ตอนที่ 67: ตลาดมืด
ตอนที่ 67: ตลาดมืด
“ยานลำนี้ถูกพายุแม่เหล็กไฟฟ้าในอวกาศทำให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดได้รับความเสียหาย, สภาพกลไกในตัวยานก็เสียหายมากกว่า 30% และการเดินทางครั้งนั้นยังทำให้ลูกเรือเสียชีวิตไปทั้งสิ้น 4 คนรวมถึงเพื่อนสนิทของฉันด้วย” พอตเตอร์กล่าวออกมาอย่างขมขื่นขณะดื่มเบียร์แก้วใหญ่
เซี่ยเฟยพยักหน้ารับพร้อมกับวางแท็บเล็ตลงบนโต๊ะ “ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมรายการซ่อมบำรุงยานถึงยาวมากขนาดนี้ มันเป็นเพราะว่ายานได้ไปเผชิญหน้ากับพายุแม่เหล็กไฟฟ้ามานี่เอง”
“แต่หากลองคิดในอีกมุมหนึ่ง ทั้ง ๆ ที่ยานได้เผชิญหน้ากับพายุแม่เหล็กไฟฟ้าที่น่ากลัวแต่โครงสร้างของยานกลับไม่บุบสลายและชิ้นส่วนกลไกกลับได้รับความเสียหายไปเพียงแค่ประมาณ 30% ซึ่งมันแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าคุณภาพของยานลำนี้ดีแค่ไหน”
“วันพรุ่งนี้เริ่มซ่อมยานลำนี้ได้เลยครับ” เซี่ยเฟยหันไปมองพอตเตอร์พร้อมกับกล่าวออกมาอย่างหนักแน่น
“นายจะเอาจริงหรอ? มันต้องใช้เงินเป็นจำนวนมากเลยนะ” พอตเตอร์กล่าว
เซี่ยเฟยเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนที่จะตอบว่า “นี่คือยานรบชั้นยอดและมูลค่าของมันไม่สามารถวัดค่าด้วยเงินได้”
พอตเตอร์ใช้มือถูตาของตัวเองเล็กน้อยพร้อมกับตบมือลงไปบนโต๊ะอย่างแรงก่อนที่เขาจะกล่าวว่า “เอาล่ะถ้ามันมีโอกาสที่ยานลำนี้จะได้โลดแล่นอีกครั้ง ฉันก็จะลองดู!”
พอตเตอร์ยืนขึ้นและเดินไปที่หน้าต่าง จากนั้นเขาก็ตะโกนสั่งลูกน้องในเวิร์กช็อปว่า
“หยุดซ่อมอินคาซัสลำนี้ไปก่อน วันนี้ทุกคนกลับไปพักได้แล้ว พรุ่งนี้พวกเราจะต้องทำงานสำคัญ!”
โบเดนวางเครื่องมือในมือของเขาลงพร้อมกับตะโกนกลับไปด้วยความสงสัยว่า “อาจารย์พวกเราซ่อมยานลำนี้ใกล้จะเสร็จแล้วนะ อย่างมากที่สุดพวกเราก็ต้องใช้เวลาซ่อมอีกไม่เกิน 3 วันเอง ทำไมพวกเราไม่ทำงานนั้นหลังจากซ่อมยานลำนี้เสร็จแล้วล่ะ”
“ไม่ต้องถามเยอะ! พรุ่งนี้มาทำงานให้ตรงเวลาก็พอ” พอตเตอร์กล่าวพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะ
โบเดนทำได้เพียงแต่ส่ายหัวเบา ๆ ก่อนที่จะกลับที่พักพร้อมกับช่างคนอื่น ๆ
หลังสั่งงานลูกน้องพอตเตอร์ก็กลับมานั่งลงบนที่นั่งก่อนที่เขาจะพูดกับเซี่ยเฟยว่า “นายมีแผนเกี่ยวกับยานลำนี้ยังไงบ้าง?”
