March Time Traveler ตอนที่ 13 หลบหนี
ตอนที่ 13 หลบหนี
“โอ้โห นี่หรอรถยนต์ที่ป้าบอกให้เอาไปรับวัตถุดิบ มันจะไปถึงจุดหมายได้จริงใช่ไหมเนี่ย”มาร์ชพูดกับตัวเอง หลังจากมายืนอยู่ที่ลานจอดรถตามพิกัดที่ป้าบุษราให้มา
“ไอสไตน์แน่ใจนะว่าถูกคันน่ะ”มาร์ชถามไอสไตน์เพื่อยืนยันอีกครั้ง
‘ตามพิกัดและหมายเลขรถยนต์ที่ผู้ใช้ชื่อ บุษราให้ข้อมูลมานั้นถูกต้อง 100% แน่นอนค่ะ’เสียงไอสไตน์ตอบกลับในหัวของมาร์ช
“ก็ได้ ใช่ก็ใช่ หวังว่ามันจะไม่พังตอนฉันขับมันหรอกนะ งั้นก็รบกวนช่วยตรวจสอบสภาพรถให้ฉันทีไอสไตน์”มาร์ชบ่นแล้วก็บอกกับไอสไตน์
‘ทำการประเมินสภาพรถหมายเลข 3282536 ถึงสภาพภายนอกจะดูเก่า แต่สภาพเครื่องยนต์ยังมีความสมบูรณ์ดี ไม่มีปัญหาในการใช้งานค่ะ’
“โอเค งั้นไปจุดรับวัตถุดิบกันเถอะ เธอควบคุมระบบการขับให้ฉันทีนะ ฉันขับรถยนต์ไม่เป็นอ่ะ ตอนที่รับคำป้าเจ้าของร้านก็มัวแต่ตื่นเต้นเพราะมันเป็นภารกิจให้ค่าประสบการณ์เลื่อนระดับ เลยลืมนึกถึงเรื่องที่จะต้องขับรถไปเลย”
‘ได้ค่ะ เริ่มต้นการควบคุมระบบการขับรถยนต์ภายใต้กฎหมายและข้อบังคับการใช้ถนนร่วมกับผู้อื่น’ไอสไตน์รับคำสั่งแล้วก็เริ่มต้นระบบทันที มาร์ชก็เปิดประตูแล้วขึ้นไปนั่งที่เบาะคนขับ รถค่อยๆลอยตัวขึ้นแล้วก็หมุนตัวกลับ ก่อนจะเคลื่อนที่ออกไป
“นี่ไอสไตน์ ระหว่างที่เธอกำลังควบคุมระบบขับอัตโนมัติอยู่ เธอทำอย่างอื่นไปพร้อมกันด้วยได้ไหม”มาร์ชถามขึ้นหลังจากรถวิ่งออกมาได้สักพัก
‘ได้ค่ะ’
“งั้นฉันรบกวนหาข้อมูลบ้านกับรถ ให้หน่อยสิ”
‘กรุณารอสักครู่ค่ะ จะเริ่มทำการรวบรวมข้อมูลให้เดี๋ยวนี้เลยค่ะ’
‘นี่คือข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับบ้านและรถที่รวบรวมมาได้’เสียงไอสไตน์ดังขึ้นในหัวก่อนจะมีหน้าต่างข้อความสีขาวเด้งขึ้นตรงหน้ามาร์ช ซ้อนทับกันอย่างรวดเร็วมากกว่า 1 ล้านหน้าต่าง
“เดี๋ยวๆนี่อะไรเนี่ยไอนสไตน์”มาร์ชรีบร้องออกมาเพราะหน้าต่างข้อความที่มีรูปบ้านและรถ มันซ้อนทับกันหนาจนมองอะไรด้านหน้าไม่เห็นเลย
‘ก็ข้อมูลบ้านกับรถที่ให้หาไงคะ’ไอสไตน์ตอบกลับมา ^ ^
“โอเคฉันผิดเอง ที่ดันไม่ระบุขอบเขตการค้นหาให้ชัดเจน” -*-
“งั้นช่วยหาข้อมูลรถยนต์ประเภทรถกระบะ กับบ้านเดี่ยวราคาถูกให้หน่อย”
‘กรุณารอสักครู่ค่ะ จะเริ่มทำการรวบรวมข้อมูลให้เดี๋ยวนี้เลยค่ะ’แล้วหน้าต่างข้อความทั้งหมดก็ถูกปิด
