บทที่ 2...2/3

-A A +A

บทที่ 2...2/3

          ผู้ชายอีกสองคนกระโดดลงตามไปช่วยอีกแรง มินตรากับปริญดาพากันตะโกนเรียกจอมขวัญกันเสียงหลง พอไปเจอห่วงยางก็รีบโยนลงไป ปรานต์คว้าเอวจอมขวัญได้ทันก่อนที่เธอจะจมน้ำเพราะความตกใจจนทำอะไรไม่ถูกเป็นรอบที่สอง ชานนกับศกมาช่วยดึงมือของจอมขวัญเพื่อที่จะได้ผ่อนแรงของปรานต์ เพียงครู่เดียวร่างอ่อนปวกเปียวก็ถูกดึงขึ้นไปบนเรือในสภาพเปียกปอนเปลือกตาทั้งสองข้างปิดนิ่งจนหลายคนเริ่มทำอะไรไม่ถูก

          ศกเข้ามาบอกให้อย่ามามุงกัน ปรานต์เอาหูแนบจมูกของจอมขวัญเพื่อฟังเสียงลมหายใจที่เบาจนเกือบไม่ได้ยิน โดยที่ไม่รอมือหนาจัดการแยกริมฝีปากซีดออกแล้วผายปอด 2 ครั้ง ก่อนจะทำการนวดที่หัวใจพร้อมกับนับไปด้วยจนครบ 30 ครั้งจึงแนบริมฝีปากอุ่นของเขาลงบนริมฝีปากเย็นของเธอแล้วทำการผายปอดอีกครั้ง จอมขวัญหายใจสูดอากาศเข้าไปพร้อมๆ กับสำลักน้ำออกมา ปรานต์จับเธอนอนตะแคง ก่อนจะนั่งลงข้างๆ

          “ไอ้จอมรู้สึกตัวแล้ว เป็นยังไงบ้าง” พวกผู้ชายจากไทยสารพากันโล่งอก

          “หายใจเข้า หายใจออก ทำตามที่ผมบอกนะ ได้ยินหรือเปล่า” ปรานต์บอกพร้อมกับลูบไหล่ของจอมขวัญไปด้วย

          จอมขวัญทำตามที่ปรานต์บอก เธอรู้สึกเหนื่อยแม้จะแค่หายใจให้ตัวเองมีชีวิตรอดก็ตาม เสียงของใครต่อใครเซ็งแซ่ไปหมด สีหน้าแต่ละคนพากันโล่งใจเมื่อเธอพยักหน้าแทนคำตอบว่าไม่เป็นอะไรแล้ว

ทว่าสัมผัสผะผ่าวที่ริมฝีปากทำให้เธอนึกออกแล้วว่าเกิดอะไรกับตัวเองบ้างเมื่อ 5 นาทีก่อน สายตาของจอมขวัญมองไปที่ปรานต์ซึ่งมีสภาพเปียกปอนไม่ต่างกัน มินตรากับปริญดาช่วยให้จอมขวัญลุกขึ้นมานั่งข้างๆ ปรานต์จนได้

          “คุณทำอะไรฉัน”

          “ช่วยคุณน่ะสิ ผายปอดน่ะ ง่ายๆ ก็เรียกว่าจูบ แบบเป่าอากาศใส่ปากคุณน่ะ”

ปรานต์ยิ้มล้อๆ แค่หวังให้จอมขวัญหายตกใจที่ตกน้ำ แต่ฝ่ามือซีดๆ เย็นเฉียบของจอมขวัญกลับตวัดใส่แก้มของเขาจนหน้าเกือบหันไปตามแรงตบ พวกผู้ชายพากันเหวอ

ต่างจากปรานต์ที่คว้ามือเล็กมาบีบอย่างระงับความโกรธ จอมขวัญเองก็ตกใจตัวเองที่ยกมือไปทำแบบนั้น       

          “เฮ้ย! ไอ้จอม ไปตบหน้าคุณปรานต์ทำไม”

