March Time Traveler ตอนที่ 14 การพบเจอ
ตอนที่ 14 การพบเจอ
‘กริ๊งก่อง กริ๊งก่อง’เสียงออดประตูหน้าของร้านแปดดาวดังขึ้น
“นี่พวกแกไม่เข้าใจที่ฉันติดประกาศหน้าร้านรึไง ว่าวันนี้ร้านปิดน่ะ”ป้าบุษราตะโกนด้วยความโมโห เพราะนี่เป็นครั้งที่เท่าไรแล้วก็ไม่รู้ที่มีนักข่าวมาเคาะประตูร้าน เพื่อถามหาข่าวมาร์ช ป้าเลยตัดสินใจติดประกาศปิดร้านเพื่อตัดความรำคาญ
“อ่าป้าครับ นี่ผมมาร์ชเองครับ”มาร์ชตอบเบาๆเพราะตกใจที่ได้ยินป้าบุษราตะโกนด้วยอารมณ์โมโห
‘ตืด...’เสียงปลดล็อกประตูดังขึ้น แล้วมือของป้าบุษราก็ยื่นออกมาคว้าเสื้อมาร์ช มาร์ชยังไม่ทันตั้งตัวก็โดนป้าบุษราดึงเข้ามาในร้านอย่างรวดเร็ว ก่อนจะกดล็อคประตูร้านอีกครั้ง
“แล้วนี่หลบพวกนักข่าวมาได้ยังไงเนี่ย แล้วทำไมพวกนั้นถึงอยากทำข่าวเรื่องของเธอขนาดนั้น”ป้าระดมคำถามใส่มาร์ชไม่หยุด
“ใจเย็นครับป้า เรื่องมันยาวมาก เอาเป็นว่าเราไปขนวัตถุดิบลงรถกันก่อนครับ เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟัง”มาร์ชที่ยังห่วงเรื่องภารกิจอยู่ก็เลยบอกกับป้าไปแบบนั้น โดยปกติแล้วป้าบุษราจะขนวัตถุดิบด้วยตัวเอง แต่วันนี้เนื่องด้วยเกิดเหตุการณ์ต่างๆป้าบุษราเลย ใช้หุ่นยนต์ขนวัตถุดิบเข้าครัว
ข้อความ
ภารกิจ ไปรับวัตถุดิบให้ป้าเจ้าของร้านแปดดาว สำเร็จ
ได้รับ ค่าประสบการณ์ในการเลื่อนระดับ
“อ่ะฉันให้พวกหุ่นยนต์มันขนให้ละ รีบเล่าทุกอย่างมาเลย”ป้าบุษราพูดแล้วก็เดินไปนั่งที่เคาน์เตอร์ร้านโดยมีมาร์ชเดินตามไปติดๆ
“คือเรื่องมันเป็นแบบนี้ครับ”มาร์ชเปิดระบบวงแหวนแล้วเปิดหาข่าวเกี่ยวกับตัวเอง ก่อนจะผลักหน้าต่างนั่นไปทางป้า เมื่อป้าอ่านข่าวเสร็จก็ขมวดคิ้วเข้าหากัน ก่อนจะมองหน้ามาร์ชตาไม่กระพริบ แล้วก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
“ฮ่าๆๆๆ เกริสที่อ่อนแอที่สุดในโลกได้ถือกำเนิดขึ้นมาแล้ว โอ๊ยยชอบๆ”ป้าหัวเราะเอามือกุมท้องข้างหนึ่งทุบที่เคาน์เตอร์ข้างหนึ่ง
“เอ่อป้าครับ มันตลกมากขนาดนั้นเลยหรอ”-*-
“ก็ใช่นะสิ คนที่ได้รับจินแล้วเป็นเกริสเนี่ยยังไม่เคยมีใครมีพลัง ต่ำกว่า 50 มาก่อนเลย ฉันไม่สงสัยแล้วละว่าทำไมพวกนักข่าวถึงได้หิวข่าวขนาดนี้”ป้าหยุดหัวเราะแล้วเอามือเช็ดน้ำตาที่เล็ดออกมา
“แต่ผมว่าพวกเขาน่าจะเข้าใจผิดอะไรแน่ๆเลยครับ”มาร์ชตั้งข้อสงสัยขึ้น
“อืมใช่สิ เธอเคยบอกว่าเธอไม่ได้เป็นเกริสสินะ”
“ใช่ครับ แล้วทำไมถึงมีข่าวออกไปแบบนั้นได้ ผมนี่ไม่เข้าใจเลย”
“เธอน่าจะไม่รู้ตัวเองรึเปล่าว่าเธอเป็นเกริส แล้วก็ไม่รู้พลังจินของตัวเองด้วย แต่ถ้าให้ฉันเดาก็คงจะเป็นพลัง...”
