ตอนที่ 12 วันเปิดตัว
……เช้าวันศุกร์สุดสัปดาห์ ดารินทร์ตื่นขึ้นมาพร้อมความกระวนกระวายใจไม่น้อย ผ่านวันหยุดนี้ไปกลางสัปดาห์หน้างานแต่งงานของเธอกับปฐพีก็จะถูกจัดขึ้นแล้ว แต่ตอนนี้เธอเองยังไม่พร้อมที่จะบอกใครสักคนแม้แต่คนเป็นพ่อกับแม่
“ฮัลโหลเชนต์ ออกมาเจอรินทร์ร้านคาเฟ่ข้างโรงแรมหน่อยได้ไหม”
“ได้สิรินทร์เดี๋ยวเจอกันนะครับ”
ในยามทุกข์ใจแบบนี้ดารินทร์เลือกที่จะปรึกษาเชนต์บ่อยครั้งแม้ว่าเธอจะไม่ได้ชอบเขาแบบคนรักแต่ทั้งคู่ก็เปิดใจคุยกันและตกลงเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเสมอมา ไม่นานนักทั้งคู่ก็ได้พบกันอีกครั้งในร้านคาเฟ่เล็กๆริมหาดห่างออกไปจากโรงแรมของเธอไม่ไกลนัก ร้านเล็กๆ สไตน์มินิมอลที่คนไม่ค่อยพลุกพล่านเท่าไหร่นักเธอจึงค่อนข้างชอบมานั่งในร้านนี้ เห็นจะเป็นร้านประจำเลยก็ว่าได้
พอเชนต์มาถึงก็ทักทายดารินทร์ที่นั่งและสั่งกาแฟรอไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“วันนี้หวังว่าเชนต์จะไม่โดนอุ้มอีกนะ”
เขาแซวเธอยกใหญ่หลังจากเดินเข้ามาในร้านและนั่งลงบนเก้าอี้ที่อยู่ตรงข้ามกับหญิงสาว
“รินทร์ขอโทษเรื่องวันนั้นนะเชนต์”
“ไม่เป็นไรหรอกรินทร์ ว่าแต่รินทร์มีเรื่องอะไรไม่สบายใจหรือเปล่าหน้าตาดูเครียดๆ”
ชายหนุ่มเอ่ยถามขึ้นด้วยความเป็นห่วงเมื่อเห็นสีหน้าไม่ค่อยดีนักของคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
“ก็มีเรื่องไม่สบายใจนิดหน่อยแหละเชนต์”
“พอจะระบายให้เชนต์ฟังได้บ้างไหม”
เชนต์คือเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอตอนนี้และเขาก็ยังรักและหวังดีกับเธอมาตลอด
“คือรินทร์กำลังจะแต่งงานค่ะ”
“เป็นเรื่องที่น่ายินดีครับ ว่าแต่ทำไมรินทร์ถึงได้ดูเครียดๆล่ะ”
“ก็เพราะว่ารินทร์กับเขาไม่ได้รักกัน แต่มีเหตุผลบางอย่างที่เราต้องแต่งงานกัน”
เมื่อได้ยินคำตอบของดารินทร์ก็ทำเอาคนฟังนิ่งไปสักพัก
“แล้วมีเหตุผลอะไรรินทร์ถึงได้ยอมแต่ง มันไม่มีทางออกอย่างอื่นแล้วหรือไง”
ดารินทร์เองก็เงียบไปสักพักในใจของเธอก็ตั้งคำถามนี้อยู่เช่นกัน
เธอเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเงื่อนไขของเขาคือการแต่งงานกับเธอเท่านั้นหรือ???