          “จอมลืมตัวน่ะสิคะ”  จอมขวัญทำหน้าเหมือนกำลังจะถูกยิงแสกหน้า แม้ไม่แน่ใจนักว่าท่านเจ้าของเกาะพกปืนมาด้วยหรือเปล่า “ขอโทษนะคุณ ฉันลืมตัวเส้นกระตุก ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ”

          ปรานต์เม้มปากถอนใจเพราะเขามองออกว่าจอมขวัญไม่ได้โกหก ตั้งแต่เกิดมาเขาไม่เคยถูกผู้หญิงคนไหนตบ น้องเชยเป็นใครมาจากไหนก็ไม่รู้จู่ๆ ก็มาทำร้ายร่างกาย แล้วไงล่ะผู้ใหญ่จะถือสาคงไม่ได้

          “ไม่เป็นไร คุณลุกขึ้นไหวไหม ถ้าไม่ไหวผมจะได้อุ้ม”

          “คิดว่าไหวนะคะ ขอบคุณค่ะที่ช่วยฉันไว้”

ร่างสูงถอนใจยาวอีกรอบก่อนจะลุกขึ้น แล้วดึงให้จอมขวัญมายืนเคียงกัน แต่กลายเป็นเขาต้องมากอดเอวน้องเชยเอาไว้อีก คราวนี้เลยถูกค้อนใส่แบบตั้งใจ มือหนารีบปล่อยเอวบาง แต่ความลืมตัวปรานต์ก็ไปคว้ามือของจอมขวัญเอาไว้อีกก่อนจะวางบางอย่างให้เธอที่มองมาแบบงงๆ

          “อะไรคะ”

          “เลนส์ที่คุณอุตส่าห์เสี่ยงชีวิตไปคว้าจนตกน้ำไงล่ะ ทีหลังถ้ามันอันตรายคุณก็ทิ้งมันไปเถอะ ชีวิตคนมีค่ายิ่งกว่าสิ่งของ ให้มีเงินกองเท่าภูเขาก็ชดเชยกันไม่ได้หรอก เชื่อเถอะ ผมเคยรู้สึกแบบนั้นมาแล้ว” ปรานต์เม้มปากเมื่อเขากำลังพูดมากเกินไปแล้ว

          จอมขวัญไม่แน่ใจว่าปรานต์กำลังสอนหรือว่าด่าเธออยู่กันแน่ แต่ที่นึกออกแล้วทำออกไปทันคงมีเพียงยกมือไหว้ แล้วบอกขอบคุณอย่างจริงใจ เขาไม่เพียงช่วยชีวิตของเธอไว้ แต่ยังเก็บความทรงจำที่อยู่กับเลนส์กลับมาให้เธอด้วย

เลนส์อาจมีราคาแพง แต่คุณค่าของมันไม่ได้อยู่ตรงนั้น มันอยู่ที่ใครเป็นคนซื้อให้ต่างหาก พ่อของเธอซื้อเลนส์อันนี้ให้ แต่ว่าตอนนี้ท่านไม่อยู่แล้ว

         

          หัวเรือบ่ายหน้ากลับสู่ฝั่งมุ่งหน้าสู่ฟาร์มหอยมุกซึ่งอยู่อีกด้านหนึ่งของสำนักงานเนื่องจากแหล่งน้ำที่จะใช้เลี้ยงหอยต้องมีค่าที่เหมาะสมและทางน้ำไม่แรงเกินไป ทำให้บริเวณนี้เหมาะสมที่สุด เรือจอดหน้าฟาร์มซึ่งมีทางขึ้นสบายๆ คณะเยี่ยมชมเดินตามไปที่ศาลาพักคนงานเพื่อรอศกที่ทยอยแจกผ้าเย็นให้ทุกคน

ส่วนจอมขวัญแยกไปที่ห้องรับรองเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าซึ่งปรานต์สั่งให้คนไปนำกระเป๋าเดินทางของเธอมาที่นี่ ปริญดากับมินตราอยู่ช่วยดูแลในระหว่างที่คณะพักนั่งเล่น ก่อนจะเริ่มโปรแกรมในตอนบ่าย    

