บทที่ 103: เปลวไฟสวรรค์
“อ๊ากกกกกก!!”
หลงอู่บิดตัวไปมาด้วยความเจ็บปวดอยู่กลางอากาศ พร้อมกับส่งเสียงคำรามดังก้อง
อย่างไรก็ตาม การทำแบบนั้นมันก็ไม่มีประโยชน์อะไร
ทางด้านหูชิงหลู่คิดว่าเขากำลังจะตายอยู่ที่นี่เสียแล้ว แต่ในพริบตา เขาเห็นเงาสีดำบินผ่านหน้าไป จากนั้นเสียงกรีดร้องโหยหวนของหลงอู่ก็ดังขึ้น
ชายหนุ่มเบิกตาเรียวยาวของจิ้งจอกมองมังกรดำอีกตัวที่ทรงพลังกำลังลอยอยู่กลางอากาศด้วยสายตาที่ต่างออกไปจากเดิม
ทำไมจู่ ๆ เขาถึงรู้สึกว่าหลงโม่ดูสง่างามจนยากจะละสายตาไปได้ขนาดนี้?
“น้องสาม! เจ้าเป็นอะไรไหม?”
หูชิงซานรีบวิ่งเข้าไปหาน้องชาย เมื่อเห็นว่าร่างกายของอีกฝ่ายเต็มไปด้วยรอยแผล เขาจึงรีบถามว่า “เกิดอะไรขึ้น เจ้าได้รับบาดเจ็บแบบนี้ได้ยังไง?”
“ข้าไม่เป็นไร ข้ายังตายไม่ได้” หูชิงหลู่เกือบถูกหลงอู่ทำร้ายจนเสียชีวิต ดังนั้นเขาจึงไม่มีหน้ายอมรับกับใครว่าตนอ่อนแอเกินไป จากนั้นเขารีบส่ายหัวเพื่ออธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้น ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องคุย
“พี่ใหญ่ ทำไมท่านถึงมาที่นี่ได้?”
เมื่อคนเป็นพี่ใหญ่ได้ยินคำถามนี้ เขาก็หันไปมองหลงโม่ ดวงตาสีเข้มแฝงไปด้วยความประหลาดใจ พร้อมกับคำถามที่อยู่ในหัวว่า
เจ้าหมอนี่มาช่วยชิงหลู่หรือ?
แล้วเขารู้ได้อย่างไรว่าน้องสามของตนกำลังตกอยู่ในอันตราย?
“ข้าตามหลงโม่มาน่ะ ตอนที่เขากลับมา ข้าก็เข้าไปถามเขาว่าทำไมเจ้าไม่กลับมาด้วย จากนั้นเขาก็รีบพุ่งออกมาทันที ตอนแรกข้าคิดว่าเขาวางแผนทำอะไรบางอย่างกับเจ้าเสียอีก แต่ในเมื่อเจ้าไม่เป็นอะไรแล้ว ข้าก็เบาใจ” หูชิงซานอธิบายด้วยน้ำเสียงทุ้ม
ในไม่ช้า อิงหยวนก็พุ่งเข้ามาพร้อมกับภูตกลุ่มหนึ่ง
เมื่อเขาเห็นสภาพที่ไม่สู้ดีนักของหลงอู่ เขาก็ตวัดสายตามองไปที่หลงโม่อย่างไม่พอใจ “เกิดอะไรขึ้น เจ้าทำอะไรกับเขา?”
หูชิงหลู่ที่ได้ยินอย่างนั้นจึงตะโกนออกมาเสียงดังด้วยความโมโห
“นี่! คนที่โดนทำร้ายอยู่ทางนี้ หลงอู่ต้องการฆ่าข้า!”
จิ้งจอกหนุ่มเป็นคนในเผ่าภูตเดียวกัน ทุกคนจึงเลือกที่จะเชื่อคำพูดของเขามากกว่า
ทันทีที่หูชิงหลู่พูดประโยคข้างต้นออกมา สายตาเห็นอกเห็นใจของเหล่าภูตชายที่กำลังมองหลงอู่ก็เปลี่ยนไป จากนั้นพวกเขาก็ตั้งท่าคุ้มกันพรรคพวกของตัวเอง
หากวัดจากจิตใต้สำนึก ภูตกลุ่มนี้ไม่ได้ถือว่าหลงอู่เป็นคนในเผ่าเดียวกัน เนื่องจากเขาเพิ่งเข้ามาอาศัยอยู่ในเผ่าได้ไม่นานและมิตรภาพระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้แน่นแฟ้น ในเมื่อเขาทำสิ่งที่ไม่ดีต่อสมาชิกของเผ่า ภูตคนอื่นก็จะถือว่าฝ่ายนั้นเป็นศัตรู
แม้แต่หลงโม่ก็ค่อย ๆ ได้รับการยอมรับจากทุกคนหลังจากที่พวกเขารู้จักกันมานานหลายปี
“บาดแผลบนร่างกายของข้าล้วนเกิดจากฝีมือของหลงอู่ ถ้าหลงโม่กับพี่ใหญ่มาช่วยได้ไม่ทันเวลา ข้าคงตายไปแล้ว” หูชิงหลู่อธิบายต่อ
“หลงอู่ ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะมีความคิดชั่วร้ายเช่นนี้!”
