บทที่ 68: ลู่เมี่ยนเอ๋อเสียสติไปแล้วหรือ?
หลงโม่มองไปที่หญิงสาวซึ่งแตกต่างจากที่เขาจำได้อย่างสิ้นเชิง และดวงตาอันหม่นหมองของเขาก็แสดงถึงความประหลาดใจ
แต่ไม่นานนัยน์ตาคู่นั้นก็ถูกเงาสีดำปกคลุม
ก่อนหน้านี้เขาเพิ่งนำเหยื่อกลับมา พอเขาเดินผ่านมาทางนี้ เขาก็ได้ยินเสียงกรีดร้องของผู้หญิง
เดิมทีชายหนุ่มไม่ได้ตั้งใจจะเข้าไปยุ่งเรื่องของคนอื่น แต่เขาได้ยินเสียงที่คลับคล้ายคลับคลาว่าจะเป็นเสียงของหูเจียวเจียว เขาจึงทิ้งเหยื่อในมือลงแล้วพุ่งมาทางนี้ทันที เขาไม่คิดเลยว่าคนที่กำลังประสบภัยจะเป็นนางจริง ๆ
ถึงจะตีให้ตาย ผู้หญิงคนนี้ก็ไม่ยอมออกมาเก็บผลไม้กับกลุ่มเก็บเกี่ยวเลยไม่ใช่หรือ? ทำไมนางถึงมาอยู่ที่นี่?
แล้วยังมาพร้อมกับลู่เมี่ยนเอ๋อที่นางเกลียดมากที่สุดอีก
เมื่อหลงโม่คิดเช่นนี้ แววตาของเขาก็กลับมาเย็นชา จิ้งจอกช่างเป็นภูตที่เจ้าเล่ห์จริง ๆ เพื่อแย่งชิงอิงหยวน นางไม่ลังเลเลยที่จะประจบประแจงลู่เมี่ยนเอ๋อ!
ถ้าไม่ใช่เพราะนางเป็นคู่ของเขาและให้กำเนิดลูกแก่เขา 5 คน เขาคงไม่มาช่วยนางหรอก
ทางด้านหูเจียวเจียวพอเห็นมังกรดำจ้องตรงมาที่ตน เธอก็รู้สึกวิตกกังวลขึ้นมาในใจ แต่เธอคิดว่าอีกฝ่ายเกี่ยวข้องกับชะตากรรมของตัวเอง เธอจึงก้าวไปข้างหน้าอย่างกล้าหาญ
“เอาเถอะ ถ้าไม่อยากแปลงร่างเป็นมนุษย์ก็ไม่เป็นไร แต่แผลนั่นต้องห้ามเลือดก่อน ไม่งั้นจะอักเสบเอาได้”
หญิงสาวจำได้ว่ามีเนื้อหาเขียนไว้ในนิยายว่าร่างกายของเผ่าพันธ์ุมังกรนั้นแข็งแกร่งที่สุดในบรรดาภูต แต่เนื่องจากความล้มเหลวของการแปลงร่าง ทำให้ร่างกายของหลงโม่ด้อยกว่ามังกรตัวอื่นมาก และก่อนที่เขาจะเข้าสู่ด้านมืด การบาดเจ็บเล็กน้อยสามารถส่งผลให้เขาอ่อนแอลง
ความจริงแล้ว ความแข็งแกร่งของหลงโม่ไม่ถือว่าอ่อนแอในเผ่า แต่จุดอ่อนของชายหนุ่มอยู่ที่ว่าบาดแผลของเขานั้นรักษาได้ยาก
ในสายตาของพวกภูต มันจึงไม่ต่างอะไรกับการเป็นคนไร้ประโยชน์
ไม่มีภูตคนไหนที่สามารถออกล่าพร้อมกับบาดแผลและกลับมาเหมือนเดิมได้ การฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บช้าบ่งชี้ว่าชีวิตของมังกรหนุ่มจะไม่ยืนยาว
เมื่อหูเจียวเจียวนึกถึงสิ่งนี้ก็รู้สึกสงสารอีกฝ่าย ทว่าสิ่งที่หลงโม่เกลียดที่สุดคือเจ้าของร่างเดิม เพราะนางขับไล่เขาออกจากเผ่า ทำให้เขาไม่เพียงแค่ไม่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้อย่างปลอดภัย แต่เขายังต้องลากสังขารที่มีบาดแผลนับไม่ถ้วนออกไปหลบซ่อนรักษาตัวในป่า
การใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางความมืดทั้งวันทั้งคืนเช่นนี้ มันคงจะแปลกถ้าเขาจะไม่เคียดแค้นจนความชั่วร้ายครอบงำจิตใจ
“ผงยานี้สามารถห้ามเลือดและลดการอักเสบได้ ข้าจะให้ยาเจ้าบางส่วน แล้วแผลจะหายเร็วขึ้น”
จิ้งจอกสาวสัมผัสได้ถึงสายตาระแวดระวังของมังกรดำ แต่เธอก็แสร้งทำเป็นไม่เห็นแล้วหยิบผงยาห้ามเลือดออกจากกระเป๋าหนังสัตว์ของเธอ และถือไว้ในมือเพื่อแสดงให้อีกฝ่ายเห็นเพราะเขาอาจกำลังเข้าใจผิดว่าเธอจะทำร้ายเขา
พอเธอเห็นว่ามังกรตรงหน้าไม่ปฏิเสธ เธอก็คิดว่าอีกคนยอมรับแล้ว
หูเจียวเจียวจึงขยับเข้าไปใกล้ ก่อนจะเปิดถุงผงยาและเตรียมที่จะทายาให้มังกรหนุ่ม
“กรรซ์…”
ในตอนนั้นเอง มังกรยักษ์เปิดปากพ่นลมหายใจที่เต็มไปด้วยกลิ่นไม่พึงประสงค์ออกมาจนคนตัวเล็กกระเด็นถอยหลัง จากนั้นเขาก็บินจากไป
ลมหายใจรุนแรงของมังกรปะทะใส่หูเจียวเจียวจนล้มลงกับพื้น แล้วถุงผงยาในมือของเธอก็หกกระจาย ก่อนที่ผงสีเหลืองจะปลิวว่อนไปทั่วท้องฟ้า ทำให้หญิงสาวสำลักจนน้ำตาไหล
“แค่กๆๆ...”
เธอแค่อยากจะช่วยทายาให้เขาเท่านั้น ทำไมเขาถึงรุนแรงกับเธอแบบนี้!
“หูเจียวเจียว เจ้าเป็นอะไรไหม?”
ลู่เมี่ยนเอ๋อลุกขึ้นจากพื้นแล้วเดินกะโผลกกะเผลกไปช่วยพยุงจิ้กจอกสาว เมื่อนางเห็นน้ำตาของอีกคนไหลอาบใบหน้า นางก็อดที่จะโกรธขึ้นมาไม่ได้ “มังกรตัวนั้นใช่หลงโม่หรือเปล่า? เขาทำเกินไปแล้วนะ ทำไมเขาถึงทำกับเจ้าแบบนี้ เจ้าคือคู่ของเขานะ”
ฝ่ายที่ได้ยินถึงกับตกตะลึง
อะไรเนี่ย? ลู่เมี่ยนเอ๋อเสียสติไปแล้วหรือเปล่า?
ทำไมจู่ ๆ นางถึงออกหน้าตำหนิเขาแทนฉัน?
“หูเจียวเจียว เจ้าเป็นไงบ้าง เจ้าบาดเจ็บตรงไหนหรือไม่?” กวางสาวดึงแขนของหูเจียวเจียวมาสำรวจอย่างเป็นห่วง และใช้มืออีกข้างปัดผงยาบนใบหน้าของเธอออกเบา ๆ แม้ว่ามันจะไร้ประโยชน์ก็ตาม
“แค่กๆๆๆ... ข้าไม่เป็นไร” แม่จิ้งจอกส่ายหัวตอบแล้วดึงอีกฝ่ายออกจากฝุ่นควัน
เนื่องจากผู้หญิงทั้ง 2 เพิ่งผ่านความเป็นความตายมาด้วยกัน ตอนนี้พวกเธอจึงหมดแรงทรุดลงนั่งกับพื้นหญ้า
เมื่อหูเจียวเจียวคิดถึงการฆ่าตัวตายของลู่เมี่ยนเอ๋อที่อยู่ในความฝัน เธอก็ยังอดที่จะรู้สึกกังวลไม่ได้ ดังนั้นเธอจึงใช้เวลาคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดปลอบโยนอีกฝ่าย
“ลู่เมี่ยนเอ๋อ เหตุการณ์ในวันนี้เป็นเพียงอุบัติเหตุ อย่าเก็บมาใส่ใจไปเลย เอาไว้เรากลับไปบอกให้ท่านผู้เฒ่าส่งผู้ชายมาคุ้มกันเราให้มากขึ้นในตอนที่เราออกมาเก็บผลไม้รอบหน้า ในอนาคตเหตุการณ์แบบวันนี้จะไม่เกิดขึ้นอีกแน่นอน เจ้าไม่ต้องห่วง!”
