ตอนที่ 604 พัฒนาร่าง

-A A +A

ตอนที่ 604 พัฒนาร่าง

หมวดหนังสือ: 

ตอนที่ 604 พัฒนาร่าง

ผลึกนางแอ่นขาวมีขนาดประมาณลูกปิงปอง โดยบางอันมีลักษณะเป็นทรงกลม บางอันมีลักษณะเป็นทรงสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน แต่พวกมันทุกชิ้นได้ส่องแสงสว่างไปทั่วทั้งร่างกาย และสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วราวกับพวกมันเป็นภูติแสงในพื้นที่ใต้ดินอันมืดมิด

ผลึกเหล่านี้ซุกซนเป็นอย่างมาก ซึ่งถ้าหากว่าใครค้นพบพวกมันเข้าพวกมันก็จะโผล่มาเยาะเย้ยก่อนที่จะรีบหนีไปอย่างรวดเร็วโดยไม่มีอะไรสามารถหยุดยั้งพวกมันได้ ราวกับว่ามันสามารถเคลื่อนที่ทะลุผ่านพื้นดินได้อย่างอิสระ

แน่นอนว่าผลึกนางแอ่นขาวไม่ใช่สิ่งมีชีวิตแต่เป็นเพียงคริสตัลที่สามารถเคลื่อนไหวได้ด้วยตัวเองเท่านั้น ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมพวกมันจึงสามารถเคลื่อนไหวได้เหมือนสิ่งมีชีวิต มันก็ยังไม่มีใครสามารถหาคำตอบนี้ได้ แม้ว่าประชากรจากดินแดนผู้ใช้กฎจะได้ค้นพบมันมาเป็นเวลาหลายล้านปีแล้วก็ตาม ทุกคนจึงรู้เพียงแต่วิธีการใช้งานและความล้ำค่าของพวกมันเท่านั้น

อย่างไรก็ตามการพยายามดูดกลืนพลังงานจากผลึกนางแอ่นขาวก็เป็นกระบวนการที่ค่อนข้างจะยุ่งยากมาก โดยขั้นตอนแรกปรมาจารย์ด้านการกลั่นพลังงานจำเป็นจะต้องชำระล้างพลังงานภายในผลึกนางแอ่นขาวให้บริสุทธิ์ซะก่อน จากนั้นพวกเขาก็ต้องนำพลังงานเหล่านี้ไปบรรจุเข้าใส่คริสตัลบริสุทธิ์อีกที เพื่อให้มันมีความปลอดภัยในระหว่างที่นักรบได้ดูดซับพลังงานพวกนี้เข้าไป

ด้วยความที่พลังงานภายในผลึกนางแอ่นขาวมีความปั่นป่วนรุนแรงมาก การพยายามดูดซับพลังงานจากผลึกนางแอ่นขาวเข้าไปโดยตรงจึงไม่ต่างไปจากการฆ่าตัวตาย เพราะท้ายที่สุดถึงแม้ว่านักรบจะสามารถดูดซับพลังงานพวกนี้เข้าไปภายในร่างได้จริง ๆ แต่พลังงานจากผลึกนางแอ่นขาวก็จะเริ่มอาละวาดและทำให้ร่างกายของนักรบคนนั้นได้รับบาดเจ็บภายในจนตายในที่สุด

แต่ถึงกระนั้นเซี่ยเฟยก็ยังสามารถดูดกลืนพลังงานจากผลึกนางแอ่นขาวเข้าไปได้โดยตรง โดยที่ความเร็วในการเคลื่อนที่ของเขาไม่ได้ลดลงเลยแม้แต่น้อย มันจึงทำให้บรูซตกใจมากจนไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น

“เขาสามารถกินพลังงานพวกนั้นเข้าไปได้ยังไง?” บรูซกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ขมขื่น

เหตุการณ์นี้ทำให้เฝิงซินเหนียนรู้สึกประหลาดใจเช่นเดียวกัน และถึงแม้ว่าหลาย ๆ คนจะบอกว่าเซี่ยเฟยเป็นคนบ้า แต่อีกฝ่ายก็คงจะไม่บ้ามากพอที่จะฆ่าตัวตายด้วยวิธีการแบบนี้ใช่ไหม

น่าเสียดายที่สุนัขจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ทั้งสองคนนี้หลงลืมไปว่าเซี่ยเฟยไม่ได้เดินทางตัวคนเดียว แต่ข้าง ๆ เขายังมีอสูรศักดิ์สิทธิ์มารขาวเดินทางมาพร้อมกับเขาด้วย

อิ้ว!