‘กริ๊งก่อง กริ๊งก่อง’ป้าหยุดพูดเพราะเสียงออดที่ดังขึ้น แล้วทั้งสองก็หันไปที่ประตูร้านที่มีเสียงพร้อมกัน
“ป้าผมว่าเอาไว้คุยกันต่อวันหลังดีกว่า”มาร์ชพูดเบาๆพอได้ยินกันสองคนกับป้า แล้วก็รีบวิ่งย่องๆไปที่บันไดลงไปชั้นใต้ดิน ส่วนป้าส่ายหัวออกมาเล็กน้อยก็เดินไปที่ประตูร้านแล้วเปิดออก
“เห็นประกาศนี่ไหม...”ป้าชะโงกหน้ามากะจะด่าคนที่กดออด แต่พอเห็นว่าเป็นใครก็หยุดด่าลง
“อ่าวหมวดไนซ์ มาทำอะไร วันนี้ฉันมีเรื่องนิดหน่อยเลยปิดร้านน่ะ”ป้าพูดขึ้น
“สวัสดีครับผมหมวดไนซ์เองครับ ผมไม่ได้มากินอะไรครับ พอดีผมเห็นข่าวสำคัญเข้าเลยกะจะมาปรึกษาป้ากับเจ้าตัวที่กำลังเป็นข่าวอยู่ ผมขอเข้าไปข้างในได้ไหมครับ”หมวดไนซ์ยืนตรงแล้วยกมือขึ้นตะเบ๊ะให้ป้าบุษราแล้วยิ้มออกมาเพราะหวิดจะโดนด่า ป้าบุษราพยักหน้าเล็กน้อย แล้วหมวดไนซ์ก็เดินเข้ามาในร้าน ป้าบุษราก็จัดการปิดประตูร้านอีกรอบ
“นี่ครับป้าข่าวของมาร์ช”หมวดไนซ์เปิดระบบวงแหวนแล้วผลักหน้าจอข่าวไปหาป้าบุษรา
“ฉันรู้เรื่องแล้วล่ะ”ป้าบุษราพูดแล้วก็กดปิดหน้าจอข้อความที่หมวดไนซ์ส่งมาให้
“แล้วเจ้าตัวล่ะครับ รู้เรื่องรึยัง”หมวดไนซ์ยังถามต่อ
“รู้แล้วล่ะ เขาเพิ่งจะหลบหนีพวกนักข่าวพ้นเมื่อกี้นี้เอง”ป้าบุษราตอบ
“แล้วตอนนี้เขาอยู่ไหนครับ”
“ก็คุยกับฉันอยู่ที่เคาน์เตอร์นี่ จนกระทั่งเธอมากดออดที่ประตูร้าน หมอนั่นก็เลยเผ่นลงไปชั้นใต้ดินแล้วล่ะ”แล้วหมวดไนซ์ก็นั่งคุยไปเรื่อยๆ เพราะวันนี้เขาขอองค์กรเกริสลาหยุด 1 วันไปแล้วด้วย เลยไม่มีอะไรทำ ตอนแรกป้าบุษราก็กะจะปิดร้านทั้งวันเลย แต่พอหมวดไนซ์มานั่งจ้อที่ร้านแบบนี้ ก็เลยเข้าครัวเปิดร้านครึ่งวัน
ที่องค์กรเกริสสุรารักษ์ตรีศูล ในห้องฝ่ายบริหาร เจ้าของห้องทำงานหรือหัวหน้าฝ่ายเดินวนไปวนมาอยู่ใกล้กับโต๊ะทำงานของเขา
“ทำไมพวกคุณถึงได้สะเพร่ากันขนาดนี้”หัวหน้าฝ่ายบริหารพูดขึ้น
“พวกผมขอโทษครับ”กิตกับกายที่ยืนก้มหน้าอยู่กลางห้องตอบพร้อมกัน
“นี่พวกคุณโชคดีมากนะที่บอสติดภารกิจปิดรอยแยกมิติอสูรที่ นาคอนธ่อม ไม่งั้นพวกคุณอาจจะโดนไล่ออกเลยด้วยซ้ำ”หัวหน้าฝ่ายกล่าวคาดโทษ กิตกับกายถึงกับหน้าถอดสี
“แต่ที่พวกคุณทำผิดพลาดครั้งนี้ จะไม่ลงโทษเลยก็เป็นไปไม่ได้ เพราะคนในองค์กรจะไม่ชอบใจกันแน่ๆผมเห็นแก่ผลงานที่ผ่านมา จะขอลดเงินเดือนพวกคุณลงก็แล้วกัน”หัวหน้าฝ่ายบริหารชี้แจง
“ครับ”ทั้งคู่ขานรับพร้อมกัน
“อย่าให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกนะ เอาล่ะพวกคุณกลับไปทำงานกันเถอะ เดี๋ยวผมจะคุยกับบอสให้แล้วกัน”หัวหน้าฝ่ายบริหารพูดจบก็เดินไปนั่งที่เก้าอี้ ส่วนกิตกับกายก็รีบออกจากห้อง
“หมดกัน โดนลดเงินเดือนแบบนี้จะพอกินไหมเนี่ย”กิตบ่นทันทีที่ออกมาจากห้องฝ่ายบริหาร
“แค่โดนลดเงินเดือนก็ดีแล้ว ดีกว่าโดนไล่ออกนะเว้ย”กายปลอบใจเพื่อน
“ก็จริงของแก เดี๋ยวฉันค่อยหาทีมลงรอยแยกมิติอสูรก็ได้ ถ้าไม่พอใช้จริงๆ”กิตคิดหาทางออกเผื่อเอาไว้
“เราโดนแค่นี้ แต่เกริสคนนั้นที่ข่าวแพร่ออกไปนี่สิ ป่านนี้ไม่รู้โดนนักข่าวกี่สำนักที่หิวข่าวแปลกๆไล่ตามอยู่”กายพูดแล้วคิดภาพตามก็ถึงกับส่ายหัวออกมา
