บทที่ 2...3/3
“ได้ข่าวว่าคุณนอนพักอยู่ไม่ใช่หรือ”
จอมขวัญหันไปมองข้างหลังก็แทบสะดุ้ง แต่ก็ลืมตัวถอยหลังไปเพราะปรานต์ทำอย่างกับพวกมาเฟียค้ายาที่เวลาไปไหนต้องมีผู้ชายหน้าเหี้ยมๆ คอยคุ้มกันไม่ให้ใครยิงกระสุนยัดใส่ตัว เขาดูไม่น่าไว้วางใจเท่าไหร่ เจ้าของธุรกิจค้าขายหอยมุกไม่น่าจะมีศัตรูมากมายอะไร
“ทำไมคุณออกมาเดินให้ลมพัดใส่ แถมยังเสี่ยงตกน้ำอีกรอบเสียด้วย” ปรานต์ไม่ได้ตั้งใจดุ แต่น้ำเสียงของเขามันคงกระด้างอย่างแก้ไม่หาย “อย่าเพิ่งทำหน้าเหมือนถูกดุสิ ผมแค่ถามในฐานะเจ้าของสถานที่เท่านั้นเอง”
จอมขวัญขมวดคิ้วไม่ได้ขี้กลัวถึงขนาดนั้น แต่พอเห็นหน้าปรานต์รอบนี้ทำให้เธอรู้สึกคุ้นๆ ขึ้นมาต่างหาก
“ฉันเคยพบคุณมาก่อนหรือเปล่าคะ”
“ไม่รู้สิ มีอย่างเดียวที่ผมแน่ใจคือไม่เคยพบคุณมาก่อน” ปรานต์เลิกคิ้วใส่ ถ้านี่เป็นคำถามที่เลี่ยงการตอบก็นับว่าจอมขวัญประเมินเขาต่ำไป “คุณควรกลับไปพักได้แล้วนะ แต่ถ้าอยากอยู่ตรงนี้ต่อผมจะให้บอดี้การ์ดอยู่ใกล้ๆ เผื่อตกน้ำไปอีกจะได้มีคนช่วยทัน”
“ฉันคงไม่ซวยตกน้ำบ่อยๆ หรอกค่ะ” หญิงสาวหัวเราะ ตอนนั้นเธอเวียนหัว แต่ตอนนี้สบายดีแล้ว ถ้าจะตกน้ำอีกรอบก็คงเพราะถูกเขาจับโยนลงไปต่างหาก “ฉันขอยืนตรงนี้อีกสักพัก แล้วค่อยกลับห้องพักแล้วกันนะคะ”
ปรานต์พยักหน้า แต่ยังไม่เดินกลับไป ความสงสัยทำให้เขามองตามสายตาของจอมขวัญไปยังเวิ้งทะเลกำลังมัวซัวเพราะฝนอาจจะตกในไม่ช้า
“มีสองเหตุผลที่ผมจะมองทะเล ข้อแรก คิดถึงใครบางคน ข้อสอง ผมอยากพัก ของคุณเป็นข้อไหนล่ะ”
จอมขวัญหันมามองปรานต์อย่างไม่แน่ใจว่าเขายังอยู่ทำไมอีก อยากชวนคุยหรือว่ากลัวเธอตกน้ำลงไปจริงๆ ไม่ว่าเหตุผลอะไรเขาน่าจะรู้ว่าร่างใหญ่ยักษ์ของเขาและบอดี้การ์ดขนาดตัวพอๆ กัน ทำให้เธอเริ่มรู้สึกว่าบริเวณนี้ไม่ปลอดภัย ถ้าใครอยากฆ่าเขาแค่โยนระเบิดมาสักลูกก็ตายกันเรียบแล้ว รวมทั้งเธอที่ยืนหัวโด่อยู่ตรงนี้ด้วย
“น่าจะข้อแรกนะคะ”
ปรานต์เห็นจอมขวัญเม้มปากแล้วมองไปรอบตัวๆ อย่างระแวงก็เริ่มจะเดาได้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ ท่าทางเขาเหมือนตัวอันตรายหรือไม่ก็ตัวซวยกระมัง
“ถ้างั้นผมไม่รบกวนคุณแล้วกัน ขอให้ดื่มด่ำกับความคิดถึงนะครับ”
รอยยิ้มระบายที่ริมฝีปากสวยที่ยังซีดเซียวของจอมขวัญ สายตาของเธอละจากทะเลและท้องฟ้ามามองแผ่นหลังกว้างและไหล่ตั้งบ่าที่ทำให้ทุกย่างก้าวของปรานต์ดูต่างจากผู้ชายที่เธอเคยพบมา มั่นใจในตัวเองสูงและกล้าทำในสิ่งที่ต้องการน่าจะเป็นคำจำกัดความของผู้ชายคนนี้ ถ้ามินตราอยากจะจีบเขาจริงๆ คงไม่ง่ายอยากที่คิดนักหรอก
