บทที่ 449: เสือดาวน้อย 2 ตัว

-A A +A

บทที่ 449: เสือดาวน้อย 2 ตัว

ระหว่างที่หลางเมี่ยแอบตามภูตหมาป่าอีกกลุ่มไป เขาชำเลืองมองพืชแปลก ๆ ที่เลื้อยอยู่ตามรั้วแล้วรู้สึกระแวงในใจ

 

ภูตในเผ่านี้เจ้าเล่ห์มาก ชายหนุ่มคิดว่าพืชที่ปลูกบนรั้วต้องไม่ธรรมดาแน่นอน เขาจึงควรติดตามเจ้าหมาป่าพวกนั้นแล้วคอยสังเกตสถานการณ์เงียบ ๆ ก่อน 

 

ไม่นานหลังจากที่เขาตามมา กลุ่มภูตหมาป่าที่อยู่ข้างหน้าก็ไปถึงริมรั้ว

 

ปัจจุบันข้างรั้วมีกระดูกกองอยู่ซึ่งดูคล้ายกับกระดูกของสัตว์ป่า มันค่อนข้างปกติที่จะเห็นกระดูกนอกเผ่าซึ่งพวกภูตหมาป่าไม่ได้ให้ความสนใจกับพวกมันมากนัก จากนั้นพวกเขารวบกองกระดูกเข้าด้วยกันเพื่อลดความเสี่ยงที่จะเหยียบมันแล้วเกิดเสียงดัง

 

เวลาต่อมา ภูตหมาป่าฟันเหยินเป็นคนแรกที่พยายามจะปีนเข้าไปข้างในก่อน

 

ทว่าทันทีที่เขาชนรั้ว เขาก็สูดลมหายใจลึกและแอบสบถในใจ

 

“นี่มันอะไรกัน ทำไมหนามเยอะขนาดนี้ ข้างหลังระวังด้วยนะ เจ้านี่เจ็บไม่น้อย—”

 

แต่ก่อนที่ภูตหมาป่าฟันเหยินจะพูดจบ เสียงของเขาก็หยุดลงทันที

 

ไม่นานทั้งตัวภูตคนนั้นก็กลายเป็นเหมือนหุ่นเชิดที่ด้ายขาด แล้วเขาก็ล้มลงกับพื้นแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย

 

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้สมาชิกในกลุ่มตกใจก่อนจะรีบเข้าไปตรวจสอบสหาย 

 

พวกเขาพบว่าอีกฝ่ายตัวแข็งทื่อ รูม่านตาของเขาขยายออก แม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่ในขีดอันตราย แต่เขาก็ไม่ฟื้นขึ้นมาและนอนนิ่งอยู่บนพื้นแบบนั้น

 

อาการของภูตหมาป่าฟันเหยินอย่างกับว่าเขาเห็นผีแล้วตกใจจนสลบไป

 

“หนามบนรั้วมีพิษ พวกเจ้าห้ามแตะหนามเด็ดขาด” ภูตหมาป่าที่มีรอยแผลเป็นค้นพบต้นตอของปัญหาและรีบเตือนทุกคน

 

อีกด้านหนึ่งในระยะไกล เมื่อหลางเมี่ยมองไปยังพืชที่มีหนามสีแดงเข้มบนรั้ว เขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

 

โชคดีที่เขาไม่ข้ามรั้วเข้าไปก่อน มิฉะนั้นเขาคงเป็นฝ่ายที่ล้มลงกับพื้นในตอนนี้

 

ยามนี้หมาป่าหนุ่มรอจนกระทั่งกลุ่มภูตหมาป่าที่อยู่ข้างหน้าหาท่อนไม้มาวางทับพืชที่มีหนามสีแดง จากนั้นเขาก็ออกมาจากความมืดและแอบย่องไปตามเส้นทางที่อีกฝ่ายเดินไป 

 

มีคนคอยกรุยทางให้ก่อนนี่มันดีจริง ๆ

 

...

 

ภายในรั้ว

 

ปัจจุบันเหล่าภูตเด็กมารวมตัวกันและรอให้เซี่ยหมานมาสอนทักษะการล่าสัตว์ใหม่ ๆ ให้พวกเขา

 

ในยามออกล่า ภูตจะพบเหตุฉุกเฉินต่าง ๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพื่อให้พวกเขามีความสามารถมากพอที่จะเลี้ยงลูกรวมถึงดูแลคู่ของตัวเองตอนที่เติบโตเต็มวัย ภูตจะเริ่มฝึกฝนทักษะทั้งหลายตั้งแต่อายุยังน้อย

 

ซึ่งทักษะเหล่านี้มักจะถูกสอนโดยพ่อของเด็ก

 

แต่เด็กที่กลับมาจากเผ่าหมาป่าได้สูญเสียครอบครัวไปนานแล้ว พวกเขาเลยไม่มีคนคอยสอนตนเอง จึงมีเพียงเซี่ยหมานที่อาสาจะสอนเสี่ยวสือโถวกับหวงเทียนล่าสัตว์ ทว่าพอเวลาผ่านไปสักพัก เด็กทั้งหมดจากเผ่าก็มาร่ำเรียนวิชาจากเขาด้วย

