ตอนที่ 68: ซื้อของเถื่อน
ตอนที่ 68: ซื้อของเถื่อน
พื้นที่เขต ACG ตั้งอยู่บริเวณรอบนอกของภูมิภาคดาวเอ็นดาโร่ มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีตลาดมืดถูกตั้งอยู่ในพื้นที่เขตนี้
ความจริงแล้วผู้คนในภูมิภาคดาวต่างเล่าลือกันว่าแม้แต่กลุ่มโจรสลัดเพรุสที่มีชื่อเสียงก็มีค่ายพักอยู่ในพื้นที่เขตนี้เช่นกัน
ในระหว่างนั้นพอตเตอร์ก็กำลังขับยานฟริเกตขนาดเล็กไปยังดาว ACG19 ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของตลาดมืด
พื้นที่ส่วนใหญ่ของดาว ACG19 เป็นทะเลทรายที่มีแหล่งน้ำอยู่น้อยมากและสภาพอากาศก็ไม่เอื้ออำนวยต่อการอยู่อาศัย แต่สิ่งเหล่านี้ก็ไม่สามารถป้องกันไม่ให้ผู้คนมาเปิดตลาดมืดบนดาวแห่งนี้ได้
ในระหว่างที่ยานอวกาศลอยอยู่เหนือทะเลทรายพอตเตอร์ก็กดปุ่มสื่อสารเป็นจังหวะราวกับว่าเขากำลังส่งรหัสลับบางอย่าง
หลังจากเวลาผ่านไปไม่นานทรายในทะเลทรายก็เริ่มไหลช้า ๆ ก่อนที่มันจะมีลานทรงกลมปรากฏขึ้นกลางทะเลทราย
พอตเตอร์ควบคุมยานอวกาศให้ลงจอดตรงนั้นทันที ซึ่งหลังจากที่ยานอวกาศลงจอดแล้วหลังคาที่คอยบดบังลานแห่งนี้เอาไว้ก็ค่อย ๆ ปิดตัวลง
เมื่อพอตเตอร์และเซี่ยเฟยก้าวเท้าออกจากยานพวกเขาก็พบกับชายฉกรรจ์ 2 คนยืนถืออาวุธอยู่ในบริเวณนั้น แต่พวกเขากลับกำลังส่งรอยยิ้มให้กับพอตเตอร์
“ตาแก่พอตเตอร์มาที่นี่อีกแล้วหรอ!?” หนึ่งในชายฉกรรจ์กล่าวทักทาย
“อืม” พอตเตอร์พยักหน้ารับ จากนั้นเขาก็หยิบธนบัตรออกมา 2-3 ใบและยัดลงไปในมือของชายฉกรรจ์
“ฉันฝากดูแลยานหน่อย เดี๋ยววันหลังฉันค่อยพาไปดื่ม”
ต่อมาพอตเตอร์ก็เดินนำเซี่ยเฟยเข้าไปตามทางเดินอันคับแคบและค่อนข้างมืดมิด
“ที่นี่คือตลาดมืดที่สามารถหาซื้อของเถื่อนได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นยาเสพติด, อาวุธหรือแม้แต่ผู้หญิง ซึ่งในพื้นที่กว่า 10 เขตดาวตลาดแห่งนี้คือสถานที่ที่คึกคักที่สุด” พอตเตอร์แนะนำเซี่ยเฟย
“ทำไมผมถึงรู้สึกว่าที่นี่มันเหมือนกับอยู่ในยานเลย?” เซี่ยเฟยกล่าวถามพร้อมกับมองไปรอบ ๆ
“นายคิดถูกแล้ว แต่เดิมสถานที่แห่งนี้เคยเป็นยานรบที่ถูกทิ้งร้างก่อนที่จะมีใครบางคนมาดัดแปลงให้มันกลายเป็นโกดังและหลังจากที่ยานแห่งนี้ถูกพัฒนามาหลายปี มันก็กลายเป็นตลาดมืดอย่างในปัจจุบัน”