ที่ร้านอาหารแปดดาว ป้าบุษรายังคงวุ่นอยู่ในครัวกับหมวดไนซ์ เพราะวันนี้มีคนมาเข้าร้านเยอะมากหลังจากเปิดร้าน และเท่าที่ป้าสังเกตเห็น คนที่มากินอาหารที่ร้านวันนี้ส่วนใหญ่ไม่คุ้นหน้าคุ้นตาเลย ป้าคิดว่าคนพวกนี้น่าจะเป็นนักข่าวที่มารอทำข่าวของมาร์ช ป้าเหลียวมองหมวดไนซ์ที่เข้ามาเป็นลูกมือแล้วก็ส่ายหัวออกมา
‘จะรอดไหมเนี่ยหมวด แค่ตอกไข่ยังมีเศษเปลือกติดลงไปเลย ฉันล่ะอยากได้พ่อหนุ่มนั่นมาช่วยงานจริงๆ แต่ก็เป็นไปไม่ได้ ขืนให้ขึ้นมาช่วยมีหวังร้านฉันได้พังแน่ๆ’ป้าคิดในใจจบก็ลงมือทำอาหารต่อ ลูกค้าที่เป็นนักข่าวสำนักต่างๆที่แฝงตัวมาต่างผลัดกันเข้ามาสั่งอาหารกิน เพราะหวังว่าจะได้เจอมาร์ชเพื่อทำข่าว บางสำนักที่มีคนน้อย ก็ต้องใช้คนซ้ำไปซ้ำมา ป้าอดที่จะขำไม่ได้ที่เห็นคนคนเดิมแต่เปลี่ยนการแต่งตัวใหม่เดินเข้ามาในร้านของตัวเองเพื่อสั่งอาหาร แต่ป้าก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะมันดีซะอีกที่จะได้ขายอาหารได้เยอะขึ้น
“วันนี้ฉันคงไปไหนไม่ได้แล้วล่ะ”มาร์ชที่นอนอยู่บนเตียงพูดกับตัวเอง หลังจากได้รับข้อความจากป้าเจ้าของร้านว่า ‘มีนักข่าวมากินอาหารที่ร้านเยอะเลย ห้ามขึ้นมาข้างบนร้านเด็ดขาด ฉันไม่อยากให้ร้านฉันพังส่วนเรื่องในครัวก็มีหมวดไนซ์คอยช่วยแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วงฉัน ห่วงเรื่องของตัวเองก่อน’
“งั้นก็นอนกลางวันมันซะเลยไหนๆก็ไม่มีอะไรให้ทำแล้ว เมื่อคืนก็ไม่ได้นอนเลยด้วย”มาร์ชพูดจบก็นอนดิ้นไปมาสักพัก
“นอนไม่หลับแหะ งั้นรอเที่ยงก่อนก็ได้ ฉันจะได้ลองใช้ระบบขายของด้วย ถ้าข่าวที่ว่าฉันเป็นเกริสพลังแค่1แพร่ออกไปขนาดนี้ การเอาศิลาอสูรไปขายคงต้องโดนสงสัยแน่นอน ว่าฉันไปเอามาจากไหน แล้วเรื่องกุญแจก็จะแดงออกไป”มาร์ชกดเปิดระบบร้านค้าเลื่อนดูของไปมาเพื่อฆ่าเวลา
“อ่า เที่ยงสักทีไหนดูสิว่า จะขายได้ลิดเท่าไร”มาร์ชเปิดระบบร้านค้า แล้วก็เลื่อนไปที่หน้าต่างระบบขายที่มีเวลานับถอยหลังครึ่งชั่วโมงแสดงอยู่ด้วย แล้วมาร์ชก็เปิดกระเป๋ามิติแล้วหยิบเอาศิลาอสูรออกมา แล้วจับมันยัดไปที่หน้าต่างระบบขาย
“ศิลาอสูรระดับ 2 ทั้งหมด 17 ก้อน แต่ฉันขายไปแค่ 16 ก้อน ขายได้ก้อนละ 2,000 ลิด รวมกับศิลาอสูรระดับ 1 อีก 155 ก้อน ขายได้ก้อนละ 1,000 ลิด รวมเป็นทั้งหมด 187,000 ลิด ไม่รวยตอนนี้จะไปรวยตอนไหนล่ะมาร์ชเอ้ย”มาร์ชพูดแล้วก็ยิ้มเหมือนคนบ้าอยู่คนเดียว
“ถ้ารวมกับที่มีอยู่ในระบบร้านค้าก็จะเป็น 187,000+59,100 = 246,100 ลิด นี่ถ้าฉันไม่ใช้ลิดซื้อดาบคลาสเพชร ระดับ 5 ไป 50,000 ลิดกับเกลือ 1 กระสอบ 500 ลิด ฉันก็จะมีเกือบ 300,000 ลิดเลยนะเนี่ย จะเรียกป๋ามาร์ชก็ไม่น่าเกลียดหรอกนะ ฮ่าๆ”มาร์ชหัวเราะชอบใจ หลังจากเห็นยอดลิดที่ได้จากการล่าเผ่าอสูรคืนเดียว
“มีเรื่องดีดีก่อนนอนแบบนี้คงจะฝันดีแน่นอน นอนดีกว่า”มาร์ชนอนยิ้มจนกระทั่งเผลอหลับไป
‘ก๊อก ก๊อก ก๊อก’เสียงเคาะประตูห้องมาร์ชดังปลุกให้มาร์ชตื่นขึ้น
“มาร์ชตื่นไปล้างหน้าล้างตาแล้วขึ้นไปกินข้าวกัน นี่ 4 ทุ่มแล้ว”เสียงหมวดไนซ์พูดหลังเสียงเคาะประตู