เซี่ยเฟยแอบสนทนากับอันธเงียบ ๆ ก่อนที่เขาจะกล่าวตอบพอตเตอร์ออกไปว่า “ผมวางแผนที่จะสละระบบอำนวยความสะดวกของยานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของมันให้สูงที่สุด เช่น การติดตั้งเครื่องยนต์ชั้นยอด, ระบบเรดาร์คุณภาพสูงและระบบควบคุมอาวุธที่ดีที่สุด”
“ถ้านายทำแบบนั้นพื้นที่ใช้สอยของยานจะเหลือน้อยมากเลยนะ อย่างมากที่สุดยานจะเหลือห้องเอาไว้ให้ลูกเรือเพียงแค่ 4 คนแล้วมันก็แทบที่จะไม่เหลือพื้นที่สำหรับการบรรทุกอะไรเลย” พอตเตอร์กล่าว
การติดตั้งอุปกรณ์คุณภาพสูงจำเป็นที่จะต้องใช้พื้นที่ค่อนข้างเยอะ ซึ่งยานแบบเดิมมีห้องโดยสารทั้งหมด 5 ห้อง โดยแต่ละห้องสามารถรองรับลูกเรือได้ 2 คน ดังนั้นเมื่อรวมกับห้องของกัปตัน ยานในปัจจุบันก็สามารถรองรับลูกเรือได้ทั้งสิ้นถึง 11 คน
แต่ถ้าหากว่าเซี่ยเฟยต้องการที่จะเพิ่มประสิทธิภาพให้กับยาน ตัวยานจะสามารถรองรับลูกเรือได้เพียงแค่ 5 คนและพื้นที่สำหรับบรรทุกสิ่งของจะลดลงจากเดิมไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่ง
เซี่ยเฟยส่งเสียงหัวเราะออกมาเบา ๆ ก่อนที่เขาจะกล่าวออกไปว่า “ผมไม่ได้จะเอายานลำนี้ไปบรรทุกอะไรซักหน่อย แล้วผมจะต้องเหลือพื้นที่เอาไว้ทำไม?”
ในทุก ๆ การปรับแต่งยานจำเป็นที่จะต้องกำหนดทิศทางโดยรวมตั้งแต่แรกเสียก่อน เพราะถึงแม้ว่ายานจะสามารถติดตั้งอุปกรณ์ได้หลากหลายแต่พื้นที่ของยานก็มีอยู่อย่างจำกัด ดังนั้นการกำหนดจุดประสงค์ของยานรบตั้งแต่แรกจึงถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด
หลังจากพูดคุยกันหลายชั่วโมงในที่สุดเซี่ยเฟยและพอตเตอร์ก็ตกลงแผนขั้นสุดท้าย ซึ่งเป็นแผนที่สมดุลย์และมีประสิทธิภาพมากที่สุด
ช่วงเวลาปัจจุบันค่อนข้างดึกแล้วเซี่ยเฟยจึงตัดสินใจพักที่อู่ในวันนี้และจะเริ่มทำงานพร้อมกับทีมพอตเตอร์ในวันรุ่งขึ้น
เซี่ยเฟยเดินไปส่งซันนี่ที่รถก่อนที่เขาจะกล่าวขึ้นมาว่า “เอาเลขบัญชีธนาคารของนายมา”
หลังซันนี่บอกเลขบัญชีธนาคารเซี่ยเฟยก็พยักหน้าและกล่าวว่า “ฉันจะโอนเงินไปให้นาย 1 ล้าน นายเอาเงินไปซื้อรถคันนี้ซะแล้วพรุ่งนี้เช้าช่วยซื้อของอร่อย ๆ เบียร์ดี ๆ เข้ามาให้ที่นี่ด้วย ตามธรรมเนียมจากบ้านเกิดของฉันการเริ่มงานสำคัญต้องเริ่มด้วยการเฉลิมฉลอง”
“1 ล้าน! โอ้แม่เจ้านี่มันจะมากเกินไปแล้ว!!” ซันนี่อุทานออกมาอย่างตกใจ
เซี่ยเฟยตบไหล่ซันนี่เบา ๆ พร้อมกับกล่าวว่า “เชื่อฉันเถอะมันไม่มากเกินไปหรอก ถ้าไม่ได้นายแนะนำฉันก็คงจะไม่ได้เจอกับยานที่ถูกใจแบบนี้ ถ้าเงินที่ฉันโอนไปให้หมดแล้วก็มาบอกได้นะ”
ซันนี่พยักหน้ารับก่อนที่จะขับรถออกไป
ขณะเดียวกันพอตเตอร์ก็จัดเตรียมให้เซี่ยเฟยอาศัยอยู่ในยานรบรุ่นอัลตรอนซึ่งเป็นสิ่งที่เซี่ยเฟยได้ร้องขอเอาไว้ล่วงหน้าเพราะเขาต้องการทดลองการใช้ชีวิตจริงบนยานอวกาศ
