3
ปฏิทินลูกเต๋าบนมุมโต๊ะทำงานของเขา รินรดาเดินไปหยุดดูโดยเขาเดินตามเธอไปไม่ห่าง จู่ๆรินรดาก็ถามเขาขึ้นว่า
“ปฏิทินนี้คือวันนี้หรือป่าวค่ะ”
“ถึงผมจะดูขี้เมา แต่ก็เปลี่ยนปฏิทินทุกวันครับ”
ทัศตอบคำถามของหญิงสาวแปลกหน้าที่ถามคำถามแปลกๆชอบกล เขาไม่รู้เลยว่าหญิงสาวแปลกหน้าคนนี้เวลาเธอนิ่งนั้นกำลังคิดอะไรอยู่ และนี่เป็นครั้งแรกที่เขาอยากจะล่วงรู้ความในใจของเธอพอๆกับความรู้สึกคลั่งไคล้อยากกอดสัมผัสเธออย่างอ่อนโยนอีกครั้ง อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
'มันเหมือนโดนมนต์สะกด'
ทัศพยายามมีสติทุกลมหายใจ ควบคุมอาการกำหนัดของเขาเริ่มต้นขึ้นเมื่อพบกับผู้หญิงคนแปลกหน้าคนนี้ ที่เธอบังเอิญมาอยู่ในห้องนอนของเขา เวลาอยู่ใกล้เธอก็รู้สึกเร่าร้อนด้วยไฟรักที่ลุกโชนขึ้น ยิ่งได้สัมผัสเรือนร่างของเธอครั้นใดก็ยิ่งที่จะควบคุมไม่ให้ลุ่มหลงเธอไม่ได้ ยิ่งมองก็ยิ่งอยากอยู่ใกล้ได้กลิ่นหอมจากเรือนร่างของเธอก็ยิ่งยากที่จะหักห้ามใจไว้ได้
ไม่ทันสิ้นเสียงของทัศตอบคำถามของเธอ เขาพอจะเดาอาการของหญิงสาวแปลกหน้าคนนี้กำลังจะร้องกรี๊ดขึ้นมาอีกครั้ง
และสิ่งที่เขาคิดก็เกิดขึ้นจริง
เขาเดาใจเธอถูก ไม่ทันที่เธอจะได้ส่งเสียงร้องออกมาริมฝีปากของเขาก็ประกบลงริมฝีปากอันนุ่มละมุนหอมกลิ่นน้ำหอมเบาๆของเธอ เขาเข้าไปแนบประชิดใกล้เธอรับรู้ถึงลมหายใจอุ่นๆของกันและกัน
เขาอดไม่ได้ที่จะคิดเตลิดทำตัวอย่างไม่ใช่สุภาพบุรุษ ในช่วงเวลาสัมผัสริมฝีปากอันอ่อนนุ่มหอมหวานละมุนของเธอมันปลุกเร้าความรู้สึกของเขาจนแทบไม่อยากหยุด ลิ้นอุ่นๆของเขารุกเร้าล้ำเข้าไปในปากของเธอ ความทุกข์ในชีวิตที่ถาโถมเข้ามาและอยู่กับเขามาเนินนานจนกลายเป็นคนเย็นชานั้นบัดนี้ได้สลายไปดั่งสายลม
ทันใดนั้นเองรินรดาตกใจขยับริมฝีปากเงอะงะของเธอ จังหวะนั้นเองที่เธอกัดลิ้นเขาเข้าอย่างแรงจนทำให้เขาก็รู้สึกตัว เธอผลักแขนทั้งสองของเขาที่แนบลำตัวเธอออกไป
รินรดาตกใจที่ผู้ชายแปลกหน้าคนนี้เข้ามากอดจูบ เธอจึงหันมาหยิบข้าวของใกล้มือขว้างปาใส่เขาแบบไม่ยั้งมือ จนกระทั่งข้าวของแตกกระจายรามชายหนุ่มยืนนิ่งไม่ตอบโต้ใดๆเพราะรู้ว่าผิดไปแล้วได้แต่สำนึกและยอมรับผิดเขาพูดเสียงดังขึ้นว่า
“ผมขอโทษครับขอโทษที่เอ่อ...." ทัศหยุดพูดพร้อมกับใบหน้าสลดลงและพูดต่อว่า
"ผมล่ะสงสัยว่าเหตุใดอารมณ์ของเธอสวิงสวายทั้งที่ยังสาวยังแส้ เธอไม่สบายหรอกหรือ”
ทัศมองหน้าของรินรดาตอนนี้เขาเริ่มรู้สึกว่าส่างเมาแล้ว เขาไม่อยากจะโทษว่าเป็นเพราะฤทธิ์ของเหล้า แต่อย่างใดเพราะเขารู้สึกตัวตลอดเวลาแต่ห้ามใจตัวเองไม่ได้ เขารู้สึกผิดไม่น้อยที่ทำตัวเป็นหนุ่มเลือดร้อนไม่เป็นสุภาพบุรุษเช่นนั้น เขารู้สึกเพียงแต่ว่าเวลาไม่กี่ชั่วโมงที่ได้เจอเธอคนนี้ แต่กลับอยากจะอยู่กับเธอไปตลอดกาลอีกด้วย ที่สำคัญตอนนี้เขายังรู้สึกยินดีที่เริ่มเดาใจเธอออกบ้างแล้ว เขาจึงเอ่ยขึ้นว่า
“อยากบอกนะว่าคุณจะกรีดร้องเหมือนเมื่อครู่ คงไม่ได้ ตอนนี้ดึกดื่นเที่ยงคืนแล้ว คุณกรีดร้องอีกชาวบ้านย่านนี้คงเห่กันมาที่นี่หรือเขาอาจจะคิดว่า...”
