บทที่ 4...1/3
พอยิ่งวิ่งไปใกล้เส้นชัยทุกอย่างก็เริ่มชัดเจนขึ้นว่าจอมขวัญกับปรานต์ไม่ใช่ผู้ชนะในเกมนี้อย่างแน่นอน แต่จะเข้าเป็นที่เท่าไหร่ยังต้องลุ้น ปรานต์ผ่อนฝีเท้า แล้วเดินช้าลง จนกระทั่งศกโบกมือให้เจ้านายหย็อยๆ พร้อมกับคว้าไมโครโฟนที่เพิ่งวางมาประกาศอย่างกับเรียกแขก จอมขวัญอยากจะมุดหนีหรือไม่ก็กระโจนลงดินไปเลย แต่ทำไม่ได้
“มาแล้วครับทีมที่สองที่กำลังจะเข้าสู่เส้นชัย แต่ทำไมเหมือนมาคนเดียวแบบนั้น เดี๋ยวผมขอมองชัดๆ หน่อยสิว่าใคร” ศกหัวเราะใครบ้างไม่เห็นว่านายหัวไม่ได้เดินมาสบายๆ เพราะอุ้มจอมขวัญอยู่ “นายหัวกับคุณจอมขวัญนี่เอง ปรบมือครับ...ปรบมือ”
เสียงปรบมือดังระรัวทันทีพร้อมๆ กับทุกคนพากันมองปรานต์อย่างกับไม่เคยเห็น ปริญดาเข้าเส้นชัยไปก่อนก็ไม่รอช้าหยิบโทรศัพท์ออกมาถ่ายเพื่อนไว้ยกใหญ่ แถมยังหัวเราะชอบใจเพราะเห็นปรานต์ทำหน้าเหมือนหนักทั้งที่เดินมาชิลๆ ขนาดนั้น
“จะมีใครหาว่าเราสองคนโกงไหมน่ะคุณ” จอมขวัญกระซิบถาม
“ไม่หรอกน่า ถ้าโกงน่ะหรือผมพาคุณมาถึงตั้งแต่ 10 นาทีก่อนแล้ว บนเขามีทางลัดตั้งเยอะ ขนาดผมใช้ทางปกติยังเกือบชนะเลยเห็นไหม”
“เห็นค่ะ แล้วก็ปล่อยฉันลงเร็วๆ ได้ไหม คนอื่นพากันมองมาใหญ่แล้ว” จอมขวัญบอกให้ปรานต์ปล่อยเหมือนคนจะขาดใจ
“คิดมากน่า คุณเจ็บขา ผมอุ้มมาก็ถูกแล้ว ถ้าผมลากคุณมาก็ว่าไปอย่าง”
ถึงจะให้เหตุผลไปแบบนั้น แต่ปรานต์ก็ย่อตัวลงแล้วยอมให้จอมขวัญเดินด้วยตัวเอง แม้จะช้าแต่ว่าก็ถึงเส้นชัยในที่สุด ปริญดาวิ่งเข้ามากอดจอมขวัญแล้วช่วยแก้มัดผ้าที่ข้อมือ ก่อนจะประคองเพื่อนไปนั่ง ส่วนคนที่ควรนอนพักกำลังเดินมาหาปรานต์พอดี
“มีอะไรหรือชานน อุตส่าห์หิ้วแขนเจ็บๆ มาหาแสดงว่ามีเรื่องสำคัญ” ปรานต์หันมาทำหน้าดุใส่คนสนิท ทั้งที่ควรจะนอนพัก แต่กลับมาเตร่อยู่แถวนี้
ชานนระบายยิ้มบางๆ ที่ริมฝีปากเมื่อเห็นว่าปรานต์เพิ่งแยกตัวออกมาจากจอมขวัญ อดคิดไม่ได้ว่าบางครั้งโชคชะตาก็ทำงานเร็วกว่ามนุษย์เสียอีก
“ข้อมูลที่คุณปรานต์ กำลังต้องการครับ”
“แหมมาเร็วทันใจ” ปรานต์รับเอกสารแผ่นเดียวนั้นมารู้ทันทีว่ามันคืออะไร “ทีนี้ฉันจะได้รู้สักทีว่า...ว่าที่อดีตเจ้าสาวเป็นใคร”
ชายหนุ่มหัวเราะพลางก้มลงอ่านเพียงไม่กี่ตัวอักษรก็ถูกคว้ามือไว้ พอเขาหันไปมองก็แทบถอนใจ แต่ยังยิ้มให้อย่างใจดีเพราะปรานต์ถือคติมีคนรักย่อมดีกว่ามีคนเกลียด
“ดีใจจังเลยค่ะที่ได้เจอปรานต์เสียที ดูสิเหงื่อท่วมเชียว ไปนั่งพักกับรชาก่อนนะคะ” อดีตนางงามไม่พูดเปล่ายังช่วยซับเหงื่อให้ปรานต์เสียด้วย