“ที่จริงแล้วพื้นที่ที่ถูกใช้งานไม่ได้มีเพียงแต่ตัวยานเท่านั้นแต่มันยังมีการขุดถ้ำใต้ดินขึ้นมาอีกหลายเส้นทางและประตูที่เราเข้ามาเป็นเพียงแค่หนึ่งในทางเข้า มันยังมีทางเข้าที่เชื่อมต่อกับพื้นผิวดาวอยู่อีกหลายที่”
หลังจากเดินไปตามทางเดินแคบ ๆ เป็นเวลานานในที่สุดมันก็เริ่มมีแสงสว่างให้เห็นจากปลายอุโมงค์
ภาพที่ปรากฏเหมือนกับตลาดขนาดใหญ่ที่มีร้านค้าตั้งขายของอยู่ริม 2 ฝั่งทางเดิน
บริเวณรอบ ๆ ตลาดมีผู้คนพลุกพล่านอยู่เป็นจำนวนหลายแสนคน โดยแต่ละคนจะมีท่าทีที่ค่อนข้างระแวงและเมื่อพวกเขาได้เห็นเซี่ยเฟยซึ่งเป็นคนแปลกหน้าพวกเขาทุกคนต่างก็จ้องมองมาด้วยสายตาระแวดระวัง
พอตเตอร์ดูเหมือนจะเคยชินกับพฤติกรรมเหล่านี้แล้วและชายชรายังกล่าวทักทายคนรู้จักไปเรื่อย ๆ
เซี่ยเฟยสังเกตว่าร้านค้าในตลาดเป็นร้านที่ไม่มีชื่อและที่แปลกกว่านั้นคือบางร้านไม่มีสินค้าตั้งโชว์เอาไว้เลย ทำให้เขาไม่รู้ว่าร้านพวกนั้นเป็นร้านขายอะไร
พอตเตอร์เดินนำเซี่ยเฟยเข้าไปในร้านค้าเล็ก ๆ แห่งหนึ่งที่เต็มไปด้วยขวดเบียร์เปล่าและการเดินเข้าไปในร้านค้าแห่งนี้ก็ให้ความรู้สึกเหมือนกับการเดินเข้าไปในทะเลที่เต็มไปด้วยแอลกอฮอล์
ตัวร้านค้ามีเพียงแค่ชั้นเดียวโดยทางด้านหลังร้านมีชายวัยกลางคนนอนอยู่บนโซฟา ซึ่งพอตเตอร์ก็เตะชายคนนี้ลงมาโดยไม่พูดอะไร
“เฮ้ยใครวะ!”
ชายวัยกลางคนร่างผอมบางกระโดดขึ้นมาจากพื้นพร้อมกับดึงมีดออกมาจากเอว
“ไหนใครที่มันอยากตาย?”
กลิ่นแอลกอฮอล์ที่หลุดออกมาจากปากชายคนนี้ถึงกับทำให้เซี่ยเฟยรู้สึกขมคอ
อย่างไรก็ตามเมื่อชายวัยกลางคนได้เห็นหน้าของพอตเตอร์ เขาก็เปลี่ยนใบหน้าอันบิดเบี้ยวกลายเป็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มที่ประจบสอพลอ ส่วนมีดภายในมือของเขาก็หายไปราวกับเล่นกล
“ที่แท้ก็ลูกพี่พอตเตอร์นี่เอง! มานี่สิเชิญนั่ง ๆ” ชายวัยกลางคนเชิญพอตเตอร์และเซี่ยเฟยให้ไปนั่งที่โซฟาอย่างสุภาพ
“ว่าแต่คนนี้ใครหรอครับลูกพี่” ชายคนนั้นถามขณะที่เขามองสำรวจเซี่ยเฟยหลายครั้ง
“เลิกพูดเรื่องไร้สาระแล้วเอาของที่ฉันสั่งมาได้แล้ว” พอตเตอร์กล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงอันเย่อหยิ่ง