ไม่ใช่ว่านางจะกลับไปฆ่าตัวตายที่เผ่าเพราะจิตใจอ่อนไหวหรอกใช่ไหม?
แล้วสิ่งที่เธอตราบตรำทำมาทั้งหมดในวันนี้มันจะไร้ประโยชน์ทันที
เมื่อลู่เมี่ยนเอ๋อได้ยินคำพูดของจิ้งจอกสาว ดวงตาของนางก็ชื้นขึ้นเนื่องจากรู้สึกสะเทือนใจ
นางไม่คาดคิดว่าหูเจียวเจียวจะยังกังวลเกี่ยวกับตัวนาง
ทำไมผู้หญิงที่ถูกตราหน้าว่าน่ารังเกียจถึงใจดีได้ถึงเพียงนี้
ถัดมา กวางสาวลุกขึ้นยืนแล้วพูดขอบคุณอีกฝ่าย
“ข้าไม่เป็นไรแล้ว หูเจียวเจียว คือว่า—”
“หูเจียวเจียว! ลู่เมี่ยนเอ๋อ! ในที่สุดข้าก็ตามหาพวกเจ้าเจอ ทำไมพวกเจ้าออกไปจากกลุ่มเสียนาน?”
ก่อนที่กวางสาวจะพูดจบประโยค เสียงผู้ชายก็ดังขัดจังหวะนางมาจากด้านหลัง
เมื่อทั้งคู่หันกลับไปมอง พวกนางก็เห็นชายร่างกำยำวิ่งเข้ามาพร้อมกับหัวหน้าเผ่าและหู่จิง
ต่อมา ลู่เมี่ยนเอ๋อกับหูเจียวเจียวผุดลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว ไม่นานหู่จิงก็สังเกตเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติที่เท้าของเพื่อนสาว
“เมี่ยนเอ๋อ เจ้าบาดเจ็บ!” นางวิ่งเข้ามาอย่างเป็นห่วงแล้วปกป้องกวางสาวไว้ข้าง ๆ
จากนั้นดวงตาของภูตเสือก็จ้องมองหูเจียวเจียวเขม็ง “เจ้ารังแกเมี่ยนเอ๋ออีกแล้วหรือ? เกิดอะไรขึ้นกับศพหมาป่าสีเทาตัวนี้!?”
“ข้าคิดไว้แล้ววันนี้เจ้าทำตัวแปลก ๆ มันเป็นเพราะว่าเจ้าร่วมมือกับภูตเร่ร่อนมาทำร้ายลู่เมี่ยนเอ๋อนี่เอง!”
ก่อนที่ฝ่ายที่ถูกกล่าวหาจะทันได้อธิบาย หู่จิงก็ได้ร่ายถึงแผนร้ายที่เธอกระทำชั่วไว้แล้ว
“หูเจียวเจียว บอกข้ามา เจ้าทำมันจริงหรือเปล่า!?”
