บทที่ 621: ท่านคือท่านย่าใช่หรือไม่?

-A A +A

บทที่ 621: ท่านคือท่านย่าใช่หรือไม่?

ภูตเผ่าเฟิงโชวคนอื่น ๆ ที่ยืนอยู่บริเวณนั้นต่างก็ได้เห็นทีท่าของแม่มังกรกับเหล่าภูตมังกรที่มีต่อหูเจียวเจียวและหลงโม่แล้ว พวกเขาจึงจ้องมองไปที่ภูตเผ่ามังกรด้วยสายตารังเกียจ เพราะการรังแกจิ้งจอกสาวก็เท่ากับว่าเป็นการต่อต้านทุกคนในเผ่าเฟิงโชว

 

ภูตมังกรพวกนี้เป็นอะไรมากไหม? 

 

ทั้งที่พวกมันมาขออยู่ในเผ่าของพวกเขาชั่วคราวแท้ ๆ แต่อีกฝ่ายกลับเริ่มดูถูกคนในเผ่าของพวกเขา นี่ไม่ใช่เรื่องที่ทุกคนจะยอมรับได้!

 

เมื่อแม่มังกรกับคู่ของนางเห็นท่าทางของภูตรอบ ๆ ตัว ใบหน้าของทั้ง 3 คนก็มืดครึ้ม

 

“ไอ้เจ้าพวกนี้! พวกมันรู้ตัวไหมว่ากำลังคุยอยู่กับใคร?”

 

“เป็นเพียงแค่ชนเผ่าเล็ก ๆ ยังจะกล้าพูดกับเราแบบนั้นอีก ดูสิ! มันไม่ได้เกรงกลัวเผ่ามังกรของพวกเราเลย”

 

คู่ทั้ง 2 ของแม่มังกรตะคอกด้วยความโกรธ ตอนนี้พวกเขาโมโหมากที่เห็นท่าทางที่หยิ่งผยองของภูตในเผ่าเฟิงโชว

 

“พอแล้ว!” หญิงวัยกลางคนตวาดคู่ของนางอย่างเหลืออด 

 

“พวกเจ้าอย่าสร้างปัญหาได้ไหม? ข้าแค่อยากจะพาหลงโม่กลับไปยังเผ่า ช่วงนี้พวกเจ้าควรจะอยู่กันเงียบ ๆ อย่าไปมีเรื่องกับใครอีก”

 

เมื่อภูตชายทั้ง 2 เห็นคู่ของตนพูดแบบนั้น พวกเขาจึงทำได้แค่พยายามอดกลั้นความโกรธของตัวเองเอาไว้

 

“แล้วเรื่องคู่ของหลงโม่ล่ะ? พวกเราต้องพานางกลับไปที่เผ่าด้วยหรือ?” 1 ในคู่ของแม่มังกรถามขึ้น

 

หญิงวัยกลางคนพ่นลมอย่างไม่สบอารมณ์ เมื่อนึกถึงหูเจียวเจียวที่นางได้พบเจอก่อนหน้านี้ ดวงตาของนางก็ฉายแววรังเกียจก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเย่อหยิ่ง

 

“ไม่ เผ่ามังกรไม่ใช่สถานที่ที่คิดจะพาใครเข้าไปก็ได้ ลูกของข้าคู่ควรกับผู้หญิงที่ดีที่สุดของเผ่ามังกรเท่านั้น ส่วนนังผู้หญิงนั่นน่ะหรือ หึ! อย่าแม้แต่จะฝัน!”

