กชอบรอยยิ้มของแจ๊คขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวซะแล้ว เธอมองดูบ้าน ใหญ่โตอะไรปานนั้น เธอเดินผ่านทุกวันได้แต่มองดู ไม่นึกไม่ฝันว่าจะได้เจอหนึ่งในผู้ที่อยู่บ้านหลังนี้ คืนนี้ตั๊กกลับไปนอนฝันดีทั้งคืนเลย อย่าว่าแต่ตั๊ก เจ้าแจ๊คก็เช่นกัน ฝันถึงแต่หน้าของตั๊กทั้งคืน
>>>>> ***** <<<<<
เช้าวันใหม่ที่สดใส นกยูงเดินออกมาจากบ้าน ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส แบบว่ามีความสุข หลังจากที่ได้ถูกมาร์คคนที่เธอแอบชอบ ยีหัวเล่นเมื่อวาน ทางตั๊กก็เช่นเดียวัน เธอมายืนรอแจ๊คที่หน้าบ้านเลย พอแจ๊คเปิดประตูรั้วออกมา เธอก็ยิ้มและทักทาย
“อรุณสวัสดิ์ สวัสดีค่ะพี่” แจ๊คไม่ได้คิดอะไร จึงยิ้มตอบรับไป
“อ้าว เธอนั่นเอง สวัสดีจ๊ะ มีอะไรแต่เช้ากับพี่เหรอครับ”
ทั้งสองคนเดินคุยกันไป จุดหมายก็คือป้ายรถเมล์ปากซอย <คือบ้านของตั๊ก อยู่ลึกเข้าไปอีกเกือบ 500 เมตรด้านใน เกือบสุดซอย> เพื่อฆ่าเวลา ดีกว่าเดินไปแบบเงียบๆ ตั๊กยื่นดอกไม้ให้ช่อหนึ่งไม่ใหญ่มาก
“ให้พี่ค่ะ” แจ๊คหันไปรับและมาดม
“เพื่ออะไรครับ” แจ๊คถามถึงสาเหตุ
“ก็ขอโทษเรื่องเมื่อวานไงคะ ที่ทำตัวไม่ดีกับผู้ใหญ่ หนูก็ต้องขอโทษ ใช่ไหมคะ”
แจ๊คหันมายิ้มให้และ ดึงดอกไม้ออกมา 1 ดอกส่งให้กับตั๊ก ตั๊กรับแบบเขินๆอายๆ หน้าแดงนิดๆ
“อืม แล้วน้องหละชื่ออะไร พี่ยังไม่รู้เลย” แจ๊คนึกขึ้นมาได้
“ตั๊กค่ะ หนูชื่อตั๊ก” เธอตอบแบบขวยเขิน
“เพราะดี” แจ๊คหลุดปากไป ตั๊กพูดอะไรไม่ออกเลย รถมาพอดี
“ไปรถมาแล้ว” แล้วทั้งคู่ก็ขึ้นรถสาย 125 ไปพร้อมกัน รถมาสุดสายที่สะพานกรุงธน จากนั้นก็ขึ้นสาย 56 ต่อ แจ๊คลงก่อนที่ราชภัฏสวนสุนันทา ส่วนตั๊กเลยไปเพื่อลงอีกไม่กี่ป้าย ต้องไปต่อสาย 12 เพื่อย้อนไปที่ พาณิชย์สุโขทัย
===== <> =====
แจ๊คไม่ได้เข้าวิลัยของตัวเอง แต่เดินไปดักรอนกยูงที่ประตูของราชภัฏสวนดุสิต นั่นไงเดินมาโน่นแล้ว อารมณ์ดีมาเชียว พอนกยูงเดินมาใกล้ แจ๊คก็ยื่นดอกไม้ที่ตั๊กให้มานั่นแหละ ให้นกยูงอีกที
“สวัสดีตอนเช้าครับ คนสวย” แต่เสียงที่ตอบกลับมา กลับไม่ลื่นหูเล้ย
“นี่อย่ามาทะลึ่งกับฉันนะ ไอ้หน้าจืด” ไม่เพียงไม่รับดอกไม้ กลับว่าให้เจ็บอีกต่างหาก แล้วก็เดินเข้าวิลัยไปเลย แจ๊คทนไม่ไหว เลยโวยกลับไป
“อะไรวะ คำก็จืด สองคำก็จืด ถือว่าสวยรึไง อีโธ่ ไม่ง้อก็ได้วะ เล่นตัวไปเถอะ แล้วคอยดูไอ้หน้าจืดคนนี้บ้าง จะควงนางฟ้ามาเย้ยให้ดู ไม่เชื่อก็คอยดู”
หลังจากบ่นเสร็จก็เดินย้อนกลับเข้าวิลัยตัวเองไปเลย เดินมาเจอกับบัว คนอ้วนคนเดิม ไม่พูดอะไร เดินสวนก็ยื่นดอกไม้ให้อีก แล้วก็จากไป บัวงงเป็นครั้งที่สอง
>>>>> ##### <<<<<
สำหรับนกยูงอารมณ์ดีๆมาแท้ๆ ต้องมาอารมณ์เสียเพราะไอ้แจ๊ค หน้าเลยบูดเป็นตูดเลย แต่พอเดินมาได้สักพักเห็นมาร์ค อารมณ์เธอก็เปลี่ยนไปเลยทันทีทันใด
“อาจารย์มาร์คนี่” มันก็แปลกดีเนาะคนเรา เมื่อเจอคนที่เราอยากเจอ อารมณ์ก็เปลี่ยนได้ปุ๊บปั๊บทันทีแบบนี้เลยเหรอ