พื้นที่ภายในของยานรบไม่ใหญ่มากนักซึ่งหลังจากเซี่ยเฟยเดินดูรอบ ๆ ตัวยานเขาก็เดินไปที่ห้องโถงใหญ่
ในห้องโถงใหญ่ของยานมีกระจกที่สามารถมองผ่านออกไปยังด้านนอกได้ เซี่ยเฟยจึงเห็นว่าไฟในเวิร์กช็อปยังคงสว่างแล้วมันก็กำลังมีร่างของชายคนหนึ่งเดินไปมาโดยถือโทรศัพท์เครื่องเก่าเอาไว้ในมือ
ดูจากรูปลักษณ์ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าแม้พวกเขาจะกำหนดทิศทางการซ่อมบำรุงยานเอาไว้แล้ว แต่อุปกรณ์ทั้งหมดก็จำเป็นจะต้องซื้อมาใหม่และคืนนี้พอตเตอร์ก็คงจะต้องยุ่งไปอีกทั้งคืน
เซี่ยเฟยจุดบุหรี่และนอนลงไปบนเตียงเดี่ยวแข็ง ๆ จากนั้นเขาก็หยิบเอาแว่นตาเสมือนจริงออกมาจากแหวนมิติและเข้าสู่ระบบสตาร์เน็ตเวิร์ก
หลังจากนั้นเซี่ยเฟยทำการโอนเงินจำนวน 1 ล้านสตาร์คอยน์ไปยังบัญชีของซันนี่ แต่ก่อนที่เขาจะออกจากระบบมันกลับมีคำร้องขอวิดีโอคอลปรากฏขึ้นมา โดยภาพโปรไฟล์ของผู้ร้องขอคือกระต่ายสีชมพูตัวใหญ่ที่กำลังแทะแครอทภายในมือ
เซี่ยเฟยส่งเสียงหัวเราะและรู้ได้ในทันทีว่าผู้ร้องขอวิดีโอคอลรายนี้จะต้องเป็นแอวริล ดังนั้นเขาจึงใช้นิ้วแตะปุ่มเพื่อทำการรับสาย
ในภาพที่ปรากฏขึ้นมาเด็กสาวกำลังอยู่ในสภาพที่ง่วงนอน โดยปัจจุบันเธออยู่ในชุดนอนสีชมพูหลวม ๆ โดยมีผมยาวสลวยพาดยาวลงไปจนถึงหน้าอก
แอวริลใช้มือปิดปากขณะที่หาวจากนั้นเธอก็พยายามดึงสติตัวเองกลับคืนมาและกล่าวว่า “ทำไมนายเข้าสตาร์เน็ตเวิร์กช้าจัง? นี่มันใกล้จะเช้าแล้วนะ”
“มันใกล้เช้าบนดาวของเธอแต่บนดาวที่ฉันอยู่ยังไม่ใกล้เช้าสักหน่อย ว่าแต่เธอรู้ได้ยังไงว่าฉันเข้าระบบสตาร์เน็ตเวิร์กแล้ว?” เซี่ยเฟยกล่าวถามด้วยรอยยิ้ม
ตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่เขาทำให้แอวริลร้องไห้เขาก็ตั้งใจที่จะขอโทษสาวน้อยรายนี้ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้หลบหนีเธอเหมือนกับเมื่อก่อนอีกแล้ว
ตราบใดที่เธอต้องการพูดคุยกับเขา เขาก็จะคอยพูดคุยเป็นเพื่อนให้กับเธอ ดังนั้นเขาจึงได้กลับไปล็อกอินบัญชีเดิมและไม่คิดที่จะกลับไปใช้บัญชีไม่ระบุตัวตนอีกต่อไป
“นายไม่รู้สินะว่าฉันเป็นใคร! ฉันจับตาดูนายเอาไว้แล้ว ทันทีที่นายออนไลน์ฉันจะได้รับการแจ้งเตือน” แอวริลกล่าวขึ้นมาอย่างภาคภูมิใจ
“แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่ต้องถึงขั้นตื่นนอนมาคุยกับฉันหรือเปล่า? หรือว่ามันมีอะไรผิดปกติ” เซี่ยเฟยถามหลังจากใช้เวลาคิดอยู่ครู่หนึ่ง
แอวริลเดินไปที่โต๊ะพร้อมกับหยิบแก้วน้ำขึ้นมาดื่ม เธอก็พูดออกไปด้วยเสียงที่ไม่พอใจว่า
“นายไม่ได้คุยกับฉันมาหลายวันแล้วนะ ฉันอยากจะถามว่านายซื้อยานอวกาศมาหรือยัง? ฉันได้ยินมาว่าในสุสานยานอวกาศมีคนไม่ดีเยอะมาก ๆ นายจะต้องระวังตัวเอาไว้ดี ๆ นะ!”