‘นี่คือข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ประเภทกระบะ และบ้านเดี่ยวราคาถูกค่ะ’แล้วหน้าต่างข้อความใหม่ก็เด้งขึ้นตรงหน้ามาร์ช มาร์ชก็เลื่อนอ่านข้อมูลรถไปทีละอันเมื่อเจอคันที่ถูกใจก็สั่งให้ไอสไตน์จัดเก็บข้อมูลแยกเอาไว้เพื่อจะได้เอามาตัดสินใจใหม่อีกทีภายหลัง แล้วก็เลื่อนไปดูข้อมูลบ้านเดี่ยวต่อ
“ไอสไตน์ระบบรวนหรอ”มาร์ชถามขึ้นหลังจากเลื่อนอ่านข้อมูลบ้านได้เพียงแค่ 1 หน้าต่างข้อความ
‘ไอสไตน์คือปัญญาประดิษฐ์ขั้นสูง โอกาสที่จะเจอปัญหาระบบรวนนั้นแทบจะเป็นศูนย์’เสียงไอสไตน์อธิบายในหัวของมาร์ช
“แล้วนี่อะไรเนี่ย ฉันให้เธอหาข้อมูลบ้านเดี่ยวราคาถูก แต่นี่มันราคาตั้ง 30ล้านลิด มันถูกตรงไหน”มาร์ชพูดแล้วก็ใช้นิ้วชี้ไปที่ราคาบ้านที่อยู่ในหน้าต่างข้อความ
‘นี่คือข้อมูลราคาบ้านเดี่ยวที่ถูกที่สุดค่ะ เพราะข้อมูลบ้านที่รวบรวมมาที่แพงที่สุดคือ 5แสนล้านลิดค่ะ’
“5แสนล้านลิด ฉันต้องฆ่าเผ่าอสูรกี่แสนตัวถึงจะมีปัญญาซื้อบ้านได้สักหลังเนี่ย สงสัยคงต้องอาศัยห้องใต้ดินร้านแปดดาวของป้าบุษรานอนไปอีกนานเลย”มาร์ชบ่นออกมา
‘อีก 200 เมตรจะถึงจุดหมายที่ได้รับมาจากป้าบุษราแล้วค่ะ’เสียงไอสไตน์แจ้งเตือน ทำให้มาร์ชทำท่าทางจับคันบังคับเหมือนกับบังคับรถอยู่
“อ้าวพ่อหนุ่มความจำเสื่อมเองหรอ”เสียงลุงหมูพูดขึ้นอย่างเป็นกันเองเมื่อเห็นว่ามาร์ชเป็นคนขับรถมา
“อ้าว สวัสดีครับลุงหมู”มาร์ชยกมือไหว้หลังเดินลงมาจากรถที่ไอสไตน์ควบคุมลงจอดให้อย่างเรียบร้อยแล้ว
“ตาเสือ ตาแว่น ไอ้หนุ่มความจำเสื่อมมาล่ะ”ลุงหมูหันหลังกลับไปทางพื้นที่ด้านหลังที่เป็นเหมือนตู้กระจกขนาดใหญ่แล้วตะโกนเสียงดัง
“อ่ะจริงหรอ มาร์ชมาเอาวัตถุดิบให้เจ๊บุษราสินะ”ลุงเสือที่เดินออกมาจากตู้กระจกพูดขึ้น ก่อนจะชูมือทั้งสองข้างขึ้น แล้วถุงมือที่มือก็กลายเป็นแสงสีฟ้าก่อนจะจางหายไป
“ฮ่าๆนี่กลายเป็นเด็กรับใช้ของเจ๊บุษราแล้วรึไง”ลุงแว่นที่เดินตามหลังลุงเสือพูดขึ้น
“สวัสดีครับลุงเสือ สวัสดีครับลุงแว่น ทำอะไรกันหรอครับ”มาร์ชยกมือไหว้ลุงเสือแล้วหันไปไหว้ลุงแว่นต่อ
“อ่อก็ปลูกผักปลูกไม้นั่นแหละ อาชีพหลักพวกฉันก็คือสิ่งนี้แหละ การลงรอยแยกมิติอสูรเป็นงานอดิเรกน่ะ”ลุงเสือตอบ
“รสนิยมงานอดิเรกลุงนี่แปลกและเสี่ยงมากนะครับ”มาร์ชพูด แล้วทุกคนก็พากันหัวเราะชอบใจ
“ว่าไงสนใจเข้าไปดูข้างในหน่อยไหม”ลุงหมูหยุดหัวเราะแล้วหันมาถามมาร์ช
“ผมว่าเอาไว้คราวหน้าดีกว่าครับ วันนี้ผมกลัวว่าจะเอาวัตถุดิบกลับไปให้ป้าบุษราช้าน่ะครับ ถ้าเข้าไปดูข้างใน”
