บทที่ 3...3/3

-A A +A

บทที่ 3...3/3

ผ่านไปเกือบชั่วโมงผู้แข่งขันใกล้ถึงปลายทางกันแล้วและเริ่มมาหารหัสอาร์ซีในบริเวณใกล้ๆ กัน ทำให้ปรานต์ยิ่งต้องระวังเมื่อตลอดการเดินทางเขารู้สึกว่าถูกมองอยู่ตลอดเวลาซึ่งไม่ใช่จอมขวัญ แต่เป็นใครสักคนจากเรือที่จอดห่างออกไปมากพอให้เขาเห็นเพียงว่ามันมีอยู่ แต่ไม่อาจบอกได้ว่าใครกำลังเฝ้ามองมาจากระยะไกล ชายหนุ่มจึงเพ่งมองไปที่เรือลำนั้นบ่อยครั้งยังไม่ทำอะไรมากไปกว่านี้เพราะไม่อยากให้แตกตื่นกัน ในเมื่ออีกไม่กี่ชั่วโมงคณะเยี่ยมชมก็ไปแล้ว หลังจากนั้นปัญหาทั้งหมดจะได้รับการสะสางเสียที

“มีอะไรหรือเปล่าน่ะคุณ ทางของเราคือตรงโน้นไม่ใช่ตรงนั้นนะคะ”

ปรานต์ชะงักหันมามองจอมขวัญที่ไม่แม้จะหลบตาผิดจากท่าทางเหมือนผู้หญิงที่ย้อนไปสักยี่สิบปีก่อน แต่ถ้าเปลี่ยนเสื้อผ้าเชยๆ ออกไปแล้วใส่ชุดที่เข้าท่ากว่านี้ก็คงดูดีกระมัง

“คุณนั่งพักไปก่อนนะ ผมอยากมองวิวอะไรไปเรื่อยสักหน่อย”

หญิงสาวพยักหน้าไม่ซักไซ้ถาม แม้จะสงสัยว่าเขามองไปที่เรือกลางทะเลลำนั้นบ่อยๆ เพราะสาเหตุอะไร ชายหนุ่มส่งข้อความหาชานนที่ตอนนี้นอนพักตามคำสั่งหมอ แต่เชื่อขนมกินได้เลยว่ารายนี้คงไม่นอนหรอก แล้วผิดจากที่คิดเสียที่ไหน พอเขาส่งข้อความไปว่า

‘บอกให้ทุกคนบนเกาะคอยระวัง ฉันเห็นเรือแปลกๆ มาขับวนใกล้ๆ ถ้าไม่มีอะไรก็แล้วไป เท่านี้แหละ’

ชานนก็กดอ่านทันที พอเขาโทรหาปรานต์ อีกฝ่ายกลับไม่รับ แต่กลับส่งข้อความมาว่า

‘ไม่สะดวก’

ผ้าที่ผูกข้อมือระหว่างเขากับน้องเชย ทำให้ปรานต์คุยเรื่องสำคัญกับชานนไม่ได้ แต่ไม่เป็นไรเพราะถ้าคนในเรือส่องปืนมา เขาคงพาจอมขวัญหลบได้ทัน

“ฉันเห็นรหัสแผ่นต่อไปแล้วค่ะ” จอมขวัญชี้ไปตรงกิ่งไม้ด้านล่างที่เธอเพ่งมองอยู่สักพักแล้ว

ปรานต์เดินนำแล้วช่วยรั้งแขนไม่ให้จอมขวัญล้มหน้าทิ่มเพราะทางที่ลื่นเนื่องจากเมื่อคืนฝนตก แต่ไม่แรงอะไร มือหนายื่นไปดึงแผ่นกระดาษที่ห้อยบนกิ่งไม้มาอ่าน เขายิ้มให้จอมขวัญ ถึงจะแต่งตัวเชยๆ เหมือนสาวยุคพี่ปุ๊ระเบิดขวด แต่ว่าเธอคล่องแคล่วและตาดีมาก

“เก่งมาก เดี๋ยวกลับไปข้างล่างจะหาขนมให้นะ”

จอมขวัญลืมตัวขมวดคิ้วใส่ “ฉันไม่ใช่เด็กสักหน่อย”

“อายุเท่าไหร่กันเชียว คงน้อยกว่าผมอย่างสัก 5 ปีละมั้ง เพราะฉะนั้นในสายตาผมคุณก็ยังเด็กกว่านั่นแหละ” ปรานต์กอดอกพอใจ ถ้าเทียบเรื่องอายุแล้วจอมขวัญคงขัดความต้องการของเขาไม่ได้หรอก

หญิงสาวเกือบจะยิ้มขำออกมา ถ้าไม่เห็นว่ารอยยิ้มของปรานต์หายวับเปลี่ยนเป็นเรียวปากเม้มปิดเหมือนไม่พอใจอะไรสักอย่าง ทว่ายังไม่ทันได้ก้าวเดินต่อไปแขนยาวและแข็งแรงของเขาก็คว้าเอวของเธอไว้จนล้มลงไปด้วยกันอย่างกับแกล้งพร้อมๆ กับเสียงที่เอ่ยออกมาแว่วใกล้หู