ความรักมักเป็นเช่นนี้เสมอ จึงเดินเข้าไปทักทาย ด้วยรอยยิ้มแบบมีความสุข ต่างจากที่มีให้ไอ้แจ๊คเมื่อกี้ราวฟ้ากับเหว
“อาจารย์มาร์คค่ะ” มาร์คหันมา
“อรุณสวัสดิ์ค่ะ” มาร์คยิ้มให้ พร้อมกับถือกระเป๋าเอกสารการสอนออกมาและปิดรถ
“อ้าวนกยูงเองเหรอ สวัสดีจ๊ะ มีอะไรกับครูเหรอเช้านี้” มาร์คยิงคำถาม พร้อมกับเดินไปอย่างช้าๆ
“จะมาขอบใจเรื่องเมื่อวานค่ะ” นกยูงตอบแบบมั่นใจ
“โอ๊ย ไม่เป็นไรหรอก อย่าไปนึกถึงมันเลย” มาร์คหันไปบอก
“ไม่ได้หรอกค่ะอาจารย์ มันอาจจะไม่สำคัญสำหรับอาจารย์ แต่มันสำคัญกับหนูมาก หนูสัพเพล้า เลยทำให้เกิดเรื่องราวใหญ่โตแบบนั้น นะคะ ถ้าอาจารย์ไม่รับการขอบคุณของหนู” มาร์คหยุดเดิน
“หนูจะไม่สบายใจไปตลอดชีวิตเลย” และหันไปยิ้มให้นกยูง
“ขนาดนั้นเลยเหรอ เอา ก็ได้ ครูยินดี รับคำขอบคุณของเธอก็ได้ แค่นี้ใช่ไหม จบนะ”
นกยูงรีบพูดต่อ เพราะมาร์คกำลังเข้าใจผิด
“ไม่ใช่นะคะอาจารย์ ไม่ใช่แบบนี้” นกยูงเรีบเดินมาบังไว้ไม่ให้มาร์คเดินต่อ มาร์คไม่เข้าใจ
“แล้วเธอจะเอายังไง ครูมีสอนนะ ต้องไปเตรียมการสอนอีก” นกยูงเลยได้โอกาส
“ถ้างั้นเพื่อเป็นการตอบแทน หนูขอเลี้ยงอาจารย์หนึ่งมื้อวันนี้นะคะเที่ยงนี้” มาร์คทำหน้าไม่อยากไป
“อ๊ะอ๊า อย่าปฏิเสธนะคะ” มาร์คยิ้มนิดๆ เพราะแพ้ลูกตื้อและลูกอ้อนของเด็กคนนี้เข้าให้แล้ว เลยยิ้มนิดๆแล้วแซวกลับไป
“ครูกินจุนะซิบอกหั๊ย เลี้ยงไหวเหรอ” แล้วก็หัวเราะเบาๆ นกยูงเลยแก้ลำกลับไป
“จุแค่ไหน หนูก็ไหวค่ะ หนูเลี้ยงได้ อิอิ”
มาร์คจ้องหน้านกยูงสักพักแล้วก็ตอบ เพราะยอมใจยัยคนนี้เลยจริงๆ ไม่เคยมีใครตื้อบันลือโลกได้แบบนี้
“ตกลง” นกยูงดีใจมาก ลืมตัวกระโดดโหยงเลย พร้อมกับส่งเสียงแห่งการมีชัยชนะ
“ไชโย” มาร์คถึงกับงง มองนกยูงด้วยสายตาที่เอ็นดูมากยิ่งขึ้น
///// +++++ /////
แจ๊คหลังจากที่ออกไปรายงานหน้าห้องเป็นที่เรียบร้อย และได้รับคำชมเชยจากอาจารย์มา ก็มีความสุขได้พักนึง พอเลิกเรียน มดเพื่อนซี้เข้ามากอดคอ
“โห สุดยอดเลยหวะมึง ไม่นึกว่า อาจารย์จะชมมึงได้ถึงขนาดนี้ ไม่ผิดหวังที่กูเลือกอยู่กลุ่มเดียวกับมึง สุดยอด”
แต่หน้าตาของแจ๊คยังไม่ดีเอาเลย จนมดสังเกตุได้ เลยถาม เพราะอยากจะรู้
“เป็นไรของมึงวะ กูเห็นมึงทำหน้าแบบนี้มาตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว บอกกูมา เผื่อกูจะมีทางออกให้มึงได้บ้าง” แจ๊คเงยหน้าขึ้นมาแล้วก็บอกเพื่อน
“มึงยังจำยัยตัวแสบเมื่อวานได้ไหม” มดจำได้แล้ว
“อ๋อ ยัยนกยูง คนที่มึงตามจีบอยู่ใช่ไหมหละ เชื่อกู ตัดใจซะเถอะ” มดเห็นใจเพื่อน
“กูได้ข่าวมาว่า แม่คนนี้ เป็นดาวเด่นของปี 1 ปีนี้เลย” แถมสืบเรื่องราวมาให้อีก
“เรื่องทำตัวเด่นเป็นนางฟ้า ไม่เห็นหัวใคร สุดยอดเลย มีหนุ่มๆตามจีบเพียบ นางยังไม่สนเลย โคตรเล่นตัว ไม่รู้ว่าจะถนอมร่างกายไว้ให้ใคร" มดตบไหล่เพื่อนเบาๆ
"เอางี้ดิ ในเมื่อนางไม่เห็นมึงอยู่ในสายตา ทำไมมึงถึงไม่แก้เกมส์กลับไปหละ”
“ยังไงวะ” มดเลยกระซิบที่หู “มึงก็หาใครสักคน สวยๆน่ารักๆมาอุปโหลกเป็นแฟนปลอมๆ หลอกแม่งไปเลย”
