บทที่ 622: ข้าคงเขินอาย

-A A +A

บทที่ 622: ข้าคงเขินอาย

ในตอนนี้แม่มังกรมีความประทับใจในตัวเด็ก ๆ มาก นางมองดูหลงหลิงเอ๋อด้วยสายตาใจดี และคิดว่าหากเมื่อไหร่ที่ถึงเวลากลับเผ่ามังกร นางจะพาเด็กคนนี้ไปด้วย

 

แม้ว่าคู่ครองคนใหม่ในอนาคตของหลงโม่อาจจะไม่เต็มใจที่จะยอมรับเด็กหญิงเป็นลูก แต่นางก็ยังสามารถเก็บหมอผีตัวน้อยไว้ข้างกายตัวเองได้

 

เพราะการเลี้ยงเด็กไม่ใช่เรื่องยากสำหรับนาง

 

หากหลงโม่รู้ว่านางเต็มใจที่จะนับว่าเด็กพวกนี้เป็นหลาน เขาก็อาจจะมีความสุขมากจนยอมรับในตัวของนาง

 

เมื่อหญิงวัยกลางคนคิดถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต รอยยิ้มบนใบหน้าของนางก็ยิ่งกว้างขึ้น

 

“ท่านย่า ท่านมีธุระอะไรกับท่านพ่อของพวกเรางั้นหรือ?” หลงเหยามองดูสีหน้าที่เปลี่ยนไปมาของภูตหญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้า เขารู้สึกว่าอีกฝ่ายมีท่าทางที่ดูแปลกประหลาดจึงถามขึ้นด้วยความสงสัย 

 

“ย่ามาที่นี่เพื่อนำอาหารอร่อย ๆ มาให้พ่อของเจ้า” แม่มังกรตอบด้วยรอยยิ้ม

 

“อาหารอร่อยงั้นหรือ?” เมื่อเจ้าตัวเล็กได้ยินว่าอีกฝ่ายมีของอร่อย ดวงตาสีทับทิมก็เป็นประกายทันที สายตาของเขาจับจ้องไปยังตะกร้าเล็ก ๆ ที่อยู่ในมือของผู้เป็นย่า

 

งั้นก็แปลว่าสิ่งของที่อยู่ในนั้นคืออาหาร!

 

ทว่าหลงอวี้และพี่น้องคนอื่น ๆ มองไปที่ย่าของพวกตนด้วยสายตาหวาดระแวง

 

ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงยังคงป้วนเปี้ยนอยู่ข้างนอกแทนที่จะเอาอาหารเข้าไปให้พ่อมังกร?

 

พอพวกเขามองแวบแรกก็รู้สึกได้ถึงสิ่งผิดปกติบางอย่าง

 

เพียงแต่ว่าหลงเหยามีระบบความคิดที่ไม่เหมือนกับเหล่าพี่ ๆ เขาจึงไม่ได้คิดอะไรมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ 

 

ทางด้านแม่มังกรยิ้มพลางพยักหน้า “นี่คือปลาย่างที่ย่าเอามาให้พ่อของเจ้า”

 

ด้วยความเอ็นดูที่มีต่อเด็กน้อย นางจึงเปิดตะกร้าให้หลงเหยาเห็นปลาย่างที่อยู่ข้างใน

 

แต่เมื่อเด็ก ๆ เห็นปลาตัวเล็กที่อยู่ในตะกร้า ซึ่งมีขนาดไม่ถึงฝ่ามือเลยด้วยซ้ำ ทุกคนก็แสดงสีหน้าแปลก ๆ ออกมาทันที

 

น้องเล็กสุดของบ้านที่มีสีหน้าเช่นเดียวกันกับพี่ ๆ ก็พูดอย่างตรงไปตรงมาว่า “ท่านพ่อไม่ชอบกินปลาตัวเล็ก ๆ แบบนี้”

 

เขาจำได้ว่าทุกครั้งที่แม่จิ้งจอกของเขานำปลาออกมาทำเป็นอาหาร พ่อมังกรมักจะเอาก้างปลาออกแล้วคีบมันส่งไปให้ท่านแม่ ส่วนตัวของท่านพ่อนั้นแทบจะไม่แตะต้องปลาเลยด้วยซ้ำ

 

เหล่าเด็กตระกูลหลงจึงรู้กันดีว่าพ่อของตนไม่ชอบกินปลา

 

แม่มังกรยังคงยิ้มแล้วพูดว่า “จะเป็นไปได้ยังไงกัน ย่าจำได้ว่าอาหารโปรดของหลงโม่สมัยเด็กก็คือปลาตัวเล็ก ๆ แบบนี้ และทุกครั้งที่ถึงเวลากินข้าว ย่าก็จะเห็นเขากินเจ้าสิ่งนี้ตลอด”

