บทที่ 4 การเอาคืนของรูรุ 2/2
บทที่ 4 การเอาคืนของรูรุ 2/2
ปัง ปัง ปัง
เสียงปืนดังสนั่นขึ้นอีกครั้ง ทำให้ไบรท์และรูอาหยุดชงัก พวกเขาทั้งสองหันมองรูรุที่เป็นคนเหนี่ยวไกปืน แสงจากกระสุนปืนส่องสว่างในความมืด ก่อนที่ชายหนุ่มผมฟ้าจะทะยานร่าง แล้วนำแขนที่แข็งแกร่งมาอบกอดไบรท์
รูรุใช้วงแขนอันแข็งแกร่งโอบร่างกายอันเล็กจ้อยของไบรท์เอาไว้ ตาของรูรุมองไปยังบางสิ่งที่ค่อย ๆ โผล่ออกมากจากพื้นถ้ำ มันมีรูปร่างไม่ใหญ่ไม่เล็ก ลำตัวยาวอวบอ้วนชูคอ ปากอ้ากว้างเหมือนกับว่าเจ้าสิ่งนั้นต้องการเขมือบคน น้ำลายของเจ้าสิ่งนั้นไหลยืดยาว มันคำรามลั่น ก่อนที่จะพุ่งร่างเข้าไปหาหญิงสาวซัคคิวบัสอย่างรวดเร็ว
รูอาถอยหลบอย่างฉับไว หญิงสาวกลางปีกที่อยู่บนแผ่นหลัง ก่อนที่จะบินหนีไปอย่างรวดเร็วโดยที่ไม่คิดจะมองชายหนุ่มทั้งสองอีก
“เห*้ยนี่มันตัวอะไรวะเนี่ย”” รูรุสบด ก่อนที่จะกระหน่ำยิงอย่างไม่หยุดยั้ง
ปัง ปัง ปัง
เสียงปืนคำรามรวดเร็วราวกับจับวาง ชายหนุ่มเร็งยิงไปยังลำตัวอ้วนๆของมัน แต่ทว่ากระสุนที่ยิงออกไปนั้นกลับไม่สามารถเจาะลำตัวของสัตว์ตรงหน้าได้
สัตว์ประหลาดลำตัวยาวดุจดั่งงูยักษ์ มีขาขนาดใหญ่จำนวนสีข้างกำลังชูคออ้าปากกว้าง ฟันแหลมคมหากมีใครถูกเจ้าตัวนนี้กืนเข้าไปคงจะต้องตกตายเป็นแน่ สัตว์อสูรตัวร้ายคำรามมันหันซ้ายหันขวาเพื่อหาเหยื่อใหม่ มันถูกการตู่และพลังเวทประหลาดปลุกให้ตื่น
จากการหลับไหล พลังเวทมนตร์อัหอมหวนราวกับเวทมนตร์ของพระเจ้า แต่ยังเยาวัย หากปล่อยให้ผู้ที่ใช้เวทคนนี้เติบโตและแข็งแกร่งมากกว่านี้ เกรงว่ามันคงหมดโอกาศที่จะได้กืนกินเด็กคนนั้นลงท้องเป็นแน่
มันคำรามแล้วกวาดตามองสำรวจไปรอบ ๆ ก่อนที่จะพบกับเหยื่อที่มันปรารถนา มันเลียริมฝีปากก่อนที่จะเตรียมตัวจุ่โจม
ไบรท์มองท่าทางของสัตว์ประหลาดตัวมหึมาที่มีท่าทางแปลกไปตรงหน้า ก่อนที่จะหันไปถามรูรุที่ยืนทำตัวไม่ถูก
“หนีสิยืนทำไม พลังเวทของฉันยังไม่คืนกลับมาเลย ต่อให้เราอยากจะต่อสู้กับมันเราก็คงทำอะไรไม่ได้”
“ฉันกำลังคิดอยู่ว่า เจ้าตัวนี้มันคือตัวอะไร ฉันไม่เคยอ่านเจอในสารานุกรมสัตว์ในตำนานเลย”
“มันคงจะเป็นพันธุ์ผสมหรือเปล่า ไอ้ตัวหน้าตาอุบาทชาติชั่วแบบนี้คงไม่มีอยู่ในสารอนุกรมหรอก แต่ว่าแทนที่จะเอาเวลาไปคิดเรื่องพวกนี้สู้พวกเราหาวิธีหนีไม่ดีกว่าหรือไง ถ้าขืนยังปล่อยไว้แบบนี้พวกเราถูกมันแดกแน่ ๆ ดูสิมันจ้องมองมาทางฉันด้วย”
