บทที่ 49: ทำให้คนอื่นโกรธลู่ซุยซุย
ทางด้านหูเจียวเจียวมองเห็นทักษะการแสดงแบบลิงหลอกเจ้าของลู่ซุยซุยได้อย่างรวดเร็ว
เธอเองก็อยากจะดูว่าผู้หญิงคนนี้กำลังวางแผนจะทำอะไร แต่ใครจะไปรู้ว่านางต้องการเล่นตลกกับหูหมิน
นั่นทำให้ใบหน้าของจิ้งจอกสาวเย็นชาไปชั่วขณะ
ถ้าคนพวกนี้อยากจะวางแผนทำร้ายเธอเองมันคงจะไม่น่าโมโหเท่ากับมาทำร้ายคนในครอบครัวของเธอ!
ยามนี้ดวงตาของลู่ซุยซุยเต็มไปด้วยความเกลียดชัง ถ้าไม่ใช่เพราะหูเจียวเจียวเข้ามายุ่ง อิงหยวนกับนางคงจะได้ครองคู่กันไปนานแล้ว เพราะแบบนี้ลู่เมี่ยนเอ๋อถึงแย่งเขาไปได้ ดังนั้นหูเจียวเจียวกับครอบครัวของนางสมควรตาย!
ขณะที่หญิงสาวกำลังจะผลักหูหมินให้ล้มใส่ก้อนหิน มือเรียวของใครคนหนึ่งก็ยื่นมาบีบข้อมือนางไว้
เพี้ยะ!
ก่อนที่ลู่ซุยซุยจะทันได้ตอบโต้ นางก็ถูกผลักออกไปอย่างแรง ตามด้วยความปวดแสบปวดร้อนที่แก้ม
สิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองทำให้นางเงยหน้ามองคนที่ทำร้ายตนด้วยสายตาเหลือเชื่อ พร้อมกับความโกรธที่ลุกโชนอยู่ในดวงตา “หูเจียวเจียว เจ้าตบข้า!”
“ข้าเป็นคนตบเจ้าเองแล้วจะทำไม!!” จิ้งจอกสาวตะคอกอย่างท้าทาย พร้อมกับจ้องอีกฝ่ายเขม็งไม่เกรงกลัวใครทั้งนั้น
ขณะเดียวกัน มือที่เปลี่ยนเป็นสีแดงถูกซ่อนไว้ข้างหลังกำลังสั่นเทาเล็กน้อย
บ้าจริง... ฉันควบคุมแรงได้ไม่ดี เจ็บมือชะมัด!
แน่ล่ะ ในละครทีวีที่มีฉากแบบนี้ดูเหมือนจะหลอกลวงผู้บริโภค พอได้ลงมือทำเองจริง ๆ มันไม่เท่อย่างที่คิดเลยให้ตายสิ!
บัดนี้ลู่ซุยซุยโกรธเลือดขึ้นหน้าจนแทบหายใจไม่ออก เมื่อนางสังเกตเห็นว่าชาวบ้านคนอื่น ๆ ได้ยินเสียงจึงหันมามองทางตนเอง นางก็ทำตัวน่าสงสารทันที
หญิงสาวสะอื้นเสียงดังขึ้นมาอย่างตั้งใจ “หูเจียวเจียว ข้าแค่อยากช่วยเจ้าเท่านั้นเอง ถ้าเจ้าไม่ชอบข้าก็บอกมาสิ จะมาตบข้าทำไม...”
พอนางพูดประโยคเหล่านี้ออกมา ผู้หญิงที่อยู่รอบ ๆ ก็รวมตัวกันด้วยความไม่พอใจทันที
จากนั้นพวกนางก็เริ่มกล่าวโทษหูเจียวเจียวแบบไม่สนใจถามหาเหตุผลใด ๆ ทั้งนั้น
“หูเจียวเจียว เจ้าทำเกินไปแล้ว ทุกคนกำลังตั้งใจขุดหาผลไม้ดินกัน ถ้าเจ้าไม่อยากขุดก็อย่ามาเกะกะที่นี่ เจ้าจะมาทำร้ายลู่ซุยซุยทำไม!”
“ถ้าอารมณ์ไม่ดีก็ไสหัวกลับเผ่าไปซะ!”
“โชคไม่ดีจริง ๆ คราวหน้าท่านผู้เฒ่าอย่าพานางมาที่นี่อีกเลย”
เวลานั้นลู่เมี่ยนเอ๋อก้าวไปข้างหน้าเพื่อช่วยเหลือลู่ซุยซุยด้วยสีหน้ากังวล “ซุยซุย เจ้าเป็นอะไรไหม?”