“ที่จริงแล้วไม่ว่าเธอจะไปไหนเธอก็ต้องเจอกับคนดีคนเลวปะปนกันไปทุกที่นั่นแหละ หลังจากฉันมาที่นี่ฉันคิดว่าฉันน่าจะเจอกับคนที่ไว้วางใจได้และฉันก็กำลังจะซื้อยานไทนี่ฟอลคอนรุ่นพิเศษของกองทัพ” เซี่ยเฟยกล่าวออกมาอย่างตื่นเต้น
อย่างไรก็ตามแอวริลก็เป็นผู้หญิงที่ไม่ได้ให้ความสนใจกับยานรบเหมือนผู้ชาย ดังนั้นเธอจึงเดินไปที่คอมพิวเตอร์และใช้มือขวากดไป ๆ มา ๆ คล้ายกับว่าเธอกำลังค้นหาข้อมูลอะไรบางอย่าง
หลังจากเฝ้าดูหน้าจออยู่พักหนึ่งแอวริลก็พูดกับเซี่ยเฟยว่า “ยานรุ่นนี้ดีใช้ได้เลย แต่น่าเสียดายที่มันรองรับลูกเรือได้แค่ 11 คน ว่าแต่นายจะไปรายงานตัวที่ค่ายฝึกจัสทิสลีกเมื่อไหร่?”
“ที่จริงยานลำที่ฉันซื้อเป็นยานที่พังแล้ว ฉันกำลังจะซ่อมมันอยู่ มันอาจจะต้องใช้เวลาอีกประมาณ 3 เดือนก่อนที่ฉันจะไปรายงานตัว” เซี่ยเฟยตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
“นายไปเจอช่างแบบไหนเนี่ยถึงต้องใช้เวลาซ่อมยานนานตั้ง 3 เดือน?” แอวริลตอบกลับพร้อมกับทำหน้ามุ่ย
“เชื่อฉันเถอะว่าฉันพยายามหาช่างที่ดีที่สุดแล้วแต่ยานลำนี้เป็นยานรุ่นพิเศษของกองทัพและชิ้นส่วนของยานหลาย ๆ ชิ้นก็หาได้ยากมาก ที่สำคัญคือฉันวางแผนจะปรับแต่งยานลำนี้ใหม่มันเลยจำเป็นจะต้องใช้เวลานิดหน่อย” เซี่ยเฟยกล่าวอย่างเคร่งขรึม
“มีชิ้นส่วนไหนที่นายยังหาไม่ได้?” แอวริลกล่าวถามอย่างไม่พอใจ
“ก็ยังมีอีกหลาย ๆ ชิ้นนั่นแหละ ถ้าจะให้พูดตามตรงนอกจากตัวโครงสร้างของยาน ของทุกชิ้นภายในยานก็คงจะต้องถูกเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด” เซี่ยเฟยกล่าว
“ห๊ะ! ถ้ามันจะลำบากขนาดนั้นซื้อใหม่ไม่ดีกว่าหรอ?” แอวริลถาม
“นี่มันยานรุ่นพิเศษของกองทัพนะ! มันไม่ใช่ยานที่จะหาซื้อได้ทั่วไปตามท้องตลาด” เซี่ยเฟยกล่าว
“อะไรกันมันง่ายจะตาย…” แอวริลเผลอพูดออกไปอย่างไม่ทันรู้ตัวแต่เธอก็กลับคำอย่างรวดเร็วและกล่าวออกไปว่า “เออ.. ฉันคิดว่าบางทีฉันน่าจะหาซื้อได้”
เซี่ยเฟยส่ายหัวเบา ๆ พร้อมกับตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มว่า “ถึงเธอจะหาซื้อได้แต่ฉันหาซื้อไม่ได้ ฉันจะใช้โอกาสนี้เรียนรู้การซ่อมบำรุงยานไปด้วย การทำแบบนี้ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในวิธีการออกกำลังกายแล้วมันก็คงจะช่วยให้ฉันใช้ชีวิตในอนาคตได้ง่ายขึ้น”
แอวริลใช้มือเท้าคางพร้อมกับจ้องมองไปยังเซี่ยเฟยที่กำลังมีท่าทางจริงจังด้วยรอยยิ้ม “ตอนนายจริงจังเหมือนกับนายจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลย จะว่าไปตอนนายจริงจังนายก็หล่อเหมือนกันนะเนี่ย ดู ๆ ไปแล้วนายก็เหมือนพ่อของฉันเลย”
“ไหนมานี่สิ! ขอพ่อกอดหน่อย” เซี่ยเฟยเหยียดแขนพร้อมกับกล่าวออกไปด้วยรอยยิ้ม
“ไอ้บ้า! ตอนนายไม่จริงจังนี่นายมันเป็นพวกโรคจิตชัด ๆ!”
