ตอนที่ 11 เงื่อนไขก่อนแต่ง
หลังจากปฐพีกลับไปหญิงสาวก็ได้นั่งเหม่อคิดต่างๆนาๆกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นจนไม่เป็นอันทำอะไร……
……เที่ยงของอีกวันหลังจากประชุมเสร็จ ปฐพีกับอาทิตย์ได้เดินทางมายังโรงแรมหรูของนายการันต์ ก่อนจะถือวิสาสะขึ้นไปยังห้องทำงานส่วนตัวของดารินทร์โดยคนเป็นเจ้านายได้บุกเข้าไปหาหญิงสาวในห้องและมีอาทิตย์ลูกน้องคนสนิทยืนรออยู่หน้าประตูห้อง ทำเอาคนที่ก้มหน้าก้มตาทำงานในห้องถึงกับตกใจไม่น้อย
“นี่คุณ ไม่คิดจะขออนุญาติเจ้าของห้องเขาก่อนหรือไง”
ชายหนุ่มเดินตรงเข้ามายังโต๊ะทำงานของหญิงสาวก่อนจะใช้มือทั้งสองข้างยื่นมาค้ำบนโต๊ะและยังยื่นหน้าเข้าไปใกล้คนตัวเล็กที่นั่งทำงานอยู่ฝั่งตรงข้าม ทำให้เธอเผลอจ้องหน้าชายหนุ่มโดยที่ไม่ทันตั้งตัวก่อนจะพาสติตัวเองกลับมาและถอยเก้าอี้ออกห่างจากใบหน้าของชายหนุ่ม
“ถ้าผมขอ คิดว่าคุณคงไม่อนุญาติ”
ปฐพีตั้งใจพูดจายียวนเพื่อกวนประสาทหญิงสาวเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังเครียดกับงานจนเกินไป
“คุณมีธุระอะไรก็รีบพูดมาเถอะค่ะ ฉันไม่ได้ว่างมาต่อล้อต่อเถียงกับคุณ”
“ผมมารับคุณ ไปตัดชุดเจ้าสาวครับ”
เมื่อได้ยินแบบนั้นหญิงสาวถึงกับวางงานที่อยู่ตรงหน้า ก่อนจะลุกขึ้นไปยืนกอดอกมองออกไปนอกตัวอาคารผ่านกระจกบานใหญ่หลังโต๊ะทำงานเพื่อครุ่นคิดอะไรบางอย่าง เพราะถ้าเขาต้องการแบบนั้นจริงๆตอนนี้เธอคงไม่มีอะไรต่อรองได้
“ฉันคิดว่ามันเร็วไป ขอเวลาให้ฉันอีกสักนิดได้ไหมคะ”
“ไม่ว่าคุณจะยืดเวลาออกไปแค่ไหน คุณก็ต้องแต่งกับผมอยู่ดี”
ชายหนุ่มพูดพร้อมกับเดินเข้ามาประชิดด้านหลังของเธอ
“ฉันขอเวลาสามเดือนในการ
เตรียมความพร้อม”
ดารินทร์หันหน้ามาเผชิญกับชายหนุ่มพร้อมกับมือทั้งสองข้างที่ยกขึ้นมากอดอกและขอร้องเขาอย่างจริงจัง
“แต่ผมให้คุณได้แค่สามวัน เคลียร์ตัวเองกับครอบครัวของคุณให้เสร็จแล้วเราจะแต่งงานกันสัปดาห์หน้า”
“แต่คุณไม่มีสิทธิ์มาบังคับฉัน”
“แต่ผมมีสิทธิ์เอาพ่อคุณเข้าคุกวันไหนก็ได้ ถ้าผมไม่พอใจ”
หญิงสาวทำท่าไม่พอใจ ก่อนจะหันหลังให้เขาพร้อมกับถอนหายใจออกมาเสียงดังหลังจากรู้ว่าคำขอร้องของตนไม่เป็นผล
ชายหนุ่มเดินเข้าไปประชิดด้านหลังหญิงสาวอีกครั้งแต่ครั้งนี้เขาใช้ลำแขนแข็งแกร่งโอบรอบเอวของเธอก่อนจะดึงคนร่างเล็กเข้ามาแนบชิดกับอกแกร่งของตน ดารินทร์พยายามแกะมือของเขาออกแต่ชายหนุ่มกลับไม่ยอมปล่อยซ้ำยังกอดแน่นยิ่งขึ้นไปอีก เธอเองก็หมดแรงที่จะต่อสู้กับคนเอาแต่ใจ จึงยอมให้คนตัวสูงกอดแนบชิดอยู่แบบนั้นจนเขาพอใจ