รินรดาจ้องหน้าเขาเหมือนว่าเธอจะเชื่อเขาอีกทั้งเธอก็ไม่รู้ว่าจะทำยังงัยในเมื่อตอนนี้เธอไม่ได้ฝันไป เธอไม่ได้คิดไปเอง ดูท่าทางที่เขาทำกับเธอจะไว้ใจเขาได้หรือไม่หรือเพราะเขาเมา ในขณะที่เธอนิ่งเงียบอยู่นั้น ทัศกลัวว่าเธออาจจะมีความคิดแผลงๆขึ้นมาอีกจึงพูดขึ้นว่า
“คืนนี้คุณนอนค้างเสียที่นี่ พรุ่งนี้จะไปส่งที่บ้าน”
เมื่อเขาพูดจบก็เดินไปหยิบเสื้อกุยเฮงกับกางเกงแพรจากตู้เสื้อผ้าที่อยู่ด้านหลังที่บังตาเป็นหวายสานเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเมื่อครู่ ซึ่งรินรดาแอบมองเขาทุกฝีก้าว
เธอเองรู้ตัวแล้วว่าเธอเดินทางข้ามกาลเวลาได้อย่างชนิดที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน เมื่อไม่นานที่เธอได้ฝึกสมาธิด้วยเสียงเพลงที่ปรับคลื่นสมองให้ผ่อนคลายและสงบเข้าสมาธิได้ง่ายขึ้น หลังจากเหตุการณ์ที่ทำให้เธออาจจะไม่ได้ต่อสัญญาเป็นอาจารย์พิเศษในปีการศึกษาหน้า
ขณะที่รินรดาคิดอยู่นั้นทัศก็เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอทำให้เธอสะดุ้งตกใจเล็กน้อย เมื่อหันมาเจอชายแปลกหน้าอยู่ข้างๆใกล้ๆ เขายื่นเสื้อกุยเฮงกับกางเกงแพรให้ขมิ้น แต่เธอไม่ได้รับไว้กลับจ้องมองชายหนุ่มแปลกหน้าอย่างพินิจพิจารณาอย่างถี่ถ้วนก่อนที่จะพูดว่า
“ชั้นไม่นอนกับคุณในห้องนี้แน่”
ทัศอมยิ้มก่อนที่จะพูดว่า
“ใครกันบอกคุณว่าเราจะต้องนอนด้วยกันล่ะ”
“อ้าว!”
“ผมไม่ได้บอกให้คุณนอนห้องนี้ ผมจะพาคุณไปนอนอีกห้อง จะไปกันหรือยังล่ะครับ”
รินรดามองหน้าเขาและเดินตามเขาออกจากห้องนี้โดยเธอคิดว่า
‘ไม่ว่าจะเกิดอะไรชีวิตต้องดำเนินต่อไปอยู่ดี ถึงจะกรีดร้อง ดิ้นรนไปก็อาจจะไม่ช่วย บางทีนอนหลับไปคืนนี้ก็อาจจะได้กลับไปนอนที่เตียงของเธอเหมือนกับตอนที่มาที่นี่ด้วยเช่นกัน’
เมื่อคิดแบบนั้นเธอจึงพูดกับเขาว่า
“คุณ ชั้นอยากนอนที่ห้องนี้ นอนที่นี่”
รินรดายืนอยู่ตรงหน้าชายแปลกหน้าและเอียงศีรษะเล็กน้อยและเบิกตาโตเพื่อเป็นภาษากายในเชิงถามเพื่อให้เขาตอบรับตามที่เธอร้องขอ
“คงไม่ได้ครับ นี่! ห้องนอนผม หรือถ้าคุณไม่รังเกียจผมจะนอนห้องเดียวกับผม”
รินรดามองหน้าเขาอีกครั้งก่อนที่จะพูดว่า
“หือ...”
ไม่ทันที่เธอจะพูดจบ ทัศก็พูดแทรกขึ้นว่า
“ไม่ได้ครับคุณเป็นสตรี ถ้าชาวบ้านร้านตลาดรู้เข้าคุณจะเสื่อมเสียเอาได้ครับ”
“ชั้นยังไม่ได้บอกว่าจะให้คุณนอนในห้องนี้ ชั้นหมายถึงคุณออกไปนอนห้องอื่น”
ทัศมองหน้าหญิงสาวแปลกหน้าคนนี้ที่มีทั้งอากัปกริยาท่าทางที่แปลกประหลาดและคิดไปว่า
‘จะว่าเพี้ยนก็ใช่แต่ในบางครั้งก็ปกติดี แต่ดูๆไปแต่งกายก็ไม่ต่างจากคนร่อนเร่พเนจร แต่ดูสะอาดสะอ้าน อีกทั้งหน้าตาสะสวย ’
ทัศถอนหายใจก่อนที่จะตอบตกลงตามใจเธอคนนี้โดยที่เขาเองก็ไม่มีเหตุผลที่จะทำเช่นนั้น แต่ไม่รู้เพราะอะไรเขาถึงได้ยอมทำตามที่เธอบอก เขายื่นชุดของเขาให้เธอก่อนที่จะเดินไปหยิบเสื้อผ้าเพื่อออกไปนอนอีกห้อง
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 186
แสดงความคิดเห็น