มดทำหน้าจริงจัง “ดูซิว่านางจะทำยังไงเมื่อเห็นว่ามึงสามารถมีแฟนเป็นตัวเป็นตนได้” แจ๊คมองหน้าเพื่อน
“พูดง่ายๆก็คือ ไม่สนนางแล้ว มึงเชื่อกู รับรอง นางต้องกระอักเลือดตายแน่ๆ หรือไม่ก็เสียใจ ที่ไม่รับรักมึงไง เสียดายแล้วรู้สึกเจ็บที่ไม่เคยหันมามองมึงเลย ว่าไง แผนนี้ของกูเด็ดไหม”
“ไร้สาระหวะไอ้มด” พูดจบแจ๊คก็รีบเดินลงไปอย่างเร็ว แต่จะไปไหนหละ มดรีบวิ่งตามลงไป
***** ฿฿฿฿฿ *****
นกยูงมายืนรอมาร์คกับแก้วที่โรงอาหาร “เอาจริงเหรอแก แกนี่บ้าได้โล่ห์จริงๆเลยไอ้ยูง”
“จริง” นกยูงไม่หันไป ได้แต่ตอบ “ทำไงได้วะ ไม่ลองก็ไม่รู้ เพราะความไม่กล้าของฉัน” นกยูงระบายความอึดอัดออกมา
“เมื่อตอนปีใหม่ ฉันก็เลยพลาดไปทีแล้ว วันนี้มีโอกาส มันก็ต้องลองเสี่ยงดูหน่อยซิวะ” แก้วเริ่มเป็นห่วงเพื่อน ว่าทำไมต้องทุ่มเทจนถึงขนาดนี้ จึงไม่เก็บความสงสัยไว้
“ถามจริง” แก้วสงสัย “อะไร” ยูงถามกลับ แล้วสายตาก็ได้แต่มองรอว่าเมื่อไหร่มาร์คจะปรากฏตัว
“เอาจริงเหรอ” คราวนี้นกยูงหันมาได้ และมองหน้าเพื่อน แต่ไม่พูดอะไร ได้แต่จ้อง จนแก้วต้องหันไปเอง
“ทำไมแกถึงจ้องหน้าฉันอย่างนั้นหละวะไอ้ยูง” แล้วนกยูงก็พยักหน้า “จริง” แล้วก็หันกลับไป
“แต่อายุแกกับอาจารย์ห่างกัน 20 กว่าปีเลยนะ เท่าที่ฉันนับได้ 26 ปีเลยนะโว๊ย รุ่นพ่อแกเลยนะ ไหวเหรอ”
“ความรักมันไม่มีคำว่า ตัวเลขหรอกโว๊ยเพื่อน ถ้าใจตรงกันซะอย่าง” นกยูงมั่นใจแบบนั้น
“ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จ ต้องอยู่ที่นั่น”
“มันเอาแน่แฮ่ะ” แก้วบ่นในใจ แล้วนกยูงก็พูดต่อขณะที่นั่งรอใจจดใจจ่ออยู่ที่ประตูทางเข้า
“แค่วันนี้ฉันทำให้คนที่ฉันรัก มาทานมื้อกลางวันกับฉันได้” นกยูงยกมือขวาขึ้นมานิดหน่อยแล้วกำ
“มันก็ถือว่า ฉันประสบความสำเร็จไปอีกขึ้นหนึ่งแล้ว เข้าใจไหม”
“เออๆ เข้าใจสุดๆเลยแก ฉันยอมแพ้แกเลยหวะ มิน่าหละ อีตอนที่เรียนวิชาของเค้า แกถึงตั้งใจเรียนเป็นพิเศษอยู่วิชาเดียวเลย วิชาอื่น ฉันไม่เคยเห็นแกตั้งใจและทุ่มเทขนาดนี้”
แก้วยังคงจ้องหน้าเพื่อนอยู่ด้วยความห่วงใย นกยูงพูดกับเพื่อนวันนี้แบบเปิดอก
“เออ ถ้ารู้แล้วก็เงียบไว้ อย่าบอกให้ใครรู้เชียวนะแก”
“เออๆ รู้แล้ว” พอแก้วหันกลับไป
“นั่นๆ มาแล้วแก แกนี่สุดยอดเลยหวะ” แก้วไม่อยากจะเชื่อ
“ฉันนึกว่าแกจะแห้วแล้วเสียอีก มานั่นแล้ว เดินเท่ห์มานั่นแล้ว หล่อ เท่ห์ซะไม่มี”
“แฮ่ม ของฉันๆ กรุณาอย่ามาแสดงอาการให้เห็น ฉันไม่ชอบ ของใครของมัน กรุณาดูด้วย”
นกยูงเบรกเพื่อนดังเอี๊ยด ไม่นานมาร์คก็เดินมาถึง นักศึกษาบางคนที่รู้จักก็ยกมือไหว้ และขอตัวจากไป แล้วก็เดินมาหยุดอยู่ข้างโต๊ะที่นกยูงนั่งอยู่ พอเอาเข้าจริงๆ นกยูงไม่กล้ามองสบตา นั่งตัวสั่นก้มหน้ายังกะลูกนก ใจเต้นตุบตับๆ ไม่เป็นจังหวะเอาซะเลย ทีเมื่อตอนเช้าหนะ ทำพูดดี เก่งซะไม่มี พอมาตอนนี้ เงียบจ๋อย หงอยเป็นลูกนกพึ่งเกิดใหม่เลยแม่คุณ แก้วยกมือสวัสดี
“สวัสดีค่ะอาจารย์” มาร์ครับไหว้ “สวัสดีจ๊ะ” แก้วสะกิดเพื่อน
