ตอนที่ 7 ฉันต้องช่วยนายใช่มั้ย

ใจสื่อใจ รักเพื่อนาย
คุณกำลังอ่าน: ใจสื่อใจ รักเพื่อนาย

-A A +A

ตอนที่ 7 ฉันต้องช่วยนายใช่มั้ย

หมวดหนังสือ: 

บทที่ 7

ตอน ฉันต้องช่วยนายใช่มั้ย

รุ่งเช้าวันใหม่

            ทศตื่นด้วยการปลุกของสาวใช้ เสียงเคาะประตูดังขึ้น

               สาวใช้พูด  “คุณทศคะ ท่านประธานจะรอคุณแค่ 20 นาทีนะคะ ชุดใส่วันนี้อยู่หน้าตู้กระจกนะคะ”

               ทศตกใจรีบอาบน้ำ “บ้าจริง” เขารีบแต่งตัวสะพายกระเป๋าที่มียาอยู่ วิ่งลงบันใดมา เขาเห็นท่านประธาน กำลังจะขึ้นรถ เขาวิ่งขึ้นรถทันที ในชุดสูทสีดำ  ขาว

               ท่านประธานพูด “ครั้งหน้าหวังว่านายคงไม่สาย”

               ทศพูด “ขอโทษครับ”

แล้วรถก็เคลื่อนตัวออกจากบ้านไป ยังสถานที่ทำงาน ซึ้งห่างจากบ้านไปไม่มากเท่า ประมาณ สัก 3 ไฟแดงเห็นจะได้ ที่นี่เป็นเขตชุมชนที่มีผู้คนมากมาย ประเทศจีนช่างสวยงามนัก

ท่านประธานพูด “หวังว่าภาษาจีนนายคงเอาตัวรอดได้นะ”

ทศพูด “ผมไม่ทำให้ท่านประธานขายหน้าหรอกครับ” เขายิ้ม

ท่านประธานมองหน้าเขาแล้วถอนหายใจ

ด้านหลังของบริษัท ทศลงจากรถ เขาสังเกตเห็นผู้หญิงจำนวนมากยืนอยู่ที่ด้านหลังบริษัท แม้สงสัยแต่ก็ไม่กล้าที่จะถาม

  เขาคิด ตึกที่สูงเสียดฟ้า ผู้คนเข้าออกมากมาย ท่านประธานเดินเข้าลิฟต์ไป มีคนรอเปิดลิฟต์ให้ท่านประธานอยู่

 คนรวยเขาใช้ชีวิตแบบนี้เหรอ ทั้งสองเดินเข้าลิฟต์ไปยังชั้นที่ 29 ท่านประธานเดินออกจากลิฟต์ เขาเดินเข้าบริษัทไปพร้อมกับทศ ทุกคนในบริษัทต่างสงสัยว่าใครที่เดินตามท่านประธานมา

ที่ห้องทำงานของท่านประธาน ลู่เฟยกับเลขาส่วนตัวได้รอเขาอยู่ที่ห้องแล้ว เมื่อท่านประธานเดินเข้ามาพร้อมกับทศ เขาตื่นเต้นมากแค่เพียงเขาเห็นด้านหลังเขาก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นลู่เฟยชายหนุ่มผิวขาว สูง นั่งอยู่อย่างสง่างามช่างงดงามยิ่งนัก เขายิ้มเล็กน้อยและเก็บอารมณ์ตื่นเต้นไว้ ทั้งสองลุกขึ้นเมื่อท่านประธานเดินเข้ามาพร้อมกับกล่าวคำทักทาย

ลู่เฟยพูด “วันทำไมวันนี้ถึงเรียกฉันมาแต่เช้าละ”

วันพูด “ขอโทษทีเพื่อน ที่ต้องเรียกนายกับผู้จัดการมาวันนี้ ฉันอยากให้พวกคุณรู้ว่า นี่..คือ บริการ์ดคนใหม่ของนาย”

ลู่เฟยพูด “ฉันบอกนายตอนไหน ว่าต้องการบริการ์ด”

วันหันมองผู้จัดการส่วนตัวของลู่เฟย ก่อนจะพูด “พวกคุณทั้งสองออกไปก่อน” ทศรู้ทันทีว่าเขาต้องออกจากห้องนี้ก่อน

วันเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงาน ลู่เฟยนั่งตรงข้ามกับเขา