“รินทร์เองก็ไม่มีสิทธิ์เลือก และที่สำคัญเรื่องนี้รินทร์ยังไม่ได้บอกพ่อกับแม่ให้ท่านทราบ”
“แล้วมีกำหนดจะแต่งวันไหนครับ”
“สัปดาห์หน้าค่ะ”
“อะไรนะรินทร์ เชนต์ว่ามันเร็วไปหรือเปล่า”
ชายหนุ่มถึงกับตกใจเมื่อรู้ว่างานแต่งของเธอจะถูกจัดขึ้นในสัปดาห์หน้าซึ่งมันเร็วไปจริงๆ
“แล้วผู้ชายคนนั้นเป็นใครครับ ให้เชนต์ไปคุยกับเขาให้ไหม”
“คนที่เขาให้ลูกน้องจับตัวเชนต์ไปวันนั้นแหละ”
คำตอบของเธอทำเอาชายหนุ่มถึงกับอึ้งไปสักพักเพราะจากเหตุวันที่เขาถูกจับตัวไป เขาย่อมรู้ดีว่าชายคนนี้น่าจะเป็นมาเฟีย หรือไม่ก็คนใหญ่คนโตในแถบนี้เป็นแน่
“อย่าบอกนะว่าที่รินทร์จะต้องแต่งงานกับเขา เพราะเหตุผลทางธุรกิจ”
“ก็ส่วนหนึ่งแหละ”
แววตาของเชนต์จ้องมองดารินทร์ด้วยความเป็นห่วงก่อนชายหนุ่มจะดึงมือเธอมากุมไว้ด้วยมือหนาทั้งสองข้างของตนก่อนจะเอ่ยออกมาอีกครั้ง
“แล้วมีอะไรพอจะให้เชนต์ช่วยได้บ้าง”
“ช่วยปล่อยมือจากว่าที่เจ้าสาวของผมก็พอ”
เชนต์กับดารินทร์ถึงกับตกใจเมื่อได้ยินเสียงใครบางคนแทรกเข้ามาโดยที่ทั้งคู่ก็ไม่ทันได้มองว่าเป็นใครที่เปิดประตูเข้ามาในร้าน
“คุณ” ดารินทร์เอ่ยขึ้นพร้อมกับลุกขึ้นเดินไปขวางทางชายหนุ่มที่กำลังเดินมาสมทบและเชนต์เองก็ลุกขึ้นยืนตามประกบด้านหลังของเธอ
“กลัวผมจะทำร้ายเขางั้นเหรอ”
“นี่เชนต์ค่ะ เป็นเพื่อนของรินทร์เอง”
ดารินทร์รีบแนะนำคนทั้งคู่ให้รู้จักกันและทางฟากของเชนต์ก็ยกมือขึ้นมาขอทำความรู้จักซึ่งปฐพีเองก็จับมือเขาตอบโต้เช่นกัน
“ผมเชนต์ครับยินดีที่ได้รู้จัก”
“ผมดินครับ ยินดีเช่นกัน”
ชายทั้งสองคนจับมือกันแน่นในระหว่างนั้นยังใช้สายตาฟาดฟันกันอย่างไม่มีใครยอมใคร ในเวลาต่อมาทั้งคู่ก็ยอมปล่อยมือกันก่อนปฐพีจะเอ่ยขึ้นมาตัดบท
“ถึงเวลาแล้วที่ผมต้องไปทำความรู้จักพ่อแม่คุณ และบอกเรื่องของเรา”
“ขอให้ฉันเป็นคนบอกท่านเองเถอะค่ะ”
เรื่องสำคัญที่สุดในชีวิตของลูกผู้หญิงย่อมแน่นอนว่าเธอต้องเข้าใจหัวอกคนเป็นพ่อกับแม่ดี…
ในช่วงเย็นของวันเดียวกันนั้นดารินทร์ได้พาชายหนุ่มไปทานข้าวที่บ้านของเธอแม้เจ้าของบ้านไม่ค่อยเต็มใจสักเท่าไหร่ก็ตาม
“สวัสดีครับคุณพ่อ คุณแม่”
ปฐพียกมือไหว้พ่อกับแม่ของฝ่ายหญิงอย่างนอบน้อมเมื่อทั้งคู่ได้มาถึงบ้านของเธอและในเวลาต่อมาดารินทร์ก็ได้แนะนำชายหนุ่มให้รู้จักกับพ่อแม่ของตนซึ่งคนเป็นพ่ออย่างนายการันต์ก็แสดงออกได้ชัดเจนว่าไม่ชอบชายหนุ่มเพราะรู้ตั้งแต่ต้นว่าเขาเป็นใครและเข้ามาในครอบครัวของตนเพราะเหตุผลอะไร