“ขอบใจมากหมวด เดี๋ยวตามขึ้นไป”มาร์ชตอบกลับ
“อย่านานนักล่ะ เดี๋ยวกับข้าวจะเย็นหมด”แล้วหมวดไนซ์ก็เดินกลับขึ้นไปที่ร้าน
“4ทุ่ม ร้านปิดแล้วนักข่าวคงกลับกันไปหมดแล้ว หิวพอดีเลย ฮ้าว ไปล้างหน้าดีกว่า”มาร์ชพูดกับตัวเองแล้วก็ไปล้างหน้าล้างตา แล้วก็ขึ้นไปที่ร้าน
“มาๆกินข้าว วันนี้ทั้งวันยังไม่ได้กินอะไรเลยไม่ใช่รึไง”ป้ารีบเรียกมาร์ชไปนั่งที่โต๊ะกินข้าว
“ครับป้า หิวจนไส้จะขาดอยู่แล้วเนี่ย”มาร์ชพูดแล้วทำท่าลูบวนที่ท้องของตัวเอง
“เนี่ยแหละเป็นเวรกรรมที่นายแกล้งฉันเรื่องเสื้อผ้าเมื่อคราวก่อนไง กรรมตามสนอง”หมวดไนซ์พูดขึ้น
“แกล้งอะไร ฉันก็แค่รักษาน้ำใจหมวดเองนะ หมวดอุตส่าห์ไปเลือกมาให้ฉันด้วยความเหน็ดเหนื่อย มันย่อมต้องเป็นของดีทั้งหมด ถ้าฉันมาเลือกต่อจากหมวดอีกที มันก็จะเสียมารยาทไม่รักษาหน้าหมวด ฉันก็เลยเอาหมดเลย”มาร์ชพูดแล้วก็ตักข้าวเข้าปากคำโต
“อ่าว นี่สรุปวันนั้นหมวดไม่ได้ร้อนหรอกหรอ เหอะๆ”ป้าหลังจากฟังเรื่องราวก็พอจะเรียบเรียงเรื่องราวได้ก็เลยหัวเราะออกมากับวีรกรรมสุดแสบของมาร์ช
“แล้วว่าแต่นายรอดจากนักข่าวมาได้ยังไงหรอมาร์ช เห็นป้าบอกว่านายโดนตามล่าเมื่อเช้านี้”หมวดไนซ์อดที่จะถามไม่ได้ หลังจากฟังที่ป้าบุษราเล่าให้ตัวเองฟังตอนทำงานในครัว มาร์ชยิ้มออกมาเล็กน้อยแล้วก็เริ่มเล่าเรื่องทั้งหมดให้ป้าและหมวดไนซ์ฟังโดยมีความจริง 30% และใส่ไข่ให้ดูอลังการอีก 70% จนจากเรื่องหนีนักข่าวกลายไปเป็นภาพยนตร์บู๊ล้างผลาญ ระเบิดภูเขา เผากระท่อมไปเลย แต่มาร์ชก็ไม่ได้หลุดปากพูดถึงเรื่องไอสไตน์แม้แต่นิดเดียว ป้าบุษราถึงกับส่ายหัวกับเรื่องที่มาร์ชเล่า แต่หมวดไนซ์นั้นนั่งฟังจนอ้าปากค้างไปแล้ว
‘ถ้าตัดส่วนที่พ่อหนุ่มมันใส่ไข่ออกไป ก็ถือว่าน่ากลัวมากๆที่สามารถคิดแผนการเอาตัวรอดได้ในระยะเวลาสั้นๆแค่นั้น’ป้าบุษราคิดในใจ
“ป้าถึงกับเงียบไปเลย สงสัยจะตะลึงในมันสมองของยอดอัจฉริยะแบบผม ฮ่าๆๆ”มาร์ชพูดแล้วก็หัวเราะออกมาเสียงดังแล้วก็ก้มหน้ากินข้าวต่อ
“เห้อ เอาที่พ่อหนุ่มสบายใจเลยแล้วกัน ว่าแต่นี่จะหนีไปถึงเมื่อไร ฉันว่าพรุ่งนี้พวกนักข่าวก็คงจะแห่กันมาอีกนั่นแหละ”ป้าถาม
“นายนี่ก็แปลกคน จะได้เป็นข่าวกลายเป็นคนดัง ก็ไม่ชอบซะงั้น”หมวดไนซ์รีบพูดเสริม
“เป็นข่าวเรื่องแบบนี้อ่ะนะ เชิญหมวดไปเป็นข่าวเองเถอะครับ ส่วนเรื่องหนีก็คงหนีไปเรื่อยๆ จนกว่าพวกนั้นจะเลิกสนใจนั่นแหละป้า แต่ผมว่าเป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะครับป้า ป้าจะได้ขายอาหารดีด้วยไง”มาร์ชพูดกับหมวดไนซ์เสร็จ ก็หันไปตอบป้า
‘กริ๊งก่อง กริ๊งก่อง’อยู่ๆเสียงออดที่ประตูร้านก็ดังขึ้น ทั้งสามคนรีบหันไปมองพร้อมกัน
“นี่ไงขนาดเวลานี้แล้วนะ พวกนักข่าวยังมากันอยู่เลย”ป้าพูดแล้วมองไปนาฬิการ้านที่บอกเวลาว่าตอนนี้คือ 5 ทุ่มแล้ว
“นายไปหลบก่อนเหอะมาร์ช เดี๋ยวฉันไปไล่ให้เอง”หมวดไนซ์พูดแล้วก็เดินตรงไปที่ประตู มาร์ชก็รีบเดินไปหลบที่หัวบันไดลงไปชั้นใต้ดิน
“ไม่ต้องหรอกหมวดเดี๋ยวฉันจัดการเอง”ป้าบุษราจับไหล่หมวดไนซ์เอาไว้ หมวดไนซ์หันมาพยักหน้าให้ป้าเล็กน้อย ป้าก็เลยตรงไปที่ประตูแล้วเปิดประตูออก
