วาฬโต้คลื่น 5 หนูไม่ชอบสนามแข่งรถ

วาฬโต้คลื่น
คุณกำลังอ่าน: วาฬโต้คลื่น

-A A +A

วาฬโต้คลื่น 5 หนูไม่ชอบสนามแข่งรถ

วาฬโต้คลื่น 5 หนูไม่ชอบสนามแข่งรถ

 

"ไม่ใช่ เจอกลางคืน"
 

"อีเหี้ยวาฬ มึงไปทำอะไรที่สระกับเฮียคลื่นตอนกลางคืนวะ!!! "
 

เมื่อได้ยินคำตอบจากฉัน ทั้งโน่และจิ๊บก็แหกปากถามดังลั่นจนคนที่นั่งข้าง ๆ หันมามองแรงใส่อีกครั้ง และเดาว่าคนเขาคงรู้กันหมดแล้วว่าพวกเราคุยกันถึงเรื่องอะไรอยู่
 

ความลงความลับอะไร วาฬไม่เคยมีโอกาสได้รู้จักเลยตั้งแต่สนิทสนมกับเพื่อนที่มีกระบอกเสียงราวกับหอกระจายข่าว
 

"ก็รู้ตัวว่าสร้อยหายตอนกลางคืนไง เลยรีบกลับไปที่สระ แอบลุงยามแทบตายกว่าจะเข้าไปในสระได้แต่แม่งไปเจอกับหัวเขียวกำลังว่ายน้ำอยู่พอดี เขาคงเจอสร้อยกูตกอยู่ใต้สระก่อนหน้านั้นเลยจิ๊กมาเป็นของตัวเองหน้าด้าน ๆ "
 

"มึงจะใช้คำว่าหน้าด้านกับเฮียคลื่นไม่ได้อีวาฬ เฮียเขาแค่ไม่รู้ว่าสร้อยนั่นสำคัญกับมึงยังไงก็เท่านั้น"
 

จิ๊บออกโรงปกป้องเฮียคลื่นของมันอีกครั้ง ทำเอาฉันต้องหันไปมองบนใส่อย่างนึกหมั่นไส้ จนถึงวินาทีสุดท้ายมันก็ยังเลือกปกป้องผู้ชายอะคิดดู
 

เพื่อนเนรคุณ
 

"ไม่รู้แหละ ยังไงกูก็ต้องเอาสร้อยฉลามกลับคืนมาให้ได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหน ก็ต้องเอาคืนมาให้ได้!!! "

 

 

 

สนามแข่งรถ
 

เสียงดังของเครื่องยนต์จากรถคันหรูนับสิบคันในสนามแข่งดังแทรกเข้ามาในหูอีกครั้งเมื่อ ณ เวลานี้วาฬถูกลากมาที่สนามแข่งรถด้วยฝีมือของเพื่อนรักทั้งสองคน
 

โน่กับจิ๊บมันไปตามตารางแข่งของหัวเขียวมา แล้วก็เจอว่าวันนี้หัวเขียวมีแข่งรถที่สนามนี้พอดี
 

ในเวลา 6 โมงครึ่ง วาฬจึงต้องแบกสังขารที่ไม่ค่อยจะสู้ดีเท่าไหร่นักมาเพื่อต่อกรขอเจรจาทำสัญญาคืนสร้อย
 

อ่า
 

จริง ๆ มันไม่ควรจะเป็นการสัญญงสัญญาอะไรด้วยซ้ำ เพราะสร้อยก็สร้อยของวาฬ แต่เพื่อนทั้งสองน่ะมันบอกว่าเฮียคลื่นหรือไอ้หัวเขียวคนนี้ไม่เคยให้อะไรใครฟรี ๆ ถ้าอยากได้ก็ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนตลอด
 

โหย
 

นิสัยโคตรเสียเลยว่าปะ ไม่ควรมีคนนิสัยแย่ ๆ แบบนี้อยู่ในวงโคจรเดียวกับวาฬเลย ไม่เคยเจอกันตั้งเกือบสามปีแล้วทำไมถึงต้องให้มาเจอกันในปีนี้ด้วยวะ ไม่เข้าใจ
 