“เรายินดีรับเจ้าเข้าร่วมเผ่า แต่เจ้ากลับตอบแทนน้ำใจด้วยการกระทำอันชั่วช้า นี่คือกฎของภูตมังกรหรือไง!?”
“พวกเราไม่ควรเก็บภูตแบบนี้ไว้...”
เวลานี้ภูตชายทุกคนรุมประนามภูตมังกรตัวใหญ่ที่ไร้ประโยชน์ ในภารกิจครั้งล่าสุดที่ทุกคนต่อสู้กับภูตเร่ร่อน พวกเขาก็รู้สึกไม่พอใจชายคนนี้มาสักพักแล้ว
แต่ในสายตาของเหล่าภูตหญิงที่ไม่ได้เข้าร่วมภารกิจด้วย พวกนางมองว่าภูตมังกรนั้นสูงส่งและกล้าหาญเหนือกว่าใคร ๆ พวกผู้หญิงต่างชื่นชอบคนแบบนี้และอยากจะได้เขามาเป็นคู่ครอง นั่นยิ่งทำให้พวกผู้ชายกระตือรือร้นที่จะขับไล่หลงอู่ออกจากเผ่าของตนไป
ยามนี้ใบหน้าของอิงหยวนเคร่งเครียดขึ้น เขาจ้องมองหลงอู่เขม็ง จากนั้นเขาก็สยายปีกฟาดอีกฝ่ายลงกับพื้นโดยที่ไม่มีใครได้ทันตั้งตัว
ขณะนั้นภูตมังกรยักษ์กำลังทุกข์ทรมานจากการถูกตัดเขาเลยไม่สามารถหลบได้ทัน เขาจึงกระแทกพื้นอย่างแรงจนกระอักเลือดออกมาเต็มปาก
“ดูเหมือนว่าเขาจะถูกวางยาพิษ!” ภูตคนหนึ่งอุทานขึ้นมา
“ทำไมที่นี่ถึงมีแมลงพิษมากมายขนาดนี้ ทุกคนรีบถอยไป…”
ในเวลาเดียวกัน กลุ่มภูตชายก็ตระหนักว่าบนพื้นเต็มไปด้วยแมลงมีพิษ หลังจากที่ทุกคนขยับถอยห่างไปกว่า 10 เมตร พวกเขาก็ได้เห็นว่าสัตว์มีพิษเหล่านี้ไม่ได้สนใจพวกตนเลย พวกมันคืบคลานเข้าไปหาหลงอู่เพียงคนเดียวเท่านั้น
ปัจจุบันมังกรหนุ่มรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวไปทั่วทั้งตัว ร่างมังกรมหึมาพยายามที่จะลุกขึ้นจากพื้น แต่แมลงมีพิษทั้งหลายก็คืบคลานไต่ขึ้นไปบนร่างของเขาแล้วมุดเข้าไปในบาดแผลหรือรูขุมขนที่สามารถจะแทรกตัวเข้าไปได้
ไม่นานบนแผลที่หลงโม่ฝากไว้ก็ถูกปกคลุมไปด้วยสัตว์มีพิษในทันที แล้วพวกมันก็กัดแทะบาดแผลกิน ส่งผลให้พิษกระจายออกไปตามเส้นเลือดแล้วแล่นไปทั่วร่างกายของหลงอู่
“หลงโม่ ข้า…ข้าจะฆ่าเจ้า...”