          “เป็นยังไงบ้างน่ะจอม ดาเอาเสื้อผ้าชุดใหม่ออกมาจากกระเป๋าให้แล้ว รับรองจะไม่บอกอีตาวินว่าจอมแอบผิดสัญญาที่แพ้เดิมพันมันไว้”

          โชคดีที่มาวินติดธุระมาเที่ยวกับบริษัทไม่ได้พอดี ไม่งั้นจอมขวัญคงหมดสนุก

          เสื้อยืดกับกางเกงยีนที่จอมขวัญเตรียมมาเผื่อช่างน่าสนใจ จอมขวัญมองเสื้อผ้าที่ตัวเองใส่แล้วถอนใจอย่างกับยังโมโหไม่หาย เพราะการแพ้เมื่อหลายวันก่อน เธอถึงต้องมาใส่เสื้อผ้าเชยๆ สมัยคุณแม่ยังสาวแบบนี้อย่างไรล่ะ

          “ไม่เป็นไรอีกสองวันจอมก็จะเป็นไทกับตัวเอง คราวหน้าจอมไม่ยอมแพ้อีตาวินเด็ดขาด คราวนี้ถือว่าพลาดถูกโกง แต่หาหลักฐานไม่ได้”

          “ทำไมพี่สองคนถึงชอบแข่งกันล่ะค่ะ” มินตราถามด้วยความสงสัยเพราะเพิ่งเข้ามาทำงาน ในขณะที่ปริญดาแทบจะอยู่ในทุกเหตุการณ์ที่จอมขวัญมีเรื่องกับนักข่าวคู่แข่งที่เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เรียนมหา’ลัยอย่างมาวิน

          “พี่ไม่ชอบหรอกนะ แต่อีตาวินชอบต่างหาก แบบฉบับผู้ชายที่แพ้ผู้หญิงไม่ได้ ตอนเรียนเราสองคนก็แข่งกันมาตลอด พอเรียนจบก็ดันมาเป็นคู่แข่งในเรื่องงานกันอีก”

          “โหย นี่มันพล็อตพระเอกนางเอกในนิยายชัดๆ” มินตราแกล้งแซว

          จอมขวัญหัวเราะลั่นถ้าเธอเป็นนางเอก มาวินก็ต้องเป็นผู้ร้ายเท่านั้นแหละ

“คงไม่มีทางเหมือนนิยายหรอกเพราะเพื่อนของพี่อกอกหักเพราะอีตาวินนี่แหละ จนป่านนี้ก็ยังเจ้าชู้ไม่เลิก เป็นบุญของเพื่อนพี่แล้วที่แคล้วคลาดมาได้”

          ปริญดาได้ยินเสียงเคาะประตูเลยเดินไปดูก็เห็นศกยืนรออยู่พร้อมกับถือกล่องเล็กๆ มาด้วย จอมขวัญมองอย่างสงสัยว่าเขามาหาทำไม

          “นายหัวให้เอายามาให้คุณจอมขวัญครับ บอกว่าอากาศเย็นอาจจะไม่สบาย บ่ายนี้ถ้าไม่ไหวก็ควรจะนอนพักก่อน” ศกส่งยาให้แล้วยิ้มเขินๆ เมื่อถูกสามสาวมองมา ในเกาะไม่มีสาวๆ เท่าไหร่ ถ้าสาวเหลือน้อยล่ะก็มากมายเลยเชียว

          “ขอบใจมากนะคะ นายหัวของคุณศกเนี่ยน่ารักจริงๆ เลย” ปริญดารับยามาพลางยิ้มหวานกลับ

          “ดีเหมือนกัน บ่ายนี้จอมขอนอนพักดีกว่า เมื่อคืนกว่าจะปิดต้นฉบับได้ก็ตีสาม ยังไม่ทันได้นอนก็ต้องเดินทางแล้ว ขอบใจน้องมินกับดามากนะ ไปเที่ยวต่อเถอะไม่ต้องมาอยู่เป็นเพื่อจอมหรอก นานๆ จะได้มาเที่ยวสักที”