ไม่อยากรู้จักด้วย
 

"มึ้งงง เฮียเช็กรถอยู่ตรงนู้นโว้ย ผมเขียว ๆ อะ มึงรีบเข้าไปเร็วอีวาฬ"
 

กะเทยส่งเสียงเรียกเสียงดัง ก่อนจะหันมาดึงแขนฉันให้รีบเดินไปข้างหน้าแล้วชี้ไม้ชี้มือให้ดูคนหัวเขียวที่อยู่ตรงข้างสนามไม่ไกลเท่าไหร่นัก
 

เขากำลังนอนบนเบาะอะไรสักอย่างที่*คล้าย ๆ สเก็ตบอร์ดแต่กว้างกว่านิดหน่อย จากนั้นก็เลื่อนตัวเข้าไปอยู่ใต้ท้องรถเดาว่าคงกำลังเช็กเครื่องยนต์อยู่
 

เห็นฉลามเคยทำที่บ้านบ่อย ๆ ตอนยังไม่ตายน่ะ แต่วาฬไม่ชอบเลยไม่ค่อยเข้าไปยุ่งด้วย
 

บ่นจนปากแทบฉีกว่าขับรถเร็วมันไม่ดี ก็ไม่เคยฟังกันบ้าง
 

สุดท้ายเป็นไง...
 

แม่งทิ้งวาฬไปอยู่ที่ดาวมฤตยูเลยเห็นปะ
 

ใจร้าย...
 

"ให้พวกกูเข้าไปด้วยปะมึง"
 

จิ๊บเอ่ยถามในขณะที่สายตามันยังไม่ละไปจากเป้าหมายของพวกเรา
 

หึ...มองจากสายตาเพื่อนแวบเดียวแม่งก็รู้แล้วว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงไม่ได้อยากจะไปส่งฉันหรอก อยากไปแอ๊วหัวเขียวให้ติดกับความสวยของมันมากกว่า
 

แต่ฝันเหอะ หัวเขียวมันนิสัยไม่ดี
 

ไม่ผ่าน!
 

"ไม่ต้องเลย ขืนมึงไปกูไม่ได้ทวงสร้อยคืนพอดีอยู่ตรงนี้แหละรอ ถ้ากูส่งสัญญาณบอกไม่โอเค กูไม่ไหวแล้ว พวกมึงค่อยเข้าไปช่วยนะ เคปะ? "
 

ว่าแล้วก็ทำมือเชือดคอตัวเองแทนสัญลักษณ์ของความช่วยเหลือให้เพื่อนดู ซึ่งพวกมันก็ได้แต่พยักหน้ารับอย่างจำยอมแม้จะมีบ่นออด ๆ แอด ๆ ตามมานิดหน่อยก็ตาม
 

"จ้า ๆ มึงดักกูทุกทางเลยอีวาฬ อย่าให้รู้เชียวนะว่าแอบตกเฮียมาเป็นของตัวเองอะ"
 

"โหย คิดได้ไงวะจิ๊บ คนเขียวอื๋อเหมือนใบตองแบบนั้นใครมันจะไปอยากได้วะ แถมข้าวสารสิบถังกับทองคำอีกสิบแท่งกูยังไม่เอาเลยเหอะ"
 

"อย่ากลืนน้ำลายตัวเองแล้วกันอีวาฬ มึงจำคำมึงไว้นะ"
 

"กูจะจำขึ้นใจ เขียนติดผนังห้องไว้ด้วยเอ้า! "
 

"โอ๊ย! ชะนีพวกมึงหยุดเถียงกันสักทีได้ไหม จะรอให้เฮียแกขับรถชนริบบิ้นก่อนรึไงถึงจะเข้าไปหาสักทีเนี่ยยย! "
 

กะเทยเริ่มเดือดปุด ๆ ยืนเท้าเอวด่ากราดพวกเราในวินาทีต่อมา สุดท้ายเลยต้องยอมสงบปากสงบคำลงเพื่อมุ่งตรงไปยังเป้าหมายที่แท้จริงของฉันในวันนี้
 

ไอ้หัวเขียว!!!
 