“ผมเตรียมของทุกอย่างเอาไว้ในโกดังแล้วครับ” ชายวัยกลางคนพูดพลางถูกมือไปมา จากนั้นเขาก็วิ่งไปที่ด้านหลังกำแพงพร้อมกับกดปุ่มทำให้ผนังแยกออกไปทางซ้ายขวาและเผยให้เห็นประตูลิฟต์ที่อยู่ทางด้านใน
หลังจากนั้นพอตเตอร์, เซี่ยเฟยและชายวัยกลางคนก็เดินเข้าไปในลิฟต์ด้วยกันและพวกเขาก็เดินทางไปจนถึงโกดังที่มีขนาดประมาณ 1,000 ตารางเมตร
ในโกดังมีกล่องไม้ขนาดเล็กใหญ่อยู่หลายกล่อง ซึ่งชายวัยกลางคนก็พาพอตเตอร์กับเซี่ยเฟยไปยังกองสินค้ากองหนึ่งที่มีกล่องขนาดประมาณ 1 ลูกบาศก์เมตร 3 กล่องพร้อมกับกล่าวขึ้นมาว่า
“นี่คือของที่ลูกพี่สั่งเอาไว้ครับ”
พอตเตอร์พยักหน้ารับอย่างไร้อารมณ์ก่อนที่ชายวัยกลางคนจะหันหน้าไปส่งสัญญาณให้ชายร่างใหญ่ 2 คนนำชะแลงมาเปิดกล่องไม้ ซึ่งมันเผยให้เห็นชุดอุปกรณ์ที่ซับซ้อนจำนวน 3 ชุดอยู่ด้านใน
อุปกรณ์ทั้งสามชิ้นนี้คือเครื่องวาร์ปดิสรัปเตอร์, เครื่องแทร็กชั่นคอนโทรลเลอร์และเครื่องวาร์ปสเตบิไลเซอร์ตามลำดับ
เมื่อยานรบเผชิญหน้ากันในอวกาศและตกอยู่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบ พวกเขาสามารถที่จะใช้เครื่องวาร์ปเพื่อหลบหนีออกมาจากสนามรบได้
ขณะเดียวกันเครื่องเครื่องวาร์ปดิสรัปเตอร์จะทำการปล่อยคลื่นความถี่สูงเพื่อป้องกันไม่ให้ศัตรูหลบหนีออกจากสนามรบ
ส่วนทางด้านของเครื่องแทร็กชั่นคอนโทรลเลอร์จะสามารถปล่อยลำแสงเข้าควบคุมยานรบของคู่ต่อสู้และทำให้ความเร็วของอีกฝ่ายลดลงมากกว่า 90%
เครื่องแทร็กชั่นคอนโทรลเลอร์เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่มีความสำคัญมากเมื่อต้องรับมือกับยานรบความเร็วสูง เพราะยานรบประเภทนี้จะคอยอาศัยความคล่องตัวเพื่อหลบหลีกการโจมตีของศัตรูทำให้พวกมันไม่ต่างไปจากยุงที่คอยบินหึ่ง ๆ อยู่ข้าง ๆ หู
แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ยานรบความเร็วสูงเหล่านี้โดนลำแสงของเครื่องแทร็กชั่นคอนโทรลเลอร์เข้าไป พวกมันก็จะตายเหมือนถูกฟาดด้วยไม้ช็อตยุง
นอกจากนี้เครื่องแทร็กชั่นคอนโทรลเลอร์ยังสามารถใช้ลากวัตถุที่ลอยค้างอยู่ในอวกาศเพื่อทำการเก็บกู้วัตถุเหล่านั้นได้อีกด้วย
ในอวกาศมีสมบัติล้ำค่าถูกทิ้งเอาไว้อยู่อย่างมากมายไม่ว่าจะเป็นซากยานตั้งแต่สมัยโบราณหรือก้อนแร่ธาตุที่มีมูลค่าสูง