“รินทร์ พ่อขอคุยด้วยหน่อย”
ดารินทร์ไม่เอ่ยอะไรนอกจากเดินตามคนเป็นพ่อออกไปนอกตัวบ้าน
“คุณพ่อ ฟังรินทร์ก่อนนะคะ”
“มีคนตั้งเยอะตั้งแยะทำไมต้องเป็นมันด้วย ลูกคิดอะไรอยู่”
“แต่รินทร์มีเหตุผลของรินทร์ค่ะคุณพ่อ”
“เหตุผลอะไรของลูก อย่าบอกนะว่ารินทร์ชอบมัน”
“ใช่ค่ะ รินทร์ชอบเขา”
หญิงสาวตอบพ่อไปแบบนั้นทั้งที่ไม่ได้อยากเอ่ยมันออกมาแต่เธอก็ไม่อยากให้พ่อรู้ว่า ผู้ชายคนที่เธอจะแต่งงานด้วยพยายามจะเอาพ่อของเธอเข้าคุก
หลังจากสองพ่อลูกสนทนากันอย่างเคร่งเครียดอยู่สักพัก บทสนทนานั้นก็จบลงด้วยความเงียบของทั้งคู่ ก่อนจะพากันเดินเข้าบ้านเพื่อร่วมโต๊ะอาหารที่แม่บ้านและคุณฤทัยได้จัดเตรียมไว้ให้
“รินทร์กับคุณดินเราจะแต่งงานกันสัปดาห์ค่ะ”
ในระหว่างนั่งทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากันดารินทร์ก็ได้เอ่ยขึ้น
จนคนเป็นพ่อกลืนข้าวไม่ลงคอ ก่อนจะวางช้อนกับส้อมลงบนจานและลุกขึ้นทันที
“จะทำอะไร ต่อไปคงไม่เห็นหัวพ่อกับแม่แล้วสิ”
หลังจากสบถคำพูดนั้นออกมาด้วยความโมโหนายการันต์ก็ได้เดินออกไปจากโต๊ะอาหารทันที
“คุณพ่อคะ”
ดารินทร์ได้แค่ร้องตามแต่ไม่ทันเสียแล้วที่คนเป็นพ่อจะรับฟัง
“มันไม่เร็วไปหน่อยหรอลูก”
คุณฤทัยเอ่ยถามลูกสาวของตนเมื่อเห็นว่าทุกอย่างค่อนข้างกระทันหันจนดูแปลกๆไป
“ผมว่าไม่เร็วไปหรอกครับ เราสองคนรักกันและอยากมีครอบครัวเร็วๆ จริงไหมคุณ”
ชายหนุ่มพูดพรางใช้มือยื่นไปโอบไหล่หญิงสาวด้วยท่าทางระรื่น ส่วนคุณฤทัยเมื่อได้ฟังเช่นนั้นก็ไม่มีอะไรจะพูดต่อไปได้อีก
“งั้นก็ตามใจลูกทั้งสองคนก็แล้วกัน แม่ขอตัวไปดูพ่อก่อน”
หลังจากพูดจบแม่ของหญิงสาวก็ได้ลุกขึ้นและเดินตามคนเป็นพ่อออกไปจนตอนนี้เหลือแค่เขาและเธอที่นั่งร่วมโต๊ะกัน และหญิงสาวก็ได้ปัดมือหนาของเขาออกจากไหล่ของตน
“สะใจคุณหรือยัง ที่เห็นครอบครัวฉันต้องมาทะเลาะกัน”
หลังจากพูดจบดารินทร์ก็ลุกจากเก้าอี้แต่โดนชายหนุ่มคว้าข้อมือไว้ได้ทัน
“แล้วนั่นคุณจะไปไหน”
“ฉันอิ่มแล้ว คุณเองก็ควรจะกลับได้แล้วเหมือนกัน ฉันส่งคุณแค่นี้นะคะ”
ดารินทร์สบัดข้อมือของตนออกจากมือหนาของเขา ก่อนจะเดินหายไปอีกคน ปล่อยให้คนเป็นแขกของบ้านนั่งถอนหายใจอยู่ที่โต๊ะกับข้าวเพียงลำพัง…
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 307
- 👍 ถูกใจ
แสดงความคิดเห็น