“ไอ้ยูงๆ มาแล้ว เงยหน้าขึ้นมาได้แล้ว ของแกนะ ถ้าไม่กล้า งั้นฉันเอานะเอ้า”
เท่านั้นแหละ นกยูงรีบเงยหน้าขึ้นมาทันที เรื่องอะไรที่จะเสียของรักของตัวเองให้คนอื่น ไม่ได้เสียหมด
“Stop หยุดความคิดอันโสมมของแก ณ.บัด Now ฉันกลับมาแล้ว เมื่อกี้ไปเที่ยว” แล้วก็หันไปยิ้มให้กับมาร์ค
“เชิญนั่งก่อนค่ะ หนูได้ให้เจ๊ทำเตรียมรอไว้แล้วค่ะ ถ้าไม่พอ สามารถสั่งเพิ่มได้เลย รอสักครู่นะคะ เดี๋ยวหนูจะไปลำเลียงของอร่อยๆมาให้รับประทาน ไปแก้ว ไปช่วยกัน”
มาร์คไม่พูดอะไร ได้แต่นั่งยิ้ม นกยูงกับเพื่อนก็รีบไปทยอยลำเลียงอาหารมาให้ 4-5 อย่าง
“มาแล้วค่ะ” เป็นอาหารง่ายๆ ไม่หรูหราอะไรมาก เช่น ไข่เจียวหมูสับ กระเพราหมูสับ ไก่กระเทียม คะน้าหมูกรอบและไส้กรอก/แฮมทอด
ส่วนน้ำ ก็พวกน้ำอัดลมและชาเขียวชาดำทั่วไป แล้วแต่ใครชอบอะไร มาร์คนั่งตรงข้ามกับนกยูง และแก้วนั่งติดกับนกยูงทางซ้าย ทั้งสามคนนั่งทานอาหารมื้อนี้อย่างมีความสุข บางครั้งมาร์คก็ตักอาหารให้นกยูงเป็นครั้งคราว และนกยูงเองก็ตักอาหารให้มาร์คด้วยเช่นกัน แก้วแอบอิจฉา จึงบ่นในใจ
“นี่ฉันเป็นส่วนเกินหรือไม้กันหมาให้มันกันแน่วะเนี่ย โอย กระเดือกไม่ลงเลยฉันมื้อนี้”
แก้วหันไปดูนกยูงกับมาร์ค เหมือนทั้งสองอยู่ในโลกส่วนตัวเพียงสองคนเท่านั้น ทั้งพูดคุยหยอกล้อกัน ยิ้มให้กันและสายตาที่ทั้งสองมองกัน ใครก็ดูออกว่าทั้งสองมีใจให้กันแล้วไม่มากก็น้อย ถ้าใครดูไม่ออกก็บ้าแล้ว เพียงแต่ดีอยู่ตรงที่ว่า ทั้งสองไม่ได้แสดงความน่าเกลียดอะไรออกมาจนออกนอกหน้า หลายคนเลยไม่ได้สนใจอะไรก็เท่านั้น
----- ^^^^^ -----
แจ๊คเดินผ่านประตูพิเศษที่สถาบันทำไว้สำหรับให้นักศึกษาสองสถาบันเดินหากันได้ ไม่ต้องอ้อมไปที่ถนนใหญ่เวลาเดินเรียน ข้ามไปมาระหว่างสถาบัน มดรีบวิ่งตามไปเพราะแจ๊คเดินเร็วมา เหมือนวิ่งก็ว่าได้ เจอบัวเข้ากลางทาง ทักก็ไม่ตอบ มดเลยต้องขอโทษบัวแทนแจ๊ค
“โทษนะบัว มันกำลังบ้า อย่าถือสามัน” บัวกำลังสับสน “เออๆ”
ไม่นานแจ๊คก็มาถึงโรงอาหารที่สวนดุสิต มองเข้าไปเห็นนกยูงกำลังมีความสุข นั่งทานอาหาร ตักนั่นตักนี่เทคแคร์มาร์คอยู่อย่างมีความสุข ลุกไปเอาไอ้นั่นไอ้นี่ให้ จนเกิดความหึงหวงและน้อยใจขึ้นมาทันที
“อย่างนี้นี่เอง ถึงไม่เคยสนใจอะไรเราสักนิด เพราะมีคนที่อยากจะเอาใจอยู่แล้ว ชอบแบบนี้ใช่ไหม”
มดวิ่งตามทันและเห็นเช่นกัน จึงเอามือแตะไหล่เพื่อนเบาๆ
“ใจเย็นๆเพื่อน เห็นไหม ผิดปากกูไหมหละ อีนี่มันหัวสูง มันไม่สนคนระดับอย่างพวกเราหรอก โน่นต้องระดับอาจารย์ มีรถหรูๆ โก้ๆขับ ตัดใจซะเถอะวะ เจ็บตอนนี้ ดีกว่ามาเจ็บวันหลัง”
แจ๊คจึงตัดสินใจลองใช้แผนของมดดู “ได้ นกยูง แล้วเราจะได้เห็นดีกัน ว่าคนจนๆที่ไม่มีอะไรอย่างไอ้แจ๊ค จะชนะเธอไม่ได้” แจ๊คเริ่มวางแผนเอาคืนนกยูงทันที
“มันต้องอย่างนั้นซิวะเพื่อน เราก็มีศักดิ์ศรีเหมือนกัน จะไปตามตื้อ ตามจีบเด็กปี 1 ที่หัวสูงอย่างนังนั่นทำไม ปี 4 อย่างเรา ต้องหาได้สวยและดีกว่ายัยคนนี้ ไปเพื่อน เราไปหาอะไรกินกัน เพื่อฉลองความสำเร็จล่วงหน้ากัน” พูดจบ ทั้งสองคนก็กอดคอเดินกลับสวนสุนันทาทันที ไม่หันไปมองภาพบาดตานั้นอีกเลย