 

ในตอนนั้นเอง หูชิงหยวนที่กำลังยืนหลบอยู่หลังต้นไม้ได้ยินในสิ่งที่เหล่าภูตมังกรพูดถึงน้องสาวสุดที่รักก็รู้สึกโกรธจัดจนใบหน้าและลำคอของเขาแดงก่ำ

 

เขาโมโหมากจนแทบอยากจะวิ่งออกไปทุบตีคนพวกนั้นเพื่อระบายความโกรธแทนน้องสาวของตน

 

แต่โชคดีที่เขายังมีสติมากพอที่จะยั้งตัวเองไว้ เขาจึงไม่ได้บ้าดีเดือดพุ่งออกไปให้อีกฝ่ายทำร้ายตัวเอง

 

“ไม่ ข้ามาที่นี่เพื่อสืบข่าวเพียงเท่านั้น ข้าเพียงคนเดียวไม่สามารถเอาชนะภูตมังกรได้หรอก”

 

จิ้งจอกหนุ่มพยายามสงบสติอารมณ์ของตนแล้วคิดถึงผลดีผลเสียที่จะเกิดขึ้นหากเขาหุนหันพลันแล่น

 

“ใช่ ข้าต้องกลับไปบอกข่าวกับจิงจิงก่อน”

 

“คราวหน้าข้าจะต้องเอาชนะไอ้คนน่ารังเกียจพวกนี้ให้ได้!”

 

หูชิงหยวนพยักหน้าพลางคิดในใจว่าตัวเองนั้นฉลาดมาก 

 

เขาจดจำทุกอย่างไว้ในใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่แม่มังกรกับคู่ของนางพูด หรือทัศนคติที่ไม่ดีต่อหูเจียวเจียวกับหลงโม่ ในไม่ช้าเขาก็หันหลังกลับแล้ววิ่งไปหาหู่จิงด้วยความเร่งรีบ

 

….

 

ทางด้านหูเจียวเจียวกับหลงโม่ก็พากันเดินกลับมาถึงบ้านแล้ว

 

เหล่าเด็ก ๆ ที่ถูกหูชิงซานส่งกลับมาก่อนหน้านี้ต่างก็แยกย้ายกันไปที่ห้องของตนเพื่อทำความสะอาดและจัดข้าวของให้เรียบร้อย

 

ส่วนจิ้งจอกหนุ่มที่ส่งหลานและสัมภาระเสร็จ เขาก็กลับไปบ้านของตนทันที

 

แม้ว่าจะไม่มีใครอาศัยอยู่ที่บ้านของหูเจียวเจียวมานานกว่า 2 เดือน แต่พี่ชายทั้ง 4 ของเธอก็ผลัดกันมาทำความสะอาดบ้านให้ทุก ๆ  2-3 วัน ทำให้บ้านยังคงดูสะอาดเรียบร้อย

 

ดังนั้นจิ้งจอกสาวจึงไม่จำเป็นต้องทำความสะอาดบ้านของตัวเองอีก เธอเพียงแค่จัดสัมภาระให้เข้าที่เข้าทางเท่านั้น

 

ในขณะที่หูเจียวเจียวกำลังจัดการเก็บข้าวของให้เรียบร้อย จู่ ๆ หลงโม่ที่เงียบมาตลอดทางก็พูดขึ้นมา

 

“เจียวเจียว ข้าขอโทษ ข้าทำให้เจ้ารู้สึกไม่ดี”

 

ถ้าเขารู้ว่าผู้หญิงคนนั้นจะพูดไม่ดีใส่เจียวเจียว เขาคงไม่มีวันปล่อยให้อีกฝ่ายได้เจอกับนางเด็ดขาด

 

และเขาก็จะไม่มีวันไปพบหน้าผู้หญิงที่ตนไม่อยากนับว่าเป็นแม่ด้วย

 

จิ้งจอกสาวมองไปที่ใบหน้าเย็นชาของมังกรหนุ่ม อีกทั้งยังสังเกตได้ถึงความเย็นยะเยือกที่แผ่ออกมารอบ ๆ ตัวของเขาก็ทำให้เธอรู้ว่าเขากำลังโกรธจัด

 

เธอจึงยิ้มพลางรินน้ำใส่ชามแล้วยื่นให้กับผู้เป็นสามีเพื่อปลอบใจเขา

 