          จอมขวัญเอนตัวลงนอนกับโซฟา มินตราช่วยหาผ้าห่มมาให้ก่อนจะออกไปพร้อมกับปริญดา โดยมีศกเดินนำทางไปยังศาลาที่คนอื่นๆ กำลังเตรียมตัวสำหรับเที่ยวในฟาร์มบ่ายนี้ ซึ่งจะได้เห็นไข่มุกและอาจมีคนโชคดีตอบคำถามถูกได้รางวัลไปฝากแฟนหรือภรรยาที่บ้าน

         

          จารวีมาถึงฟาร์มมินธราเกือบสี่โมงเย็นไม่อย่างนั้นคงไม่เป็นอันทำอะไรเพราะปรานต์โทรตามอย่างกับไปติดหนี้ไว้ ทั้งๆ ที่เขาเป็นคนขอให้เธอมาช่วยแท้ๆ แต่พอเห็นหน้าบึ้งๆ ของเธอ คนที่ไม่ชอบเอาใจใครก็รีบสั่งให้แม่บ้านนำอาหารและขนมอร่อยๆ มาให้ซึ่งไม่ใช่เพราะห่วง แต่กลัวเธอไม่ยอมมาเป็นแฟนหลอกๆ ให้ต่างหาก

          “เจอหรือยังว่าที่เจ้าสาวของปรานต์ รวีจะได้แสดงความยินดีล่วงหน้า”

          ปรานต์พยักหน้ายอมวางมือจากงานที่กำลังทำอยู่ รอยยิ้มล้อๆ ของจารวียังไม่น่ากังวลเท่ายิ้มหวานๆ ของนิรชา โชคดีไม่น้อยที่ตอนนี้ข่าวว่าเขาจะถูกจับแต่งงานยังไม่ลอยไปถึงหูเจ้าหล่อนไม่อย่างนั้นล่ะยุ่งแน่ๆ

          “พอก่อน ใจเย็นๆ ตอนนี้ฉันยังไม่รู้ว่าคนไหนเลย แต่ก็มีเล็งๆ ที่พอเป็นไปได้ไว้สองคน ส่วนอีกคนคงไม่ใช่แน่ๆ เชยระเบิดเถิดเทิง พ่อน่าจะรู้ว่าไม่ใช่สเปคฉันแน่ๆ”

          “ก็ไม่แน่หรอกย่ะ แล้วทำยังไงถึงจะรู้” สายตาของจารวีเป็นประกายเพราะการตามว่าที่เจ้าสาวของปรานต์ก็น่าจะสนุกดี

          ปรานต์ขมวดคิ้วใส่อย่างรู้ทัน ขืนให้จารวีช่วยสืบความลับได้แตกก่อนพอดี

“เดี๋ยวก็รู้ ฉันส่งคนตามพ่ออยู่ ตอนนี้คงถึงกรุงเทพฯ แล้ว คงมีอะไรให้ฉันรู้บ้างล่ะน่า ถ้าจะหาลูกสะใภ้ก็ต้องติดต่อพ่อแม่ของผู้หญิงใช่ไหมรวี”

          “มองขาดมาก แล้วให้รวีถ่อมาทำไมล่ะเนี่ย”

          “รู้จักการหว่านแหไหม ถ้าผู้หญิงคนนั้นรู้ว่าฉันมีคนรักอยู่แล้วคงเป็นฝ่ายปฏิเสธการแต่งงานน่ะสิ” ปรานต์ตอบ ไม่มีเหตุผลที่จะใช้ทีละแผน แค่สองวันเรื่องแต่งงานจะได้จบลง จนพ่อไม่ทันสงสัยด้วยซ้ำว่าเขาทำอะไรลงไป

          จารวีพยักหน้าหงึกๆ นี่ล่ะเหตุผลที่เธอไม่ควรคิดอะไรกับปรานต์ นอกจากทำงานเก่งแล้ว เรื่องวางแผนก็ใช่ย่อยและที่สำคัญเราสองคนรู้จักกันมากกว่าจะมาเป็นคนรักกันได้