ขนอุยตบท้องตัวเองด้วยความพึงพอใจ ขณะพยายามกระโดดไปรอบ ๆ ตัวของเซี่ยเฟยด้วยความตื่นเต้น

แม้ว่ามนุษย์อาจจะเสียชีวิตหากได้กลืนกินพลังงานจากผลึกนางแอ่นขาวเข้าไป แต่สำหรับขนอุยที่กลืนกินพลังงานตามธรรมชาติแล้ว แร่หายากเหล่านี้ก็ไม่ต่างไปจากอาหารอันโอชะสำหรับมัน

แว้บ!

ก้อนแสงสีขาวที่ซุกซนปรากฏขึ้นตรงหน้าเซี่ยเฟยและขนอุยอีกครั้ง จากนั้นมันก็พยายามหลบหนีไปตามนิสัยของผลึกนางแอ่นขาว

“จะหนีไปไหน”

ขวับ!

หงส์ครามพุ่งออกไปรัดร่างของผลึกนางแอ่นขาวเอาไว้อย่างแม่นยำ จากนั้นมันก็ตวัดคริสตัลที่ส่องแสงสว่างเข้าปากขนอุยที่กำลังอ้าปากรอรับอย่างตะกละตะกลาม

งั่ม!

ขนอุยกลืนกินคริสตัลสีขาวเข้าไปในท้องโดยตรงโดยไม่รู้สึกทุกข์ทรมานจากพลังงานอันบ้าคลั่งเลยแม้แต่นิดเดียว

ปุ่ง!

เสียงระเบิดดังขึ้นจากในท้องของขนอุยเบา ๆ ซึ่งมันเป็นกระบวนการที่แสดงออกให้เห็นว่าเจ้าตัวน้อยทำการย่อยผลึกนางแอ่นขาวเมื่อสักครู่นี้เรียบร้อยแล้ว

ต่อมาเจ้าตัวน้อยก็เรอออกมาอย่างสบายใจ ซึ่งมันเป็นกลิ่นเหม็นไหม้ที่แสดงออกให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ถ้าหากเซี่ยเฟยพยายามกลืนผลึกนางแอ่นขาวเข้าไปภายในร่าง มันคงจะเกิดการระเบิดขึ้นมาในอวัยวะภายในของเขา

“แหวะ! กินให้มันมีมารยาทหน่อยสิจะเรอออกมาทำไม นี่นายกินเข้าไปเยอะขนาดนั้นแล้วยังไม่อิ่มอีกเหรอเนี่ย?” เซี่ยเฟยกล่าวอย่างขมขื่น

เจ้าตัวน้อยลูบพุงของมันอย่างน่ารัก ก่อนที่มันจะพยักหน้ารับเพื่อยืนยันว่ามันยังไม่อิ่ม

เซี่ยเฟยยังคงขุดดินไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดหย่อน เพราะเป้าหมายของเขาคือการเป็นที่หนึ่งในการประเมินรอบนี้อยู่แล้ว และถึงแม้ว่าผลึกนางแอ่นขาวจะสามารถหลอกล่อผู้สมัครคนอื่นได้ แต่ชายหนุ่มก็จะทำการจับผลึกนางแอ่นขาวให้ขนอุยกินเฉพาะที่มันกล้ามาปรากฏตัวในเส้นทางของเขาเท่านั้น

“ฉันว่าขนอุยกินมากเกินไปแล้วนะ นายควรจะเก็บคริสตัลพวกนั้นเอาไว้ให้ตัวเองสักหน่อย ฉันคิดสูตรน้ำยาที่ต้องใช้ผลึกนางแอ่นขาวได้ตั้งหลายสิบสูตร ซึ่งมันน่าจะช่วยให้นายสามารถเพิ่มระดับพลังได้อย่างรวดเร็ว” อันธกล่าวอย่างเสียดายและถึงแม้ว่าเขาจะรู้สึกเอ็นดูขนอุย แต่เขาก็อยากจะให้เซี่ยเฟยพัฒนาความแข็งแกร่งของตัวเองไปด้วย

“นายคิดว่าผู้คุมสอบที่ชื่อบรูซคนนั้นดูเป็นพวกคนโง่หรือเปล่า?” เซี่ยเฟยกล่าวถามด้วยรอยยิ้ม

“เขาเป็นถึงผู้พิทักษ์ของกลุ่มมังกรฟ้าแล้วเขาจะเป็นคนโง่ได้ยังไง? ถึงแม้เขาจะแสดงหน้านิ่ง ๆ อยู่ตลอดแต่ความจริงแล้วเขาเป็นคนที่มีนิสัยเจ้าเล่ห์มาก การตัดสินใจหลาย ๆ รอบของเขาสามารถพิสูจน์ความเจ้าเล่ห์ของเขาได้เป็นอย่างดี” อันธกล่าวตอบ