“นั่นสินะ ขอโทษด้วยนะที่ต้องลำบากเธอต้องถ่อมาถึงนี้เลย รถประจำที่มารับวัตถุดิบจากเราไปส่งที่ร้านเจ๊บุษราดันมาเสียเอาซะนี่”ลุงเสือพูดแล้วก็เดินมาจับที่ไหล่ของมาร์ช
‘ทำไมรู้สึกเหมือนกับว่าพ่อหนุ่มนี้แข็งแกร่งขึ้น แยกกันแค่คืนเดียวเอง เขาไปทำอะไรมา’ลุงเสือคิดในใจหลังจากจับไปที่ไหล่ของมาร์ช
“อ่อไม่เป็นไรครับ ไม่ได้ลำบากอะไรเลย ได้มาเจอพวกลุงยิ่งดีใจใหญ่เลยครับ ไว้ว่างๆผมจะได้แวะมาหาได้ถูกด้วย ว่าแต่ลุงเสือมีอะไรหรือเปล่า ดูเหม่อๆ”มาร์ชถามขึ้นหลังเห็นลุงเสือที่จับไหล่ตัวเองยืนเหม่อเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่
“หลังจากแยกกับพวกฉัน พ่อหนุ่มได้รับจินหรือเปล่า”ลุงเสือตัดสินใจที่จะถามมาร์ชตรงๆ
“ไม่หนิครับ ทำไมหรอครับ”มาร์ชถามกลับ
“อ่อไม่มีอะไรหรอก สงสัยฉันจะคิดอะไรมากไปหน่อย ตามประสาคนแก่นั่นแหละ ไม่ต้องใส่ใจ ฮ่าๆ”ลุงเสือพูดแล้วหัวเราะ
“พ่อหนุ่มความจำเสื่อม พวกหุ่นยนต์มันขนวัตถุดิบขึ้นกระบะให้ครบแล้วนะ”ลุงหมูที่เดินมาจากท้ายรถบอกกับมาร์ช
“อ้อครับ งั้นยังไงผมขอตัวกลับก่อนเลยละกันครับ ไว้จะมาเที่ยวใหม่วันหน้าครับ สวัสดีครับลุงๆ”มาร์ชยกมือไหว้ลาทุกคนแล้วก็กลับขึ้นรถก่อนที่ไอสไตน์จะควบคุมรถเพื่อเริ่มการขับ
“งั้นก็เดินทางกลับปลอดภัยล่ะ แล้วอย่าลืมแวะมาเที่ยวบ้างนะ”ลุงเสือพูดแล้วลุงแว่นกับลุงหมูก็ยกมือขึ้นโบกลา มาร์ชพยักหน้ารับเล็กน้อย รถก็เคลื่อนเข้าสู่ท้องถนนแล้วขับกลับตามเส้นทางทันที มาร์ชให้ไอสไตน์พาตรงกลับที่ร้านแปดดาวเลย
‘ท่านคะ มีข้อมูลจากทางโซเชียลอยากแจ้งให้ทราบค่ะ’อยู่ๆเสียงไอสไตน์ก็ดังขึ้นในหัวของมาร์ช
“ห้ะ ข้อมูลอะไรหรอ”มาร์ชที่กำลังนั่งกินลมชมวิวข้างทางอย่างเพลิดเพลินก็เลยตกใจ
‘จะทำการเปิดข้อมูลให้เดี๋ยวนี้ค่ะ’สิ้นเสียงไอสไตน์ ข้อมูลทั้งพาดหัวข้อข่าว คอมเมนท์พูดคุย และเสียงพูดคุยก็ปรากฏในหน้าต่างข้อความ ที่อยู่ด้านหน้าของมาร์ช มาร์ชก็เลยเลื่อนอ่านและฟังข้อมูลต่างๆ
“เดี๋ยวดิ นี่มันเรื่องของฉันทั้งนั้นเลยหนิ แล้วทำไมเรื่องมันเป็นแบบนี้ไปได้ล่ะ ฉันไม่ได้เป็นเกิรสนะ แล้วทำไมมีข่าวแพร่ออกไปแบบนี้ได้ล่ะ”มาร์ชพูดขึ้นหลังจากอ่านข้อความจบ
‘ต้องการให้ไอสไตน์จัดการข้อมูลพวกนี้ทิ้งทั้งหมดไหมคะ’ไอสไตน์ถามขึ้น
"ไม่ต้องหรอกไอสไตน์ ปล่อยเอาไว้แบบนั้นแหละเดี๋ยวคนก็ลืมกันไปเอง ยิ่งเราไปยุ่ง คนก็จะยิ่งพุ่งความสนใจมาที่เรามากขึ้น"
'ได้ค่ะท่าน อีก 25 กิโลเมตรจะถึงที่หมายค่ะ'ไอสไตน์รับคำแล้วก็แจ้งข้อมูลระยะทางในการขับขี่