“คุณเป็นอะไรหรือเปล่า”

นอกจากความรู้สึกเจ็บที่จอมขวัญยังให้คำตอบไม่ได้ว่าตรงไหนแล้ว การที่ใบหน้าของปรานต์อยู่ใกล้แม้จะไม่ได้แนบชิด แต่ก็ชวนให้ตกใจได้ไม่น้อยเหมือนกัน เธอรีบยกมือยันอกหนาให้ออกไปห่างๆ

“ฉันไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ คุณต่างหากเป็นอะไร ทำไมอยู่ดีๆ ดึงฉันอย่างกับหลบใคร มีคนมาปาระเบิดใส่หรือไงคะ”

ปรานต์ส่ายหน้า ถ้าจอมขวัญสังเกตให้ดีๆ คงเห็นว่ามีมะพร้าวลูกใหญ่กว่าหัวกลิ้งโค่โล่อยู่ห่างออกไปแค่ก้าวเดียวเท่านั้น...ก็ตรงที่น้องเชยของเขายืนอยู่เมื่อครู่ไงล่ะ

“ถ้าเป็นระเบิดป่านนี้เราคงตายทั้งคู่แล้ว ผมแค่ดึงคุณออกมาก่อนจะคอหักไม่รู้ตัวต่างหาก...นั่นไงเห็นไหมล่ะ”

จอมขวัญมองตามสายตาของปรานต์แล้วก็อดที่จะยกมือขึ้นมาลูบคอไม่ได้ เขาอยากช่วยนี่เอง ความซึ้งใจทำให้เธอหันมายิ้มให้เขา แต่ยังไม่วายพ้อเสียงเบาๆ

“ก็ไม่เห็นต้องมากอดเอวฉันไว้เลยนี่คะ”

ปรานต์มองแขนตัวเองแล้วรีบชักมือออกมาพร้อมๆ กับลุกขึ้นยืน เพราะโอบเอวก็เหมือนกอดไว้นั่นแหละ เพราะข้อมืออีกข้างของเราสองคนมัดไว้ด้วยผ้าผืนยาว เขาไม่ได้มีเจตนาร้ายสักหน่อย ใครล่ะที่ชวนคุยจนเขาลืมว่าแขนยังกอดเอวบางอยู่

“เวลาตกใจผมมักลืมตัว แล้วคุณทำไมไม่ลุกขึ้นมาล่ะ ติดใจพอได้นั่งแล้วล่ะสิ”

“เปล่าสักหน่อย” จอมขวัญบอกเสียงเบาพลางยันแขนจะลุกขึ้น แต่กลับเปลี่ยนใจนั่งลงก่อนเพราะได้คำตอบแล้วว่าความรู้สึกเจ็บมาจากส่วนไหนของร่างกาย แต่ถ้ายืนได้ก็น่าจะไม่เท่าไหร่ละมั้ง “คุณแก้มัดผ้าที่ข้อมือออก แล้วเดินนำไปก่อนสิคะ ฉันจะได้เดินตาม”

“คุณลุกขึ้นก่อนสิ มีอะไรที่ผมสมควรได้รู้หรือเปล่า”

“ไม่มีค่ะ” หญิงสาวปฏิเสธไม่เต็มเสียงนัก

ปรานต์นั่งลงอีกครั้งพลางแกล้งคว้าขาซ้ายของจอมขวัญ เจ้าตัวรีบดึงขาหลบทำหน้าเหยเก เรียวปากหนายิ้มบางๆ แค่นี้ก็ได้คำตอบไม่ยากแล้ว

“เจ็บขาทำไมไม่บอก กลัวผมหรือไง”

“ไม่ใช่สักหน่อยค่ะ” ถึงเขาจะดูดุๆ ไม่ได้น่ากลัว แต่เธอก็ไม่ไว้ใจ “คุณจะยอมรับหรือคะว่าเป็นเพราะอะไรที่ทำให้ฉันขาแพลง”

“ยอมรับสิ...ผมเอง” ปรานต์พยักหน้าแล้วจับแขนของจอมขวัญไว้ พอนึกได้ก็เอ่ยเสียงอ่อนลงว่า “เดินไหวไหม”

“ไหวค่ะ”

ปรานต์ช่วยประคองจอมขวัญจนลุกขึ้นมายืนด้วยกัน แล้วปล่อยมือพลางมองร่างเพรียวค่อยๆ เดินไปทีละก้าวอย่างลำบาก แต่ให้อย่างไรก็ไม่ยอมบอกให้เขาช่วยอยู่ดี ร่างสูงกอดอกใส่จอมขวัญไม่รู้จะหมั่นไส้หรือระอาใจมากกว่ากัน จอมขวัญขมวดคิ้วใส่เขาเพราะข้อมือของเธอมัดติดกับข้อมือของเขา เขาลืมไปแล้วหรือไง

“นึกแล้วต้องปากแข็ง จะขึ้นมาขี่หลังผมหรือให้ผมอุ้มมีแค่สองทาง ถ้าไม่เลือก ผมจะเลือกให้เองไหนๆ คุณก็เจ็บอยู่ตอนนี้แล้ว”