“แล้วนายคิดว่าคนอย่างเขาจะไม่รู้จริง ๆ งั้นเหรอว่ามันมีผลึกนางแอ่นขาวอยู่ที่แก่นของดาวดวงนี้?” เซี่ยเฟยกล่าว

“คนแบบเขาน่าจะต้องรู้อยู่ก่อนแล้ว แต่การที่เขายอมปล่อยผู้สมัครให้มาพบกับผลึกนางแอ่นขาวแบบนี้หรือว่ามันเป็นเพราะ…” อันธกล่าวหลังจากขบคิดอยู่ครู่หนึ่ง

“ฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน ถ้าฉันเดาไม่ผิดเหตุผลที่เขายอมปล่อยให้ผู้สมัครพบกับผลึกนางแอ่นขาวแบบนี้ นั่นก็เพราะเขามั่นใจว่าไม่มีใครสามารถขโมยผลึกนางแอ่นขาวกลับไปได้ ดังนั้นหลังจากจบการประเมินเขาก็คงจะสั่งให้ผู้สมัครทุกคนคืนผลึกนางแอ่นขาวให้กับทางกลุ่มมังกรฟ้าอยู่ดี” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“ที่นายให้ขนอุยกินพลังงานจากผลึกนางแอ่นขาวพวกนี้ นั่นก็เพราะว่านายพอจะเดาได้ตั้งแต่แรกอยู่แล้วสินะว่าถึงแม้ว่านายจะเก็บพวกมันไป แต่พวกมันก็คงจะถูกเอาคืนไปในตอนท้ายของการประเมินอยู่ดี แต่สำหรับขนอุยมันสามารถที่จะกลืนกินพลังงานพวกนี้ได้ทันที และพลังงานพวกนั้นก็จะกลายมาเป็นประโยชน์กับนายในอนาคต” อันธกล่าว

“ดูนี่สิ” เซี่ยเฟยกล่าวขึ้นมาอย่างตื่นเต้นเมื่อได้เห็นว่าร่างของขนอุยกำลังสว่างขึ้น

“ขนอุยกำลังจะพัฒนา!” อันธตะโกนขึ้นมาเสียงดัง

ขนอุยคือสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่การเลื่อนระดับแต่ละครั้งจำเป็นจะต้องใช้พลังงานปริมาณมหาศาล ซึ่งหลังจากที่มันได้กลืนกินพลังงานจากผลึกนางแอ่นขาวเข้าไปเป็นจำนวนมาก ในที่สุดมันก็ใกล้พัฒนาเข้าสู่ร่างขั้นที่ 4 ของมันแล้ว

“กินมันเข้าไปอีก! เมื่อไหร่ก็ตามที่มันมีผลึกนางแอ่นขาวเข้ามาขวางหน้า นายก็กินพวกมันเข้าไปให้หมดอย่าให้เหลือ!!” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะ เมื่อจู่ ๆ มันได้มีผลึกนางแอ่นขาวปรากฏตัวขึ้นมาต่อหน้าเขาอีกครั้ง

ขนอุยพยักหน้ารับอย่างมีความสุข จากนั้นมันก็กลืนกินผลึกนางแอ่นขาวเข้าไปอย่างบ้าคลั่ง

ปัจจุบันบรูซกำลังรู้สึกหงุดหงิดจนทำให้ใบหน้าของเขาเริ่มเปลี่ยนไปเป็นสีเขียว เพราะบนหน้าจอได้แสดงให้เห็นว่าเซี่ยเฟยหยุดอยู่ใกล้กับเส้นชัยมาก และยังคงป้อนผลึกนางแอ่นขาวที่เก็บมาให้กับขนอุยอย่างต่อเนื่อง

เมื่อเซี่ยเฟยรู้อยู่แล้วว่าเขาไม่สามารถเก็บผลึกนางแอ่นขาวพวกนี้กลับไปใช้งานได้ เขาจึงมอบพวกมันทั้งหมดให้กับขนอุย เพราะถ้าหากว่าเจ้าตัวเล็กเลื่อนระดับในระหว่างนี้ มันก็จะกลายเป็นผู้ช่วยที่ดีสำหรับเขาในอนาคต

ด้วยเหตุนี้เองเมื่อชายหนุ่มเคลื่อนที่เข้าใกล้เส้นชัยแล้ว เขาจึงยัดผลึกนางแอ่นขาวทุกก้อนที่เขาเก็บมาเข้าไปภายในปากของขนอุยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในตอนนี้ถึงแม้ว่าเจ้าตัวเล็กจะไม่ต้องการแต่เขาก็จะบังคับให้มันกลืนกินผลึกนางแอ่นขาวทั้งหมดเข้าไป

นี่คือโอกาสที่ดีที่สุดที่เขาจะเลี้ยงอาหารมื้อใหญ่ให้ขนอุยฟรี ๆ ซึ่งถ้าหากเขาพลาดโอกาสนี้เขาก็ไม่รู้ว่าจะได้รับโอกาสที่ดีแบบนี้อีกเมื่อไหร่

“กินเข้าไปแล้วพัฒนาร่างซะ!!”