“คุณคะตอนนี้ร้านปิดแล้ว ช่วยมาใหม่อีกทีตอนร้านเปิดพรุ่งนี้นะคะ”ป้าบุษราพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนกับคนตรงหน้า
“อ่อพอดีผมมีธุระกับคนที่อยู่ข้างในนิดหน่อยน่ะครับ ไม่ได้มากินอาหารช่วยเรียกเขามาให้ทีสิครับ”ชายสวมชุดคลุมหัวสีดำพูดกับป้าบุษรา
“ถ้าเป็นเรื่องคนที่เป็นข่าวอยู่ตอนนี้ เขาไม่ได้อยู่ที่ร้านนี่แล้วล่ะ ถ้าจะมาทำข่าวเกี่ยวกับเขาคงต้องไปหาเขาที่อื่นแล้วล่ะ”ป้าบุษรายังคงตอบด้วยน้ำเสียงเดิม
“ป้าครับผมไม่ใช่นักข่าวครับ แต่ผมมีธุระกับเขาจริงๆ ป้าช่วยเรียกเขาออกมาคุยกับผมหน่อย หรือไม่ป้าก็เปิดประตูให้ผมเข้าไปหน่อยครับ”ชายสวมชุดคลุมหัวสีดำยังยืนนิ่งพูดคุยกับป้า
“เอ๊ะ คุณนี่ยังไงฉันก็บอกแล้วว่าเขาไม่อยู่ที่นี่แล้...ว”ป้าที่กำลังพูดเพราะอารมณ์เสียได้หยุดพูดลงกระทันหัน เมื่ออยู่ร่างของชายสวมชุดคลุมหัวสีดำก็หายไปจากตรงหน้า
‘ชิ้ง’เสียงหมวดไนซ์ดึงดาบคู่ที่สะพายไว้ด้านหลังมาถือในมือ
“นี่คุณคิดจะทำอะไรกันแน่ ทำไมถึงเข้ามาแบบนี้ ถ้าขืนคุณยังทำอะไรมากไปกว่านี้ฉันไม่รับประกันความปลอดภัยของคุณนะ”ป้าบุษราพูดขึ้นในขณะที่กำลังจับไหล่ของชายสวมชุดคลุมหัวสีดำรั้งไว้ไม่ให้ตรงเข้าไปหามาร์ช
‘หมอนี่พุ่งทะลุฉันเข้ามาโดยที่ไม่โดนตัวฉันเลย แถมยังไวมากๆด้วย เขาคือเกริสระดับสูงแน่นอน แล้วเกริสระดับนี้มีธุระอะไรกับมาร์ชกันล่ะ’ป้าบุษราคิดในใจ
“แหมๆป้าพุ่งตามผมมาทันแบบนี้ แสดงว่าป้าต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ ที่พูดมาเมื่อกี้คงไม่ใช่แค่ขู่ให้กลัวสินะ ไหนจะคนๆนั้นที่ยืนถือดาบคู่อยู่นั่นอีก ดูแข็งแกร่งใช้ได้เลยน้า”ชายสวมชุดคลุมหัวสีดำพูดแล้วร่างของเขาก็หายไปอีกครั้ง แต่คราวนี้ร่างของป้าบุษราก็หายไปด้วยเช่นกัน
“ระดับเกริสสูงมากฉันมองตามการเคลื่อนไหวไม่ค่อยจะทันเลย”หมวดไนซ์พูดขึ้น และกรอกลูกตาไปมาเพื่อมองตามดูชายชุดคลุมหัวสีดำกับป้าบุษรา
“คุณต้องการอะไรกันแน่”ป้าถามในขณะที่เคลื่อนที่ไปมาด้วยความเร็ว
“ก็บอกไปแล้วไงล่ะครับ ว่าผมแค่ขอคุยธุระกับเขานิดหน่อย”ชายชุดคลุมหัวสีดำตอบ
“ธุระอะไรถึงได้กล้าบุกรุกเข้ามาแบบนี้ ถ้ายังไม่หยุดฉันจะต้องใช้กำลังลากนายออกไปจากร้านของฉัน”ป้าบุษราพูดจบก็ง้างหมัดแล้วชกออกไป ชายชุดดำก็ยกมือขึ้นมากันเอาไว้
‘เอ๋ ทำไมเกริสระดับสูงถึงเป็นเกริสอิสระแล้วมาอยู่ในที่แบบนี้กันล่ะ ตั้งแต่เมื่อกี้แล้วที่ป้าคนนี้เคลื่อนที่ตามเราก็จริง แต่ก็ขวางไม่ให้เราเข้าใกล้กับเขาด้วย ถ้าขืนยังเป็นแบบนี้คงไล่กันยันเช้าแน่เลย’ชายชุดคลุมหัวสีดำคิดในใจแล้วมองไปที่มาร์ช เขายังไม่หยุดเคลื่อนที่ไปมา อีกทั้งยังคอยปัดป้องการโจมตีจากป้าบุษราอีกด้วย
“นี่น่ะหรอพลังของเกริสระดับสูง สุดยอด สุดยอดไปเลย ฉันเทียบไม่ติดเลยสักนิดเดียว”มาร์ชถึงจะมองการเคลื่อนที่ไม่ทันแต่ก็รู้สึกตื่นเต้นมาก เขาจ้องมองตาลุกวาว
“ขอโทษนะครับป้าผมไม่เคยทำร้ายผู้หญิง แต่ผมมีธุระที่จะต้องคุยกับเขาจริงๆ”ชายชุดคลุมหัวสีดำพูดกับป้าอีกครั้งหนึ่ง ก่อนที่จะหลับตาลงแล้วจ้องเขม็งมาที่ป้า