"ฉันขอพักสายตาสักหน่อยนะ พอใกล้จะถึงก็ปลุกฉันด้วยละกัน ฮ้าว"มาร์ชหาวออกมาก่อนจะปรับเบาะแล้วนอนหลับไปเลย ปล่อยให้ไอสไตน์ทำหน้าที่ควบคุมรถให้
15 นาทีต่อมา
‘ท่านคะ ตอนนี้เราอยู่ห่างจากร้านแปดดาว 500 เมตรแล้วค่ะ’เสียงไอสไตน์ดังขึ้นปลุกให้มาร์ชลุกขึ้นปรับเบาะในท่านั่งทันที
“ฮ้าววว นี่ฉันนอนไปนานแค่ไหนเนี่ย”มาร์ชหาวออกมาแล้วบิดขี้เกียจในท่านั่งเล็กน้อย
‘15 นาทีค่ะ’
“เพราะบรรทุกวัตถุดิบมาเยอะรถเลยเคลื่อนที่มาได้ช้าสินะ”
“เดี๋ยวนะเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ไม่ใช่ว่ายังไม่ถึงเวลาเปิดร้านหรอกหรอ”มาร์ชพูดขึ้นเมื่อรถขับเข้าใกล้ร้านแปดดาวในระยะ 300 เมตร แล้วเห็นกลุ่มคนจำนวนมากยืนออกันที่หน้าร้าน
‘ท่านคะ ผู้ใช้ชื่อ บุษรา ติดต่อเข้ามาค่ะ’เสียงไอสไตน์แจ้งข้อมูล
“จอดรถให้หน่อยสิ แล้วรับสายเลย”มาร์ชพูดจบรถก็ถูกจอดนิ่งที่ข้างทาง
“เกิดเรื่องใหญ่แล้วนะ ตอนนี้เธออยู่ที่ไหนเนี่ย”เสียงป้าบุษราพูดขึ้นจากปลายสาย
“อยู่ไม่ไกลจากร้านครับป้า แล้วมีเรื่องใหญ่อะไรหรอครับ ผมเห็นคนมามุงกันอยู่ที่หน้าร้านป้าเพียบเลย”มาร์ชตอบแล้วก็ถามกลับไป
“ห้ะ อยู่ไม่ไกลจากร้าน อุ๊บ!!ซวยแล้ว นี่เธอฟังฉันนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ ที่เหลือเธอก็จัดการเอาเองละกัน ตื้ดดด..”ป้าบุษราพูดจบก็ตัดสายไปทันที
“เอ้าป้า อะไรเนี่ยไม่ตอบคำถามไม่พอยังทิ้งทวนให้งงเพิ่มอีก แล้ววางสายทิ้งไปซะละ”มาร์ชบ่นออกมาแล้วเขาก็เริ่มเห็นความผิดปกติบางอย่าง คนที่อยู่บริเวณหน้าร้านเริ่มหันซ้ายหันขวาเหมือนกำลังมองหาอะไรอยู่ แล้วก็มีคนๆหนึ่งที่มองมาทางมาร์ชพร้อมกับชี้นิ้วมาที่มาร์ชจอดรถอยู่ จากนั้นทุกคนต่างก็พากันวิ่งไปที่รถหลายคันที่จอดอยู่แล้วเริ่มขับตรงมาที่มาร์ชกันหมด
“เดี๋ยวนะฉันว่ามันชักจะยังไงๆแล้วนะ ไอสไตน์เธอขับรถยนต์แบบซิ่งได้ไหม”มาร์ชเห็นท่าไม่ดีเลยรีบถามไอสไตน์ขึ้น
‘ได้ค่ะ’
“งั้นดีเลยขอแบบซิ่งจัดเต็มไปเลยนะ”มาร์ชพูดจบรถยนต์ของมาร์ชก็ลอยตัวขึ้นแล้วหมุนตัวกลับ ก่อนจะพุ่งออกตัวอย่างรวดเร็ว จนมาร์ชตกใจต้องรีบคว้าคันบังคับเอาไว้ มาร์ชเหลียวมองไปด้านหลัง ก็เห็นรถหลายคันกำลังลอยตามมาด้วยความเร็วเหมือนกัน
“เราต้องรีบตามเขาให้ทัน เราจะต้องเป็นช่องข่าวช่องแรกที่ได้สัมภาษณ์เขา”ผู้หญิงคนหนึ่งที่แต่งตัวภูมิฐาน พูดกับลูกน้องตัวเองที่กำลังขับรถอยู่