 

เซี่ยจื้อหนุ่มเป็นภูตที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาภูตที่หลบหนีมาจากเผ่าหมาป่า เขาได้รับการยอมรับจากภูต 800-900 คน ซึ่งความแข็งแกร่งของเขานั้นน่าประทับใจมาก ทำให้เด็กทุกคนรู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้รับการสั่งสอนจากเขา

 

ส่วนบางคนที่ไม่อยากมาก็ถูกพ่อแม่บังคับให้มาเรียนเช่นกัน

 

ทางด้านหูเจียวเจียวไม่คาดคิดว่าก่อนที่เธอจะสร้างโรงเรียนเสร็จ ภูตบางคนจะเริ่มสอนเด็ก ๆ นำไปก่อนเธอแล้ว

 

หากที่ผ่านมาปราศจากการยั่วยุของลู่หลี ภูตเด็กในเผ่าก็คงเข้ากันได้ดีมาตลอด

 

ยามนี้ภูตเด็กกำลังรวมตัวกันเป็นกลุ่มส่งเสียงร้องเจื้อยแจ้วพูดคุยกัน

 

ทว่าหวงเทียนกลับปลีกตัวมายืนอยู่คนเดียวในมุมที่ไม่วุ่นวาย

 

ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกจั๊กจี้ที่ข้อเท้า

 

เด็กหนุ่มจึงลดศีรษะลงและเห็นว่ามีขนปุยสีเหลืองสองกลุ่มคลอเคลียอยู่ที่เท้าของเขา ซึ่งมันกำลังเอาหัวถูกับข้อเท้าเขาเบา ๆ

 

พวกมันคือเสือดาวตัวน้อย 2 ตัว

 

“เจ้าตัวเล็ก พวกเจ้ายังเด็กนัก ทำไมพวกเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่?”

 

หวงเทียนนั่งลงถามด้วยสีหน้างุนงง

 

แต่ลูกเสือดาวตัวน้อยจะตอบเขาได้อย่างไร ทันทีที่เขานั่งลงกับพื้น เสือดาว 2 ตัวก็ใช้อุ้งเท้าของพวกมันเหยียบเข้าที่หน้าอกของเขา และเอาหัวมาถูกับคางของเด็กหนุ่ม 

 

“ครือ ๆๆ~”

 

เสือดาวตัวเล็กดูมีความสุขมากถึงขั้นแลบลิ้นออกมาเลียแก้มของหวงเทียนด้วยท่าทางประจบสอพลอ

 

ฝ่ายที่ถูกเลียเลยต้องหดคอหนี และเขาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเพราะรู้สึกจั๊กจี้

 

“อ๊ะ! อย่าเลียสิเด็กน้อย ลงไปเร็ว ๆ มันจั๊กจี้ ฮ่า ๆๆ”

 

ความจริงแล้วเด็กหนุ่มอยากจะลุกขึ้นจากพื้น แต่เจ้าเสือดาวจอมซนยังคงโน้มตัวเข้ามาใกล้ใบหน้าของเขา ทำให้เขาไม่สามารถลืมตามองได้

 

อีกทั้งเขาไม่กล้าออกแรงผลักเพราะกลัวว่าพวกมันจะบาดเจ็บ

 

ในเวลาเดียวกัน เสี่ยวสือโถวที่เห็นเหตุการณ์เดินเข้าไปหิ้วเสือดาวน้อย 2 ตัวขึ้นมา แล้วช่วยพยุงหวงเทียนขึ้นจากพื้น

 

บัดนี้เด็กหนุ่มลุกขึ้นนั่งในสภาพผมกระเซอะกระเซิง พร้อมกับเช็ดน้ำลายบนใบหน้าด้วยท่าทางอับอาย

 

พอเสี่ยวสือโถวเห็นว่าหัวของอีกคนมีแต่เศษหญ้า เขาก็หลุดหัวเราะออกมา

 

“ฮ่า ๆๆ หวงเทียน ข้าไม่เคยคิดเลยว่าเจ้าจะเป็นที่ชื่นชอบของพวกเด็ก ๆ แบบนี้ เจ้าเสือดาวน้อย 2 ตัวนี้มักจะทำตัวดุมาก แต่วันนี้พวกมันกลับยอมเข้าใกล้เจ้า”

 

เมื่อได้ยินเช่นนี้ แก้มของหวงเทียนก็เปลี่ยนเป็นสีแดง และเขาหันไปพูดว่า

 

“ข้าไม่รู้จักเด็ก 2 คนนี้มาก่อน ช่วยเอาพวกเขาออกไปที ข้าเกรงว่าข้าจะเผลอไปทำร้ายพวกเขา”

 

“เจ้าจะกลัวอะไร พวกเขาแค่ชอบเจ้าและอยากจะเล่นกับเจ้าแค่นั้น”

 

ต่อมา เสี่ยวสือโถววางเสือดาวน้อยลงก่อนจะพูดว่า “ถ้าเจ้าไล่พวกเขาออกไป พวกเขาจะต้องเสียใจแน่ ๆ น่าสงสารจริง ๆ!”