ส่วนนกยูงก็มีความสุขไปเป็นธรรมดา โดยหารู้ไม่ว่า คนข้างๆคือเพื่อนของเธอ กำลังอึดอัดอยู่ แต่เปิดปากบอกใครไม่ได้
***** +++++ *****
“เออ ต้องขอโทษด้วยนะยูง ที่พรุ่งนี้ครูไม่สามารถไปกับเธอได้ ตามที่เธอขอมา” มาร์คไม่อยากให้เสียงาน
“ติดธุระจริงๆ เอาไว้โอกาสหน้าก็แล้วกันนะครับ”
“ว๊า เสียดายจัง ทำไมหละคะ หนูบอกแล้วไงว่า หนูจะไม่ทำตัวงี้เง้า ไอ้แก้วก็ไม่ว่าง พ่อแม่มัน พาไปเที่ยวต่างจังหวัดสองวันเลย แบบนี้หนูก็เหงาแย่เลยหนะซิ สองวันนี้ พี่สาวก็ไม่ว่าง เพื่อนก็ไม่อยู่”
นกยูงเริ่มง๊องแง๊งแล้ว หน้าจากมีความสุข กลับมีทุกข์เสียแล้ว
“หนูไปด้วยไม่ได้เหรอ รับรองว่า หนูจะไม่ยุ่ง จะอยู่ในที่ของหนูนะๆ อาจารย์คนดี อาจารย์ก็ทำงานของอาจารย์ไป หนูจะอยู่ดูเป็นกำลังใจให้ สัญญาว่า จะไม่เข้าไปวุ่นวายจริงๆ” มาร์คส่ายหน้า
“ไม่ได้ครับ ไม่ได้จริงๆ งานนี้ครูรับปากเพื่อนไว้ มันอันตราย อีกอย่าง ครูก็คงไม่มีเวลามาคอยดูแลยูงด้วย นะคนดี เชื่อครู อย่าดื้อ อยู่บ้านอ่านหนังสือดูตำรา ใกล้จะสอบเก็บคะแนนแล้ว ถ้าคะแนนไม่ดี ไม่รู้ด้วยนะเอ้า” นกยูงงอนที่มาร์คขัดใจ
“ตามนี้นะ ครูอิ่มแล้ว ขอตัวไปตรวจการบ้านเด็กๆก่อน” มาร์คลุกขึ้น
“อ๋อ ถ้ากลับมา ครูอาจจะมีของมาฝากด้วยนะ ถ้าทำตัวดี ไม่งอแง” มาร์คยื่นขอเสนอ
“แต่ถ้ายังทำหน้าแบบนี้ ครูรับรองได้เลยว่าอด Sure” แก้วเดินกลับมาจากห้องน้ำ
“นั่นเพื่อนมาโน่นแล้ว งั้นครูไปก่อนนะ นั่งเป็นเพื่อนนานแล้ว ยูงคงจะเบื่อแล้ว บาย” นกยูงทำหน้าไม่ดีเลย
“แล้ววันจันทร์เจอกันนะ ครูไปก่อนนะแก้ว” แก้วสวัสดีลาตามมารยาท
“อ้อ สำหรับอาหารมื้อนี้ สุดยอด อร่อยมากจริงๆ ขอบใจมาก ไปหละ แล้วอย่าโดดเรียนนะคาบบ่ายหนะ ทานเข้าไปเยอะนี่ เราสองคนหนะ ระวังนะ น้ำหนักจะเพิ่ม แล้วมันจะออกทุกส่วน โดยเฉพาะที่นี่”
มาร์คชี้ที่แก้ม นกยูงงอนมาร์คอยู่ เลยไม่พูดด้วย แก้วเลยงง ปรับอารมณ์ไม่ถูกเลย อะไรวะ ไปห้องน้ำกลับมาแป๊บเดียว สองคนนี้ทะเลาะอะไรกันอีก งง สับสนจริงๆ
“ไปแก ได้เวลาคาบบ่ายแล้ว อังกฤษด้วย อาจารย์แกเขี้ยวสุดๆ สายนิดเดียวเช็คขาดเลยนะไปๆ”
แก้วรีบดึงนกยูงออกจากเก้าอี้ที่โรงอาหาร นกยูงเซ็งหมดอารมณ์ที่จะเรียนเลย เมื่อเจอคนที่เธอรักขัดใจ ไม่ยอมตามใจสักนิด ขอไปด้วยก็ไม่ได้ ไม่รู้ว่าจะเกรงใจเพื่อนไปถึงไหน หน้ามุ่ยเป็นตูด เดินไปเรียนแบบไร้อารมณ์เลย และตลอดทั้งวัน นกยูงไม่มีความสุขเลยก็ว่าได้
<<<<< ----- >>>>>
เช้าวันเสาร์ วันใหม่ที่สดใส ณ.บ้านพักของมาร์คที่ชายทะเลพัทยา
“เป็นไงบ้างวะมาร์ค พอไหวไหม” ต่อถามขึ้น ก่อนที่มาร์คจะลุกไปล้างมือล้างหน้าตา
“รับรอง มือชั้นนี้แล้ว ฮ่อยิ่งกว่าเทอร์โบ หลายแรงม้าเลย เชื่อขนมกูกินได้เลย” มาร์คคุยโตไว้
“ทำไมต้องเชื่อขนมมึงด้วยวะ ขนมคนอื่นไม่ได้เหรอ” ต่อสงสัย
“ไม่ได้หรอก” มาร์คบอก “อ้าวทำไมหละ” ต่อยิ่งงง