—
ยามเช้าตรู่คนงานในเวิร์กช็อปของพอตเตอร์ก็เริ่มลงมือทำงานกันอย่างจริงจัง
ในปัจจุบันยานไทนี่ฟอลคอนรุ่นกองทัพได้ถูกขนย้ายเข้ามาในเวิร์กช็อปเรียบร้อยแล้วและโบเดนได้นำช่าง 7-8 คนไปตรวจสอบชิ้นส่วนทุกชิ้นของยานพร้อมกับถอดชิ้นส่วนที่เสียหายออกมาทั้งหมด ซึ่งมันเป็นขั้นตอนแรกสำหรับการซ่อมยานลำใหม่
ในระหว่างนั้นเซี่ยเฟยได้ขอให้โบเดนสอนเขาใช้คีมอเนกประสงค์ก่อนที่ชายหนุ่มจะทำงานไปพร้อมกับช่างทุกคนด้วยท่าทางจริงจัง
คีมอเนกประสงค์มีขนาดความยาวกว่า 50 เซนติเมตรและมีความหนักมากกว่า 10 กิโลกรัม โดยเครื่องมือชิ้นนี้ถูกออกแบบมาอย่างดีและสามารถใช้ถอดประกอบยานรบได้โดยไม่จำเป็นจะต้องเปลี่ยนเครื่องมือบ่อย ๆ
เซี่ยเฟยเริ่มต้นด้วยการขันน็อตพื้นฐานที่สุดก่อน โดยในระหว่างนั้นเขาต้องนอนลงไปใต้ท้องยานและท่าทางของเขาก็ดูงุ่มง่ามเหมือนกับมือใหม่
ในเวลาเพียงแค่ไม่นานเซี่ยเฟยก็สามารถถอดอุปกรณ์ชิ้นแรกออกมาได้สำเร็จ เขาจึงเสียบคีมอเนกประสงค์เอาไว้ที่เอวและเดินไปหาโบเดนพร้อมกับเช็ดเหงื่อด้วยแขนเสื้อ จากนั้นเขาก็ถามว่า “ต่อไปต้องถอดชิ้นไหน?”
แต่ในทันใดนั้นเองมันกลับมีเสียงลึกลับดังขึ้นมาจากด้านหลังของเขาว่า
“ต่อไปคือการเตรียมบัญชีธนาคารแล้วมากับฉัน”
เมื่อเซี่ยเฟยหันศีรษะกลับไปเขาก็เห็นพอตเตอร์กำลังจ้องมองมาที่เขาด้วยท่าทางอันร่าเริง
“อ้าวลุงตื่นแล้วหรอครับ?” เซี่ยเฟยทักทายด้วยดวงตาแดงก่ำซึ่งมันเห็นได้ชัดเลยว่าเมื่อคืนนี้เขานอนไม่หลับเพราะมัวแต่คิดเรื่องการซ่อมบำรุงยาน
พอตเตอร์ตบไหล่เซี่ยเฟยด้วยมือที่แข็งกระด้างก่อนที่เขาจะพูดว่า “ตอนนี้นายดูเหมือนช่างจริง ๆ ถ้านายต้องการเรียนรู้เดี๋ยวฉันจะคอยสอนนายเอง แต่ตอนนี้ไปอาบน้ำแต่งตัวซะ นายจะต้องไปตลาดมืดกับฉัน”
“ตลาดมืด?”
“ใช่ตลาดมืด เมื่อคืนฉันติดต่อกับคนรู้จักเอาไว้ 2-3 คนและพวกเขาก็มีชิ้นส่วนอุปกรณ์ที่พวกเราต้องการ แต่ฉันขอบอกไว้ก่อนเลยนะว่าของพวกนั้นไม่ใช่ของราคาถูก ๆ” พอตเตอร์กล่าวด้วยรอยยิ้มกว้าง
ท่าทางของพอตเตอร์ทำให้เซี่ยเฟยตัวแข็งค้างขึ้นมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ เพราะในช่วงเวลาหนึ่งนั้นเขารู้สึกคุ้น ๆ เหมือนเห็นเงาอันธซ้อนทับอยู่บนตัวลุงพอตเตอร์
***************
ลางหมดตัวมาอีกแล้วสินะ!!
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 174
แสดงความคิดเห็น