หากยานลำใดติดตั้งเครื่องแทร็กชั่นคอนโทรลเลอร์ ยานลำนั้นก็จะสามารถดึงลากวัตถุในอวกาศเข้ามาเก็บภายในยานหรือจะลากวัตถุไปเก็บกู้ยังดาวเคราะห์ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงก็ได้
หากใครใช้เครื่องวาร์ปดิสรับเตอร์คู่กันกับเครื่องแทร็กชั่นคอนโทรลเลอร์ มันก็จะทำให้ยานของข้าศึกไม่สามารถหลบหนีได้อย่างสมบูรณ์และถูกบังคับให้ต้องเผชิญหน้าเพียงอย่างเดียว
ขณะเดียวกันบทบาทของเครื่องวาร์ปสเตบิไลเซอร์ก็ตรงกันข้ามกับเครื่องวาร์ปดิสรับเตอร์โดยสิ้นเชิง เพราะเครื่องวาร์ปสเตบิไลเซอร์จะทำการปล่อยคลื่นความถี่ออกไปปกป้องยานไม่ให้ถูกรบกวนจากเครื่องวาร์ปดิสรับเตอร์ของศัตรูและทำให้ยานสามารถวาร์ปออกไปจากสนามรบได้อย่างปลอดภัย
อุปกรณ์ที่วางอยู่ตรงหน้าทั้งสามชิ้นนี้เปรียบเสมือนกับหอกและโล่ของยานรบ ที่อุปกรณ์ด้านหนึ่งเอาไว้ใช้สำหรับการจู่โจมศัตรูและอุปกรณ์อีกด้านหนึ่งเอาไว้ใช้สำหรับการป้องกัน
ยานรบโดยทั่วไปมักจะไม่ได้ติดตั้งอุปกรณ์พวกนี้เอาไว้ด้วยเหตุผล 2 ประการ เหตุผลประการแรกคือราคาของพวกมันค่อนข้างแพงและเหตุผลประการที่ 2 คืออุปกรณ์เหล่านี้ค่อนข้างจะหาได้ยากทำให้มีอู่ต่อยานเพียงแค่ไม่กี่แห่งที่สามารถจัดหาพวกมันได้
พอตเตอร์ทำการตรวจสอบอุปกรณ์สงครามทั้งสามทีละชิ้นก่อนที่เขาจะได้กล่าวออกมาว่า
“ไม่มีปัญหา ส่งพวกมันไปที่ยานของฉันที่ประตู 1022 ได้เลย”
ชายวัยกลางคนพยักหน้าอย่างเร่งรีบพร้อมกับกระตุ้นให้ลูกน้องร่างใหญ่ทั้งสองคนรีบนำของไปส่งอย่างระมัดระวัง
“รบกวนลูกพี่พอตเตอร์ช่วยโอนเงินให้ผมหน่อย ของพวกนี้เป็นของมีค่าและหาได้ยากมาก” ชายวัยกลางคนกล่าวพร้อมกับแบมือออกไปอย่างระมัดระวัง
พอตเตอร์พยักหน้ารับก่อนที่เขาจะหันไปกล่าวกับเซี่ยเฟยว่า “ของพวกนั้นราคา 30 ล้าน โอนเงินให้เขาเร็วเข้า”
เมื่อได้ยินคำพูดจากพอตเตอร์ชายวัยกลางคนก็รู้สึกตกตะลึงก่อนที่เขาจะกล่าวขัดออกไปว่า “ลูกพี่! ของพวกนั้นมันราคา 36 ล้านนะ”
พอตเตอร์ถุยน้ำลายออกมาด้วยความไม่พอใจก่อนที่จะขัดคอกลับไปว่า “ใคร ๆ ก็รู้ว่าสินค้าของแกเอามาจากไอ้เฒ่าเค ถ้าเลือกได้ฉันก็ไม่อยากจะไปยุ่งกับมันหรอก ความจริงถ้าเรื่องนี้เป็นเรื่องของฉันเอง ฉันจะให้ราคาไม่ถึง 20 ล้านด้วยซ้ำ ดังนั้นรับ ๆ เงินไปซะอย่ามาโลภมาก!”