“อ้าวไอ้เวร ถ้าเป็นขนมคนอื่น กูจะรู้ไหมว่ารสชาดเป็นยังไง และอีกอย่างเขาจะยอมให้มึงเซ็นต์หรือเปล่า แต่ถ้าเป็นของกูเนี่ย กูต้องรู้ซิว่ารสชาดเป็นยังไง และก็ก็ยอมให้มึงเชื่อและเซ็นต์ได้ด้วยไง”
“มึงนี่ เจ้าคารมไม่เบาเลยนะ” ต่อยอมเลย
“เอ้อ บ่ายนี้บอกพี่ชายมึง มาเอารถไปลองได้เลย วันก่อนที่มึงให้กูมาดู กูกลับไปแก้วงจรมาให้หมดแล้ว สบาย วิ่งป๋อม้า 10 ตัวก็ตามไม่ทัน” มาร์คคุยใหญ่เลย
“ให้มันแน่อย่างที่มึงคุยเหอะไอ้เวร” มาร์คล้างมือไปและก็คุยไปด้วย หัวเราะกันลั่นบ้านเลย
ไม่นานหงส์พี่สาวของนกยูงซึ่งทำงานเป็นประชาสัมพันธ์ของทีมแข่งรถของพี่ชายต่อ ก็มาในงานแข่งรถที่พัทยาปีนี้ด้วย
“เยี่ยมไปเลยไอ้น้อง เมื่อวานลองดูแล้วพักนึง มันวิ่งระเบิดเถิดเถิงเลยจริงๆหวะ”
“สวัสดีครับพี่ต๋อง งั้นวันนี้ลองใหม่ ผมพึ่งบอกให้ไอ้ต่อไปบอกพี่อยู่เลยว่า บ่ายนี้ ให้เอารถไปลองอีกที เผื่อมีอะไรที่จะต้องแก้ระบบ เพราะเมื่อคืนตอนที่ผมมาถึง ผมได้โหลดโปรแกรมตัวใหม่สำหรับคุมไนโตรให้ใหม่ น่าจะฮ่อว่าเดิมอีกหลายเท่า และที่สำคัญนะพี่ ประหยัดไนโตรอีกต่างหาก พี่มาก็ดีแล้ว จะได้ไม่ต้องรอถึงบ่าย ไปเลยพี่ เอามันไปลองได้เลย ถ้าขัดข้องตรงไหนผมจะได้รีบแก้ให้” มาร์คพูดซะจนต๋องอยากจะลองแล้ว
“จริงดิ งั้นพี่ไปก่อนนะ” ต๋องเอามือแตะไหล่มาร์ค ช่างพิเศษประจำทีมของเขา จากนั้นต๋องก็เอารถไปลองในสนามจำลองคือถนนข้างๆบ้านพักนั่นเอง
เพราะระยะทางยาวพอที่สามารถอัดแรงเหวี่ยงได้เป็นอย่างดี จึงไม่รอช้าที่ต๋องจะทำการพิสูจน์เดี๋ยวนั้น
\\\\\ +++++ \\\\\
เมื่อหงส์ฟ้ามา นกยูงก็ต้องมาด้วยอย่างแน่นอน เนื่องจากเมื่อวานตอนเย็นหลังจากที่กลับถึงบ้านแล้วหงส์เห็นน้องหน้าตาไม่ดี จึงเข้ามาถาม นกยูงอ้อนพี่สาว ขอมาเที่ยวกับเธอ เพราะไม่อยากอยู่บ้านคนเดียวมันเหงา พี่สาวก็เลยใจอ่อน ยอมให้มาด้วย แต่มีข้อแม้ว่า ห้ามวุ่นวาย และเธอก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า มาร์คอยู่ที่นี่ คือมางานเดียวกัน เมื่อนกยูงเห็นมาร์ค จึงดีใจมาก คิดไม่ผิดที่ขอพี่สาวมา ไม่งั้นต้องเสียโอกาสที่จะได้พบหน้าคนที่เธอรัก เลยเดินเข้าไปหาและทักทาย
“สวัสดีค่ะอาจารย์” มาร์คหันมาต้องตกใจมากที่เจอนกยูงที่นี่
“อ้าวยูงนั่นเอง มาได้ยังไงเนี่ย” นกยูงเดินเข้ามาจับมือมาร์คแบบว่า อยากจะกระโดดกอดมากกว่า แต่ก็ยังใจไม่กล้าพอ แค่จับมือ ก็สั่นจะตายอยู่แล้ว
“มากับพี่สาวค่ะ นั่นไงคะ” นกยูงชี้ไปที่หงส์ ซึ่งกำลังเดินเข้ามาพอดี
“ว่าไงจ๊ะแม่จอมซนจอมแก่นของพี่ เดินหาแทบตาย แอบหลบมาอยู่ที่นี่นี่เอง” นกยูงกระซิบที่หูของหงส์
“คนนี้แหละพี่ ที่หนูปิ๊ง” หงส์ก็เลยหันไปและทักทายมาร์ค
“สวัสดีค่ะ” มาร์คยื่นมือไปเช็คแฮนด้วย “เช่นกันครับยินดีที่ได้รู้จัก”
“อาจารย์คะนี่พี่หงส์ฟ้า พี่สาวแท้ๆของหนูเลย” หงส์ยิ้มให้มาร์ค
“พี่หงส์นี่อาจารย์มาร์ค สอนวิชาเทคโนโลยี่และสิ่งพิมพ์ให้หนูที่มหาลัย เก่งที่สุด”