เสียงคำรามของภูตมังกรตัวโตเล็ดรอดออกมาจากใต้ฝูงแมลงพิษ มันฟังดูทั้งดุร้ายและแหบแห้ง ทว่ามันกลับไม่น่ากลัวเลยสักนิด
ทางด้านหลงโม่ เขายืนมองภาพนั้นด้วยสีหน้าเรียบเฉย ไม่บ่งบอกถึงอารมณ์ใด ๆ
ส่วนพวกอิงหยวนกลับรู้สึกขนหัวลุกกับความสยดสยองตรงหน้า แล้วไม่มีใครคิดที่จะเข้าไปช่วยหลงอู่เลยแม้แต่คนเดียว
“เอาล่ะ กลับกันเถอะ เราต้องรีบไปแลกเปลี่ยนเกลือ” เสียงที่ทรงอำนาจของอินทรีหนุ่มดึงสติของสมาชิกในกลุ่มให้กลับคืนมา
ในขณะที่ทุกคนกำลังจะเดินออกไปจากพื้นที่นี้ ทันใดนั้นพื้นดินข้างใต้ก็สั่นสะเทือน
แม้แต่ทุ่งหญ้าสีเขียวมรกตอันกว้างใหญ่ยังสั่นไหวไปทั้งผืน ไม่นานรอยแยกเป็นเหวลึกก็ค่อย ๆ แผ่ขยายออกไปไกลสุดลูกหูลูกตา ส่งผลให้เหล่าภูตชายทั้งหลายตื่นตระหนก ก่อนที่คนในกลุ่มจะเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขาก็รู้สึกถึงคลื่นความร้อนที่พุ่งเข้าใส่ใบหน้า ซึ่งคลื่นนั้นร้อนจนขนสัตว์ที่ปกคลุมกายของพวกเขาเกือบไหม้เกรียม
สมาชิกในกลุ่มที่ออกมาทำภารกิจแลกเปลี่ยนเกลือในครั้งนี้มีเพียงอิงหยวนกับหลงโม่เท่านั้นที่สามารถบินได้
แม้ว่าทั้งคู่จะไม่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว แต่พวกเขาก็สัมผัสได้ถึงคลื่นความร้อนที่ปะทะใบหน้า นั่นทำให้นกอินทรีและมังกรดำต่างก็มองไปยังทิศทางที่เป็นต้นเหตุของอันตราย
ภูตหนุ่มทั้ง 2 มองเห็นภูเขาหัวโล้นที่ตั้งตระหง่านอยู่ในระยะไกล แต่เดิมพวกเขาเห็นยอดเขานั้นมีสีขาวปกคลุมอยู่ แต่ในตอนนี้พวกมันแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงฉานแล้วก็พ่นของเหลวสีแดงออกมาจากปลายยอดเขาเป็นระยะ ๆ
ปัจจุบันมากกว่าครึ่งหนึ่งของภูเขาเต็มไปด้วยของเหลวสีแดง อีกทั้งมันลุกลามไปยังพื้นที่ที่กลุ่มภูตชายพักแรมอยู่อย่างรวดเร็ว
“ไม่! นั่นคือเปลวไฟสวรรค์ ทุกคนรีบออกไปจากที่นี่เร็วเข้า!” พออิงหยวนได้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป แล้วเขาก็รีบตะโกนเตือนสมาชิกในกลุ่มทันที
ก้อนหินร้อนที่พุ่งไปบนท้องฟ้าแพร่กระจายเร็วมาก พอมันตกลงไปบนของเหลวสีแดงบนพื้น มันก็ถูกหลอมละลายหายไปในพริบตา
หลังจากที่ภูตทุกคนได้ยินคำพูดของผู้เป็นหัวหน้า พวกเขาต่างก็รีบวิ่งหนีตายกันอลหม่าน
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้หลงอู่ถูกแมลงมีพิษรุมกัดกินอยู่ พิษร้ายแรงกำลังกระจายไปทั่วร่างกายของเขา ทำให้เขาไม่สามารถบินขึ้นฟ้าได้อีก ไม่นานมังกรตัวใหญ่ก็ถูกของเหลวสีแดงกลืนกินหายไปทั้ง ๆ ที่ยังไม่ทันได้ร้องขอความช่วยเหลือ...
“ออกไปจากที่นี่!”
“เร็วเข้า! กลับไปบอกพวกภูตในค่ายให้ย้ายเสบียง มิฉะนั้นเสบียงของเราจะหายไปทั้งหมด!”
ในความโกลาหล ภูตชายคนหนึ่งตะโกนเตือนขึ้นมาเสียงดัง
ทางด้านอิงหยวนขมวดคิ้วมุ่น แต่ก่อนที่เขาจะทันได้พูดอะไร คนที่อยู่เบื้องล่างก็หันมาแผดเสียงร้องด้วยความตื่นตระหนก
“ทำไมวันนี้ไฟมันถึงลุกลามเร็วมาก มันตามเรามาติด ๆ เลย...”
“ทำไงดี เราหนีไฟไม่พ้นแน่!”
