บทที่ 13...2/3
เกือบหกโมงเย็นพันธินไปถึงร้านอาหารตามเวลานัด อรอินทุ์ยกมือให้เขาเห็น ดีไม่น้อยที่ข่าวสาวปริศนาเงียบไปแล้วเลยไม่ต้องระวังตัวแจ ไม่รู้ว่าเพราะเขาโดดเด่นท่ามกลางผู้คนอยู่แล้ว หรือว่าหน้าของเขาเคยเข้าไปอยู่ในหนังสือพิมพ์กันแน่ ทำให้ใครต่อใครพากันมอง แต่คนถูกมองกลับเดินมาหน้าเรียบเฉย จนกระทั่งมาถึงโต๊ะแล้วยิ้มให้ทุกคนพลางกวาดตามองหา
“แล้วลุงอิชย์ล่ะ”
“กำลังตามมาค่ะ” อรอินทุ์ตอบ
ไม่ทันคาดคิดพันธินก็นั่งลงข้างๆ ทั้งที่เธอเว้นที่นั่งหัวโต๊ะเอาไว้ให้ แขกในร้านพากันหันมามองเราแล้วซุบซิบ ข่าวของเราสองคนยังไม่ซาทั้งที่คิดว่าซาไปแล้วสินะ เฮ้อ
‘หล่อลาก หล่อทรมาน หล่อไม่ปราณี’
พันธินหันมามองเจ้าของความคิดที่แทบจะตะโกนใส่หูของเขา อรอินทุ์มองตามสายตาของพันธินเลยทันเห็นเพื่อนสาวกำลังยิ้มกว้างตาปรอย เธอลืมไปได้ยังไงเนี่ยว่าธนิดาแพ้คนหล่อ พิพัฒส่ายหน้ายิ้มรู้กัน แต่คนถูกมองนี่สิ ทำหน้าเฉยๆ เดาไม่ออกว่าคิดอะไรอยู่
“นี่เพื่อนๆ ของฉันค่ะ ยัยดา นายพัฒนี่คุณธิน คุณธินค่ะ นี่ยัยดากับพัฒเพื่อนของฉันค่ะ”
“ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ ได้ข่าวคุณเพิ่งอกหัก ถ้าอยากหาที่ดามอก...”
“ยัยดา!” พิพัฒเรียกเพื่อนเสียงหลง ที่เหลือพากันหัวเราะ “ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ”
ธนิดาหัวเราะไม่คิดอะไรจริงจัง เธอชอบคนหล่อ พอหล่อมากๆ ก็อาจใจลอยเหมือนคนเพ้อไปบ้าง พูดเล่นๆ แค่นั้น แต่ถ้าได้จริงๆ ก็ไม่ปฏิเสธ
“อุ้ย! ลืมตัว อย่าถือสานะคะ วันก่อนที่เห็นคุณพันธินในห้องประชุม ตอนนั้นยังไม่ได้รู้จักก็เลยคิดว่าคุณคงเข้าถึงยาก แต่จริงๆ แล้วง๊าย...ง่าย”
อรอินทุ์ยิ้มเขินๆ แทนเพื่อนพลางมองพันธินที่มองเธออยู่พอดี สายตาของพันธินช่างทำให้คิดถึงพันแสงเหลือเกิน พี่น้องคู่นี้ยามมองเธอช่างคล้ายกันจนไม่อยากเชื่อว่าเป็นคนละคนกัน
“อย่าถือสาเพื่อนของฉันเลยนะคะ คุณธินจะสั่งอะไรเพิ่มหรือเปล่า”
พันธินมองอาหารที่ทยอยมาวางบนโต๊ะ
“แล้วแต่เธอแล้วกัน” เขาตอบพลางมองไปหน้าร้าน “อ้อนั่น ลุงอิชย์มาแล้ว”
อรอินทุ์รีบเดินไปรับแล้วกอดเอวกันเข้ามา เอาน่าเผื่อว่าวิธีนี้จะสยบข่าวลือของเธอกับพันธินได้บ้าง แต่อาจถูกเมาท์ว่ามีเสี่ยเลี้ยงแทนหรือเปล่าก็ไม่รู้