‘พันธนาการห้วงเวลา’ชายชุดคลุมหัวสีดำคิดในใจจบ ป้าบุษราก็เริ่มเคลื่อนที่ช้าลง
“เกิดอะไรขึ้นกับฉันเนี่ย ทำไมอยู่ๆการเคลื่อนไหวของฉันถึงช้าลง”ป้าพูดออกหลังจากรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ
“ลาก่อนครับป้า”ชายชุดคลุมหัวสีดำพูดจบก็พุ่งตรงไปหามาร์ชทันที
‘เทพีแห่งการชำระล้าง’ป้าคิดในใจเสร็จ การเคลื่อนไหวก็กลับมาเป็นปกติ ก็รีบเคลื่อนที่ตามชายชุดคลุมหัวสีดำไปแต่ก็ไม่ทันซะแล้ว เพราะเขาพุ่งไปถึงตัวมาร์ชแล้ว ส่วนมาร์ชก็ยืนนิ่งตาเบิกโพลง
“ไม่นะ ทำไมแกต้องฆ่าเขาด้วย พลังจินของแกที่มีอยู่แล้ว มันก็น่าจะแข็งแกร่งพอแล้ว ทำไมแกต้องมาแย่งจินจากเขาอีก”ป้าบุษราพูดจบก็รีบพุ่งเข้าไปที่ร่างมาร์ชแล้วดึงตัวมาร์ชออกห่างจากชายชุดคลุมหัวสีดำ
‘เทพีแห่งการเยียวยา’ป้าคิดในใจแล้วเอามือจับไปที่ตัวมาร์ช แล้วคลำหาบาดแผลทั่วตัวมาร์ช
“ไม่มีบาดแผลหนิ นี่แกทำอะไรกับเขา”ป้าบุษราจ้องไปที่ชายชุดคลุมหัวสีดำ
“ก็ไม่มีน่ะสิครับป้า”มาร์ชพูดขึ้นทำให้ป้าบุษราตกใจรีบหันมามองเขา
“อ่าว แล้วเมื่อกี้ที่ตาเหลือกนั่นคืออะไรพ่อหนุ่ม”ป้าหันมาคุยกับมาร์ช
“ป้าจำคนที่ผมเล่าให้ฟังได้ไหมล่ะครับ”
“คนไหน”
“ก็คนที่เจอที่ในห้องน้ำสวนสาธารณะไงครับ ที่ผมตกใจก็เพราะว่าเขาคือคนที่เจอในห้องน้ำที่สวนสาธารณะวันนี้”มาร์ชอธิบาย แล้วทุกคนก็มองไปที่ชายชุดคลุมหัวสีดำ
“ขอโทษด้วยนะครับที่ผมเสียมารยาทบุกเข้ามาแบบนี้”ชายชุดหัวสีดำหันหลังมาแล้วโค้งตัวลงเล็กน้อย ในจังหวะที่เขาเงยหน้าขึ้น เขาก็เอามือดึงฮู้ดที่คลุมหัวออกด้วย
“แต่งตัวแบบนี้ร้อนจังเลยแหะ”ชายชุดคลุมสีดำที่ตอนนี้ไม่ได้คลุมหัวตัวเองแล้วพูดขึ้น แต่ในตอนที่เขาถอดฮู้ดออกจากหัวตัวเองนั้น ทำให้ป้าบุษรากับหมวดไนซ์ตาค้างไปแล้ว
“นะ นะ นั่นตัวจริงใช่ไหมครับ”หมวดไนซ์พูดตะกุกตะกัก แล้วรีบเก็บดาบก่อนจะก้มหน้าลง
“ฮ่าๆๆไม่ต้องพิธีรีตองขนาดนั้น ฉันอึดอัดน่ะ ทำตัวตามสบายเหอะ”ชายชุดคลุมสีดำตอบ
“แล้วทำไมนายถึงมาที่นี่ได้ล่ะ ลีโอ หัวหน้าองค์กรแส้อสุรา”ป้าบุษราพูดขึ้น
“ผมอยากจะฆ่าหมอนั่นไงละป้า หมอนั่นทำเดทที่ผมเตรียมการมาเป็นเดือนๆพังไม่เป็นท่าเลย ป้ารู้ไหมครับว่าผมต้องลงทุนกับผู้หญิงคนนี้ไปตั้งเท่าไร ผมต้องอดทนรอมานานแค่ไหน ฮือฮือ”ลีโอพูดจบก็เดินมา ทรุดตัวลงข้างๆป้าแล้วเนียนกอดขาป้าร้องไห้
“แหะๆ”มาร์ชได้แค่หัวเราะแห้งๆออกมา แล้วลุกขึ้นยืน
“นายหลอกฉันใส่ชุดฮู้ด แล้วเป็นนกต่อล่อนักข่าวให้ตัวเองหนี รู้ไหมกว่าฉันจะหนีพวกนักข่าวพวกนั้นได้มันเสียเวลาแค่ ฉันเลยไปเดทสายคู่เดทฉันเลยทิ้งโน๊ตเอาไว้ให้ ‘ไปตายซะ แค่มาให้ตรงเวลานัดยังทำไม่ได้’นายต้องรับผิดชอบ ฮือๆ”ลีโอชี้นิ้วมาที่มาร์ชพูดแล้วก็ปล่อยโฮออกมาอีกรอบ
“ช่วยไม่ได้หนิ ที่ข่าวฉันแพร่ออกไปแบบนั้นก็เพราะองค์กรเกริสนั่นแหละที่ทำงานพลาด ฉันก็แค่หาทางเอาตัวรอด นายซวยเองดันมาอยู่ผิดที่ผิดเวลา”มาร์ชพูดหน้าตาย
“เห้อช่างมันเถอะแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว ว่าแต่นายจำฉันไม่ได้หรอ”อยู่ๆลีโอก็เปลี่ยนท่าทีไป เขาลุกขึ้นยืนแล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังขึ้น