ลู่เฟยถามด้วยความสงสัย “ฉันไม่ชอบบริการ์ดนายก็รู้ กี่คนแล้วที่นายหามาก็อยู่กับฉันไม่ได้สักคน”

วันพูด “ก็นั้นเป็นเพราะนาย...ขอร้องละเพื่อน ช่วยฉันสักเรื่อง ถ้าฉันไม่ให้เขาทำงานเป็นบริการ์ดนาย ฉันแย่ แน่ ๆ”

ลู่เฟยถาม “อะไรของนายที่ว่าแย่”

วันพูด “เจ้าหมอนี้ คืนลูกบุญธรรมของพ่อ และนั้นก็หมายถึง เขาก็ต้องเป็นน้องชายฉันด้วย แม้ฉันจะไม่เต็มใจเท่าไรก็ตาม”

ลู่เฟยพูด “แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉัน”

วันพูด “พ่อฉันส่งเขามาเพื่อให้เป็นบริการ์ดนาย ถ้าฉันไม่รับและนายไม่ช่วยฉัน พ่อจะถอนหุ้นทั้งหมดทุกเครือข่ายของฉัน นายคิดว่าฉันจะปฏิเสธได้มั้ย”

ลู่เฟยขมวดคิ้ว แล้วส่ายศีรษะ “พ่อนายนี่ก็แปลก”

วันพูด “ถ้านายอยากรู้เหตุผลนายค่อยถามจากเขาเองแล้วกัน”

ลู่เฟยพูด “ให้ตายเถอะ ฉันต้องช่วยนายใช่มั้ยนี่”

ด้านนอก ทศกับผู้จัดการส่วนตัว

 “ผมชื่อทศครับ”

เธอพูด “ฉันหมิง เธอพูดภาษาจีนเก่งนี่”

 “ครับ”

หมิงพูด “นายเป็นคนที่ 17 แล้วในรอบ 1 ปีมานี้ ที่ลู่เฟยเปลี่ยนบริการ์ด”

 “เหรอครับ”

หมิงพูด “เป็นธรรมดาของคนรวย ชอบใช้ชีวิตอิสระไม่ต้องมีคนคอยคุม แต่บางทีลู่เฟยก็เอาใจยากนะ นายจะรับไหวเหรอ ไหนจะแฟนคลับเขาอีก ไหนจะพวกโรคจิตที่คลั่งดาราเกินขอบเขตอีก ไหนคนที่ไม่ชอบอีก ไหนเรื่องปมหลังที่มีต่อบริการ์ดอีก รับมือไหวเหรอ”

ทศพูด “แบบนี้ถึงต้องมีบริการ์ดไง”

หมิงพูด “ฉันก็ไม่เข้าใจว่าทำไมลู่เฟยถึงไม่ชอบบริการ์ด ฉันเองก็มาทำงานกับเขาได้ 3 เดือนเอง เลยไม่เข้าใจเขาเหมือนกัน”  ทศมองหน้า หมิงเขารู้ดีว่าหมิงต้องโกหกแน่ ๆ แต่เขาก็ไม่ได้ติดใจอะไร

ทันใดนั้นประตูห้องท่านประธานก็เปิดออก ลู่เฟย เดิน ออกมาพร้อมกับท่านประธาน

ลู่เฟยหันมาพูดกับผู้จัดการส่วนตัว “ พี่หมิง มอบตารางงานให้เขาด้วย ตั้งแต่นี้เขาจะไปรับ-ส่งผม แทนพี่ พี่แค่ตรวจคิวรับงานและเสื้อผ้าให้ผมก็พอ ตั้งแต่นี้ เจ้าหมอนี้จะทำหน้าที่นี้แทนพี่เอง”

หมิงพูด “ได้คะ” เธอรู้สึกโล่งออกที่มีคนทำหน้าที่แทนเธอ

ลู่เฟยหันมองทศที่ยืนอยู่ “หวังว่าคงไม่สายนะ พรุ่งนี้เราเริ่มงานกัน” แล้วลู่เฟยก็เดินจากไป

ทศยิ้ม เขาคิด เอาแต่ใจจริง ๆ ด้วย แต่ก็หน้ารักดี

ท่านประธานพูด “ไม่ง่ายนะที่จะเป็นบริการ์ดลู่เฟย”

ท่านประธานเดินเข้าห้องไป ทศเดินตาม

“ผมถามได้ไม่ครับ”

ท่านประธานพูด “จะถามอะไร”

“ทำไมเขาถึงไม่ชอบบริการ์ด”