ฝ่ายที่กำลังเสแสร้งไม่พูดอะไรออกมาและทำเพียงยืนน้ำตาไหลนิ่ง ๆ
เมื่อเห็นฉากนี้ หูเจียวเจียวก็สาปแช่งทักษะการแสดงของอีกฝ่ายในใจ
แม้ว่าหูหมินจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ปฏิกิริยาแรกของนางก็คือยืนอยู่เคียงข้างลูกสาว พร้อมกับตะคอกใส่คนอื่นเสียงดัง
“เจ้าพวกเฮงซวย ถ้าพวกเจ้าขุดผลไม้ดินกันได้แค่นั้นคงอดตายในฤดูหนาวกันหมดแน่ แล้วอย่ามากินผลไม้ดินที่เราขุดได้ก็แล้วกัน!”
“ลู่ซุยซุย เจ้าต่างหากที่ไม่ยอมไปทำงานถึงได้มาเสแสร้งแกล้งทำอยู่ตรงนี้ เจ้าเหยียบย่ำผลไม้ดินของข้าจนเสียหายไปตั้งมากมาย แต่เจ้ายังกล้าที่จะไปเรียกร้องขอความเป็นธรรมจากคนอื่น ข้าคิดว่าเจ้าตั้งใจมาที่นี่เพื่อทำลายอาหารของคนในเผ่าเสียมากกว่า”
หลังจากที่หูหมินพูดจบ นางก็เหลือบไปเห็นมือของหูเจียวเจียวที่ซ่อนอยู่ด้านหลัง นางจึงก้าวไปข้างหน้าด้วยความทุกข์ใจ “เจียวเจียว มือเจ้าแดงมากเลย เจ้าเจ็บไหม?”
“ท่านแม่ ข้าไม่เป็นไร” หญิงสาวส่ายหัวตอบกลับแล้วรับรู้ได้ถึงความรู้สึกที่อุ่นวาบอยู่ในใจ
เธอรู้สึกดีที่มีแม่คอยปกป้องเช่นนี้ ดังนั้นเธอจะไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายได้รับอันตรายใด ๆ แน่นอน
เมื่อพวกผู้หญิงได้ยินคำพูดของหูหมิน พวกนางก็เห็นผลไม้ดินที่โดนเหยียบจนเละอยู่บนพื้นเช่นกัน
ลู่ซุยซุยเหยียบย่ำผลไม้ดินหรือ?
เนื่องจากฤดูหนาวขาดแคลนอาหาร พวกผู้ชายจึงต้องหาอาหารมากักตุนจนหัวหมุน กระทั่งต้องให้ผู้หญิงในเผ่าออกมาช่วยขุดดินหาผลไม้ ซึ่งมันแสดงให้เห็นว่าผลไม้พวกนี้มีความสำคัญอย่างไร
จากนั้นผู้หญิงคนอื่นก็ส่งสายตาแปลก ๆ มองหน้ากัน
ในเวลาเดียวกัน เสียงสะอื้นไห้ของลู่ซุยซุยก็ดังขึ้นไม่ขาดสาย ใบหน้าของนางเศร้าหมองและนางปฏิเสธไม่ยอมรับ “ข้าไม่ได้… ข้าไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น”
นังหูเจียวเจียว!
ยามนี้น้องสาวผู้แสนดีแอบกัดฟันอย่างลับ ๆ พลางคิดในใจว่าทำไมผู้หญิงคนนี้ที่ไม่เคยกล้าสู้กับตนเองมาก่อน วันนี้เหตุใดอีกฝ่ายถึงกล้าตบนาง
ทว่าโชคดีที่หูเจียวเจียวเป็นคนโง่ นางคิดว่าตนแค่พยายามแก้แค้นด้วยการเหยียบผลไม้ดิน แต่นางไม่รู้ว่าความจริงแล้วตนกำลังพยายามผลักหูหมินล้มกระแทกกับหิน
“เกิดอะไรขึ้น?”
เมื่อท่านผู้เฒ่าได้ยินเสียงเอะอะโวยวายผิดปกติ เขาก็เดินเข้ามาด้วยสีหน้าจริงจัง
“ท่านผู้เฒ่า—”
“ท่านผู้เฒ่า! ลู่ซุยซุยเดินมาเหยียบผลไม้ดินที่ข้าขุดไว้ แม่ของข้าพูดต่อว่านางแค่ไม่กี่คำ แต่นางจงใจจะผลักแม่ข้าให้ล้มใส่ก้อนหิน โชคดีที่ข้าสังเกตเห็นก่อน ไม่เช่นนั้นแม่ของข้าคงถูกนางฆ่าตายไปแล้ว!”