“จำได้สิ ก็เจอกันที่ห้องน้ำสาธารณะเมื่อเช้าไง”มาร์ชตอบ
“เห็นฉันชัดๆขนาดนี้ถึง 2 ครั้งแต่ไม่แสดงอาการอะไรเลย แสดงว่าจำไม่ได้จริงๆสินะ ป้าครับผมอยากคุยกับมาร์ชเป็นการส่วนตัวหน่อยครับ ผมรับรองว่าจะไม่ทำอะไรเขา”ลีโอหันไปพูดกับป้าบุษรา แล้วหันมาจ้องมาร์ช
“ก็แล้วแต่เจ้าตัวเขาว่าอยากคุยด้วยไหม”ป้าบุษราตอบ
“อะไรไม่ต้องมาจ้องฉันเลย ฉันผิดเรื่องทำเดทนายพังก็จริง แต่ฉันไม่รับผิดชอบด้วยร่างกายของฉันหรอกนะ ฉันไม่ใช่แนวนี้”มาร์ชตอบแล้วยกมือขึ้นมาปิดหน้าอกตัวเองทำตัวบิดแบบเหนียมอาย เล่นเอาลีโอหางคิ้วกระตุกเพราะท่าทางกวนประสาทนั่น
“มารน้อย เทพน้อย”ลีโอชะโงกหน้ามากระซิบที่หูของมาร์ชเบาๆให้พอได้ยินแค่มาร์ชคนเดียว มาร์ชตกใจมากที่ได้ยิน เพราะเขามั่นใจว่าเขาไม่เคยเล่าเรื่องมารน้อย เทพน้อยให้ใครฟัง แต่ลีโอรู้เรื่องนี้ได้ยังไง
“ไปคุยกันที่อื่นเถอะ”มาร์ชเปลี่ยนสีหน้ามาจริงจังแล้วเลิกทำท่าทางกวนประสาททันที
“งั้นผมขอตัวนะครับคุณป้าสุดสวย ถ้าเจอป้าไวกว่านี้สัก 20 ปี ผมคงจะจีบป้าแน่เลย ขอโทษที่มารบกวนครับ”ลีโอโค้งตัวให้ป้าบุษราเล็กน้อยก็เดินออกไปนอกร้าน โดยมีมาร์ชเดินตามออกไป
“นี่มันเรื่องอะไรกันครับป้า ทำไมมาร์ชถึงได้ไปรู้จักกับคุณลีโอหัวหน้าองค์กรเกริสแส้อสุราได้ล่ะ”หมวดไนซ์ที่ยืนก้มหน้านิ่งมานานถามป้าหลังจากที่มาร์ชและลีโอออกจากร้านไป
“จากที่ดูท่าทางตกใจของพ่อหนุ่มแล้ว ฉันว่าพ่อหนุ่มไม่น่าจะรู้จักลีโอหรอก แต่คนที่รู้จักน่าจะเป็นลีโอรู้จักมาร์ชมากกว่า แต่เรื่องจริงจะเป็นยังไงก็คงต้องให้เจ้าตัวเขามาเล่าให้ฟังเองนั่นแหละ”ป้าสันนิษฐาน แล้วก็เดินไปกดปุ่มให้รถเข็นมาเก็บจานชามบนโต๊ะ ก่อนจะหันไปคุยกับหมวดไนซ์ต่ออีกเล็กน้อย แล้วหมวดไนซ์ก็ขอตัวกลับ
ทางด้านมาร์ชหลังจากนั่งรถยนต์ของลีโอที่ขับออกมาได้สักพัก
“เอาล่ะ รู้เรื่องของฉันได้ยังไง”มาร์ชถามเปิดประเด็นตรงๆทันที
“ฉันก็รู้เรื่องของนายเยอะจริงๆนั่นแหละ แต่ฉันพูดอะไรมากไม่ได้”ลีโอตอบ
“ถ้าพูดไม่ได้แล้วนายจะบอกว่ามีเรื่องพูดกับฉันเป็นการส่วนตัว แล้วลากฉันออกมาถึงที่นี่ทำไม”
“ก็ดูจากที่นายจำฉันไม่ได้แบบนี้ มันหมายความว่านายเลือกเส้นทางอีกเส้นทางหนึ่งยังไงล่ะ”
“เส้นทางอะไร”มาร์ชเริ่มสงสัยหนักขึ้นไปอีก
“ฉันพูดอะไรมากกว่านี้ไม่ได้จริงๆ แต่ฉันดีใจที่ได้เจอนายอีกครั้งจริงๆ”ลีโอพูดแล้วก็น้ำตาไหลออกมา ก่อนจะโผเข้ากอดมาร์ช
“ฉันดีใจจริงๆนะ มันช่างนานเหลือเกินมาร์ช มันนานมากจริงๆ”ลีโอพูดที่ข้างหูมาร์ช ที่ตอนนี้นั่งตัวแข็งทื่อทำอะไรไม่ถูก เลยเอามือไปลูบหลังลีโอเบาๆ ด้วยความงุนงง แต่มาร์ชรู้สึกได้ถึงความผูกพันกับลีโอลึกๆแต่ก็บอกไม่ถูกว่ามันคือความผูกพันแบบไหน
“อ่านี่กุญแจ”ลีโอผละออกมาจากมาร์ชแล้วเช็ดน้ำตา ก่อนจะค้นหาตามตัวแล้วหยิบกุญแจยื่นให้มาร์ช
“กุญแจอะไร”มาร์ชก้มมองลูกกุญแจในมือลีโอ มันเป็นลูกกุญแจสีดำที่มีหัวเป็นรูปขวดแก้วทดลองวิทยาศาสตร์ มีเลข 3 เขียนอยู่ด้วย
“กุญแจที่จะนำทางนายไปพบคำตอบเกี่ยวกับทุกอย่างที่นายกำลังสงสัยอยู่”ลีโอตอบ แล้วจับกุญแจนั่นยัดใส่มือให้มาร์ช
ข้อความ