ท่านประธานมองหน้าเขา แม้เขาจะรู้เหตุผล “ ใครบอกนาย”

ทศพูด “ดูง่ายจะตาย ท่าทีที่เขามองและพูดกับผม”

ท่านประธานพูด “ฉันคงบอกนายไม่ได้ ถ้าอยากรู้ก็ให้เจ้าตัวบอกเอง”

ท่านประธานเดินไปที่โต๊ะทำงาน เขานั่งมองทศที่ยืนอยู่

ท่านประธานพูด “นายรู้ใช่มั้ยว่าฉันไม่ชอบนาย”

 “ครับ”

ท่านประธานพูด “และรู้มั้ยว่าเพราะอะไร”

ทศเงียบ

 “ช่างมันเถอะ...นายจะซื้ออะไรก็ไปซื้อเถอะ ด้านล่างที่นี่เป็นห้างของพ่อ แค่นายยื่นบัตรนี้ นายก็ซื้อได้ทุกอย่างแล้ว” เขายื่นบัตรทองให้

เขาหยิบบัตรทองขึ้น แล้วพูดว่า “ชุดที่คุณเตรียมให้ผม ผมว่ามันไม่เหมาะกับผม ผมขอเลือกชุดเองได้มั้ย”

ท่านประธานมองหน้าเขา “ตามใจ ไปเลือกซื้อเอาเองแล้วกัน แล้วฉันจะออกจากที่นี่ เวลา 14.00 น. ไปเจอที่ลานจอดรถ อย่าให้ฉันค่อยละ”

“ครับท่านประธาน” เขาเดินออกไป ลงลิฟต์ไปชั้น 1 เขาเดินออกจากลิฟต์ ห้างใหญ่ดีจัง เหมือนกับในละครเลย

เขาเดินคิด นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ใช้ชีวิตที่อิสระแบบนี้ เขาเดินเข้าออกซื้อของที่จำเป็น ส่วนมากก็จะเป็นชุดเรียบ ๆ เสื้อยึด กางเกงยีน รองเท้า ไม่กี่ชุด ทุกคนเห็นบัตรทองต่างบริการเขาอย่างเต็มที่ นำเสนอทุกอย่างให้เขา เรารู้สึกดีกับชีวิตแบบนี้จัง

เมื่อเวลาใกล้บ่าย 2 เขามองนาฬิกาที่ซื้อมาใหม่ เดินออกไปที่ลานจอดรถ หลังห้าง ในมือถือถุงเสื้อผ้าแค่ไม่กี่ถุง เมื่อมาถึงรถ คนขับรถเดินมารับของจากมือของเขา

 “ท่านประธานละครับ”

คนขับรถพูด “กำลังลงมาครับ คุณทศเข้าไปรอในรถก่อนเถอะครับ”

“ไม่ละครับ ผมรอท่านประธานก่อน”

เมื่อท่านประธานมาถึง เขาก็เดินขึ้นรถทันที  ทศก็เดินขึ้นรถตาม

ท่านประธานพูด “ฉันให้บัตรทองนายซื้อของ ทำไมนายได้ของมาแค่นี้ละ”

เขายิ้ม “ผมต้องการของที่จำเป็นเท่านั้นครับ”

 “นายรู้มั้ยของที่จำเป็นที่สุดตอนนี้สำหรับนายคืออะไร”

ทศมองหน้าเขาด้วยสีหน้า งง ๆ

ท่านประธานหัวเราะ “นายไปอยู่ที่ไหนมาถึงไม่รู้ว่าอะไรสำคัญที่สุดเวลานี้”

มันยิ่งทำให้ทศสงสัยมากไปอีก

ท่านประธานยื่นกล่อง ๆ หนึ่งให้เขา “นายต้องใช้มัน ฉันต้องติดต่อนายได้ ลู่เฟยเองก็ต้องติดต่อนายได้ด้วยเช่นกัน”

เขามองกล่องที่ท่านประธานส่งให้ “นี่มันมือถือ”

ท่านประธานพูด “หวังว่านายคงใช้เป็นนะ”

ทศมองเขา “ขอบคุณครับ”

ท่านประธานส่ายหน้าก่อนจะบอก “ในเครื่องของนายจะมีเบอร์ของฉัน และของลู่เฟย และของผู้จัดการส่วนตัวลู่เฟย และพ่อเท่านั้น ฉันไม่อนุญาตให้นายให้เบอร์นี้กับคนนอกเข้าใจใช่มั้ย”

 “ครับ”

 

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.