“ยัยแมวน้อย เธอคิดจะแย่งเหยื่อของฉันยังงั้นรึ เอาที่บังคับมาให้ฉันบังคับรถเองซะ”เสียงผู้ชายที่สวมแว่นตาดำคาบบุหรี่ในปากพูดกับลูกน้องตัวเอง เมื่อลูกน้องได้ยินแบบนั้นก็กดปุ่มบางอย่างบนแผงรถแล้วคันบังคับมันก็ถูกพับเก็บก่อนที่จะไปโผล่ตรงที่นั่งคนนั่ง หรือก็คือลูกพี่เขา
“2สำนักข่าวใหญ่กำลังแย่งข่าวกัน พวกเราก็อย่าไปยอมแพ้ ลุยยยย เฮ้”เสียงของนักข่าววัยรุ่นคนหนึ่งที่เปิดระบบซันลูปแล้วออกมายืนปลุกขวัญกำลังใจที่ด้านนอก ตามด้วยเสียงเฮที่ดังสนั่น แล้วมหกรรมรถเกือบสิบคันกำลังขับตามหลังรถกระบะบรรทุกวัตถุดิบก็เริ่มต้นขึ้น
“กะแล้วเชียวว่าพวกนี้ต้องเป็นนักข่าว ทำไมถึงต้องมาสนใจเรื่องของฉันขนาดนี้ด้วยล่ะเนี่ย”มาร์ชเอามือมากุมขมับ
“ไอสไตน์ช่วยเร่งความเร็วมากกว่านี้หน่อยสิ พวกนั้นจะตามเราทันแล้วนะ”มาร์ชพูดขึ้นเมื่อเห็นพวกนักข่าวขับจี้เข้ามาใกล้ขึ้น
‘รถเรามีสภาพค่อนข้างเก่า นอกจากนี้ยังบรรทุกวัตถุดิบด้วย ทำให้เร่งความเร็วสูงสุดได้เท่านี้ค่ะ’
“งั้นขับเข้าตัวเมืองไปก่อน เราต้องหาทางสลัดพวกนักข่าวให้หลุดให้ได้ ฉันไม่อยากเป็นข่าว”
‘ได้ค่ะท่าน’แล้วไอสไตน์ก็มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองตามคำสั่งของมาร์ช
“คุณมาร์ชคะ ช่วยจอดรถด้วยค่ะ เราอยากสัมภาษณ์คุณแค่นิดหน่อยค่ะ ไม่ต้องขับรถหนีหรอกนะคะ”เสียงนักข่าวหญิง ตะโกนหลังจากขับรถมาตีคู่กับรถของมาร์ชได้ มาร์ชมองไปที่ตาของเธอ มันมีการขยายกว้างหดลงเหมือนกับเลนส์กล้อง
ข้อความ
ได้รับ ภารกิจพิเศษ หลบหนีนักข่าว
รางวัล โพชั่นค่าประสบการณ์ 100% จำนวน 1 ขวด
“อย่างงี้ก็สวยสิ ของรางวัลล่อตาล่อใจขนาดนี้ ไอสไตน์ช่วยใส่หมวก แว่นตาดำ ผ้าปิดปากให้ฉันหน่อย ก็สงสัยตั้งแต่แรกแล้วว่าทำไมพวกนักข่าวถึงไม่มีใครแบกกล้องแบกไมค์เลย ที่แท้เขาบันทึกทุกอย่างผ่านทางดวงตาได้เลยนี่เอง”มาร์ชอ่านข้อความแล้วเห็นรางวัลที่ได้ก็มีไฟขึ้นมาทันทีเลยรีบสั่งการ ไอสไตน์ก็เริ่มขั้นตอนของระบบวงแหวน แล้วหมวกแก็ปสีดำ แว่นตาดำ และผ้าพันขอสีขาวที่พันจนถึงปากก็สวมใส่ให้มาร์ชทันที
“ไอ้หนุ่มปิดไปก็ไม่มีประโยชน์หรอก พวกฉันมีรูปของเธอแล้ว จอดรถแล้วให้ฉันสัมภาษณ์ดีดีเหอะ ขับหนีแบบนี้จะเป็นอันตรายกับทั้งสองฝ่ายเปล่าๆ”ชายที่ปากคาบบุหรี่ขับรถตีคู่ขึ้นมาประกบกับรถมาร์ชชะโงกหัวออกมานอกหน้าต่างรถตะโกนขึ้นบ้าง
“โถ่ลุง มันจะอันตรายก็เพราะลุงนั่นแหละ หิวข่าวขนาดไหนกันครับ ถึงลงทุนขับรถลงข้างทางไปข้างหนึ่งเพื่อจะได้ประกบรถของผมทันเนี่ย”มาร์ชตอบกลับ หลังจากเห็นรถของนักข่าวชายลอยออกจากถนนไปครึ่งคัน