ปรานต์พับเก็บเอกสารพลางมองไปทางสามสาวที่ตอนนี้เขารู้แล้วว่าหนึ่งในนั้นคือลูกสาวของเพื่อนพ่อนั่นเอง รูปขาวดำที่เขาไปค้นหามาได้ไม่ได้ช่วยอะไรเลย เพราะนั่นไม่ใช่รูปวัยเด็กของว่าที่อดีตเจ้าสาวของเขา ทว่าเสียงของนิรชาทำให้เขาต้องหันกลับมามองเธอ แล้วทักทายเพื่อไม่ให้เสียน้ำใจ
“มาได้ยังไงน่ะรชา ผมยังไม่ได้บอกใครสักหน่อยว่ากลับมาแล้วนอกจากรวี”
“แหม รชาน้อยใจแล้วนะคะ” หญิงสาวเม้มปากใส่ ในขณะที่จารวีกลั้นหัวเราะเพราะปรานต์ช่างไม่รู้ใจนิรชาเอาเสียเลย “ถ้ารชาไม่คิดถึงแล้วมาหา คงไม่รู้น่ะสิคะว่าปรานต์กลับมาตั้งหลายวันแล้ว คนแถวๆ นี้ก็ชอบปิดบังกันนัก น่าโมโหจริงๆ”
“ซอรี่นะเพื่อน พอดีปรานต์ ไม่ได้บอกให้ฉันบอกเธอนี่นา” จารวีตอบกลับทันควัน เลยไม่รอดถูกนิรชาค้อนใส่
ปรานต์ได้แต่ส่ายหน้าเพราะสำหรับเขาแล้วทั้งจารวีและนิรชาอย่างไรก็เป็นเพื่อน
“เข้าบ้านกันก่อน ผมอยากพัก อีกสักพักจะทำงานต่อ”
“โธ่ เพิ่งกลับมาเองนะคะปรานต์ จะรีบทำงานทำไมล่ะคะ พักสักวันก่อนก็ได้” นิรชาคว้าแขนปรานต์กอดไว้พลางเดินเคียงกันไป จงใจปล่อยให้จารวีรั้งท้าย “วันนี้รชาว่างจะได้ดูแลเรื่องอาหารการกินให้ปรานต์ด้วย ดีไหมคะ”
จารวีหัวเราะ คราวนี้เลยถูกนิรชาหันมาค้อนใส่เต็มๆ ชานนเดินมาห่างๆ ได้แต่มองอย่างสงสัยว่าปรานต์จะจัดการเรื่องของว่าที่เจ้าสาวยังไง ดูๆ แล้วว่าที่เจ้าสาวอาจจะยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าผู้ใหญ่ได้มาพูดคุยกันไว้แล้ว มีแต่ว่าที่เจ้าบ่าวที่กำลังหาทางล้มงานแต่งงาน
หลังจากผ่านไปเกือบชั่วโมง คณะเยี่ยมชมทั้งหมดก็เล่นเกมจนกลับมาถึงเส้นชัยกันครบ มินตราเข้ามาเป็นคู่สุดท้ายเพราะนพดลปวดเข่า ทำให้ต้องเดินสลับนั่งพักมาตลอดทางหมดโอกาสลุ้นรางวัล มีแต่ปริญดายิ้มหน้าบานเพราะเข้าเส้นชัยเป็นคู่แรกจึงได้รางวัลที่ฟาร์มมินธราเป็นผู้จัดมาให้ ส่วนรางวัลรองชนะเลิศเป็นหมอนข้างที่จะส่งตามไปให้ เพราะจะได้ไม่ลำบากในตอนเดินทางกลับ
“ดีใจด้วยนะพี่ดาได้สร้อยไข่มุกสวยมากๆ เลย ถ้ามินเร็วกว่านี้ล่ะก็มีลุ้น” มินตราเหล่ไปทางเจ้านายตัวเอง นพดลหันมายิ้มให้เธอเลยได้แต่หัวเราะแฮะๆ
“ถ้าพี่คู่กับพี่ดลคงเข้าที่โหล่เหมือนกันนั่นแหละ” จอมขวัญกระซิบ
ปริญดาหัวเราะคิกคักกันในกลุ่ม “ใครจะกล้าไปเร่งเจ้านายล่ะจริงไหม เดี๋ยวไปอาบน้ำกันดีกว่าจะได้กลับกันเสียที”
“ดูอะไรน่ะยัยมิน” จอมขวัญถามพลางมองตาม
“คุณปรานต์เสน่ห์แรงจริงๆ ไม่รู้คนไหนแฟนตัวจริง สวยๆ ทั้งนั้น”