 

นางไม่เชื่อในคำพูดของหลงเหยาเลยแม้แต่น้อย นางคิดว่าบางทีเด็ก ๆ เหล่านี้อาจจะไม่รู้จักพ่อของตัวเองดีพอ

 

“เด็กน้อย เจ้าช่วยไปเรียกพ่อของเจ้าให้ออกมาพบย่าหน่อยได้ไหม ย่าจะเอาอาหารให้กับเขา” หญิงวัยกลางคนโน้มตัวลงแล้วพูดเกลี้ยกล่อมเด็กตัวเล็กสุดด้วยน้ำเสียงใจดี

 

“ถ้าท่านอยากพบท่านพ่อท่านก็เข้าไปเองสิ ทำไมต้องให้พวกเราไปเรียกท่านพ่อออกมาด้วย?” หลงจงที่ได้ยินแม่มังกรพูดก็เม้มปากด้วยความไม่พอใจ 

 

ไม่ต้องเป็นคนฉลาดก็พอจะรู้ว่าพ่อของเขาไม่ต้องการเจอผู้หญิงคนนี้

 

ถ้าให้พวกเขาไปเรียกท่านพ่อออกมา ก็คงไม่พ้นโดนพ่อมังกรส่งสายตาพิฆาตใส่เป็นแน่

 

พวกเราไม่มีทางถูกหลอกง่าย ๆ หรอกนะ!

 

พอแม่มังกรได้ยินแบบนั้น ใบหน้าของนางก็แข็งทื่อ เด็กพวกนี้ล้วนเป็นลูกของหลงโม่ แต่ทำไมบางคนถึงน่ารักและบางคนก็ดูน่ารำคาญมาก

 

ถ้านางกล้าเข้าไปข้างใน นางจะมารออยู่ที่หน้าประตูรั้วให้เสียเวลาหรือ?

 

ขณะที่แม่มังกรกำลังจะโกรธเพราะคำพูดของหลงจงก็มีเสียงเย็นชาดังมาจากด้านหลังของเด็ก ๆ

 

“ข้าไม่กินปลา”

 

“ท่านพ่อ!” เหล่าเด็กน้อยหันหลังกลับไปมองตามเสียงแล้วตะโกนเรียกหลงโม่เมื่อเห็นเขาเดินออกมา ก่อนจะพากันรีบวิ่งไปยืนอยู่ข้างหลังพ่อมังกร

 

เมื่อพวกหลงอวี้เห็นใบหน้าที่มืดมนของผู้เป็นพ่อแล้ว พวกเขาทั้งหมดก็รับรู้ได้ทันทีว่าควรจะอยู่ฝั่งไหน

 

“หลงโม่ เจ้าออกมาแล้ว” แม่มังกรที่ก่อนหน้านี้กำลังอยู่ในอารมณ์โมโหก็เปลี่ยนเป็นยิ้มกว้างอีกครั้งพร้อมกับก้าวไปข้างหน้า

 

จากประสบการณ์เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาทำให้นางไม่กล้าเข้าใกล้ลูกชายของนางมากเกินไปเพราะกลัวว่าจะทำให้เขาขุ่นเคือง 

 

“แม่จำได้ว่าตอนเด็ก ๆ เจ้าชอบกินปลามากที่สุด ไม่รู้ว่าตอนนี้ความชอบของเจ้าจะเปลี่ยนไปหรือไม่ แต่มันไม่สำคัญหรอก ขอแค่เจ้าบอกแม่ว่าเจ้าชอบอะไร แม่จะไปหามันมาให้เจ้า—”

 

หญิงวัยกลางคนกล่าวด้วยท่าทีที่ดูเป็นแม่ผู้ใจดี แต่ก่อนที่นางจะพูดจบ นางก็ได้ยินลูกชายพูดขัดจังหวะด้วยน้ำเสียงเย็นชา

 

“ข้าไม่เคยชอบกินปลาเลยแม้แต่น้อย ตอนเด็ก ๆ ที่ข้ากินปลาก็เพราะว่าข้าหาอาหารอย่างอื่นกินไม่ได้ และที่ข้ากินเพียงปลาตัวเล็ก ๆ ที่มีเนื้อไม่กี่คำและเต็มไปด้วยก้างก็เพื่อที่จะได้ไม่ถูกคนอื่นแย่งอาหาร” 

 

“ข้าเพียงแค่กินมันเป็นอาหารประทังชีวิต เพราะถ้าไม่กินก็อดตาย” 

 

ชายหนุ่มพูดเน้นเสียงทีละคำเพื่อตอกย้ำผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า “และอาหารที่ข้าเกลียดที่สุดก็คือปลา”

 

แน่นอนว่ายกเว้นปลาที่เจียวเจียวทำ

 