“ให้เวลาพวกฉันสัมภาษณ์ด้วยนะอย่าลืมล่ะ”เสียงนักข่าววัยรุ่นตะโกนโวกเวกโวยวายจากทางด้านหลัง เพราะพวกเขาขับมาจี้ท้ายรถมาร์ชแบบติดๆ
‘เอายังไงดีคะท่าน’ไอสไตน์ถาม
“ขับเข้าตัวเมืองไปเรื่อยๆ ถ้าถึงตัวเมืองการขับขี่จะต้องทำตามกฎ เขาจะขับแบบนี้ไม่ได้ พอถึงตอนนั้นเราค่อยหาทางสลัดพวกเขาให้หลุด”มาร์ชตอบไอสไตน์หลังจากนั้นก็ขับตรงเข้าเมืองโดยมีเสียงตะโกนมาจากรอบคันรถตลอดเส้นทาง
10 นาทีต่อมา มาร์ชก็มาถึงตัวเมือง นักข่าวหญิงกับลุงนักข่าวที่เคยขับประกบรถของมาร์ช ก็ลดความเร็วรถลงไปขับตามท้ายรถมาร์ชแทน ส่วนพวกที่อยู่ข้างหลังก็ชะลอแล้วต่อท้ายรถของ 2 คันอีกที
“เราจะเริ่มแผนการหลบหนีแล้วนะ ไอสไตน์ขับรถไปที่โซนร้านอาหารเลย แล้วช่วยส่งแผนที่ตัวเมืองมาให้ฉันด้วย”มาร์ชที่คิดแผนการเอาไว้ในหัวแล้ว เริ่มทำตามแผนทันทีที่เข้าเมือง
“นั่นเขาจะเลี้ยวไปทางโซนร้านอาหารทำไมกัน”นักข่าวหญิงตั้งข้อสังเกตหลังเห็นรถของมาร์ชเลี้ยวไปทางที่เป็นโซนร้านอาหาร
“ไอ้หนุ่มนี่เมาแมวรึยังไงเช้าแบบนี้ต่อให้เป็นโซนร้านอาหารก็ไม่มีคนให้เธอไปปะปนเพื่อหลบหนีหรอกนะ ฮ่าๆๆ”ลุงนักข่าวหัวเราะเพราะเห็นมาร์ชเลี้ยวไปทางโซนร้านอาหารในเวลาเช้า
“นี่ไอสไตน์ ถ้าหากว่าฉันไม่ได้อยู่ในรถเธอจะควบคุบรถได้อยู่ไหม”มาร์ชหลังจากศึกษาแผนที่ตัวเมืองถามขึ้น
‘ได้ค่ะ แต่มีรัศมีจำกัดแค่ 10 กิโลเมตรรอบตัวท่านค่ะ’ไอสไตน์ตอบ
“โห ตั้ง10 กิโลเมตรไม่ใช่แค่สิ เท่านี้แผนการของฉันน่าจะสำเร็จ งั้นไอสไตน์ตอนนี้ลดความเร็วลงหน่อย”มาร์ชพูดจบไอสไตน์ก็ลดความเร็วรถลงทันที
“ทำไมจู่ๆถึงชะลอความเร็วรถล่ะ ฉันเริ่มสับสนกับคนๆนี้จริงๆ”นักข่าวหญิงเริ่มบ่น หลังจากได้เห็นพฤติกรรมแปลกๆที่มาร์ชทำ
“ฮ่าๆๆไอ้หนุ่มสงสัยจะเพิ่งคิดขึ้นได้ล่ะสินะว่ามันไม่มีคน คงจะเลิกหนีแล้ว เลยชะลอรถเพื่อจอดให้ฉันสัมภาษณ์”ลุงนักข่าวหัวเราะชอบใจ แต่แล้วเขาก็ต้องเบิ่งตาโตเพราะความคิดของตัวเองมันผิดถนัด
“3..2...1 ไอสไตน์เร่งความเร็วสูงสุดเลย”มาร์ชพูดจบความเร็วรถก็เพิ่มขึ้น
“อ๋อยังงี้นี่เอง แต่ฉันไม่ยอมให้นายหนีไปง่ายๆหรอกนะ ฮัลโหลพวกนาย...”นักข่าวหญิงเข้าใจสิ่งที่มาร์ชพยายามทำหลังจากเห็นรถของมาร์ชขับผ่านสัญญาณไฟเขียวไปแล้ว แต่ตัวเองที่ขับตามต้องติดสัญญาณไฟแดงที่สี่แยก เธอจึงใช้ระบบวงแหวนติดต่อหาสายข่าวในเมืองทันที
“แกหลอกฉันได้นะไอ้หนุ่ม”ลุงนักข่าวกัดฟันพูด หลังรู้ว่าตัวเองเสียท่าให้กับมาร์ชแล้ว เขาเอามือทุบลงที่คันบังคับรถด้วยความโมโห