“ผมสัญญาจะจัดงานแต่งของเราอย่างสมเกียรติไม่ให้คุณน้อยหน้าแขกที่มาในงานแน่นอน”
เขาพูดอยู่ข้างหูของเธอโดยคนตัวเล็กกว่าที่อยู่ภายในอ้อมกอดนั้นได้แค่รับฟังเพราะพูดอะไรไป ขอร้องอะไรไปเขาก็ยังยืนยันจะทำตามใจตัวเองอยู่เช่นเคย
“ตามใจคุณละกันค่ะ แต่ฉันขอร้องได้ไหม อย่าให้ใครรู้ว่าเราแต่งงานกันเพราะอะไร และอีกอย่างคุณอย่าขืนใจฉัน ถ้าฉันไม่เต็มใจนอนกับคุณ”
“เอาเป็นว่าผมสัญญานะอย่างแรก แต่อย่างหลังขอคิดดูก่อน”
“ถ้าเสร็จธุระของคุณก็ควรกลับได้แล้วค่ะ ฉันจะทำงานต่อ”
ดารินทร์แกะมือหนาที่เกาะกุมเอวคอดของเธอออกก่อนจะเอ่ยปากไล่ชายหนุ่ม
“ผมว่าเก็บงานของคุณก่อนดีกว่า นี่มันเที่ยงแล้วนะคุณไปทานข้าวกันก่อน ก่อนจะไปตัดชุดแต่งงาน”
“ฉันยังไม่หิวค่ะ…คุณณว้ายยย”
“ถ้าคุณไม่ไปดีๆผมต้องอุ้มคุณไปขึ้นรถกับผมเองแล้วล่ะ”
ดารินทร์ยังพูดไม่ทันจบประโยค ก็โดนชายหนุ่มช้อนร่างบางขึ้นมาอุ้มไว้พร้อมกับเตรียมก้าวขาจะออกจากห้อง ก่อนเขาจะขู่คนที่ดื้อรั้นให้อยู่หมัด
“ฉันยอมไปก็ได้ แต่คุณปล่อยฉันก่อน ฉันเดินเองได้น่า”
“พูดง่ายตั้งแต่แรกก็ไม่ต้องใช้กำลัง”
ปฐพีพูดพลางค่อยๆปล่อยร่างบางนั้นลงให้ยืนเองกับพื้น ขณะเท้าของคนตัวเล็กยังไม่ถึงพื้นดี ร่างบางก็ถูกรวบเอวให้เดินออกไปยังประตูโดยแขนยาวๆอีกข้างของชายหนุ่มยื่นไปคว้ากระเป๋าถือของหญิงสาวที่วางอยู่บนโต๊ะอย่างไม่เป็นปัญหา…
ทางฟากหน้าประตูห้องทำงานของดารินทร์ก็มีอีกคู่ที่คอยถกเถียงกันไม่เว้นว่าง
“นี่นายมายืนทำอะไรตรงนี้ไม่ทราบ”
ปริมเลขาคนสนิทของดารินทร์เดินถือแฟ้มเอกสารเพื่อจะนำมาให้เธอตรวจสอบและเซ็นต์อนุมัติเมื่อเสร็จงานตามที่ได้รับมอบหมาย
“ตอนนี้คุณรินทร์คงไม่ว่างเพราะคุยธุระสำคัญกับนายของผมอยู่”
“แต่ฉันมีเอกสารด่วนต้องให้คุณรินทร์เซ็นต์ย่ะ หลบไป”
“ก็ผมบอกยังเข้าไม่ได้ไง”
ปริมเองก็ยืนยันจะเข้าไปหาคนเป็นเจ้านาย ส่วนอาทิตย์ก็คอยขัดขวางเพื่อไม่ให้ปริมเข้าไปรบกวนนายตัวเองเช่นกัน ทั้งคู่ยื้อแย่งกันไปมาอยู่ตรงหน้าห้องจนในที่สุดประตูก็ถูกเปิดออกมาจากด้านในของห้อง ทำให้ทั้งคู่ล้มลงไปกองกับพื้นอย่างไม่เป็นท่า
ปริมเองก็ล้มทับอาทิตย์ไปเต็มแรง จนใบหน้าทั้งคู่แทบจะชนกันในขณะนั้นเองทำให้สายตาของทั้งคู่ประสานกันไปมาจนทั้งคู่หน้าแดงก่ำไปตามๆกัน