“ข้าไม่ได้โกรธ มันเป็นเรื่องดีไม่ใช่หรือที่พวกนางอยู่ที่นี่ อย่างน้อยตอนนี้เราก็รู้แล้วว่ายังมีความหวังในเรื่องการแปลงร่างครั้งที่ 2 ของเจ้า”

 

สำหรับแม่มังกรแล้ว นางเพียงแค่คลอดหลงโม่ออกมาแต่ไม่ได้เลี้ยงดูเขาเลยด้วยซ้ำ และนางก็ไม่ได้มีความผูกพันกับลูกตัวเองเลยสักนิด ดังนั้นเธอจะไม่เก็บเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้มาใส่ใจ

 

เมื่อชายหนุ่มเห็นว่าคนรักของตนไม่ได้โกรธ เขาก็โล่งใจขึ้น

 

“เจียวเจียว ข้าจะไม่มีวันกลับไปอยู่ที่นั่น ไม่ว่าเจ้าจะอยู่ที่ไหน ข้าจะไปกับเจ้าด้วย” เขาจับมือจิ้งจอกสาวขึ้นมากุมไว้ในฝ่ามือใหญ่ของตัวเองและเอ่ยคำสัญญา

 

โดยปกติแล้วหูเจียวเจียวนั้นเชื่อในคำพูดของหลงโม่เสมอ

 

เพราะหากเธอไม่เชื่อใจผู้ชายคนนี้ ก็คงไม่มีภูตคนไหนในโลกที่เธอจะไว้ใจได้อีก

 

“ข้ารู้” หญิงสาวเอนตัวเข้าหาอ้อมแขนของคนตัวสูง “ข้าไม่ได้ใส่ใจกับสิ่งที่นางพูดด้วยซ้ำ ดังนั้นเจ้าไม่ต้องกังวลไป”

 

เธอเชื่อว่าด้วยความแข็งแกร่งของหลงโม่ ไม่มีทางที่ภูตคนไหนจะสามารถบังคับเขาได้

 

ขณะนี้ดวงตาสีทองเผยให้เห็นแสงอันนุ่มนวลเมื่อมองไปยังคนในอ้อมกอด

 

เจียวเจียวเป็นคนที่เข้าอกเข้าใจเขามากที่สุด เพราะฉะนั้นเขาจะต้องไม่ทำให้นางได้รับความทุกข์ทรมานใด ๆ

 

 

เนื่องจากมังกรหนุ่มกังวลเกี่ยวกับสุขภาพของจิ้งจอกสาวมาก ดังนั้น 2-3 วันมานี้เขาจึงพยายามยับยั้งชั่งใจตัวเองไว้ไม่ให้รังแกเธอ

 

และกิจวัตรประจำวันของชายหนุ่มนอกเหนือจากการล่าสัตว์แล้ว เวลาที่เหลือของเขาก็คือคอยปกป้องภรรยาสุดที่รักในทุกย่างก้าว

 

แม่มังกรที่อยากคุยกับลูกชายของตนเป็นการส่วนตัวมาโดยตลอดจึงไม่มีโอกาสได้เจอหน้าหลงโม่เลยแม้แต่น้อย

 

นางไม่มีทางเลือกอื่นจึงนำอาหารที่หลงโม่ชอบกินในตอนเด็กไปให้เขาถึงหน้าประตูบ้าน เพื่อหวังจะคลี่คลายความเข้าใจผิดของลูกชายที่มีต่อตนและกระชับความสัมพันธ์ระหว่างพวกนางให้ดีมากขึ้น

 

เวลาต่อมา แม่มังกรถือตะกร้าไม้แล้วเดินไปทางบ้านของหูเจียวเจียว

 

นางเดินไปพลางคิดถึงอนาคตที่หลงโม่จะยอมรับว่าตนเป็นแม่ของเขา ซึ่งมันทำให้นางกระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ในใจ เพราะนางอยากจะเห็นว่าผู้หญิงคนนั้นจะหยิ่งผยองได้นานสักแค่ไหน

 