ไบรท์ชี้นิ้วประกอบ สัตว์ประหลาดตัวใหญ่ยาวยักษ์ทะยานร่างมาตรงหน้าพวกเขาอย่างรวดเร็ว ถึงแม้ลำตัวของมันจะมีขนาดใหญ่แต่ความเร็วของมันนั้นกลับไม่ด้อย สัตว์อสูรร้ายอ้าปากกว้างพร้อมที่จะเขมือบ 2 หนุ่มลงไปในท้อง
แต่ก่อนที่มันจะได้เขมือบ รูรุก็นำปืนยิงเข้าใส่ลูกตาของมันเสียก่อน การเคลื่อนไหวที่กำลังพุ่งมาหยุดชะงักในทันใด หลังจากนั้นสัตว์ประหลาดร้ายก็ร้องเสียงดังลั่น
“อย่างนี้นี่เอง ต่อให้จะไม่สามารถเจาะทะลุลำตัวมันได้ แต่ถ้าเล่นส่วนที่เป็นอวัยวะที่เปราะบางก็ไม่สามารถต้านทานลูกปืนได้สินะ” ไบรท์มองท่าทางทุรนทุรายก่อนที่จะหันมากล่าวชมรูรุที่ยืนอยู่ข้างๆ
“ฉันไม่มั่นใจเหมือนกัน แต่ว่าขืนปล่อยไว้พวกเรานั่นแหละจะซวย อีกแค่ไม่ถึง 10 เมตรมันก็จะมาถึงตัวของพวกเราแล้ว หลังจากนั้นก็คงไม่ต้องสาธยายนะ ว่าพอมันมาถึงตัวของพวกเรามันจะต้องทำอย่างไรต่อ ตัวใหญ่ขนาดนั้นคงจะกินพวกเราไปได้อย่างง่ายดาย พวกเราก็เหมือนกับแมลงตัวเล็กๆของมันนั่นแหละ แต่ว่าด้วยปืนเวทย์มนต์ที่มีอานุภาพสูง กระสุนที่ฉันได้มาสามารถเจาะอวัยวะภายในของมันได้ ต่อไปฉันจะเล็งยิงที่ดวงตาของมันแต่ว่า”
เด็กหนุ่มผมฟ้ายกปืนเล็งมั่น ก่อนที่จะเหนียวไก่อีกครั้งไปที่ดวงตาข้างขวา สัตว์อสูรร้ายร้องก่อนที่จะนำหัวของตนเองไปชนที่ผนังถ้ำ
“กระสุนแบบนี้ฉันเหลืออีกไม่เท่าไหร่ ถ้าพวกเราต้องเจอตัวพันนี้อีกพวกเราคงไม่สามารถรอดได้แน่ ๆ ดังนั้นฉันจะไม่สังหารมัน แต่จะปล่อยมันแล้วพวกเราก็หนีดีกว่าตอนนี้น่าจะถ่วงเวลาได้สักพัก”
“ไม่เห็นด้วย พรุ่งนี้ฉันไม่เห็นด้วย “
“ทำไมล่ะ” รูรุมองเด็กหนุ่มผมดำตรงหน้าด้วยท่าทางงงงวย เขาคิดว่าแผนการที่เขาคิดออกมานั้นดีที่สุดในสถานการณ์แบบนี้แล้ว ถ้าฝืนดันทุรังต่อสู้และสังหารสัตว์ตรงหน้าต่อไป เขาคิดว่ามันคงให้ผลร้ายมากกว่าผลดีเป็นแน่
อย่างแรกการเดินทางข้างหน้าไม่รู้ว่าพวกเขาจะต้องไปเจอตัวอะไรอีก อย่างที่ 2 การต่อสู้กับสัตว์ตรงหน้าโดยที่มีกำลังลบไม่ผอมมันจะสร้างความเสียเปรียบในระยะยาว
ไบรท์เริ่มชี้แจง “ที่ฉันไม่เห็นด้วยกับเพราะว่า ถ้าเราปล่อยเจ้าตัวแบบนี้ต่อไปถ้าอาการบาดเจ็บมันหายดีแล้วมันอาจจะย้อนมาทำร้ายพวกเราก็ได้ เพราะตอนนั้นพวกเราต้องต่อสู้กับสัตว์แบบนี้อีก พวกเราก็ต้องตายสถานเดียวไม่มีทางใดที่พวกเราจะรอดได้ แต่ถ้าเราจับกันสักตัวแบบนี้ไป อสูรแบบนี้ต่อให้พวกเราเจออีกพวกเราก็คงจะต้องหาวิธีกำจัดมันจนได้”
“ถึงจะพูดแบบนั้นแต่ว่าพวกเราก็ไม่สามารถหนีไปได้ทันทีใช่ไหมล่ะรูรุ หรือว่านายคิดว่ายังไง สำหรับฉันถ้าฉันเลือกได้ฉันจะกำจัดหมอนี่ไปเลยดีกว่า”