“ไอสไตน์จอดรถต่อจากคันนั้นทีนะ”มาร์ชชี้นิ้วไปที่รถกระบะคันหนึ่งที่มีวัตถุดิบอยู่ในกระบะ กำลังจอดให้หุ่นยนต์ขนเข้าไปในร้านอาหาร เมื่อไอสไตน์กำลังจะจอดรถมาร์ชก็ได้ขอให้ช่วยเปลี่ยนชุดให้ใหม่ เมื่อรถจอดมาร์ชก็รีบเปิดประตูลงมาเดินทันที
“เราจะต้องรอดูท่าทีไปก่อน ฉันรู้สึกเหมือนกับว่ายังไม่ปลอดภัยเลย”มาร์ชที่ตอนนี้สวมชุดสูทสีดำแล้วพูดขึ้น
“แยกย้ายกันตามหาเร็วเข้า เดี๋ยวเจ๊ใหญ่ระเบิดลงเราจะซวยกันหมด”เสียงกลุ่มชายประมาณ 4-5 คนขับรถมอเตอร์ไซค์มาจอดบริเวณใกล้ๆกับรถของมาร์ชพูดขึ้น พอลงจากมอเตอร์ไซค์ได้ก็วิ่งกันไปคนละทาง
“พี่ชายเคยเห็นคนในรูปไหมครับ”มีชายคนหนึ่งเดินเข้ามาถามมาร์ช
“เห้ย หน้าฉันดูเหมือนพนักงานตามหาคนหายรึไงวะ จะไปหาที่ไหนก็ไปแต่อย่ามาถามฉัน เดี๋ยวอัดซะดีมั้ย อะแฮ่ม”มาร์ชดัดเสียงให้ดูห้าวแล้วตะคอกขู่สายข่าวที่เดินมาถามเขา แล้วก็เดินทำท่าเหมือนนักเลงเพื่อที่จะได้เดินออกไปจากตรงนั้น
“อะไรของเขาวะ ถามแค่นี้จะตะคอกทำไม หูแทบแตกกินดีหมีมารึไงดุจริง”สายข่าวคนนั้นเดินบ่นพึมพำหลังจากเดินออกมาจากมาร์ชได้ไม่ไกล
“โห่แล้วนี่เจ๊ใหญ่แกให้ข้อมูลมาแบบนี้แล้วจะไปหาที่ไหนล่ะเนี่ย แถวนี้ก็มีแต่รถกระบะบรรทุกวัตถุดิบทั้งนั้น นู่นก็ใช่ นี่ก็ใช่ โน่นก็ใช่ นั่นก็ใช่”สายข่าวอีกคนที่หันซ้ายหันขวามองไปทั่ว ยืนเกาหัวแล้วบ่นไม่หยุด
“ซวยแล้วรถเจ๊ขับมานู่นแล้วพวกเรา”สายข่าวอีกคนรีบพูดขึ้นหลังจากเห็นรถเจ๊กำลังขับมา
“ทำไงได้เราก็รีบมาสุดๆแล้ว พยายามตามหาก็ทำแล้ว ก็บอกเจ๊แกไปตามตรงนั่นแหละ”สายข่าวอีกคนเริ่มปลง
“นี่มันรถของเขานี่ ตอนพวกนายมาเห็นไหมว่าเขาไปไหน ใครก็ได้ที่ลงจากรถคันนี้ ไม่จำเป็นต้องใส่เสื้อฮู้ดสีดำแบบที่ฉันบอกข้อมูลไว้”นักข่าวหญิงเดินตรงไปที่รถของมาร์ชทันทีที่ลงมาจากรถของตัวเอง แล้วจี้ถามสายข่าวของตัวเอง
“พอพวกผมมาถึงรถคันนั้นก็จอดอยู่ตรงนั้นอยู่แล้วครับ แต่พวกเราก็ไม่เห็นใครลงมาจากรถสักคนเลยนะครับ”สายข่าวคนหนึ่งตอบ
“แล้วได้แยกย้ายกันหาแถวนี้รึยัง”นักข่าวหญิงยังคงถามต่อ
“ครับพวกเรามาถึงก็รีบแยกย้ายกันหาทันทีเลย แต่ไม่มีใครเลย นอกจากนักเลงที่ใส่สูทสีดำคนเดียว”สายข่าวที่เดินเข้าไปถามมาร์ชตอบ
“แล้วตอนนี้คนที่นายพูดถึงอยู่ไหน นั่นอาจจะเป็นเขาปลอมตัวก็ได้”นักข่าวหญิงสันนิษฐาน ซึ่งมันก็ถูกซะจนมาร์ชที่แอบฟังอยู่ในร้านอาหารไม่ไกลถึงกับขนลุก