“ลูกสาวคนเก่ง หนูดา ตาพัฒลุงดีใจด้วยนะ” อิชย์ได้นั่งหัวโต๊ะเมื่อเหลือเก้าอี้ที่จัดไว้ว่างอยู่ที่เดียว
“ขอบคุณค่ะ ไหนๆ มากันครบแบบนี้ถือว่าเลี้ยงฉลองเปิดบริษัท ฉลองได้งาน ขอบคุณหุ้นส่วน แล้วก็ขอบคุณคุณธินที่ให้โอกาสนะคะ” ธนิดายังตาปรอยใส่พันธินไม่เลิก
อิชย์หัวเราะชอบใจ พันธินยิ้ม ธนิดาไม่ได้พิษมีภัยอะไร แค่ผู้หญิงที่กล้าแสดงออก ถ้าอรอินทุ์แสดงออกเรื่องแบบนี้ออกมาบ้างคงดี
“ผมไม่ได้ทำอะไรเลยครับ ทุกอย่างเป็นไปตามความสามารถของพวกคุณทั้งนั้น”
“ถ้างั้นกินกันดีกว่า เดี๋ยวอาหารเย็นหมด” ธนิดาเสนอ
ไม่มีเสียงปฏิเสธ ธนิดาเจริญทั้งอาหารและตา กินไปมองคนหล่อไป แถมพอมองไปอีกโต๊ะไม่ไกลกันยังเห็นคนหล่อที่พันธินบอกว่าเป็นบอดี้การ์ดกินข้าวอยู่กับคนขับรถของเขา พิพัฒชวนคุย รายนี้เก่งเรื่องปล่อยมุขสด ถ้าไม่ระวังอาจสำลักข้าวได้
อรอินทุ์เป็นเหยื่อคนแรก เธอไอจนหน้าแดง พันธินส่งกระดาษทิชชู่ให้ แถมยังช่วยลูบหลัง อิชย์มองเห็นความใกล้ชิดนั้น ถึงไม่พูดอะไร พันธินย่อมรู้ว่าเขาคิดอะไร สายตาของชายหนุ่มมองมาและยิ้ม เขาไม่เคยผิดสัญญา
จู่ๆ คนยิ้มก็ยกมือขึ้นมากดหน้าอกและเริ่มหายใจถี่ๆ อรอินทุ์หันมามองพันธิน อิชย์ลุกจากเก้าอี้มาสีหน้าตกใจยิ่งกว่าลูกสาวที่ยื่นมือไปจับมือหนาไว้ คนในร้านพากันหันมามอง
“คุณธินเป็นอะไรคะ”
พันธินอยากจะตอบ แต่เขาแน่นหน้าอกจนเปล่งเสียงไม่ได้
“เดี๋ยวเราไปเอารถนะ อาการแบบนี้อย่างกับแพ้อะไร พาส่งโรงพยาบาลดีกว่า ยัยดาเร็ว” พิพัฒคว้ามือเพื่อนสาวแล้ววิ่งไปที่รถ
“มีอะไรที่ทำจากถั่วหรือพวกกุ้งบ้างหรือเปล่าอร” อิชย์ถามพร้อมกับช่วยประคองให้พันธินลุกขึ้น ปริญและพนักงานในร้านเข้ามาช่วยอีกแรง
อรอินทุ์วางเงินไว้ไม่ทันนับด้วยซ้ำก็รีบวิ่งตามพ่อมาพลางคิดไปด้วย
“มีค่ะพ่อ อรไม่รู้ว่าคุณธินแพ้ถั่ว”
อิชย์พยักหน้า เขาไม่ทันคิด พันธินส่ายหน้าแทนการพูดว่าไม่เป็นไร เขาเองที่ไม่รอบคอบ อรอินทุ์วิ่งนำไปที่รถแล้วเปิดประตูไว้รอ เธอเข้าไปก่อนแล้วบอกให้สั่งพันธินมา เธอให้เขาหนุนตัก ความรู้สึกผิดจนอยากรับผิดชอบมีอยู่เต็มหัวใจที่หนักอึ้ง พิพัฒรีบขับรถออกไปที่โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด โดยมีอิชย์กับปริญขับรถตามมา