ชายวัยกลางคนกรอกตา 2-3 ครั้งก่อนที่เขาจะได้กล่าวออกไปอย่างไม่สามารถทำอะไรได้ “โอเค ๆ ผมยอมแล้วก็ได้ นี่ถ้าเป็นคนอื่นผมไม่ยอมจริง ๆ ด้วย”
ต่อมาเซี่ยเฟยก็โอนเงินจำนวน 30 ล้านไปยังบัญชีของชายวัยกลางคนคนนั้นพร้อมกับเดินตามพอตเตอร์ไปที่บาร์แล้วสั่งเบียร์ 2 ขวดมานั่งดื่มที่โต๊ะ
“นี่ลุง! ของพวกนี้มันไม่ถูกเกินไปหน่อยหรอ? ผมลองเช็คราคาพวกมันในสตาร์เน็ตเวิร์กเมื่อคืนนี้ ราคาของอุปกรณ์พวกนั้นแต่ละชิ้นตกอยู่ตั้ง 15 ล้าน รวม ๆ กันพวกเราซื้อมา 3 ชิ้นพวกเราประหยัดเงินไปได้ตั้ง 15 ล้านแน่ะ” เซี่ยเฟยกล่าวกับพอตเตอร์ด้วยรอยยิ้ม
“ถ้าของไม่ถูกจะเรียกที่นี่ว่าตลาดมืดได้ยังไง? ของพวกนั้นมันเป็นของร้อนที่ถูกขโมยมา ไม่มีใครอยากเก็บพวกมันเอาไว้นานนักหรอก” พอตเตอร์กล่าวพร้อมกับเผยรอยยิ้มกว้าง จากนั้นเขาก็พูดขึ้นมาด้วยท่าทางอันลึกลับว่า
“ของพวกนั้นยังไม่ใช่เป้าหมายหลักของพวกเราในวันนี้ พวกเราต้องรอคนคนนึงก่อน ฉันบอกได้เลยว่าคนคนนั้นจะเอาของที่นายคาดไม่ถึงมาให้ นายกำตังค์รอเอาไว้ได้เลยเจ้าหนู ฉันบอกได้เลยว่าของชิ้นนี้มันเป็นของที่ต้องมี!!”
“ตราบใดก็ตามที่มันเป็นของดี ผมไม่เสียดายเงินอยู่แล้ว” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับจิบเบียร์
ทั้งสองนั่งคุยกันอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่พวกเขาจะเห็นชายหนุ่มคิ้วหนาตาโตวิ่งเข้ามาด้วยท่าทางอันโกรธเคือง
ชายหนุ่มคนนี้นั่งลงที่เก้าอี้ข้าง ๆ พอตเตอร์ก่อนจะหยิบขวดเบียร์บนโต๊ะกระดกลงคอเข้าไปอย่างหิวกระหาย
สถานการณ์ปัจจุบันทำให้พอตเตอร์ขมวดคิ้ว แต่เขาก็ยังไม่พูดอะไรแล้วมันก็ดูเหมือนกับจะมีกลิ่นอายที่ไม่สบายใจลอยอยู่ในอากาศ
ปั่ก!
ชายหนุ่มกระแทกขวดเบียร์ลงบนโต๊ะพร้อมกับพูดออกมาอย่างโกรธเคือง “ไอ้เฒ่าเคมันมาหาผมแล้วเอาของที่ลุงอยากได้ไปแล้ว!”
“นายไม่เป็นไรใช่ไหม?” พอตเตอร์กล่าวถามด้วยความเป็นห่วง
ชายหนุ่มส่ายหน้าเป็นคำตอบพร้อมกับรอยยิ้มที่บิดเบี้ยว จากนั้นเขาก็กล่าวว่า “ผมไม่เป็นไร แต่เขามีข้อความฝากมาบอกลุง”
“ฝากบอกอะไร?”