เมื่อเดินเข้ามาในเขตสนามแข่งด้านใน ก็รับรู้ได้ถึงสายตาของผู้คนบนแสแตนได้เป็นอย่างดีโดยที่ไม่ต้องหันไปมองเลยด้วยซ้ำ แต่วาฬก็ทำเป็นใจแกร่งแล้วรีบเชิดหน้าวิ่งสับเท้าเข้าไปหาคนหัวเขียวที่กำลังเลื่อนตัวออกมาจากใต้ท้องรถ
 

"น้อง เข้ามาในนี้ไม่ได้นะ"
 

ทว่าก่อนจะทันได้วิ่งเข้าไปจู่โจมหัวเขียวกลับถูกเบรกไว้ด้วยผู้ชายร่างสูงใหญ่คนหนึ่ง เขาใส่เสื้อแจ็คเก็ตสีดำด้านนอกและมีเสื้อยืดคอกลมสีขาวอยู่ด้านใน สวมใส่กางเกงยีนสีซีดธรรมดาแต่กลับมองแล้วดูแพงแบบน่าเหลือเชื่อ
 

อืม...
 

คนนี้หล่อ แต่นิสัยเสียเพราะมาขัดจังหวะคนจะทวงสร้อยคืน
 

"ขอเข้าแป๊บเดียว หนูมีธุระกับหัวเขียว"
 

มองแล้วเขาน่าจะผู้ใหญ่กว่าเลยเลือกจะแทนตัวเองว่าหนูแล้วชี้มือไปยังคนหัวเขียวที่กำลังหันหลังให้
 

"เฮียคลื่นเหรอ"
 

"ค่ะ"
 

พยักหน้ารับ แต่แอบสงสัยนิดหน่อยว่าหัวเขียวนี่มันเป็นเฮียของทุกคนเลยรึไงกัน
 

"ธุระอะไรน้อง เฮียจะลงแข่งอีกห้านาทีนะ"
 

"แป๊บเดียวพี่ ธุระหนูสำคัญจริง ๆ ถ้าหมดเวลาหนูจะรีบวิ่งออกสนามเลย"
 

ฉันเอ่ยต่อรอง จนสุดท้ายพี่เสื้อแจ็คเก็ตดำก็ยอมพยักหน้าให้ในที่สุด พอได้รับการอนุญาตฉันก็รีบวิ่งเข้าไปประชิดตัวหัวเขียวทันที แต่ก็ยังรักษาระยะห่างไว้เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง
 

"นาย! "
 

เลือกจะเอ่ยทักทายเขาด้วยคำว่านาย แทนการเรียกชื่อเหมือนที่คนอื่น ๆ เรียก
 

"ไง"
 

หัวเขียวหมุนตัวกลับมาพร้อมกับยกยิ้มมุมปากขึ้น เขาไม่ได้ทำหน้าตาแปลกราวกับรู้อยู่แล้วว่าฉันจะมาหา
 

"ไม่ต้องมาไง เอาสร้อยฉลามคืนมา"
 

ฉันชี้มือไปที่คอของเขา เพื่อทวงสร้อยฉลามคืน แต่หัวเขียวหน้าด้านมากเลยนะถือวิสาสะใส่สร้อยของคนอื่นได้ยังไง
 

"ไม่คืน ทำไมต้องคืน มันเป็นของฉันแล้ว"
 

"จะเอาอะไรก็บอกมาดิวะ มันเป็นสร้อยของฉันอะ อยากได้คืนเข้าใจปะ"
 

เริ่มขมวดคิ้วมุ่นเพราะการเจรจาต่อรองไม่ได้ง่ายดายอย่างที่คิด เขาเลิกคิ้วข้างเดียวแล้วเริ่มใช้ดวงตาคู่คมสำรวจมองใบหน้าฉันด้วยสายตาแปลก ๆ
 

"มองไรวะ เอาสร้อยคืนมา"
 