“ไม่ก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ นกยูงก็อวยผมจนเกินไปแล้ว” มาร์คเขินนิดๆ
“เอ้อ ผมพึ่งรู้นะเนี่ย ว่าคุณสองคนเป็นพี่น้องคลานตามกันออกมา”
“ใช่ค่ะ ดูไม่ออกหรอก ถ้าไม่รู้จักกันจริงๆ เพราะอายุเราสองคนห่างกันมากถึง 13 ปีเลยทีเดียว บางคนเขายังนึกว่าลูกสาวเลย” มาร์คทำหน้างงกับคำพูดของหงส์ จนหงส์ต้องอธิบายต่อ
“อย่าทำหน้างง แบบนั้นซิคะ เพราะเนี่ยหนะเป็นลูกหลง แถวบ้านหงส์เขามักจะเรียกว่าลูกอิจฉา” แล้วก็เอามือมาลูบหัวน้องสาว
“ขี้อ้อนเป็นที่สุด แสนงอนเป็นอันดับหนึ่งเลยทีเดียว คุณมาร์คอย่าไปตามใจมันมากนักนะคะ เดี๋ยวจะเหลิงและเคยตัว” นกยูงยังไงก็ยังชอบอ้อนพี่สาวอยู่ดี รักเหมือนแม่คนที่สองเลย
“โอย ผมคงไม่มีวาสนาถึงขนาดนั้นหรอกครับ นกยูงเขาออกจะสวยและน่ารักขนาดนี้ อย่างผมนะเหรอ จะไปทำอะไรได้ คงไม่บังอาจไปตามใจอะไรได้ขนาดนั้นหรอก” มาร์คออกตัวไว้ก่อน
“อย่างดีก็แค่ไม่ขัดใจ ถ้าไม่เหนือบ่ากว่าแรงจนเกินไป แค่นี้ก็ถือว่าดีแล้ว”
นกยูงแอบหัวเราะในความเปิ่นของมาร์ค สักพักมาร์คนึกอะไรขึ้นมาได้ ก่อนที่จะลืม เลยยิงคำถามทันที
“อืม..ขอโทษนะครับ เมื่อกี้เห็นคุณหงส์บอกว่านกยูงเป็นลูกหลง” มาร์คมองไปที่นกยูง
“มันเป็นยังไงเหรอครับ ผมไม่เข้าใจ” มาร์คสงสัยเลยอยากรู้
“อ๋อ คือยังงี้ค่ะ พ่อของหงส์เสียไปนานแล้ว แม่ของหงส์ก็เลยแต่งงานใหม่หนะค่ะ แต่ไม่มีลูกสักที บทจะมีก็มีมาซะดื้อๆเมื่อ 17 ปีที่แล้ว ก็เลย” ชี้ไปที่นกยูง มาร์คเลยถึงบางอ้อ
“เนี่ยหละค่ะ ออกมาเป็นสาวน้อยผู้น่ารักน่าชังคนนี้”
มาร์คเข้าใจอะไรมากขึ้น และเริ่มชอบครอบครัวนี้ที่เปิดเผยดี ไม่ปิดบังอะไร
“เราก็เลยมีพ่อคนละคนกัน แต่นั่นไม่ใช่อุปสรรค เพราะหงส์รักน้องคนนี้มาก” เธอพูดไปยิ้มไป
“สัญญากับแม่ไว้แล้วว่า จะดูแลน้องให้ดีที่สุด ถึงได้เอามาอยู่และเรียนที่นี่ไงค่ะ หงส์อยู่กับน้องที่บ้านหลังเล็กๆริมแม่น้ำเจ้าพระยาแถวๆศรีย่านนี่เอง” หงส์ไม่ได้ปิดบังอะไรเลย
“เพราะมันไม่ไกลจากวิลัยที่น้องเรียนและที่ทำงานของหงส์ด้วย” หงส์พูดเหมือนคนที่สนิทกันมานานเลย
“หงส์ประจำอยู่ที่สำนักงานของสยามกลการสาขาตรงสี่แยกมาบุญครองนี่เอง”
“อ๋อ อย่างนี้นี่เอง ผมเข้าใจแล้ว” มาร์คกระจ่างเลย เมื่อเจอการอธิบายแบบหมดเปลือกแบบนี้
“แต่เดี๋ยวนะ เมื่อกี้ที่คุณหงส์บอกว่า เป็นแม่ของนกยูงได้เลย ไม่จริงนะ ผมขอเถียง อย่าไปฟังพวกนั้นพูดเลยครับ ผมคนนึงหละที่ไม่เชื่อ คุณหงส์ยังสวยและปิ๋งปั๋งอยู่เลย ไม่น่าจะเป็นแม่ได้หรอก พี่สาวหนะถูกต้องแล้ว” หงส์ยิ้มแบบเขินอายนิดหน่อย เพราะเจอคนอวยเข้าให้เสียแล้ว นกยูงเลยพูดโพล้งออกมาดื้อๆกลางปล้องเลย
“ปีนี้ 30 แล้วแต่ยังสวยอยู่เลย พี่สาวหนูน่ารักไหมจารย์” หงส์เอามือหยิกน้องสาวเบาๆ
“หนูเจ็บนะพี่หงส์” หงส์หันไปชี้หน้าน้องสาว และทำตาเขียวใส่ทันที
“เซี๊ยวใหญ่แล้วเราหนะ พูดอะไรออกไป เกรงใจคุณมาร์คเขาบ้าง บอกแล้วไง นิสัยแบบนี้ พี่ไม่ชอบ คราวหลังห้ามทำอีก เข้าใจไหม” หงส์แกล้งดุน้องต่อหน้ามาร์ค เพื่อจะดูปฏิกิริยาของฝ่ายตรงข้าม