ท่านได้รับกุญแจรอยแยกมิติสร้างเอง(ระดับพิเศษ)
กุญแจรอยแยกมิติสร้างเองนี้ สามารถใช้ไปยังมิติที่ถูกสร้างขึ้นมาได้ การใช้งานไม่ได้จำกัดระยะเวลาเอาไว้ หากต้องการเข้ารอยแยกมิติแค่เปิดใช้งานกุญแจ และเมื่อต้องการออกจากรอยแยกมิติก็แค่ปิดใช้งาน
ข้อความ
ได้รับภารกิจหลัก ตามหาความจริง
เข้าไปในรอยแยกมิติสร้างเองเพื่อตามหาความทรงจำ
รางวัล ปลดล็อกความทรงจำที่ถูกผนึกไว้
“สรุปว่าฉันต้องใช้กุญแจนี่เพื่อไปหาคำตอบเอาเองใช้ไหม”มาร์ชอ่านข้อความจบก็หันไปพูดกับลีโอ ลีโอไม่ได้ตอบอะไรเพียงแค่ยิ้มออกมาเท่านั้น
“ถ้ายังไงฉันรบกวนพาฉันกลับไปส่งที่ร้านแปดดาวหน่อยสิ”มาร์ชเอ่ยปากขอ
“นายนี่ไม่เปลี่ยนไปเลย เข้าหาคนได้ง่ายๆ แถมยังได้ใจคนอื่นมาง่ายๆด้วย ป่ะกลับกันเถอะ”ลีโอพูดแล้วก็หมุนรถกลับมาทางร้านแปดดาว
10 นาทีต่อมามาร์ชก็มาถึงร้านแปดดาว
“นายโอเคใช่ไหมลีโอ”มาร์ชถามขึ้นหลังลงจากรถของลีโอแล้ว
“ฉันโอเค นายไม่ต้องห่วงหรอก”ลีโอตอบกลับแต่สีหน้าก็ยังดูเศร้า จนมาร์ชอดเป็นห่วงไม่ได้ ถึงจะไม่รู้ว่าเรื่องราวมันเป็นยังไงก็ตาม
“ฮัลโหล ยาหยี อ๋อได้จ๊ะ โอเคเดี๋ยวเจอกันน้า จุ๊บๆ”อยู่ๆลีโอก็กดรับสายโทรศัพท์แล้วท่าทางก็เปลี่ยนไป หน้าตาสดใสขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด แล้วก็หันมาคุยกับมาร์ช
“มาร์ชฉันไปก่อนน้า น้องๆเขารอฉันอยู่”
“อ่า โอเคฉันคงไม่ต้องเป็นห่วงนายจริงๆนั่นแหละ”มาร์ชส่ายหัวออกมาเล็กน้อย แล้วรถของลีโอก็เคลื่อนที่ออกไป ส่วนมาร์ชก็เดินไปที่ประตูร้านแล้วกดออด
“เป็นไง รู้อะไรเกี่ยวกับตัวเองเพิ่มบ้างไหม”ป้าบุษราพูดขึ้นตอนที่กำลังปิดประตูร้าน
“ไม่เลยครับป้า ยิ่งรู้ยิ่งไม่เข้าใจ”มาร์ชส่ายหัว
“เอาหน่า อย่างน้อยๆก็มีข้อมูลเพิ่มขึ้นมาอีกอย่างแล้ว ค่อยๆหาไปเดี๋ยวก็เจอคำตอบเองนั่นแหละ”ป้าบุษราพูดแล้วก็เดินนำหน้ามาร์ชลงไปชั้นใต้ดิน ป้าบุษราตรงไปที่ห้องนอนของตัวเอง ส่วนมาร์ชก็ไปอาบน้ำแล้วกลับมาที่ห้องของตัวเอง
“วันนี้เรื่องเข้าไปเลื่อนระดับในรอยแยกมิติอสูรคงต้องเอาไว้ก่อน ตอนนี้ฉันอยากจะรู้เรื่องราวของตัวเองมากกว่า จะได้ทำภารกิจไปด้วยเลย”มาร์ชล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ามิติแล้วหยิบเอาลูกกุญแจสีดำมาถือเอาไว้
“แต่ฉันจะไม่ประมาทเหมือนคราวที่แล้วหรอกนะ”มาร์ชพูดจบก็เปิดระบบร้านค้าขึ้นมาแล้วเลือกซื้อของเตรียมพร้อมเอาไว้ มาร์ชหยิบดาบเหล็กสีเงินออกมาถือแล้วเปิดหน้าต่างสถานะของตัวเองขึ้นดู
สถานะ
ชื่อ มาร์ช เอสธาน่า ระดับ 7
ฉายา เจ้าแห่งการลอบสังหาร อาชีพ -
พลังชีวิต 556 พลังเวทย์ 320
ความแข็งแกร่ง 29+2+50(+12.04) ความทนทาน 16(1.6)
ความคล่องแคล่ว 28+3(+3.1) ความฉลาด 16
ความโชคดี 16
แต้มคงเหลือ 0
“นี่คือค่าสถานะสูงสุดเมื่อรวมทักษะติดตัวตอนใช้ดาบสินะ งั้นก็น่าจะพร้อมแล้วล่ะ”มาร์ชมองรายการในกระเป๋ามิติอีกครั้งเพื่อเช็คความพร้อมรอบสุดท้าย
“เที่ยงคืนพอดีเลย งั้นก็ใช้ไอเทมกุญแจรอยแยกมิติสร้างเอง”มาร์ชเหลียวมองนาฬิกาแล้วเปิดใช้กุญแจ
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 548
แสดงความคิดเห็น