รูรุเห็นพ้องกับความคิดของเด็กหนุ่ม แต่ว่าการที่จะกำจัดสัตว์อสูรประเภทนี้ มันต้องใช้พลังลบหรือนักเวทย์ระดับสูง ตอนที่เขาทำให้สัตว์ตัวแบบนี้บาดเจ็บได้มันก็ถือว่าเป็นปฏิหารแล้ว
“ฉันได้วาดวงเวทย์อัญเชิญทิ้งไว้ ถ้าเราสามารถอัญเชิญอสูรหรือลูกครึ่งเทพคล้าย ๆ คาเสะมินาโตะฉันว่าเราก็คงมีโอกาสชนะได้ แต่ถ้าไม่สามารถอัญเชิญพวกเราก็ต้องหนี นี่แหละคือความคิดของฉัน”
รูรุยิ้ม “อย่างนี้นี่เอง นายจะให้ลูกครึ่งเทพอสูรนั่นมาจัดการสินะ แต่ว่าถ้าเราทำพันธะสัญญากับอสูรตัวใดตัวหนึ่งไปแล้ว แล้วคนทำสัญญานั้นยังไม่ถูกยกเลิก การอัญเชิญซ้ำมันอาจจะส่งผลร้ายต่อนักเวทย์ก็ได้นะ แต่ว่าเรื่องนี้ก็ไม่มีใครรู้แน่ชัด นั่นก็เพราะว่าคนที่จะอัญเชิญอสูรซ้ำมันไม่ค่อยมีหรอก”
ไบรท์พยักหน้า “ฉันใช้ธาตุลมได้นิดหน่อย แต่ว่าตอนนี้พลังเวทย์ของฉันเหลือน้อยเต็มทีแล้ว ดังนั้นการอัญเชิญมันจึงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ต่อให้จะต้องเสียสักแค่ไหนก็ต้องอัญเชิญสัตว์อสูรหรือไม่ก็ลูกครึ่งเทพอสูรออกมาให้ได้ ถ้าเป็นธาตุลมก็จะยิ่งดีถ้าเกิดสัตว์อสูรตัวใหม่ใช้ธาตุไฟก็ไม่ใช่เรื่องที่เสียหาย เมื่อใช้ธาตุไฟหรือธาตุลมได้มาเสริมกับพลังเวทย์ที่อยู่ในร่างกายของฉันตอนนี้พวกเราก็จะสามารถย่างสดมันได้”
รูรุชี้ไปที่สัตว์อสูรที่กำลังดิ้นทุรนทุราย “นายจะย่างสดเจ้าตัวแบบนี้เนี่ยนะ ไม่บ้าก็เพี้ยนไปแล้วแต่ว่าก็น่าสนุกดี แต่ว่านายจะว่าวงเวทใหม่หรือว่ายังไงล่ะ ภาพวาดวงเวทย์ใหม่ก็คงใช้ระยะเวลาแล้วดูจากการฟื้นตัวของสัตว์อสูรตรงหน้า มันก็คงไม่พอกับการที่จะให้นายได้ว่าหนูไม่เสร็จหรอก แต่ถ้าจะวิ่งไปเพื่อใช้วงแหวนเดิมที่ว่าทิ้งไว้มันก็เสี่ยงเกินไป”
ไบรท์ยิ้ม ก่อนที่จะค่อย ๆ จับแขนอันแข็งแรงและอบอุ่นของชายหนุ่มตรงหน้าออกจากลำตัว ชายหนุ่มผมฟ้าที่มีหน้าตาคล้ายคลึงกับสตรีมองการกระทำของเขาอย่างโง่งม ก่อนที่เขาจะหันมาพูด
“หรือว่า”
ไบรท์พยักหน้ารรับ “มันก็แน่นอนอยู่แล้ว ฉันจะไปใช้วงไม่ที่เคยว่าทิ้งไว้น่ะสิ”
หญิงสาวผมสีเขียวลืมตาขึ้นอีกครั้ง ตอนนี้เธอมาอยู่ในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย เธอสะบัดหัวไร้ความมึนงง แสงสุริยันสาดส่องไปทั่วรอบๆบริเวณ ทำให้หญิงสาวตื่นเต็มตาได้ไม่ยาก หากเธอจำไม่ผิด คาเสะคิดว่าตอนนี้เวทมนต์พันธสัญญาคงจะยกเลิกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ต่อดูจากสถานการณ์ตรงหน้ามันคงไม่ได้เป็นไปอย่างที่เธอคิด วงเวทย์พันธสัญญาที่ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่ายังคงอยู่ การจุมพิตที่มิได้เล่าร้อนแต่เธอยังนึกถึงมันอยู่เสมอ อย่างไรก็ตามนั้นมันก็เป็นจูบแรกที่เคยได้มอบให้กับชัยหนุ่มคนอื่น