จอมขวัญกับปริญดามองตามก็เห็นปรานต์เดินเคียงสาวสวยมากคุ้นๆ ว่าเป็นอดีตนางงามเมื่อหลายปีก่อน ส่วนผู้หญิงอีกคน พวกเธอเห็นตั้งแต่เมื่อวาน
“เผลอๆ มีเมียรออยู่ที่เกาะอีกหรือเปล่าก็ไม่รู้ ทั้งหล่อ รวย แถมมาดโหดน่าปราบแบบนั้นไม่น่ารอดมาถึงสาวๆ แถวนี้หรอกมั้ง” ปริญดาถอนใจอย่างเสียดาย
มินตราหัวเราะ “อกหักอีกแล้ว เซ็งชะมัดเลย”
จอมขวัญได้แต่ยิ้มเพราะท่าทางของปรานต์ดูสุภาพระคนขี้เล่น ทำให้ดูเหมือนเจ้าชู้หรือเจ้าชู้จริงๆ เธอก็ไม่แน่ใจ หน้าตา ฐานะและนิสัยดีๆ ที่เธอเห็นแม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยคงทำให้สาวๆ เข้ามาหาเขาได้ไม่ยาก ผู้ชายเลยเป็นฝ่ายเลือกผู้หญิงไปเสียแล้ว
หลังทานอาหารกลางวันเรียบร้อย คณะเยี่ยมชมจึงเดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยมีปรานต์ตามมาส่งถึงสนามบินอย่างมีน้ำใจ จอมขวัญเห็นนพดลคุยกับปรานต์อยู่นาน จนกระทั่งได้เวลาขึ้นเครื่องซึ่งเธอพอจะเดาได้ว่าคงเป็นเรื่องการเปิดแบรนด์เครื่องประดับ แล้วถ้าสายป่านของไมตรียาวขึ้นไปอีก ไทยสารคงได้ตามติดการประมูลสัมปทานรังนก การทำข่าวธุรกิจเป็นความหวังของเธอ แม้ว่าในตอนนี้จะเป็นข่าวสังคมทั่วไปก็ตาม
ใช้เวลาสามชั่วโมงสำหรับเดินทางโดยเครื่องบิน แล้วต่อด้วยรถแท็กซี่จอมขวัญก็กลับมาถึงบ้านซึ่งเป็นอาคารพาณิชย์สามชั้นสองคูหา โดยชั้นล่างเปิดเป็นร้านเบเกอรี่เล็กๆ ที่เน้นขนมเค้กเป็นหลัก ลลิตาเรียนมาทางคหกรรมทำให้หลังจากสามีตายจากอุบัติเหตุ นางยังหาเงินเลี้ยงลูกจากวิชาที่ร่ำเรียนมา จนกระทั่งจอมขวัญเรียนจบมีงานทำ นางก็ยังคงทำขนมเค้กขายมาเรื่อยๆ
เพียงเสียงกระดิ่งดังเบาๆ ยามเปิดประตูเข้าไปในร้านก็ทำให้ลลิตาเงยหน้าขึ้นมองแล้วยิ้มออกมาอย่างโล่งใจระคนเป็นสุข ลูกสาวคือความหวังเดียวในชีวิตเป็นกำลังใจเดียวที่ทำให้นางมีแรงทำงานในทุกวัน
“กลับมาแล้วหรือจอม เที่ยวสนุกไหมลูก”
“สนุกค่ะ แต่คิดถึงแม่มากกว่า” จอมขวัญวางของแล้วเข้ามากอดลลิตาแถมยังหอมแก้มไปอีกหลายฟอดให้หายคิดถึง ผู้เป็นแม่ยิ้มมองลูกสาวแล้วตื้ออยู่ในอก “เดี๋ยวจอมเก็บร้านเองนะ แม่ไปพักได้เลย”
ลลิตาวางมือจากถาดขนมที่กำลังยกไปเก็บ แล้วมานั่ง ถ้าวันนี้มะลิซึ่งเป็นผู้ช่วยไม่ลาไปเยี่ยมพี่สาวที่เพิ่งคลอดลูกคงเสร็จงานตามเวลาปกติ
“ซื้ออะไรมาเยอะแยะน่ะจอม”
“ขอฝากค่ะ อย่าบ่นว่าซื้อมาทำไมนะ” จอมขวัญเอ่ยอย่างรู้ทันเพราะกว่าเราสองแม่ลูกจะสบายขึ้นก็ผ่านความลำบากมาไม่น้อย “จอมอยากซื้อให้แม่แค่นี้จบ อ้อ ถุงนั้นจอมซื้อมาให้มะลิค่ะ”