ในตอนนั้นเอง หูเจียวเจียวไม่เปิดโอกาสให้คนร้ายอย่างลู่ซุยซุยได้เปิดปากพูดก่อน เธอรีบเล่ารายละเอียดทุกอย่างให้หัวหน้าเผ่าฟังทั้งหมด
โดยธรรมชาติแล้ว หากปล่อยให้ฝ่ายที่กระทำผิดเป็นคนเล่าเหตุการณ์ก่อน ก็มีโอกาสที่ผู้อื่นจะเชื่อฟังคำพูดของพวกเขา
หลังจากที่ลู่ซุยซุยได้ยินคำพูดของจิ้งจอกสาว ใบหน้าของนางก็ซีดเผือดลงทันที
นางรู้ได้ยังไง!?
หูเจียวเจียวเคยเป็นคนที่โง่เง่าที่สุด นางจะรู้ได้ยังไงว่าข้าต้องการจะทำอะไร!?
ต่อมา ใบหน้าของลู่เมี่ยนเอ๋อเคร่งเครียดขึ้นและดวงตาที่งุนงงของนางจับจ้องไปที่ลูกพี่ลูกน้อง “ซุยซุย—”
“ฮือๆๆๆ”
ทว่าคำพูดของหญิงสาวกลับถูกขัดจังหวะด้วยเสียงร้องไห้ระงมของอีกฝ่ายเสียก่อน
“ข้า…ข้าไม่ได้ทำ พี่เมี่ยนเอ๋อ ท่านก็ไม่เชื่อข้าอย่างนั้นหรือ?”
อีกด้านหนึ่ง หู่จิงที่ยืนมองเหตุการณ์อยู่รู้สึกทนไม่ไหวอีกต่อไป นางจ้องเขม็งไปที่หูเจียวเจียวอย่างโกรธเกรี้ยว “หูเจียวเจียว เจ้ากำลังพูดถึงอะไร ลู่ซุยซุยจะทำแบบนั้นไปทำไม เจ้ามันจอมโกหก!”
เมื่อลู่เมี่ยนเอ๋อได้ยินเช่นนี้ นางก็ขจัดความสงสัยในใจของตัวเองออก ก่อนจะขมวดคิ้วมองจิ้งจอกสาว “หูเจียวเจียว ในครั้งนี้เจ้าทำเกินไป ไม่ว่าซุยซุยจะทำอะไรผิด เจ้าก็ไม่ควรทำร้ายนาง ขอโทษซุยซุยเดี๋ยวนี้เลยนะ”
ขณะนี้บนใบหน้าของลู่เมี่ยนเอ๋อแสดงออกถึงความจริงจัง ราวกับว่านางต้องการตัดสินใจแทนน้องสาวผู้แสนดี
นั่นทำให้ลู่ซุยซุยแอบเบะปากด้วยความรู้สึกไม่พอใจ
แค่คำขอโทษเนี่ยนะ มันน้อยเกินไปสำหรับยัยจิ้งจอกเจ้าเล่ห์นั่น!
“หึ...” หูเจียวเจียวอดเย้ยหยันไม่ได้
พอเธอพูดความจริงก็ไม่มีใครเชื่อเธอเลยสักคน
แค่ลู่ซุยซุยร้องไห้ก็มีคนพร้อมที่จะออกมาปกป้องนางแล้ว
ดูเหมือนว่าไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือภูต พวกเขาจะยืนอยู่เคียงข้างผู้ที่อ่อนแอเสมอ แต่เธอไม่อยากแสดงท่าทางตอแหลแบบนั้น!
ถัดมา หญิงสาวถามกลับด้วยใบหน้าเย็นชาว่า “ข้ากำลังพูดเรื่องไร้สาระงั้นหรือ ลู่ซุยซุย ข้าขอถามเจ้าหน่อย เจ้าเหยียบผลไม้ดินที่กองอยู่ตรงนั้นหรือเปล่า แล้วเมื่อกี้เจ้าไปจับแขนแม่ของข้าด้วยใช่ไหม?”