“ยัยปริม” , “อาทิตย์”
ปฐพีกับดารินทร์อุทานออกมาพร้อมกันเมื่อเปิดประตูออกมาพบว่าปริมกับอาทิตย์ลงไปนอนกองกันที่พื้นก่อนทั้งคู่จะลุกขึ้นยืนอย่างทุลักทุเล
“เอ่อ… ขอโทษครับนาย ขอโทษครับคุณรินทร์”
“ขอโทษค่ะคุณดิน คุณรินทร์”
อาทิตย์และปริมก้มหน้าเอ่ยขอโทษเจ้านายที่ทั้งคู่ทำกิริยาไม่เหมาะสมแบบนั้นไป
“เกิดอะไรขึ้นค่ะ”
ดารินทร์เอ่ยถามคนทั้งคู่
“พอดีปริมจะเอาเอกสารด่วนไปให้คุณรินทร์เซ็นต์ แต่อีตานี่ดันมาขวางประตูไว้ค่ะ”
“นี่คุณผมก็ทำตามหน้าที่ของผมเหมือนกันน่า จะโทษผมได้ไง”
ไม่ใช่แค่พูดเปล่าแต่สายตาสีหน้าท่าทางค่อนแคะของปริมที่ส่งไปทางคู่อริของเธอตอนนี้ยังน่าหมั่นใส้จนทำให้อีกฝ่ายไม่ยอมเช่นกัน
“เอาล่ะ เดี๋ยวรินทร์เซ็นต์ให้ค่ะ วันนี้คงไม่ได้เข้ามาบริษัทอีกฝากปริมดูแลความเรียบร้อยด้วยนะ”
“ได้ค่ะคุณรินทร์”
ดารินทร์ปรามทั้งคู่ก่อนจะทะเลาะกันไปมากกว่านี้ และเธอก็รีบเซ็นต์เอกสารด่วนให้กับปริมก่อนจะไปทานข้าวกับว่าที่เจ้าบ่าวของตน ที่เธอเองก็ไม่เต็มใจจะให้เป็นสักเท่าไหร่
หลังจากทานข้าวกันเสร็จสรรพปฐพีได้พาว่าที่เจ้าสาวของตนไปร้านตัดชุดแต่งงาน ดารินทร์มองไปรอบร้านตัดชุดเห็นได้ชัดว่ามันคงเป็นร้านที่ดีที่สุดและแพงที่สุดในเมืองภูเก็ตเลยก็
ว่าได้ เธอแอบนึกในใจว่าการแก้แค้นของเขามันต้องลงทุนถึงขนาดนี้เลยหรือไงกัน
“เจ้าสาวสวยจังเลยนะคะ เหมาะสมกันจริงๆเลยค่ะ”
พนักงานในร้านตัดเอ่ยปากชมดารินทร์ที่เธอทั้งสวยและผิวพรรรดีจนไม่มีที่ติในขณะที่เธอกำลังคิดอะไรเพลินๆ
“ขอบคุณครับ”
ปฐพีก็ภูมิใจไม่น้อยเพราะเขาเองก็รู้ว่าเขาไม่ได้อยากแก้แค้นด้วยวิธีนี้แต่เธอดันทำให้เขาหวั่นไหว ผู้หญิงที่ทั้งสวยทั้งเก่งมันถูกใจเขาไปหมดเธอเลยถูกดึงเข้ามาในการแก้แค้นครั้งนี้อย่างบังเอิญ
ในเวลาต่อมาดารินทร์ได้ลองสวมชุดเจ้าสาวที่ทางร้านเตรียมไว้ให้ ซึ่งเป็นชุดเดรสลูกไม้เปิดไหล่สีขาว ยาวลงมาทั้งชุดก่อนจะมาอวดแก่สายตาของชายหนุ่ม
“เป็นยังไงบ้างค่ะชุดเจ้าสาวที่ทางร้านเตรียมให้”
ปฐพีเงยหน้ามองเจ้าสาวของตนที่กำลังเดินออกมาจากห้องแต่งตัวเขาถึงกับลุกขึ้นยืนตาค้างจนไม่สนใจสิ่งรอบข้างเพราะดารินทร์ที่อยู่ในชุดเจ้าสาวนั้นสวยจนสะกดสายตาของชายหนุ่มอย่างอดใจไม่ไหว……
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 269
แสดงความคิดเห็น