ในเวลาเดียวกันคนงานกำลังช่วยกันลำเลียงอาหารทะเลแช่แข็งเข้าไปในตู้คอนเทนเนอร์ โดยมีหัวหน้าคนงานคอยดูแลความเรียบร้อย ตู้คอนเทนเนอร์สามตู้โหลดของเสร็จเมื่อไหร่จะถูกนำไปที่เรือซึ่งจะเดินทางต่อไปยังยุโรป ซึ่งจวนเจียนใกล้ถึงเวลานัดหมายส่งของขึ้นเรือแล้ว ทำให้คนงานถูกเร่งและเพิ่มจำนวนคน
ทว่าในจำนวนคนงานที่เพิ่มเข้ามานั้นกลับมีตำรวจตามมาด้วยห้านาย หัวหน้าคนงานเดินไปหาท่าทีเป็นมิตร มีเรื่องอะไรนายเคลียร์ได้อยู่แล้ว
“มีอะไรกันหรือครับ เราส่งอาหารทะเลแช่งแข็ง ไม่มีอะไรให้ตำรวจจับหรอกครับ”
“นี่หมายค้นครับ ช่วยให้ความร่วมมือด้วย” ตำรวจซึ่งเป็นเพื่อนกับดำรงส่งเอกสารสำคัญให้ สายของตำรวจสืบมานานแล้ว จนเมื่อตอนสายมีภาพถ่ายคนของจิณณ์กำลังยัดของหนีภาษีไปพร้อมกับอาหารทะเลแช่แข็ง ประกอบกับคนของตำรวจยืนยันด้วยเช่นกันว่าตู้คอนเทนเนอร์ที่เห็นเป็นจิณาการทะเล การออกหมายค้นจึงเกิดขึ้น
“อย่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่เลยดีกว่าครับ เราไปทานกาแฟกันก่อน แล้วค่อยมาตรวจก็ทันอยู่ดี”
หัวหน้าคนงานขยิบตากับลูกน้อง ของที่ขนไปเพื่ออำพรางของหนีภาษียังไม่เรียบร้อย เขาต้องถ่วงเวลาไว้ก่อน ถ้ากลับมาอีกทีตู้คอนเทนเนอร์ต้องไม่อยู่แล้ว
ตำรวจยิ้มให้หัวหน้าคนงาน แต่ไม่หลงกล
“ค้นเดี๋ยวนี้ ใครขัดขืนการปฏิบัติตามหน้าที่จับได้ทันที”
หัวหน้าคนงานอยากขัดขืนแต่ทำอะไรไม่ได้ เมื่อมีนักข่าวตามตำรวจมาด้วย สิ่งเดียวที่ทำได้มีเพียงโทรบอกนาย เมื่อความบรรลัยมาได้เยือนพร้อมหลักฐานแน่นหนาในคอนเทนเนอร์ทั้งสามตู้
จิณณ์ได้รับรายงานจากลูกน้องแล้ว แต่ยังไม่สามารถไปไหนได้เมื่อมางานแต่งานของลูกสาวนักธุรกิจที่เป็นคู่ค้าทางธุรกิจที่ให้ผลประโยชน์มหาศาล แต่ข่าวร้ายคือในงานมีนักข่าว เมื่อได้ข่าวกันก็พากันกรูเข้ามาเพื่อขอสัมภาษณ์เขา จะปฏิเสธไม่ให้สัมภาษณ์ก็ทำไม่ได้
“ตำรวจเพิ่งจับตู้คอนเทนเนอร์ของบริษัทจิณาการทะเลพบว่ามีของหนีภาษี คุณจิณณ์มีคำตอบอย่างไรคะ”
“คงเป็นเรื่องเข้าใจผิด บริษัทของผมไม่เคยทำเรื่องผิดกฎหมาย เดี๋ยวผมขอตรวจสอบก่อนนะครับ” จิณณ์ตอบอย่างใจเย็น และอีกหลายคำถามที่ต้องตอบ เมื่อได้คำตอบครบตามจำนวนคำถาม นักข่าวก็พากันขอตัวไปหาข่าวต่อ