“ขอโทษค่า ก็ใครอยากให้พี่สาวหนูเกิดมาน่ารักทำไมหละ หนูเอาเรื่องจริงมาพูด จะกลัวทำไม”
แล้วก็กอดคอเอียงตัวไปหอมแก้ม อ้อนอีกตามเคย จนมาร์คต้องส่ายหัวและยิ้มให้กับความน่ารักจอมแก่นแสนซนของสาวน้อยผู้นี้
“ทีแรกผมก็นึกว่ามาดูเขาแข่งรถพรุ่งนี้กันเสียอีก” มาร์คหน้าแตกไปเลย
“แต่ที่ไหนได้กลับเป็นคนในทีมเดียวกันซะนี่ 55555+ หน้าแตกเลยเรา เขินจัง”
“อย่าว่าแต่คุณมาร์คหน้าแตกเลย หงส์ก็แตกเหมือนกันค่ะ ถือว่าเสมอกัน เพราะตอนแรกดูท่าทางแล้ว คิดว่าคงไม่ได้มาแข่งแน่ แต่จะมาทำอะไรหรือมาทำไมนั้นไม่รู้เหมือนกัน ยิ่งเห็นอยู่กับคุณต๋อง ยืนคุยกันอยู่นานสองนาน ตั้งแต่เมื่อเช้านี้ด้วย ยิ่งทำให้แปลกใจเป็นที่สุด”
หงส์คุยกับมาร์ค ยิ่งคุยยิ่งสนุก จนทำให้นกยูงเริ่มไม่ไว้ใจพี่สาวตัวเองเสียแล้ว จึงพยายามสังเกตุดูว่า สองคนนี้จะมีท่าทีต่อกันเช่นไรบ้าง ไปๆมาๆชักเริ่มระแวงคนใกล้ตัวเองเสียแล้ว นี่แหละน้าที่เขาเรียกว่า ความรักมักทำให้คนเปลี่ยนไป ไม่ไว้ใจแม้คนซึ่งที่อยู่ใกล้ตัวเองมากที่สุด ระแวงไปหมด นั่นก็คือหงส์ฟ้า พี่สาวแท้ๆที่คลานตามกันออกมานั่นเอง
“อ๋อ ผมเป็นเพื่อนกับต่อหนะครับ ต่อเป็นน้องแท้ๆของพี่ต๋อง คนที่เป็นเจ้านายคุณไง” มาร์คอธิบายให้ฟังอย่างละเอียดเช่นกัน
“อุ๊ย รู้ละเอียดจัง” มาร์คเลยอธิบายต่อ
“อย่างงเลยครับ พี่ต๋องบอกผมหมดแล้ว ว่ามีใครในทีมบ้าง เพียงแต่ผมพึ่งรู้ว่าคุณหงส์เป็นพี่สาวของนกยูงก็เท่านั้นเอง ก็เลยเดาไม่ยาก”
หงส์พยักหน้า นกยูงพยักหน้ากะเขาด้วย จนหงส์ต้องหันไป
“พยักหน้ากะเขาทำไมเนี่ยยัยตัวแสบ รู้เรื่องกะเขาด้วยเหรอ ว่าพี่คุยเรื่องอะไรกันอยู่”
นกยูงส่ายหน้า แล้วก็หันมาหอมแก้มพี่สาวอีก
“อ๋อ..มิน่าหละนึกว่าใคร ที่แท้ก็คือคุณนี่เอง เห็นคุณต๋องพูดถึงบ่อยๆว่ามีช่างใหญ่ ช่างเทคนิคพิเศษ หรือที่ปรึกษาอะไรสักอย่างมาดูแลเรื่องระบบของทีมรถให้” หงส์พูดไปก็เขินเหมือนกัน
“ไม่นึกว่าจะเป็นคุณ พึ่งได้เห็นตัวจริง ก็วันนี้นี่เอง ที่แท้ก็คนกันเองทั้งนั้น” มาร์คก็เช่นกัน ต่างคนต่างเขิน
“นี่ถ้าหงส์ไม่เห็นคุณต๋อง เข้ามาคุยกับคุณเมื่อกี้ก็คงจะเดาไม่ออก” หงส์เลยรีบตีสนิททันที
“ถ้างั้นเห็นที หงส์คงจะต้องมาขอคำแนะนำจากคุณมาร์คบ่อยๆแล้วหละเนี่ย เพราะคุณคือคนสำคัญ”
“แหม ผมไม่ได้สำคัญอะไรอย่างนั้นหรอกครับ นานๆถึงจะมาช่วย ถ้าไม่จำเป็นผมก็ไม่มาหรอก” มาร์ครีบออกตัว
“แต่พอดีครั้งนี้ พี่ต๋องขอมาเป็นพิเศษ ก็เลยมาช่วย ครั้งต่อไป คงไม่ต้องถึงมือผมแล้ว ช่างคนอื่นก็ทำได้ เพราะผมให้แผนภูมิและระบบวงจรการทำงานไปหมดแล้ว”
<<<<<<<<< ---------- >>>>>>>>>
โปรดติดตามตอนต่อไปใน ตอนที่ 5 .. “ วันเวลาแห่งความทรงจำ 3 ”
ตอนที่ 4 .. “ วันเวลาแห่งความทรงจำ 2 ”
รวมเรื่องสั้น นิยายรัก นักศึกษา (Romance Fiction - นิยายรัก)
รวมเรื่องสั้น นิยายรัก นักศึกษา (Romance Fiction - นิยายรัก)
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 143
แสดงความคิดเห็น