“สุสานยานเป็นของฉัน!” ชายหนุ่มกล่าวพร้อมกับมองออกไปนอกร้านคล้ายกับว่าเขาจะรู้สึกผิดเล็กน้อยที่ไม่สามารถนำสิ่งของที่พอตเตอร์ต้องการมาได้
พอตเตอร์ตบไหล่ชายหนุ่มเหมือนกับปลอบใจ จากนั้นเขาก็กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงอันอ่อนโยนว่า “เสี่ยวเทียน นายทำได้ดีแล้วและสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการที่นายยังสบายดี”
ชายหนุ่มที่ถูกเรียกว่าเสี่ยวเทียนคล้ายกลับรู้สึกตื้นตันอยู่เล็กน้อย จากนั้นเขาก็ฝืนยิ้มพร้อมกับกล่าวว่า “ถึงผมจะทำได้ไม่ดีในฐานะลูกศิษย์ของลุง แต่ลุงก็น่าจะรู้ว่าผมมีนิสัยยังไง ไอ้เฒ่าเคเอาไปได้แค่เครื่องยนต์เท่านั้นแต่ผมซ่อนปืนใหญ่นิวตรอนกับขีปนาวุธเอาไว้ได้”
อาวุธบนยานอวกาศจำเป็นจะต้องใช้พลังงานและพื้นที่ ขณะเดียวกันยานสตีลฟอลคอนก็มีจุดสำหรับการติดตั้งอาวุธทั้งสิ้น 4 จุด เซี่ยเฟยจึงตัดสินใจติดตั้งปืนใหญ่นิวตรอนขนาดเล็ก 2 กระบอกและเครื่องยิงขีปนาวุธขนาดเล็กอีก 2 กระบอก
ปืนใหญ่นิวตรอนเป็นหนึ่งในปืนใหญ่ที่ทรงพลังที่สุดในปัจจุบันและถึงแม้ว่ามันจะสามารถยิงได้เพียงแค่ 120 นัดต่อนาที แต่พลังทะลุทะลวงของปืนใหญ่นิวตรอนก็สูงมากจนสามารถเจาะเกราะหนา ๆ บนยานของศัตรูได้เลย ขณะเดียวกันอัตราการบริโภคพลังงานของมันก็น้อยกว่าพวกปืนเลเซอร์
ยานฟริเกตเป็นเพียงแค่ยานรบขนาดเล็กเท่านั้น ด้วยเหตุนี้การพยายามติดตั้งอุปกรณ์บรรจุพลังงานขนาดใหญ่จึงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ดังนั้นการควบคุมการใช้พลังงานภายในตัวยานจึงเป็นเรื่องที่มีความสำคัญมาก
ส่วนเครื่องยิงขีปนาวุธก็สามารถยิงจรวดติดตามศัตรูได้อย่างต่อเนื่องและพลังทำลายของมันก็ไม่ได้ขี้เหร่เช่นเดียวกัน ที่สำคัญกว่านั้นคือเครื่องยิงขีปนาวุธแทบที่จะไม่ใช้พลังงานเลย มันจึงเป็นหนึ่งในอาวุธที่ช่วยประหยัดพลังงานของยานรบได้เป็นอย่างดี
การติดตั้งปืนใหญ่นิวตรอนและเครื่องยิงขีปนาวุธเป็นการติดตั้งอุปกรณ์ที่ช่วยส่งเสริมซึ่งกันและกัน เพราะไม่เพียงแต่พวกมันจะมีพลังทำลายล้างที่ค่อนข้างสูงเท่านั้นแต่พวกมันยังสามารถใช้ในการจัดการกับศัตรูที่หลากหลายได้อีกด้วย
การประหยัดพลังงานจากอาวุธทำให้พลังงานที่เหลือสามารถส่งไปเพิ่มความคล่องแคล่วและการป้องกันของยานรบได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้พวกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ระดับสูงยังกินพลังงานในปริมาณมากเช่นเดียวกัน
“นี่ลุงผมกำลังคิดว่าไอ้เฒ่าเคน่าจะแอบดักฟังโทรศัพท์ของลุงอยู่ เขาถึงรู้ว่าลุงกำลังต้องการอะไร ผมมีโทรศัพท์เข้ารหัสของกองทัพอยู่บ้าง ลุงเอามันไปใช้ก่อนก็แล้วกัน” หลังพูดจบเสี่ยวเทียนก็ยัดโทรศัพท์ผ่านดาวเทียมขนาดเท่ากล่องไม้ขีดไฟเอาไว้ในมือของพอตเตอร์
ปืนใหญ่นิวตรอน 2 กระบอกและเครื่องยิงขีปนาวุธ 2 กระบอกมีมูลค่ารวมกัน 24 ล้านสตาร์คอยน์ ซึ่งหลังจากที่เซี่ยเฟยจ่ายเงินให้กับเสี่ยวเทียนแล้วชายหนุ่มก็เดินหายไปราวกับสายลม
หลังจากจุดบุหรี่พ่นควันออกมา 2-3 ครั้งเซี่ยเฟยก็หันไปถามพอตเตอร์ที่อยู่ใกล้ ๆ “เสี่ยวเทียนเป็นลูกศิษย์ลุงหรอ?”