ปรานต์กลับมานั่งทำงานต่อ แต่กลับไม่ค่อยมีสมาธิสักเท่าไหร่ เขาไม่ได้ห่วงคณะเยี่ยมชมที่ป่านนี้คงยิ้มร่าเพราะได้มุกซีกไปทำเครื่องประดับ แต่ห่วงน้องเชยที่ยังไม่ยอมกลับไปนอนพักต่างหาก ทั้งที่ยังหน้าซีดยังไม่วายซ่าแทนที่จะดูแลตัวเอง เสียงข้อความแชตของไอแพดดังขึ้นทำให้ชายหนุ่มละสายตาจากร่างเพรียวที่ยืนโต้ลมชั่วคราว ทว่าภาพจากคนของเขาที่สั่งให้ตามดูว่าพ่อไปไหนกำลังทำให้ปรานต์ปวดหัวขึ้นมาทันที
แม้จารวีจะทำเหมือนอ่านหนังสือนิยายอยู่ แต่สีหน้าของปรานต์ที่เหมือนกำลังปวดหัว ทำให้จารวีนึกสงสัยยอมเสียฟอร์มถาม อย่างน้อยในฐานะพยาบาลคงดูดายต่อคนป่วยไม่ได้หรอก
“ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะปรานต์ ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า”
ปรานต์เงยหน้าจากไอแพดทั้งที่คิ้วยังขมวดมุ่น ก่อนจะตอบคำถามของเพื่อนสาว “พ่อเพิ่งไปหาผู้หญิงคนหนึ่งที่กรุงเทพฯ น่ะสิ น่าแปลกมาก”
จาวรีมองรูปลุงคฑากับผู้หญิงที่ยังมีเค้าความสวยในวัยสาว แม้ว่าจะดูมีอายุมากแล้วก็ตามพลางยิ้มล้อๆ ใส่ปรานต์
“ทำไมล่ะ ปรานต์หวงคุณลุงขึ้นมาหรือไง”
ปรานต์หัวเราะเพราะเขานี่แหละแทบจะนัดบอดให้พ่อเป็นฝั่งเป็นฝารอบที่สองตอนหกสิบกว่าๆ แต่พ่อไม่เคยให้ความร่วมมือกับเขาเลยต่างหาก
“ไม่ใช่สักหน่อย ที่ฉันบอกว่าแปลกก็เพราะผู้หญิงคนนี้เป็นแฟนเก่าของพ่อสมัยหนุ่มๆ ก่อนที่จะมาแต่งงานกับแม่น่ะสิ ฉันเคยเห็นรูปนานมาแล้ว พ่อไม่ได้ติดต่อผู้หญิงคนนั้นมานานมากแล้ว ทำไมถึงมาติดต่อเอาตอนนี้”
แต่การที่พ่อไปหาคนรักเก่าในตอนนี้คงไม่ใช่ว่ายังลืมรักแรกไม่ได้หรอก น่าจะมีจุดประสงค์อื่นมากกว่า
“แฟนเก่าของคุณลุงมีลูกสาวไหมล่ะปรานต์ ” จารวีถามขึ้น
ปรานต์ตบหน้าผากตัวเองเบาๆ อย่างคาดไม่ถึง ถ้าใช่อย่างที่จารวีเดา เขาคงต้องวางแผนใหม่หมด การเข้าไปเจรจาเพื่อไม่ให้การหมั้นเกิดขึ้นคงหักหาญน้ำใจกันเกินไป
“ฉันไม่อยากรู้คำตอบเท่าๆ กับที่อยากรู้นั่นล่ะ”
ความทรงจำในวันเก่าก่อนราวกับกลับมาแม้ว่าเขาจะอายุไม่กี่ขวบเท่านั้น พ่อมีเพื่อนคนหนึ่งที่ตอนนี้เขาไม่เห็นท่านอีกแล้ว ภรรยาของเพื่อนคนนั้นก็คืออดีตคนรักของพ่อนั่นเอง ชายหนุ่มถอนใจยาวเมื่อกริ่งเตือนในสมองของเขาดังระงมว่าน่าจะมาถูกทางเป็นแน่แท้เชียว
นั่นไงปรานต์ได้เบาะแสแล้ว
ขอบคุณสำหรับการติดตามอ่านค่ะ
อัมราน_บรรพตี
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 130
แสดงความคิดเห็น