ตูม!

ในที่สุดร่างของเซี่ยเฟยก็พุ่งขึ้นมาเหนือทะเลสาบ และถึงแม้ว่าชายหนุ่มจะไม่ใช่ผู้สมัครที่มีระดับพลังสูงที่สุด แต่เขาก็ได้รับคะแนนอันดับ 1 ในการประเมินรอบนี้ เนื่องมาจากว่าเขามีทักษะการคิดวิเคราะห์และทักษะในการต่อต้านสิ่งล่อตาล่อใจได้มากกว่าคนอื่น ๆ

หลังจากพลิกตัวกลางอากาศชายหนุ่มก็ร่อนลงจอดพร้อมกับหยิบสัตว์อสูรตัวอ้วนนำมาวางเอาไว้ลงกับพื้น

แน่นอนว่าสัตว์อสูรตัวอ้วนที่เซี่ยเฟยนำไปวางไว้ก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกเสียจากขนอุยที่กินมากเกินไปจนท้องป่อง มันจึงทำได้เพียงแต่นอนอยู่บนพื้นหญ้าอย่างเกียจคร้านพร้อม ๆ กับส่งเสียงเรอออกมาอย่างมีความสุขตลอดเวลา

ในช่วงเวลานี้ในที่สุดขนอุยก็ได้ตระหนักว่าการเลือกติดตามเซี่ยเฟยคือการตัดสินใจที่ชาญฉลาดที่สุดในชีวิตของมัน

“นี่ฉันลืมไปได้ยังไงว่าเขามีอสูรศักดิ์สิทธิ์เดินทางมาพร้อมกับเขาด้วย” บรูซอุทานพร้อมกับขมวดคิ้วอย่างหนัก

“โชคดีจริง ๆ ที่อสูรในพันธสัญญาของเขาคืออสูรศักดิ์สิทธิ์ เพราะถ้าหากว่ามันเป็นสัตว์อสูรทั่วไปร่างของมันคงจะระเบิดเป็นโจ๊กไปแล้ว แต่นี่คือมารขาวสัตว์อสูรผู้อยู่บนจุดสูงสุดของการดูดกลืนพลังงาน แล้วมันก็เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมพวกเขาถึงสามารถดูดกลืนพลังงานเข้าไปได้มากขนาดนั้น” เฝิงซินเหนียนกล่าวด้วยรอยยิ้ม

หลังจากโผล่ขึ้นมาเหนือพื้นเซี่ยเฟยก็หยิบคริสตัลต้นกำเนิดขึ้นมาเพื่อฟื้นฟูพลังงานอย่างรวดเร็ว และเนื่องมาจากครั้งนี้เขาผ่านการประเมินเป็นคนแรก เขาจึงมีโอกาสได้พักผ่อนซึ่งเป็นสิ่งที่หาได้ยากมากหลังจากได้ทำการประเมินอย่างทรหดมาอย่างยาวนานและต่อเนื่อง

แม้ว่าเซี่ยเฟยจะปรากฏตัวขึ้นมาแล้ว แต่บรูซก็ทำได้เพียงแต่นั่งรอบนก้อนหินและถอนหายใจออกมาเท่านั้น เพราะท้ายที่สุดขนอุยก็ได้กลืนกินพลังงานทั้งหมดเข้าไปแล้ว และเขาก็คงจะไม่สามารถสั่งให้มันคายพลังงานทั้งหมดออกมาได้

“วิธีการของนายยอดเยี่ยมมาก ไม่เพียงแต่นายจะสามารถเลี้ยงอาหารมื้อใหญ่ให้กับสัตว์อสูรของนายได้เท่านั้น แต่นายยังเป็นอันดับ 1 ในการประเมินรอบนี้ด้วย ฉันอยากจะแสดงความยินดีกับนายที่สามารถอดทนต่อสิ่งล่อตาล่อใจได้สำเร็จและขุดดินขึ้นมาจนถึงเส้นชัยเป็นคนแรก” เฝิงซินเหนียนกล่าวกับเซี่ยเฟยด้วยรอยยิ้ม