เมื่อหญิงวัยกลางคนเดินมาถึงที่หมาย นางก็เห็นประตูรั้วของหูเจียวเจียวถูกปิดอยู่ นางจึงหยุดอยู่ที่ด้านนอกรั้ว ก่อนจะมองไปรอบ ๆ แล้วนั่งคอยอยู่ตรงนั้นเพื่อรอดูว่าลูกสมตัวเองจะออกมาเมื่อไหร่

 

นางไม่ต้องการเข้าไปเหยียบในบ้านของผู้หญิงจอมอวดดีคนนั้น

 

หลังจากที่นางรออยู่นาน นางก็ไม่เห็นหลงโม่หรือคนอื่นออกมาจากบ้านเลยสักคน ทำให้นางเอะใจขึ้นมาว่าตนมาบ้านผิดหรือเปล่า

 

ในขณะที่นางกำลังจะหันหลังเดินออกไป นางก็ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวจากหลังประตูบานใหญ่เสียก่อน 

 

นางจึงรีบจัดเสื้อผ้าของตนให้เรียบร้อยแล้วเตรียมที่จะเดินไปหาลูกชาย

 

ปรากฏว่าอีกฝ่ายไม่ใช่หลงโม่ แต่เป็นเด็กหลายคนที่เดินออกมาแทน

 

นั่นทำให้แม่มังกรตกตะลึงไปชั่วครู่

 

เด็กพวกนั้นที่ออกมาจากบ้านคือลูกของหูเจียวเจียวงั้นหรือ?

 

ทำไมหน้าตาของเด็ก ๆ เหล่านี้ถึงดูคุ้นเคยนัก?

 

เมื่อแม่มังกรจ้องมองพวกเขาดี ๆ ก็จะเห็นว่าเด็กน้อยทั้งหลายมีหน้าตาละม้ายคล้ายกับหลงโม่ในตอนที่เขายังเล็ก

 

โดยเฉพาะเด็กที่โตที่สุดไม่เพียงแต่ดูคล้ายกันเท่านั้น แต่ยังมีท่าทีและการพูดที่เหมือนกับลูกชายของนางราวกับแกะสลักออกมาจากแม่พิมพ์เดียวกัน

 

ดวงตาของแม่มังกรพลันเบิกกว้างด้วยความเหลือเชื่อ

 

หลงโม่มีลูกกับผู้หญิงคนนั้นจริง ๆ และเด็กพวกนี้ก็โตมากแล้วด้วย

 

เด็กที่เกิดจากเผ่าพันธุ์ที่อ่อนแอเช่นนี้ เมื่อพวกเขาโตขึ้นจะไม่มีทางแข็งแกร่งมากนัก

 

มันทำให้หญิงวัยกลางคนยิ่งไม่พอใจมากขึ้นไปอีก

 

นางไม่เต็มใจจะยอมรับเด็กอ่อนแอว่าเป็นหลานของตัวเอง ดังนั้นนางจึงไม่คิดจะพาพวกมันกลับไปยังเผ่ามังกรด้วยแน่นอน!

 

ทางด้านพวกหลงอวี้ที่ออกมาจากประตูรั้วก็เห็นแม่มังกรยืนอยู่ด้วยเช่นกัน

 

เมื่อเหล่าเด็กตระกูลหลงเห็นว่านางมาป้วนเปี้ยนอยู่ที่หน้าบ้านสักพักแล้ว พวกเขาจึงมองไปที่นางอย่างระแวดระวัง

 

ยกเว้นหลงเหยาที่ไม่ได้สังเกตถึงสถานการณ์ผิดปกติใด ๆ เลย 

 

“ท่านเป็นใคร แล้วทำไมท่านถึงต้องมายืนอยู่ที่หน้าประตูบ้านของเสี่ยวเหยา?” คนตัวเล็กวิ่งไปถามหญิงวัยกลางคนที่ยืนอยู่บริเวณหน้าประตูรั้วด้วยความสงสัย

 

หลงอวี้และพี่น้องคนอื่น ๆ นั้นเดาอะไรได้บางอย่างตั้งแต่ที่พวกเขาเห็นใบหน้าที่ค่อนข้างคล้ายคลึงกันของภูตหญิงน่าสงสัยกับน้องชายคนสุดท้อง 