เมื่อแม่มังกรเห็นถึงความรังเกียจที่รุนแรงส่งผ่านออกมาจากดวงตาสีทองก็ทำให้รอยยิ้มของนางแข็งค้างในทันใด นางอ้าปากพะงาบ ๆ แต่กลับไม่สามารถคิดคำพูดที่จะตอบกลับลูกชายของตนได้เลย

 

“หลงโม่ แม่…”

 

นางไม่เคยรู้เลยว่าทำไมหลงโม่ในตอนเด็กถึงกินปลาตลอด นางคิดเพียงแต่ว่าเขาคงชอบกินปลามาก นี่จึงเป็นครั้งแรกที่นางรู้เรื่องนี้

 

แม่มังกรรู้สึกราวกับว่านางกำลังถูกมีดอันแหลมคมทิ่มแทงหัวใจอย่างรุนแรง พร้อมกับที่ความรู้สึกผิดถาโถมเข้ามาในใจของนางไม่หยุด

 

แต่ในขณะที่หญิงวัยกลางคนกำลังยืนสำนึกผิดอยู่นั้น ประตูรั้วก็ถูกเปิดอีกครั้ง

 

และเสียงอ่อนโยนของหูเจียวเจียวก็ดังออกมาจากข้างใน

 

“หลงโม่ อาหารเย็นพร้อมแล้ว เจ้าเจอเด็ก ๆ หรือยัง? บอกให้พวกเขากลับมากินมื้อเย็นกันได้แล้ว”

 

ทันทีที่เสียงอันไพเราะกล่าวจบ ร่างของจิ้งจอกสาวก็ปรากฏตัวขึ้นที่ประตูรั้ว

 

“หลงโม่ ทำไมพวกเจ้าถึงมายืนอยู่ตรงนี้ล่ะ มัวทำอะไรกันอยู่ เข้าบ้านมาเร็วเข้า…”

 

เมื่อหูเจียวเจียวเห็นว่าสามีของตนกับลูก ๆ ยังไม่เข้าบ้าน เธอจึงเดินออกไปหาร่างสูงที่ยืนอยู่หน้าประตู แต่ก่อนที่เธอจะพูดจบ เธอก็เหลือบไปเห็นแม่มังกรยืนอยู่ข้างนอกรั้ว

 

หญิงสาวยังคงมีรอยยิ้มประดับอยู่บนไปหน้า และสายตาของเธอก็ไม่ได้มองไปที่ผู้มาเยือนเลยด้วยซ้ำ

 

“ท่านแม่ พวกเรากำลังจะเข้าไป”

 

เด็ก ๆ เดินเรียงแถวกันเข้าไปหาแม่จิ้งจอกอย่างเชื่อฟัง

 

ส่วนมังกรหนุ่มที่เห็นภรรยาออกมาตามก็มีสีหน้าอ่อนโยนขึ้นทันทีก่อนจะตอบอีกคนด้วยเสียงนุ่มทุ้มว่า “ได้”

 

เมื่อแม่มังกรมองเห็นปฏิกิริยาของหลงโม่ที่มีต่อผู้หญิงที่ตนชังน้ำหน้า นางก็รู้สึกขมขื่นในใจ

 

นางต้องทุกข์ทรมานเพื่อให้กำเนิดลูกชาย แต่ในสายตาของลูกชาย นางก็ไม่ได้ดีเท่ากับผู้หญิงต่างเผ่าอย่างนั้นหรือ?

 

ยามนี้หญิงวัยกลางคนมองตามหลังหลงโม่ไปด้วยสายตาโหยหา

 

ตอนที่หูเจียวเจียวเดินออกมา เธอเปิดประตูกว้างจนทำให้คนภายนอกสามารถมองเห็นโต๊ะหินในสวนที่มีจานอาหารวางอยู่มากมาย

 

โต๊ะขนาดใหญ่เต็มไปด้วยอาหารรสเลิศและกลิ่นหอมของอาหารเหล่านั้นก็โชยไปในอากาศ

 

เมื่อแม่มังกรได้กลิ่นหอมของอาหาร นางที่กำลังคิดจะกลับไปบ้านพักก็หยุดอย่างกะทันหัน

 

ผู้หญิงคนนี้ทำอาหารได้งั้นหรือ?