“ใช่ เขาคือลูกศิษย์ที่เด็กที่สุดของฉันและเขาก็เป็นคนที่มีฝีมือมากที่สุดด้วยเหมือนกัน ในปีนั้นเขาต้องการหาเงินไปรักษาตาของน้องสาว เขาเลยลาออกจากอู่แล้วมาเป็นพ่อค้าอาวุธเหมือนที่นายเห็น”
“วันที่มันลาออกฉันด่ามันไปยกใหญ่และฉันก็เพิ่งมารู้ความจริงทีหลัง ซึ่งมันทำให้ฉันรู้สึกเสียใจมาจนถึงทุกวันนี้ เจ้าเด็กนั่นเป็นพวกหัวรั้นถ้ามันบอกฉันสักนิดมันคงไม่ต้องมาลำบากแบบนี้”
พอตเตอร์นวดขมับในขณะที่เขาเล่าเรื่องในอดีตแต่ถึงแม้ว่าเซี่ยเฟยจะต้องการปลอบโยนชายชราคนนี้เพียงใด แต่เขาก็ไม่รู้ว่าเขาจะต้องทำยังไงเช่นกัน
“ว่าแต่เฒ่าเคที่พวกลุงพูดถึงคือใครหรอ?” เซี่ยเฟยถาม
พอตเตอร์หยิบบุหรี่ออกมาจากกล่องบุหรี่ของเซี่ยเฟยและทดลองจุดไฟเหมือนกับที่เขาเคยเห็นชายหนุ่มทำ
“แค่ก ๆ ๆ โอ้ยนี่มันอะไรวะเนี่ย!” พอตเตอร์ไอออกมา 2-3 ครั้งและการสำลักควันก็ทำให้เขาเกือบน้ำตาใหล
เซี่ยเฟยทำได้เพียงแค่เผยรอยยิ้มโดยไม่พูดอะไร เพราะในบรรดามนุษย์ต่างดาวเท่าที่เขาเคยรู้จักมา ยังไม่มีใครสามารถสูบบุหรี่ของชาวโลกได้เลย
หลังจากดื่มเบียร์จนหมดพอตเตอร์ก็กล่าวว่า “ไอ้เฒ่าเคเคยเป็นโจรสลัดมาก่อน จากนั้นมันก็ล้างมือและมาเริ่มทำธุรกิจอู่ประกอบยาน”
“เมื่อไม่นานมานี้มันต้องการของบางอย่างจากฉันแต่ฉันไม่อยากขาย มันเลยมาตามรังควานฉันแบบนี้ น่าเสียดายเครื่องยนต์แบล็คเซอร์เพนท์ที่ฉันจะเอามาเซอร์ไพรซ์นายจริง ๆ”
เซี่ยเฟยรู้สึกตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะรีบถามออกไปว่า “เมื่อกี้ลุงบอกว่าเครื่องยนต์รุ่นอะไรนะ?”
“แบล็คเซอร์เพนท์ 130” พอตเตอร์กล่าวพร้อมกับถอนหายใจ
***************
อย่าว่าแต่มนุษย์ต่างดาวจะสูบบุหรี่พี่ไม่ได้เลยครับ…เพื่อนๆพี่บนโลกก็สูบบุหรี่พี่ไม่ได้เหมือนกัน!!
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 209
แสดงความคิดเห็น