เมื่อพูดดีแล้วไม่ให้ฉันเลยพยายามจะเขย่งตัวให้สูงเพื่อจะกระชากสร้อยฉลามออกมาจากคอของเขา รู้แหละว่าทำแบบนี้สร้อยอาจจะขาดได้ แต่วาฬยอมเสียเงินซ่อมสร้อยดีกว่าปล่อยให้อยู่บนคอของผู้ชายหัวเขียวคนนี้ต่อ
 

"อ้ะ! "
 

ทว่าในชั่วเสี้ยววินาทีถัดมากลับถูกเขารวบข้อมือทั้งสองของฉันไว้พร้อมกับดึงเข้าหาตัวจนรับรู้ได้ถึงลมหายใจอุ่นร้อนที่รินรดลงมาใกล้กับผิวแก้ม
 

กลิ่นเหมือนหมากฝรั่งรสมิ้นต์แตะอยู่ที่ปลายจมูก แต่ฉันไม่รู้ว่ามันเป็นกลิ่นตัวเขาหรือว่ากลิ่นอะไร
 

ไอ้คนที่ใส่ชุดนักแข่งอย่างเท่แต่สันดานเหี้ยจัดอะ...
 

ทำให้โมโหอีกแล้ว
 

"อยากได้คืนมาก? "
 

"เออดิ ไม่อยากได้จะถ่อมาหาถึงนี่ไหมล่ะ"
 

ฉันโต้กลับเสียงเบา ในขณะที่พยายามจะขืนตัวออกจากพันธนาการของเขา
 

"วิ้ดวิ้ววว คนของเฮียเหรอคร้าบบบ"
 

"น้องน่ารักนะเฮียยย เดี๋ยวนี้หัดมีสาวเหรอวะ"
 

"กรี๊ดดดดดดดด"
 

สัดเอ๊ย!
 

นั่นไงโดนจนได้ นี่แหละสิ่งที่วาฬไม่อยากให้มันเกิดขึ้น
 

"ปล่อยนะเว้ย จะจับไว้ทำไม"
 

ฉันโวยวายขึ้นมาอีกครั้งเมื่อคนที่กำลังจับแขนฉันรวบไว้สองข้างไม่คิดจะสนใจเสียงเอ่ยแซวของคนทั้งสนามเลย ตรงกันข้ามเขาเลือกจะยิ้มมุมปากราวกับกำลังสนุกที่ได้แกล้งฉันแทนด้วยซ้ำ
 

"เธอบอกว่าอยากได้คืนมากใช่ไหม สร้อยฉลาม..."
 

"ใช่ อยากได้"
 

ตอบกลับไปพร้อมกับเงยหน้าขึ้นสบตาคมของเขาตรง ๆ แม้จะรู้ว่าไม่ควรสบตากับเขาใกล้ ๆ แบบนี้แต่เพื่อสร้อยฉลามวาฬยอมทำทุกอย่าง
 

"งั้นก็ขึ้นมาเป็นตุ๊กตาหน้ารถให้ฉันหนึ่งวัน ถ้าวันนี้ฉันแข่งชนะเธอก็ได้สร้อยคืนไป"
 

"แล้วถ้าไม่ชนะ? "
 

เอาจริงก็ไม่อยากจะเอาชีวิตไปเสี่ยงตายกับหัวเขียวหรอกนะ แต่ทั้งหมดมันก็เพื่อสร้อยฉลามจริง ๆ
 

"ก็ไม่ได้คืนไง"
 

"เอ้า! เกี่ยวไรวะ ถ้าไม่ชนะมันก็เป็นเพราะนายเองปะที่แม่งไม่เก่ง แค่ขึ้นไปนั่งด้วยแค่นี้ก็ควรจะได้คืนแล้วปะ"
 

"ไม่ ถ้าฉันไม่ชนะก็ไม่ได้คืน"
 

เอ้า! ไอ้ห่านี่
 

จะเอาเปรียบกันไปถึงไหนวะ
 

"จะเอาไม่เอา ถ้าไม่เอาก็กลับบ้านไปกินนมซะ"
 

เขายอมปล่อยแขนฉันหลังจากเอ่ยประโยคนั้นจบ ก่อนทำท่าจะหันหลังให้เมื่อถูกผู้ชายอีกคนตะโกนบอกว่าตอนนี้เหลือเวลาอีกแค่ 1 นาทีก่อนลงแข่งจริง
 

"เฮีย อีกหนึ่งนาทีลงสนาม"
 

"ไม่ไปโว้ยยยยยย! "
 

ไม่น่าเลย....
 