“ฉันไม่ได้ทนต่อสิ่งล่อตาล่อใจได้ ฉันแค่ใช้พวกผลึกนางแอ่นขาวในการเลี้ยงขนอุยเท่านั้นเอง” เซี่ยเฟยกล่าว

เฝิงซินเหนียนกับเซี่ยเฟยต่างก็มองหน้ากันด้วยรอยยิ้ม ขณะที่บรูซที่อยู่ห่างออกไปก็ทำได้เพียงแต่หดหู่ใจมากกว่าเดิม เพราะถึงแม้ว่าเขาจะคำนวณทุกอย่างเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว แต่เขากลับลืมตัวแปรสำคัญอย่างมารขาวไปได้ยังไง

ทันใดนั้นเองท้องขนาดใหญ่ของขนอุยก็เริ่มส่งเสียงร้องคำรามขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง ก่อนที่มันจะก่อให้เกิดพายุรุนแรงที่มีจุดศูนย์กลางอยู่ที่ร่างของขนอุย

“ดูนั่น! สัตว์อสูรของนายกำลังจะพัฒนาร่างแล้ว” เฝิงซินเหนียนกล่าวอย่างตื่นเต้น

โอกาสที่จะได้เห็นอสูรศักดิ์สิทธิ์พัฒนาร่างเป็นสิ่งที่หาได้ยากมาก มันจึงทำให้แม้แต่บรูซที่อยู่ห่างออกไปก็ยังอดที่จะมองมายังปรากฏการณ์นี้ด้วยความสนใจไม่ได้ แต่เนื่องมาจากว่าเขายังคงรู้สึกโกรธเซี่ยเฟยอยู่ เขาจึงทำได้เพียงแต่เฝ้าดูทุกอย่างอยู่ไกล ๆ เพราะเหตุการณ์นี้เป็นปรากฏการณ์ที่เขาไม่ควรพลาดรับชมไปจริง ๆ

ขนอุยส่งเสียงคำรามออกมาเสียงดังแล้วมันก็ทำให้แม้แต่เหล่าบรรดาผู้สมัครที่ยังอยู่ใต้ดินก็สัมผัสได้ถึงคลื่นพลังงานอันแปลกประหลาด

“นั่นมันเกิดอะไรขึ้น? ทำไมจู่ ๆ พลังงานถึงผันผวนอย่างรุนแรงแบบนี้”

“ดาวดวงนี้จะระเบิดงั้นเหรอ?”

เหล่าบรรดาผู้สมัครต่างก็รีบมุ่งหน้าไปยังเส้นชัยในทันที แต่โชคไม่ดีที่เซี่ยเฟยได้เดินทางนำหน้าพวกเขาไปตั้งนานแล้ว

ซึ่ม!

แสงสีขาวพุ่งลงมาจากท้องฟ้าห่อหุ้มร่างของขนอุยเอาไว้ ทันใดนั้นไม่ว่าจะเป็นเสียงของสายลมหรือกระแสน้ำต่างก็หยุดลง ในเวลาเดียวกันแสงสว่างสีขาวอันศักดิ์สิทธิ์ที่ส่องประกายไปทั่วทั้งบริเวณ

แสงสว่างจากร่างของขนอุยทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้เหล่าบรรดาผู้รับชมยากที่จะลืมตาเพื่อต่อต้านแสงสว่างอันเข้มข้นนี้ได้

ปัง!

เหตุการณ์ต่อมาคล้ายกับดอกไม้ไฟที่ระเบิดออกเป็นเสี่ยง ๆ พร้อมกับร่างของขนอุยขั้นที่ 4 ที่ปรากฏตัวขึ้นมาตรงหน้าคนอื่น ๆ ในที่สุด

ขณะนี้ขนทั่วทั้งร่างของมันมีความขาวราวกับหยก ก่อนที่ร่างของมันจะหล่นลงไปบนพื้นราวกับทารกอันบริสุทธิ์และส่งเสียงออกมาอย่างน่ารักน่าชัง

“ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้?!” ทั้งเซี่ยเฟยและเฝิงซินเหนียนที่รับชมการพัฒนาร่างอยู่ใกล้ ๆ ต่างก็ขมวดคิ้วขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ ซึ่งแม้กระทั่งบรูซที่อยู่ห่างออกไปก็กำลังรู้สึกตกตะลึงกับเหตุการณ์นี้เช่นเดียวกัน

***************

ขนอุยพัฒนาร้างแล้วมันประหลาดหรือยังไงกันนะ?

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.