“ใช่ ข้าเหยียบผลไม้ดินของเจ้า แต่ข้าไม่ได้ตั้งใจ—”
“เจ้ากล้าสาบานต่อเทพอสูรไหมว่าเมื่อกี้นี้เจ้าไม่ได้มีเจตนาทำร้ายแม่ข้า”
ใบหน้าของลู่ซุยซุยพลันเปลี่ยนเป็นอ้ำอึ้งกลืนไม่เข้าคายไม่ออกทันที “ข้า ข้า...”
กวางสาวอึกอักอยู่นานแต่กลับไม่สามารถหาเหตุผลมาแย้งได้
นางจะกล้าสาบานต่อเทพอสูรได้อย่างไร จะให้นางหลอกลวงเทพอสูรหรือ นางจะถูกสวรรค์ลงโทษเอาน่ะสิ!
ทางด้านหู่จิงที่เกลียดชังหูเจียวเจียวมากกว่าใครเพื่อน นางคิดเพียงว่าอีกฝ่ายกำลังเล่นตลกอยู่จึงรู้สึกไม่พอใจมากยิ่งขึ้น
จากนั้นนางก็ชี้หน้าจิ้งจอกสาวพร้อมกับพูดเสียงลอดไรฟันว่า “หูเจียวเจียว มันจะมากเกินไปแล้วนะ นางยังไม่ได้ทำอะไรเลย ทำไมลู่ซุยซุยต้องสาบานด้วย เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใคร คนอื่นถึงต้องฟังที่เจ้าพูด!”
ลู่เมี่ยนเอ๋อเองก็มีท่าทางโกรธเคืองเช่นกัน “หูเจียวเจียว อย่าให้มันมากเกินไปนักเลย ขอโทษซุยซุยเดี๋ยวนี้”
หูเจียวเจียวเกือบจะหัวเราะออกมา
“ทำไมนางต้องขอโทษ เจียวเจียวของข้าไม่ได้ทำอะไรผิด ข้าจะบอกพวกเจ้าให้นะ อย่าคิดว่าเจ้ามีพวกอยู่มากมายแล้วจะมารังแกข้ากับลูกข้าได้!” หูหมินที่ยืนฟังอยู่นานโต้เถียงกลับไป
ผู้หญิงคนอื่นต่างก็รู้สึกเช่นเดียวกันว่าหญิงวัยกลางคนเข้าข้างลูกสาวตัวเอง พวกนางจึงไม่พอใจอีกฝ่ายทันที
ในเวลาเดียวกัน หูเจียวเจียวสัมผัสได้ถึงการแสดงออกที่ละเอียดอ่อนของผู้หญิงรอบ ๆ เธอจึงจับมือผู้เป็นแม่เพื่อให้นางมั่นใจในตัวเธอ
ต่อมา หญิงสาวเดินไปข้างหน้าลู่ซุยซุยก่อนจะเชิดหน้าเยาะเย้ยอีกฝ่าย “งั้น... ถ้าเจ้าไม่สาบานก็ไม่เป็นไร ข้าจะถามเจ้าอีกคำถามหนึ่ง ปกติชาวบ้านทุกคนต่างก็รู้ดีว่าเจ้าเป็นคนที่เกลียดข้ามากที่สุด แต่ทำไมจู่ ๆ วันนี้เจ้าถึงมาเลียแข้งเลียขาออกหน้าจะช่วยข้าล่ะ?”
“ข้า…”
“อย่าพูดว่าเจ้าแค่ต้องการจะช่วยข้า ข้ามันใจร้ายแล้วยังไปรบกวนอิงหยวนพี่เขยของเจ้าอีก อยู่ดี ๆ เจ้ากลับเสนอหน้าอยากจะช่วยข้าซะงั้น วันนี้เจ้าไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?”
“ถ้าเจ้าไม่ป่วยก็แสดงว่าเจ้าจงใจเหยียบย่ำผลไม้ดินเพื่อแก้แค้นข้า แต่ผลไม้ดินพวกนี้คืออาหารสำหรับฤดูหนาวของทุกคนในเผ่า เท่ากับว่าเจ้าเหยียบย่ำผลไม้ดินของทุกคน ดูเหมือนว่าเจ้าอยากจะทำให้ทุกคนต้องหิวโหยในช่วงฤดูหนาวนี้!”
“เป็นเพราะเจ้า ทุกคนจะเดือดร้อนกันหมด!”
--------------------------------------------------
พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: ลู่ซุยซุยหลอกไม่เนียน ไปเรียนมาใหม่นะจ๊ะ
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 313
แสดงความคิดเห็น