คุณพระคุณเจ้าคุ้มครองลูกด้วย
 

สาธุ
 

ฉันยกมือพนมขึ้นก่อนจะสาธุเหนือหัวเมื่อสุดท้ายแล้วก็ต้องมานั่งอยู่บนเบาะข้างคนขับในรถสีดำเหลืองคันหรูนี่จริง ๆ ไม่รู้หรอกนะว่ายี่ห้อรถชื่ออะไรเพราะไม่เคยสนใจกับเรื่องอะไรแบบนี้เลยจริงๆ แม้แต่ก่อนฉลามจะเคยเอามาพูดให้ฟังบ่อย ๆ ก็ตามว่ารถคนนู้นคันนี้สวย
 

แต่วาฬก็ไม่สนใจ และไม่เคยจดจำอะไรเลย
 

การแข่งขันในครั้งนี้ดูเหมือนจะมีแค่หัวเขียวกับคนที่อยู่บนรถคันสีแดงข้าง ๆ เพียงหนึ่งคันเท่านั้น จากที่ได้ฟังก่อนขึ้นรถเมื่อกี้พวกเขาเหมือนจะคุยกันว่าไม่เน้นกติกา...
 

สนแค่แพ้หรือชนะ
 

อ่า
 

ซึ่งฉันก็ไม่รู้หรอกว่ามันหมายความว่าอะไร แต่ที่แน่ ๆ คือไม่เห็นแววตาที่แสดงถึงความเกรงกลัวของคนหัวเขียวเลย
 

และก็หวังว่าเขาจะทำได้ดีเหมือนที่แสดงออกเพราะวันนี้ในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้าชีวิตของฉันขึ้นอยู่กับเขา
 

ถ้ารอดก็คงรอด และถ้าตายก็คง....
 

ไม่ดิวะ!
 

ไม่ควรคิดอะไรพล่อย ๆ แบบนี้ ถ้าฉันเป็นอะไรไปอีกคนป๊ากับม๊าจะอยู่กันยังไง ไม่ได้หรอกวันนี้ยังไงวาฬก็ต้องรอดพร้อมกับสร้อยฉลามที่จะกลับคืนสู่เจ้าของที่แท้จริง
 

"บรื้นนนนน! "
 

"กรี๊ดดดดดดด! "
 

ฉันตกใจจนกรี๊ดลั่นเมื่อจู่ ๆ หลังจากธงสีดำถูกโบกลงรถทั้งสองคันก็ทะยานตัวออกไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วทันที และมันแทบจะพร้อม ๆ กันเลยด้วยซ้ำ
 

"....."
 

มือสองข้างของฉันกุมกันไว้แน่น ในขณะที่สายตามุ่งตรงไปที่ด้านหน้าซึ่งดูเหมือนว่ารถคันนี้พร้อมจะพุ่งชนไปที่ขอบรั้วสนามอยู่ตลอดเวลา แต่สุดท้ายเขาก็สามารถหักรถเข้ารัศมีโค้งได้อย่างทันท่วงที
 

เฉียดตายชั่วเสี้ยววินาทีจริง ๆ นะ
 

เปล่าโม้เลย
 

"บรื้นนนนน! "
 

หัวเขียวยังเป็นฝ่ายขับนำอยู่และเมื่อมองลงไปที่เท้าฉันก็ได้เห็นว่าเขาเหยียบคันเร่งจนมิดในชนิดที่ว่าแทบจะไม่แตะเบรก
 

ไอ้ห่า!
 