 

ทำไมมันดูน่าอร่อยมาก แถมยังส่งกลิ่นหอมขนาดนี้ด้วย

 

เมื่อนางเหลือบมองปลาแห้งที่อยู่ในตะกร้าของตัวเอง นางก็รู้สึกละอายใจจึงรีบซ่อนตะกร้าไว้ข้างหลังเงียบ ๆ เพื่อไม่ให้หูเจียวเจียวมองเห็น 

 

อย่าว่าแต่หลงโม่เลย ถ้าหากนางมีอาหารอร่อย ๆ ให้กินทุกวันแบบนี้ นางก็คงไม่มีทางชายตามองปลาแห้งตัวนี้แน่ ๆ

 

“ท่านก็อยู่ที่นี่ด้วยงั้นหรือ มีธุระอะไรหรือเปล่า?” จิ้งจอกสาวมองไปที่แม่สามีด้วยท่าทางที่ดูสงสัยใคร่รู้

 

“ไม่มีอะไรหรอก เจียวเจียว เรากลับเข้าไปข้างในกันเถอะ” ก่อนที่แม่มังกรจะได้พูดอะไร หลงโม่ก็โอบเอวของหญิงสาวไว้ก่อนจะพาเธอเข้าบ้าน

 

“ช้าก่อน” หูเจียวเจียวดึงแขนของสามีหนุ่มไว้เพื่อให้เขาหยุดเดินแล้วจึงหันไปมองทางผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแม่สามี

 

พอหญิงวัยกลางคนเห็นว่าอีกฝ่ายดูเหมือนอยากจะพูดอะไรกับตน ทันใดนั้นความหวังก็ผุดขึ้นมาในใจ ขณะที่นางเหลือบมองไปที่อาหารบนโต๊ะ

 

นางคิดอย่างเข้าข้างตัวเองว่า 

 

ผู้หญิงคนนี้คงอยากจะรั้งข้าไว้เพื่อเชิญให้ข้าเข้าไปกินอาหารมื้อเย็นอย่างนั้นสินะ

 

ดูเหมือนว่านางจะค่อนข้างฉลาด

 

และเนื่องจากแม่มังกรเห็นว่าผู้หญิงคนนี้มีฝีมือทำอาหารที่ดีมาก นางจึงคิดว่าตนอาจจะพิจารณานำเด็ก 2-3 คนกลับไปที่เผ่ามังกรด้วย

 

หากนางยอมทำถึงขนาดนั้น อีกฝ่ายก็ควรจะพอใจได้เสียที

 

เมื่อหญิงวัยกลางคนทำท่าจะเดินเข้าไปในลานบ้าน หูเจียวเจียวก็พูดขึ้นทันที

 

“ถ้าท่านไม่มีธุระอะไรก็รีบกลับไปเสียเถอะ ขืนท่านยังยืนดูอยู่ตรงนี้ ข้าคงเขินอายเกินกว่าจะกินข้าวได้ลง”

 

จิ้งจอกสาวยิ้มหวานก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงสุภาพ ทำให้ไม่มีใครสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติที่อยู่ในคำพูดของเธอ

 

แม่มังกร: …

 

คนเขินอายแบบไหนกันถึงพูดอย่างนี้ออกมาได้!

 

พอแม่มังกรรับรู้ได้ถึงความหมายในคำพูดของผู้หญิงที่ตนเองไม่ชอบหน้า นางก็โกรธมากจนพูดอะไรไม่ออก

 

ส่วนหลงโม่ที่ได้ยินในสิ่งที่ภรรยาของตนพูดก็มองไปทางแขกที่ไม่ได้ต้อนรับด้วยสายตาเย็นชาเช่นกัน ซึ่งท่าทางของเขาก็บ่งบอกความหมายอย่างชัดเจน

 

ทว่าหญิงวัยกลางคนยังคงอยากลิ้มรสอาหารของพวกเขาจึงยืนกลืนน้ำลายอยู่ตรงนั้นก่อนจะหันไปมองยังเด็ก ๆ ด้วยดวงตาที่มีความหวังแล้วหยุดสายตาไว้ที่หลงเหยา

 

นางมั่นใจว่าเด็กคนนี้เชื่อฟังและมีเหตุผลที่สุด

 

ดังนั้นเขาจะต้องชวนผู้เป็นย่าของเขาเข้าไปกินข้าวด้วยอย่างแน่นอน

 

เมื่อหลงเหยารับรู้ได้ถึงการจ้องมองของแม่มังกร เขาก็ทำเพียงแค่เอียงคอมองอีกฝ่ายกลับพลางกะพริบตาปริบ ๆ 

 

ใบหน้าของเด็กน้อยสับสนอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะนึกอะไรบางอย่างออก

 

ไม่นานเขาก็ยิ้มกว้างเผยให้เห็นฟันขาวที่เรียงตัวกันสวยงาม แล้วพูดกับย่าของตนด้วยเสียงหวานว่า

 

“ท่านย่า อาหารที่ท่านแม่ทำนั้นอร่อยมาก มันอร่อยที่สุดในโลกเลย!”

 

--------------------------------------------------

พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: เหยาเอ๋อลูก อย่าไปยอมเด็ดขาดเลยนะ!

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.