จอมขวัญเม้มปากเพราะไม่น่าเลือกทั้งคู่ “ไม่เลือกได้ไหมคะ ถ้าเดินไปช้าๆ เดี๋ยวก็คงถึงเอง”

“ได้สิ ผมก็แค่เลือกให้”

จอมขวัญยังไม่ทันได้ถามว่าเลือกอะไร ปรานต์ก็ตวัดอุ้มร่างของเธอขึ้นแนบอกของเขาภายในเสี้ยววินาที ทั้งที่ข้อมือยังถูกผ้ามัดไว้นี่ละ แล้วเดินดุ่มๆ อย่างกับว่ารีบเสียนักหนา แถมยังไม่สนใจเสียงนกเสียงกาที่บอกให้ปล่อยจนถูกถลึงตาใส่เพราะเขาแกล้งโย้ตัวไปมาจนนิ้วเล็กๆ จิกมือหนาเสียเป็นรอยแดงเถือก

“โน่นค่ะ ฉันเห็นต้นไม้ที่บอกในรหัสอาร์ซีแล้ว ถ้าถึงตรงนั้นก็ปล่อยฉันลงเถอะค่ะ” จอมขวัญแหวใส่จนเปลี่ยนเป็นขอร้องแทน แต่อีตามาเฟียหาได้สนใจ จนเธอยืดคอให้ริมฝีปากเข้าไปใกล้ใบหูของเขา แล้วตะโกนใส่เสียงดังลั่น “ปล่อยฉันลงสิคะ”

“เสียเวลาน่า คุณถ่ายรูป ผมอุ้มคุณ แค่นี้เอง ไม่เห็นจะมีปัญหาตรงไหน ตัวคุณก็เบาจะตาย ผมอุ้มแค่นี้ไม่เปลืองแรงอะไรหรอก”

ก็นั่นแหละปัญหา! จอมขวัญเอ็ดตะโรอยู่ในใจจนปรานต์เดินมาถึงต้นไม้ที่ยังไม่เห็นว่าใครมาถึงหรือไม่ก็เธอมาถึงเป็นคู่สุดท้ายกระมัง หญิงสาวหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วเปิดแอปกล้องไว้จะถ่ายต้นไม้ แต่จู่ๆ ร่างสูงก็หมุนตัวกลายเป็นเราหันหลังให้ต้นไม้เสียอย่างนั้น

“ทำอะไรคะ”

“ก็ปริศนาบอกให้เราถ่ายรูปเซลฟี่ให้เห็นวิวภูเขากับทะเลเป็นหลักฐานน่ะสิ”

ปรานต์ไม่พูดเปล่ายังช่วยกดถ่ายรูปให้โดยใช้นิ้วมือข้างที่ถูกมัดข้อมือไว้ ทั้งที่หน้าของจอมขวัญมองเขาอย่างกับอยากรัวกระสุนใส่ พอจอมขวัญรู้ตัวว่ารูปถ่ายไปแล้ว ครั้นจะกดถ่ายใหม่ก็ไม่ทันเพราะอีตาเจ้าของเกาะเดินจ้ำอ้าวอย่างกับหนีเจ้าหนี้ จนเธอได้แต่ค้อนใส่หมดคำจะเอ่ยออกมา

“ผมชักอยากรู้แล้วว่าเราจะเข้าเป็นที่เท่าไหร่ บางทีเราอาจจะชนะ ถึงเป็นคู่แรกก็ได้นะ” ปรานต์เปรยเมื่อยังไม่เห็นคู่แข่งตรงเส้นชัยที่อยู่ตีนเขาเลย

จอมขวัญหันไปมอง แล้วเอ่ยน้ำเสียงตื่นเต้น “แต่เราอาจจะเข้าเป็นที่โหล่เลยก็ได้นะคะ”

“ไม่มีทาง เกาะแน่นๆ ผมจะซิ่งละนะ”

จอมขวัญยังไม่ทันได้บอกว่าจะลงก็ต้องกอดคอปรานต์แทบไม่ทันเพราะท่านเจ้าของเกาะวิ่งถลาลงเนินอย่างกับไม่กลัวล้มหน้าแหก ใบหน้าของเธอซุกกับอกหนาไม่พอยังจิกไหล่กว้างจนชายหนุ่มสะดุ้งหันมาเกือบค้อนใส่ พอเห็นว่าน้องเชยของเขาหลับตาปี๋ถึงได้เข้าใจเดินช้าลงแล้วหัวเราะเบาๆ เขาไม่ใช่คนชอบทำหน้าเหมือนท้องผูกตลอดเวลาอยู่แล้ว เสียอย่างเดียวถ้าจอมขวัญไม่เอาแต่หลับตาคงได้เห็นว่าเขาไม่ได้โหดอย่างที่เธอมองเห็นบ่อยๆ

 

 

          นายหัวปรานต์หรือเด็กชายปรานต์ ซนจริงๆ  

          ขอบคุณสำหรับการติดตามอ่าน

          อัมราน_บรรพตี

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.