อยากตายรึไงวะ
 

ตอนขับรถเขาไม่สอนเหรอว่ารถมีเบรกกกกกก
 

"บรื้นนนนนน! เอี๊ยดดดด! "
 

ตายห่าอยู่ในใจไม่ทันไร เสียงเบรกจากรถก็ดังลั่นจนต้องยกมือขึ้นมาปิดหูอัตโนมัติ ทุกอย่างมันเกิดขึ้นไวมาก
 

เสียงล้อรถเสียดกับถนนจนแสบแก้วหู ใจเต้นโครมคราราวกับจะทะลุทะลวงออกมาจากอก
 

รถคันสีแดงที่ขับตามข้างหลังอยู่ดี ๆ ก็ขับขึ้นไหล่ทางแล้วปาดแซงตัดหน้ารถจนหัวเขียวแทบเบรกไม่ทัน
 

โชคดีที่เขาสามารถประคับประคองสถานการณ์ได้ไวฉันเลยยังรอดตาย แต่บอกตรง ๆ ว่าตอนนี้ไม่โอเค
 

เกือบคว่ำแล้วแม่งเอ๊ย!
 

"สัด!!! มึงเจอกู! "
 

เสียงสบถหยาบดังออกมาจากปากของหัวเขียว
 

หลังจากนั้นเขาก็รีบเหยียบคันเร่งไล่จี้ตูรรถคันสีแดงด้านหน้าอย่างไม่คิดจะอ่อนข้อให้
 

และสุดท้ายเขาก็สามารถกลับมาเป็นผู้นำได้อีกครั้ง ด้วยการขับข้นไหล่ทางแล้วปาดรถตัดหน้าเหมือนที่คันสีแดงได้ทำเมื้อกี้
 

แต่มันใช่เรื่องน่าลอกเลียนแบบไหมวะ
 

แข่งรถ...
 

ข้อห้ามที่สำคัญมันคือการห้ามขับแซงตรงไหล่ทางไม่ใช่เหรอ
 

"ฮึก..."
 

ส่วนฉัน...
 

ได้แต่กำสายคาดเบลท์หรือที่ภาษาไทยเขาเรียกกันว่าเข็มขัดนิรภัยไว้แน่นเมื่อรถคันหรูทยานออกไปข้างหน้าด้วยความรวดเร็วกว่าเดิมเป็นสามเท่า
 

เสียงเครื่องยนต์ดังอื้ออึงตีกันอยู่ในหัวจนแทบอยากอาเจียนออกมาซะตรงนั้น
 

เอาให้เปื้อนรถหรูของหัวเขียวแม่งไปเลย จะได้ไม่ต้องขับรถคันนี้อีกสักเจ็ดวันเจ็ดคืน
 

รถของเขาปาดไปซ้ายทีขวาทีตั้งแต่เริ่มต้นโดยมีรถของคู่แข่งคอยขับเบียดไล่ตามอย่างหวาดเสียว
 

"ฮือ...นะ หนูไม่ชอบ..."
 

ฉันเอ่ยบอกคนข้างตัวเสียงสั่นเทาผ่านหมวกกันน็อคที่ถูกสวมใส่ไว้ที่หัว และมันใหญ่มากพอที่จะปกปิดยาวไปจนถึงลำคอ น้ำลายเหนียวถูกกลืนลงคออย่างยากลำบากในขณะที่มือเริ่มสั่นขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไม่สามารถควบคุมไว้ได้
 

ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตัวเองเผลอเปลี่ยนสรรพนามแทนตัวเองกับเขาไป
 

"มะ...ไม่ชอบแบบนี้เลย"
 

เขาจะได้ยินในสิ่งที่บอกหรือเปล่า....
 

แต่ก็ภาวนาขอให้ได้ยินเถอะ แล้วก็ช่วยรีบ ๆ ชนะการแข่งขันนี้สักทีหรือไม่งั้นก็ช่วยจอดรถก่อน...
 

วาฬจะลง!!!

 

 

 

แงงงงง

เฮียคลื่นไม่อ่อนโยนเลย วาฬอยากลงรถแล้วเด้อ

 

 

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.