 

ทันทีที่เท้าของเสือดาวตัวเล็กทั้ง 2 แตะพื้น พวกมันก็วิ่งไปหาหวงเทียนไม่หยุด

 

ใจจริงเด็กหนุ่มอยากจะหลบหนี แต่เมื่อเขาได้ยินคำพูดของเสี่ยวสือโถว ฝ่าเท้าของเขากลับหนักอึ้งขึ้นอย่างอธิบายไม่ได้

 

พอเจ้าตัวแสบทั้ง 2 วิ่งไปที่เท้าของคนตัวสูงกว่า พวกมันก็ใช้อุ้งเท้าตะปบเข้าที่ขากระโปรงหนังสัตว์ของเขาในลักษณะที่พยายามจะปีนขึ้นไปบนตัวอีกคน

 

“ระวังหน่อย…”

 

เมื่อหวงเทียนเห็นว่าทั้งคู่เกือบจะล้มกลิ้ง เขาจึงรีบก้มลงไปอุ้มพวกมันขึ้นมา

 

จากนั้นเสือดาวตัวเล็กก็พยายามยืดตัวยื่นหน้าเข้าไปใกล้เด็กหนุ่ม แล้วเอาขนปุยนุ่มถูกับใบหน้าของเขาอย่างออดอ้อน พร้อมกับทิ้งกลิ่นของตัวเองไว้บนตัวอีกฝ่าย

 

หวงเทียนไม่คาดคิดว่าเสือดาวน้อยพวกนี้จะชอบเขามาก เขาจึงยืนมึนงงอยู่พักหนึ่ง

 

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้รับความรักจากภูตคนอื่น

 

แม้ว่ามันจะเป็นแค่เด็กตัวเล็ก 2 คนก็ตาม

 

เนื่องจากภูตขนปุยเป็นที่ชื่นชอบของเด็ก ๆ อยู่แล้ว เมื่อกลุ่มเด็กที่ยืนอยู่ไม่ไกลเห็นเสือดาวน้อยก็หันมาสนใจและพากันมารุมล้อมหมายจะลูบขนมัน

 

“เด็กพวกนี้มาจากไหน น่ารักจัง!”

 

“ดูพวกเขาสิ โตขึ้นพวกเขาจะต้องแข็งแกร่งมากแน่”

 

“เสือดาวน้อยแยกเขี้ยวใส่ข้า ทำไมเขาถึงขู่ข้าล่ะ!”

 

“หวงเทียน เจ้ารู้จักพวกเขาหรือ ทำไมพวกเขาถึงสนิทกับเจ้านัก?”

 

ปัจจุบันหวงเทียนกอดเสือดาวน้อยไว้ในอ้อมแขน ดังนั้นความสนใจของเด็ก ๆ จึงตกมาอยู่ที่เขาโดยธรรมชาติ

 

เมื่อเหล่าภูตเด็กเห็นว่าเสือดาวดีกับหวงเทียนเท่านั้น พวกมันไม่ยอมแม้แต่จะปล่อยให้ใครแตะต้อง มันก็ทำให้พวกเขารู้สึกอิจฉา

 

“ข้าไม่รู้จักพวกเขา และข้าไม่รู้ว่าพวกเขามาจากไหนด้วย” เด็กหนุ่มตอบอย่างเขินอาย

 

เนื่องจากเสือดาวน้อยมีกลิ่นของเผ่า ดังนั้นพวกมันน่าจะเป็นลูกของคนในเผ่าอย่างแน่นอน

 

ทางด้านเด็กคนอื่นไม่ได้สนใจที่มาของเจ้าตัวเล็กทั้ง 2 มากนัก

 

“หวงเทียนเป็นคนที่มีจิตใจดี เสือดาวน้อยสัมผัสได้ และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงชอบเขามาก” เสี่ยวสือโถวยืดอกพูดอย่างภาคภูมิใจ

 

คำพูดนั้นทำให้แก้มของคนถูกชมยิ่งแดงขึ้น เขาพูดตะกุกตะกักพลางส่ายหัวปฏิเสธ

 

“ไม่ ไม่...”

 

ในขณะเดียวกัน ลู่หลีถูกทิ้งให้โดดเดี่ยวอยู่อีกด้านหนึ่งไม่ไกลนัก

 

พอเขาเห็นว่าหวงเทียนกับเสี่ยวสือโถวได้รับความสนใจมากกว่าตน เขาก็เดินไปข้าง ๆ อีกฝ่ายก่อนจะโพล่งขึ้นมาอย่างเหยียดหยาม

 

“ไม่เห็นจะมีอะไรพิเศษตรงไหน มันเป็นแค่เด็ก 2 คนที่ปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมเท่านั้น ทำอย่างกับไม่เคยเห็นไปได้”

 

ร่างสัตว์ของเขาดูดีกว่าไอ้เสือดาว 2 ตัวนี้อีก

 

เสือดาวน่าเกลียดจะตายชัก!

 

เมื่อหวงเทียนได้ยินคำพูดของลู่หลี เขาก็ลดศีรษะลงต่ำ

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.