          “นั่นใครน่ะ รวีไม่เคยเห็นมาก่อน เดินเซแบบนั้นเดี๋ยวก็ตกน้ำไปหรอก”

          ปรานต์มองตามสายตาของจารวีถึงได้เห็นว่าน้องเชยออกมาเดินเล่นตรงสะพานเล็กๆ ที่เชื่อมระหว่างแผ่นดินกับทะเลซึ่งไม่น่าห่วงเท่าไหร่ หากว่าน้องเชยของเขาจะไม่เพิ่งตกน้ำตกท่าไปเมื่อสองชั่วโมงก่อน

          “นั่งรอตรงนี้ก่อนนะรวี เดี๋ยวฉันไปดูแลแขกก่อน เพิ่งตกน้ำมาแท้ๆ ดูรึแทนที่จะเข็ดยังมาเดินใกล้ๆ น้ำอีก”

          ทันทีที่ปรานต์ออกมาจากห้องทำงาน บอดี้การ์ดทั้งสองก็ตามติดราวกับเงาจนเขาเริ่มจะรำคาญ แต่ที่ยังไม่ออกปากห้ามก็เพื่อความสบายใจของพ่อเท่านั้นเอง จารวีมองตามผ่านหน้าต่างของห้องทำงานพลางลอบสังเกตผู้หญิงในคณะเยี่ยมชมอย่างสนใจ หากว่าที่เจ้าสาวคือเธอคนนั้น ปรานต์จะทำยังไงต่อไปกันนะ

         

          หน้าจอโทรศัพท์ถูกจับหันออกไปสู่ทะเลที่ลมกำลังพัดโถมใส่ร่างจอมขวัญ ในขณะที่ลอนคลื่นค่อยๆ สูงขึ้นจนม้วนเป็นวงกลม ก่อนจะค่อยๆ เล็กลงเมื่อถึงชายหาด ลลิตายิ้มเป็นสุขแม้จะได้ยินเพียงเสียงคลื่น ตั้งแต่สามีตายไปเมื่อสิบกว่าปีก่อน จอมขวัญก็แทบจะไม่ได้เที่ยวเพราะต้องช่วยเธอทำขนมขายจนกระทั่งเรียนจบ งานที่ทำก็ค่อนข้างยุ่งมากทำให้เวลาจะนอนยังแทบไม่มี แต่วันนี้แตกต่างไปเมื่อลูกสาวได้พักผ่อนเสียบ้าง

          “เอาไว้จอมจะพาแม่มาเที่ยวกันสองคน แม่อยู่บ้านคนเดียวดูแลตัวเองดีๆ นะ พรุ่งนี้ค่ำๆ จอมก็กลับถึงบ้านแล้วล่ะ” จอมขวัญหันโทรศัพท์กลับมารู้สึกหายเหนื่อยเมื่อได้ยินเสียงของแม่

          ลลิตาหัวเราะเบาๆ ไม่รู้ใครเป็นห่วงใครกันแน่ “จ้า แม่ต่างหากที่ห่วงจอม เดินทางปลอดภัยนะลูก”

          “จอมคิดถึงแม่นะ จุ๊บๆๆ”

          ปรานต์ชะงักขาที่อีกไม่กี่ก้าวก็จะถึงตัวของจอมขวัญอยู่แล้ว เขาเข้ามาขัดจังหวะสำคัญของเธอหรือเปล่า แต่ก็นั่นล่ะมันคงช้าไปเมื่อเธอวางสายและกำลังจะเดินต่อไป ทำให้เขาต้องรีบตามก่อนที่จะเกิดเรื่องอีกรอบ

 

          1 ใน 3 คน ใครคือว่าที่เจ้าสาวที่ปรานต์จะไปเจรจาเพื่อไม่ให้ตัวเองต้องเป็นเจ้าบ่าวกันนะ

        ขอบคุณสำหรับการติดตามอ่านค่ะ

        อัมราน_บรรพตี

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.