“มันจบแล้ว ๆ วันนี้เราจะต้องตายอยู่ในกองเพลิง...”
ขณะนี้เหล่าภูตชายของเผ่าวิ่งหนีพร้อมกับตะโกนอย่างสิ้นหวัง
ส่วนหลงโม่ที่ลอยอยู่ในอากาศจ้องมองคนที่วิ่งหัวซุกหัวซุนอยู่บนพื้นด้วยสายตาไม่พอใจ
ต่อมา มังกรหนุ่มพ่นลมหายใจออกจากจมูกมังกรเฮือกใหญ่ จากนั้นก็หันหลังบินเข้าหาลาวาสีแดงฉาน
“หลงโม่! เจ้าจะทำอะไร!?” หูชิงหลู่ที่วิ่งตามหลังหลงโม่มาติด ๆ ตะโกนถามอย่างเป็นกังวล
ตอนนี้เปลวไฟสวรรค์ข้างหลังทุกคนกำลังจะเผาเขาตายอยู่แล้ว!
พออิงหยวนที่บินอยู่ข้างหน้าได้ยินการเคลื่อนไหวผิดปกติ เขาก็หันกลับมามองว่าเกิดอะไรขึ้น
ชายหนุ่มเห็นมังกรดำกำลังใช้กรงเล็บช้อนภูตชาย 2 คนที่วิ่งอยู่รั้งท้ายแล้วโยนขึ้นไปบนท้องฟ้า ในตอนนั้นภูตทั้ง 2 ร้องอุทานตกใจก่อนที่พวกเขาจะตกลงบนหลังของมังกรตัวโต
เนื่องจากภูตมังกรมีขนาดใหญ่กว่าภูตสายพันธุ์อื่นมากกว่าหลาย 10 เท่า
ในขณะนั้นชาย 2 คนที่ถูกช่วยเหลือวิงเวียนศีรษะอยู่พักหนึ่งก่อนจะตั้งสติได้ พอรู้สึกตัวอีกทีพวกเขาก็อยู่บนหลังของหลงโม่แล้ว
ทั้งคู่ตกใจมากที่รู้ว่ามังกรหนุ่มเป็นคนช่วยชีวิตตนเอาไว้ ดังนั้นภูตทั้ง 2 จึงรีบแปลงร่างเป็นมนุษย์แล้วขยับไปบนเกล็ดมังกรเพื่อลดน้ำหนักที่อีกฝ่ายต้องแบกรับ
“หลงโม่ ขอบคุณ ขอบคุณเจ้ามาก!”
“ขอบใจเจ้าจริง ๆ...”
เมื่ออิงหยวนได้เห็นภาพนี้ นัยน์ตาของเขาก็ฉายแววประหลาดใจ จากนั้นเขาก็รีบหันกลับมาคว้าภูตที่อยู่รั้งท้ายมาไว้บนหลังของตัวเอง แล้วปล่อยให้คนที่วิ่งได้คล่องแคล่วว่องไววิ่งหนีอยู่บนพื้น
ในไม่ช้า ทุกคนก็กลับมาถึงค่ายพักแรม แต่หินหนืดที่ไหลตามมาอยู่ข้างหลังยังตามพวกเขามาติด ๆ มันเร็วมากถึงขนาดที่ว่าสามารถกลืนกินทุกสิ่งที่อยู่เบื้องหน้ามันได้ทุกเมื่อ...
“วิ่ง! เปลวไฟสวรรค์มา!”
อิงหยวนตะโกนเตือนเหล่าภูตที่ถูกทิ้งให้เฝ้าอยู่ที่ค่ายพักแรม พอภูตหลายคนได้ยินเสียงของหัวหน้ากลุ่ม พวกเขาก็เห็นอิงหยวน หลงโม่ รวมถึงภูตคนอื่น ๆ กำลังวิ่งเข้ามาหาพวกตนโดยมีหินหนืดสีแดงร้อนตามมาข้างหลัง
กลุ่มภูตชายที่เพิ่งรับรู้ได้ถึงภัยอันตรายตกใจมากจึงรีบพุ่งเข้าไปคว้าเสบียงเท่าที่ตัวเองจะคว้าได้ด้วยความตื่นตระหนก
ท่าทางนั้นทำให้หลงโม่ยิ่งรู้สึกอารมณ์เสีย เขาพุ่งเข้าไปคว้าภูตคนหนึ่งก่อนจะคำรามใส่อีกฝ่าย
“ไม่ต้องสนใจเสบียง เอาชีวิตรอดก่อน!”
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 323
แสดงความคิดเห็น