“...” หญิงสาวพูดไม่ออกไปชั่วครู่
ถ้าเธออยากได้คำตอบ เธอก็ควรเปิดช่องว่างให้ฉันพูดสักหน่อยก็ดีนะ…
“หู่จิง อย่าไปพูดกับหูเจียวเจียวแบบนั้น ข้าต้องขอบคุณหูเจียวเจียวที่ช่วยข้าไว้ ถ้าไม่ใช่เพราะนาง ข้าคงตายไปแล้ว”
ผู้เป็นนางเอกของเรื่องขมวดคิ้วพลางแก้ไขคำพูดของสหายด้วยใบหน้าที่จริงจัง
หลังจากที่หู่จิงได้ยินคำพูดของอีกฝ่าย นางก็มีสีหน้าสับสน
“เมี่ยนเอ๋อ เจ้ากำลังพูดถึงอะไร นางข่มขู่อะไรเจ้าหรือเปล่า? บอกข้ามาเถอะ ข้าจะไม่ปล่อยให้นางมารังแกเจ้าหรอก”
เสือสาวไม่อยากเชื่อเลยว่าแม่จิ้งจอกเจ้าเล่ห์จะใจดีขนาดนี้
“เกิดอะไรขึ้น ทำไมมีซากศพภูตอยู่ที่นี่?” หัวหน้าเผ่าเดินเข้ามาถามด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
เมื่อชายชรามองไปที่ซากศพบนพื้นและร่องรอยของการต่อสู้ ใบหน้าที่เต็มไปด้วยริ้วรอยแห่งวัยก็จริงจังขึ้นมาทันที
คราวนี้ลู่เมี่ยนเอ๋อรีบพูดว่า “ท่านผู้เฒ่า เมื่อกี้มีภูตเร่ร่อน 3 ตัวโผล่มา หูเจียวเจียวกับหลงโม่ช่วยข้าไว้ หมาป่าสีเทาตัวนี้เป็น 1 ในภูตเร่ร่อนที่ว่า หลงโม่เป็นคนฆ่าเขา”
นางรีบอธิบายเพราะกลัวว่าจิ้งจอกสาวจะถูกทุกคนเข้าใจผิดอีกครั้ง
“หลงโม่? หลงโม่มาช่วยพวกเจ้าไว้หรือ?” สีหน้าของผู้เฒ่าฉายแววประหลาดใจ
นับตั้งแต่ที่หลงโม่ถูกหูเจียวเจียวไล่ออกจากเผ่า เขาก็ไม่เคยปรากฏตัวต่อหน้าภูตคนอื่นอีกเลย
แม่จิ้งจอกที่รู้สึกถึงสายตาตั้งคำถามของหัวหน้าเผ่าก็พยักหน้าตอบกลับ
“ใช่ หลงโม่เป็นคนขับไล่ภูตเร่ร่อนออกไปและช่วยพวกเราเอาไว้”
ทางด้านหู่จิงดูประหลาดใจมากและโพล่งออกมาว่า “ไอ้สวะนั่นเก่งถึงขั้นทำเช่นนี้ได้ด้วยหรือ?”
เนื่องจากหลงโม่ไม่เคยแสดงความแข็งแกร่งต่อหน้าผู้หญิง และพวกผู้ชายมักเรียกเขาว่าสวะไร้ประโยชน์ ผู้หญิงในเผ่าจึงคิดว่ามังกรหนุ่มอ่อนแอมาก
“หู่จิง!” ลู่เมี่ยนเอ๋อขมวดคิ้วพลางบีบมือสหายด้วยความโกรธ
ปฏิกิริยาของนางทำให้เสือสาวตกใจ “เอาเถอะ ๆ ข้าจะไม่พูดถึงเรื่องนี้อีก อย่างน้อยเจ้าก็ไม่เป็นไรไปเสียก่อน”
สำหรับหูเจียวเจียวที่สามารถช่วยเมี่ยนเอ๋อได้ นางยังรู้สึกไม่อยากจะเชื่อว่าผู้หญิงเจ้าเล่ห์คนนี้จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ถึงแม้จะฆ่านางให้ตายเสียตรงนี้ นางก็ไม่มีวันเชื่อ
นางจิ้งจอกต้องข่มขู่เมี่ยนเอ๋อให้พูดเช่นนั้นแน่ ๆ
…
อีกด้านหนึ่ง
หลงโม่กลับไปที่บ้านในเผ่าพร้อมกับเหยื่อของเขา
เมื่อชายหนุ่มเห็นสภาพแวดล้อมในลานบ้านรวมถึงกระท่อมหลังใหม่ เขาก็หยุดฝีเท้าโดยลังเลไม่กล้าเข้าไปข้างใน
เป็นไปได้ไหมว่าหูเจียวเจียวย้ายไปอยู่ที่อื่น?
ทันใดนั้น ร่องรอยแห่งความสงสัยก็ปรากฏขึ้นในรูม่านตาสีทอง ทำไมที่นี่ถึงแตกต่างจากที่เขาจำได้อย่างสิ้นเชิง…
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 263
แสดงความคิดเห็น