“ขอบใจนะลูก เดี๋ยวแม่นั่งเช็ดจานอยู่ตรงนี้แล้วกัน ไม่เจอหน้าลูกมาหลายวัน...คิดถึง”
จอมขวัญมองมือของแม่ที่หยิบจานมาเช็ดทีละใบก็ไม่อยากขัด มือของแม่เล็กลงหรือว่าเธอตาฝาดกันล่ะนี่ ตั้งแต่จำความได้แม่ไม่เคยทำงานหนัก แต่หลังจากพ่อตาย แม่กลับต้องทำงานหนักเพื่อส่งเธอเรียนหนังสือ ตอนนี้ก็เริ่มเหนื่อยน้อยลงเพราะเธอจ้างมะลิมาช่วยแม่อีกแรง ครอบครัวของเธอมีแค่นี้เอง
...เราสองคน
“เดี๋ยวจอมไปปิดร้านก่อนนะ ป่านนี้แล้วคงไม่มีลูกค้ามาแล้วล่ะ เดี๋ยวตอนเช้าจอมจะช่วยแม่ผสมแป้งขนมก่อนไปทำงาน แม่จะได้เหนื่อยน้อยลง”
ลลิตาพยักหน้ายิ้มให้ลูก ในขณะที่จอมขวัญออกไปเก็บกระดานรายการขนมเข้ามา แล้วปิดประตูกระจกล็อคก่อนจะตามด้วยประตูเหล็กดัดโดยที่ไม่รู้ว่ามีสายตาของปรานต์มองอยู่จากถนนฝั่งตรงข้าม
ความสงสัยและอยากรู้เหตุผลที่พ่อตัดสินใจเลือกจอมขวัญมาเป็นเจ้าสาวของเขาคืออะไรกันแน่ ผู้หญิงที่ไม่มีอะไรโดดเด่นชีวิตเรียบง่ายน่ะหรือจะมารับแรงกดดันและความเครียดหากต้องมาใช้ชีวิตร่วมกับเขาได้
“ไปไหนต่อครับคุณปรานต์” ชานนถามเมื่อเห็นว่าแสงไฟจากร้านขนม ‘ลิต้า’ ปิดลงแล้ว
“บ้าน ป่านนี้พ่อคงรู้แล้วว่าฉันตามมา ดีเหมือนกันจะได้คุยกันให้รู้เรื่องทีเดียว” หากพ่อเป็นมนุษย์ชอบเก็บความลับ เขาก็เป็นพวกชอบหาคำตอบเสียด้วยสิ
รถสีดำมันปราบเคลื่อนออกไป โดยมีรถติดตามประกบไม่ห่างเนื่องจากใกล้ช่วงประมูลสัมปทานรังนก ทำให้ปรานต์ต้องระวังตัวมากกว่าปกติเมื่อชีวิตของเขากำลังเดินพันด้วยเม็ดเงินมูลค่ามหาศาล ห่างไม่ถึงนาทีรถมอเตอร์ไซค์ลักษณะไม่โดดเด่นก็ขี่ตามโดยรักษาระยะห่างไว้ เจ้าคนซ้อนกำลังโทรรายงานข่าวเจ้าของเงินค่าจ้าง รอสายไม่นานอีกฝ่ายก็กดรับ
“มันขึ้นมากรุงเทพฯ ครับนาย” มันรีบรายงานและฟังคำสั่งอยู่เพียงไม่นาน “ได้ครับ ผมจะรายงานความคืบหน้าต่อไป”
การติดตามยังดำเนินต่อไป แม้ตอนนี้จะยังไม่ใช่ช่วงเวลาที่ต้อง ‘ลงมือ’ ก็ตาม รถของปรานต์จอดที่บ้านซึ่งมีกำแพงสูงและการคุ้มกันแน่นหนา พวกมันหันหัวรถมอเตอร์ไซค์ แล้วจากไปยังคอนโดที่สามารถส่องกล้องติดตามความเคลื่อนไหวของเป้าหมายได้และเตรียมพร้อมสำหรับงานใหญ่ซึ่งใกล้เข้ามาแล้ว
พระเอกฉันถูกหมายหัวอีกแล้ว แต่ปรานต์จะตามว่าที่เจ้าสาวมาแบบติดจรวดแบบนี้เลยเหรอ จอมขวัญยังไม่รู้ตัวเลยว่าแกเป็นว่าที่เจ้าบ่าวน่ะ
ขอบคุณสำหรับการติดตามอ่านนะคะ
อัมราน_บรรพตี
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 114
แสดงความคิดเห็น