 

คนเป็นพี่ใหญ่จึงก้าวไปข้างหน้าแล้วจับไหล่ของเสี่ยวเหยาไว้เพื่อป้องกันไม่ให้น้องเล็กเข้าใกล้นางเกินไป

 

“ข้าเป็นแม่ของหลงโม่” แม่มังกรมองหลงเหยาด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยามก่อนจะกวาดตามองหน้าเด็กคนอื่น ๆ แล้วเชิดหน้าตอบคำถาม 

 

เจ้ามังกรน้อยอ้าปากค้างเมื่อได้ยินในสิ่งที่ผู้หญิงตรงหน้าพูด

 

แต่หลังจากนั้นไม่นาน ประกายแสงในดวงตาสีทับทิมก็เผยให้เห็นว่าเจ้าตัวเข้าใจอะไรบางอย่าง

 

“โอ้! ท่านเป็นแม่ของท่านพ่อ งั้นก็แสดงว่าท่านต้องเป็นท่านย่าใช่ไหม?”

 

“ท่านย่ามาทำอะไรที่บ้านของเสี่ยวเหยา ท่านมาที่นี่เพื่อพบกับท่านพ่อหรือเปล่า?”

 

หลงเหยาเอียงศีรษะมองดูหญิงวัยกลางคนที่มีท่าทางแปลก ๆ ด้วยความอยากรู้อยากเห็น

 

หลังจากที่แม่มังกรได้ยินเสียงอันนุ่มนวลของเด็กน้อย การแสดงออกที่เย่อหยิ่งของนางก็หยุดลงชั่วคราว นางอดไม่ได้ที่จะมองไปยังใบหน้าของอีกฝ่าย 2-3 วินาที

 

ด้วยรูปลักษณ์ที่น่าทะนุถนอมประกอบกับท่าทางที่เชื่อฟัง หากเขาไม่ใช่ลูกของหูเจียวเจียว นางก็คงจะเอ็นดูเด็กคนนี้มาก

 

โดยเฉพาะดวงตาสีทับทิมที่สว่างสดใสคู่นั้นซึ่งมีสีเดียวกันกับนาง

 

ในบรรดาลูก ๆ หลาน ๆ ของแม่มังกร ไม่มีใครสืบทอดดวงตาสีทับทิมของนางเลย

 

หญิงวัยกลางคนไม่ได้คาดคิดว่าเด็กคนนี้จะมีตาสีเดียวกับของตัวเอง

 

นั่นทำให้ใบหน้าของแม่มังกรตึงขึ้นเล็กน้อย เมื่อนึกถึงหลานของนางที่อยู่ในเผ่ามังกร เด็กพวกนั้นซุกซนมากและไม่มีเด็กคนไหนมีท่าทีรู้ความเท่ากับหลงเหยาเลยแม้แต่คนเดียว

 

และนางก็ชอบเสียงนุ่มนวลที่คนตัวเล็กเรียกตนว่าท่านย่ามาก

 

รอยยิ้มใจดีจึงปรากฏขึ้นบนใบหน้าของนางโดยไม่รู้ตัว ก่อนที่นางจะพยักหน้าแล้วพูดกับหลงเหยาว่า

 

“ใช่ ข้าเป็นย่าของเจ้า ย่ามาที่นี่เพื่อพบกับพ่อเจ้า”

 

หลังจากแม่มังกรพูดจบ ดวงตาสีทับทิมก็จ้องมองไปที่เด็กผู้หญิงเพียงคนเดียวในกลุ่ม

 

นางเคยเห็นเด็กคนนี้มาก่อน และภูตในเผ่าเฟิงโชวต่างก็เรียกนางว่าหมอผี 

 

แม่มังกรไม่เคยคิดมาก่อนว่าเด็กหญิงตัวน้อยจะเป็นลูกของหลงโม่ด้วยเช่นกัน

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.