หากเลือกได้หญิงสาวก็อยากรักษาความบริสุทธิ์นี้เอาไว้ แต่มันคงเป็นไปได้แค่ในฝัน การสูบหรือการจุ่มคิดนั้นเป็นเครื่องหมายมั่นหมายของราชวงศ์ แต่เหมือนกับว่าการกระทำดังกล่าวมันจะไม่ได้อยู่ในจิตสำนึกหรือความรับรู้ของเด็กหนุ่มตัวน้อย
หญิงสาวสะบัดหน้าไล่ความคิดในหัว ก่อนที่จะร่ายเวทย์ถังลมเพื่อพยุงร่างกาย
“ไม่รู้ว่าที่นี่เป็นที่ไหน แต่ว่าก็ต้องหานายให้เจอ อนาคตว่าที่สามีของเรา และเป็นผู้ที่ทำพันธะสัญญากับเราไบรท์”
riter talk
สวัสดีนักอ่านที่กำลังติดตามผลงานทุกท่านนะครับ ผมจะทยอยอัพนิยาย 1 วันต่อตอน ถ้าใครสนใจก็ติดตามอ่านเรื่องนี้ไม่เทแน่นอนครับ ส่วนคนที่สงสัยว่าทำไมถึงไม่แต่งนิยายเรื่องเกิดใหม่เพื่อไปเปลี่ยนโลกต่อ มันก็เป็นเพราะว่าตอนนี้กำลังทำการแก้ไขและปรับปรุงเนิยายเรื่องเกิดใหม่เพื่อไปเปลี่ยนโลก
2 เนื่องจากการเขียนนิยายเรื่องนี้ เป็นเรื่องที่ 2 ทำให้สำนวนคงที่และไม่มีการเปลี่ยนแปลงสำนวนครับ แต่ว่าเนื่องจากดร๊าฟนี้เป็นดร๊าฟแรก หากมีคำผิดหรือคำตกหล่นประการใดผมก็ขอประทานอภัยมาณที่นี้ด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ
3 เนื่องจากผมต้องการหารายได้จากการเขียนนิยาย แต่ว่าก็ยังลังเลใจอยู่ว่าจะติดเรียนเลยดีไหม ดังนั้นผมเลยทำอย่างนี้ครับผมจะติดเหรียญจะลงตอน 4 ให้อ่านก่อน 3 วัน หลังจากนั้นก็จะติ่งเหรียญ 2 เหรียญ จุดประสงค์ของผมก็คืออยากให้ทุกคนอ่านนิยายเรื่องนี้อย่างมีความสุข และไม่ต้องเสียตังค์ ดังนั้นถ้าใครอยากอ่านโดยที่ไม่ต้องกดซื้อก็อ่านก่อนเลยนะครับ แล้วช่วงนี้ผมต้องสอบเตรียมตัวสอบ จบ และสอบ toeic กับ jlpt และ shkk ดังนั้นผมจะเขียนน้อยแต่จะอัพสม่ำเสมอนะคครับ จะเขียนประมาณ 3 หน้า A4 ตัวอักษร 14 อยู่ใน Google doc
ขอบคุณนักอ่านทุกคนที่ติดตามนะครับ
4 เนื่องจากผมเป็นผู้ที่บกพร่องทางการเห็นดังนั้นถ้าการจัดหน้าไม่ถูกไม่ควรอย่างไร หรือเพื่อนๆมีความรู้สึกว่าอ่านยากกรุณา comment บอกได้เลยนะครับเดี๋ยวผมจะไปเปลี่ยนการจัดหน้าให้ เพราะว่าโปรแกรมอ่านหน้าจอของผมมันไม่แจ้งเตือนว่าการจัดหน้าเป็นอย่างไร แต่จากการที่ผมสันนิษฐานคิดว่าเว็บที่เอาไปลงน่าจะมีระบบจัดหน้าให้อัตโนมัติ ขอบคุณนักอ่านทุกคนอีกครั้งครับ
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 280
แสดงความคิดเห็น