ผ่านไม่ถึงสิบห้านาทีจิณณ์ก็ขอตัวกลับออกมาจากงาน นักข่าวมองมา แต่คงไม่สงสัยอะไรเพราะพิธีสำคัญได้ผ่านไปแล้ว เมื่อเข้ามาในรถ สีหน้าเปี่ยมสุขกลับแปรเปลี่ยนเป็นโกรธเกรี้ยวขึ้นมาทันที
“มันเกิดขึ้นได้ยังไง”
“มีคนส่งหลักฐานไปให้ตำรวจว่าเรามีการขนของหนีภาษีสอดไส้ไปในตู้คอนเทนเนอร์ครับ คนของเราถูกจับพร้อมของกลาง” คนสนิทรายงาน
“เอาโทรศัพท์มา” คนสำคัญถูกต่อสายหา เขาจะมาเสียชื่อเสียงด้วยเรื่องนี้ไม่ได้ พอวางสายเรื่องสำคัญที่สุดก็ถูกสั่งออกไป “ไปหามาให้ได้ว่าใครมันปูดเรื่องของฉันให้ตำรวจรู้ ได้เรื่องแล้วรีบมารายงาน”
“ครับคุณจิณณ์”
โทรศัพท์ถูกกดโทรออกอีกครั้ง เขารอสายอยู่นานมากกว่าลูกชายจะกดรับสาย อีกทั้งน้ำเสียงงัวเงียเหมือนกับหลับไปแล้ว ทั้งๆ ที่เพิ่งสามทุ่มเท่านั้น
“มีเรื่องอะไรกันครับพ่อ” จิรกรถามพ่อ โดยมีเสียงแทรกจากหญิงสาวที่นอนอ่อนระทวยข้างกาย
“ไปที่บริษัทแล้วจะรู้เอง แกรีบเคลียร์นักข่าวไม่ให้มีข่าวออกไปในวันพรุ่งนี้”
“ครับพ่อ”
จิรกรลุกขึ้นมาใส่เสื้อผ้าพร้อมๆ กับโทรไปที่บริษัทถึงได้รู้ว่าเกิดเรื่อง เงินปึกหนึ่งวางลงที่หัวเตียง งานมาก่อนความสุขเล็กๆ น้อยๆ เสมอ
จิณณ์สั่งให้คนขับรถพากลับบ้าน เขาไม่ควรเคลื่อนไหวอะไร นักข่าวอาจตามจนได้เบาะแส นานมากแล้วที่ไม่มีใครกล้าลูบคม ถ้ารู้ว่าเป็นใครที่เล่นงานเขา มันตายแบบไม่มีที่ฝังศพแน่
ความบังเอิญมักมาพร้อมสิ่งที่น่าสงสัย แต่ตอนนี้อรอินทุ์รู้สึกผิดไปแล้ว จนบางอย่างไม่ชัดเจน
แจ้งข่าวนะคะ
1 จันทร์ซ่อนใจ ได้วางจำหน่ายในรูปแบบ E-Book แล้วนะคะ (20/11/2023) ในหมวด นิยายรัก เว็บ/แอพพลิเคชั่น MEB ค่ะ
ลิงค์ค่ะ
2 โบว์ทำโปรโมชั่นเรื่อง จันทร์ซ่อนใจ จากราคาปกติ 249 ลงเหลือ 149 บาท 17 วัน ตอนเหลือเวลา 5 วันค่ะ สามารถพาอรอินทุ์กับพระเอกของเธอมาไว้ที่ชั้นหนังสือในราคาน่ารักได้แล้วนะคะ
3 โบว์จะลงจันทร์ซ่อนใจให้อ่านถึงบทที่ 14 แล้วหยุดการลงนะคะ ขอบคุณที่ติดตามอ่านมาด้วยกันค่ะ
จันทร์ซ่อนใจเป็นนิยายที่จะคุณรู้ว่าการรอคอยและไม่หมดหวัง
สักวันคุณจะสมหวัง...
และร่วมกันหาฆาตกรตัวจริงด้วยกัน หวังว่าจะชอบนะคะ
- _บรรพตี
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 183
แสดงความคิดเห็น