“นักข่าวคนนี้ฉลาดเป็นกรดเลยแหะ ฉันต้องใช้แผนนกต่อจริงๆสินะ”มาร์ชพูดขึ้น แล้วก็บอกให้ไอสไตน์เริ่มควบคุมรถจากระยะไกลทันที เมื่อรถลอยขึ้นแล้วเคลื่อนที่ออกไป นักข่าวหญิงก็ดูจะตกใจไม่น้อย
“ไม่นะ นี่เขาอยู่ในรถมาตลอดเลยยังงั้นรึเนี่ย ทุกคนตามรถเขาไปอย่าให้คลาดสายตาเด็ดขาด เราจะต้องทำข่าวของเขาให้ได้”นักข่าวหญิงรีบสั่งสายข่าวของตัวเอง เมื่อเห็นรถของมาร์ชลอยตัวขึ้นก่อนจะเคลื่อนที่ออกไป สายข่าวก็รีบขี่มอเตอร์ไซค์ตามไปทันที
‘เขาเป็นคนที่พลังเกริสน้อยที่สุดในโลกแต่เขาน่าจะเป็นคนที่ฉลาดที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ เขาคิดแผนพวกนี้ได้ยังไง ฉันมั่นใจว่าเขาไม่มีทางรู้ว่านักข่าวจะมาตามตัวเขาวันไหน แต่ทันทีที่ถูกตามตัวเขาก็หาทางหลบหนีได้ในทันที เป็นการหลบหนีที่มีแบบแผน ถ้างั้นนั่นอาจจะเป็นแผนลวงของเขาด้วยก็ได้”นักข่าวหญิงคิดในใจเสร็จก็ขึ้นรถแล้วขับออกไป
“ฟู่ววว กว่าจะไปได้นะแม่คุณ”มาร์ชถอนหายใจแล้วเดินออกมาจากร้านอาหารที่เขาแอบอยู่
“ทักษะย่างก้าวสังหาร”มาร์ชรีบเรียกใช้ทักษะย่างก้าวสังหารอย่างกระทันหัน เพราะเขาตกใจที่เห็นรถของนักข่าวหญิงขับวนกลับมา
“สงสัยฉันจะคิดมากไปเองสินะ อุตส่าห์วนรถกลับมานึกว่าเขาจะซ้อนแผน”เสียงนักข่าวหญิงพูด เธอชะโงกหน้าออกมาจากหน้าต่างรถแล้วมองซ้ายมองขวา แล้วก็กลับเข้าไปนั่งปกติก่อนที่รถจะเคลื่อนที่ออกไป
‘เธอเป็นนักข่าวหรือนักสืบกันแน่เนี่ย เกือบไปแล้วสิเรา สงสัยต้องคิดแผนสำรองเผื่ออีกแผนดีกว่าเพื่อความปลอดภัย’มาร์ชคิดในใจจบก็ครบระยะเวลายกเลิกสถานะล่องหนของทักษะพอดี มาร์ชเลี้ยวซ้ายแลขวาจนมั่นใจว่านักข่าวหญิงจะไม่โผล่มาเซอร์ไพรส์ตัวเองอีก ก็รีบเดินจ้ำไปทางสวนสาธารณะตามเส้นทางที่เคยดูในแผนที่เมืองก่อนหน้านี้
“เธอคงไม่คิดว่าฉันจะหลบมาอยู่ที่สวนสาธารณะหรอก เพราะที่นี่มันดูไม่เหมาะที่คนกำลังหนีจะมาอยู่ ไปเข้าห้องน้ำหน่อยดีกว่า”มาร์ชบ่นพึมพำหลังจากเดินมาถึงสวนสาธารณะ
“ทรงนี้เธอจะชอบไหม หรือฉันควรจะเอาทรงไปดี ไม่เอาๆๆๆ ทรงนี้ดีกว่าใช่เลย นี่จะต้องสร้างความประทับใจสำหรับเดทแรกแน่นอน”เสียงผู้ชายคนหนึ่งบ่นกับตัวเองหน้ากระจกในห้องน้ำ หลังจากพยายามจัดทรงผมอยู่นานสองนาน มาร์ชที่เดินเข้ามาในห้องน้ำเลยได้ยินเข้า มาร์ชเดินผ่านไปแบบไม่สนใจเขา แต่อยู่ๆชายคนนั้นก็หันมาถามมาร์ช
“ผมดูเป็นไงมั่งครับ มันจะสร้างความประทับใจสำหรับเดทแรกได้ไหมครับ”ชายคนนั้นถามจบก็จ้องมาร์ชตาค้างเลย
‘โอ้ยยย ทำไมต้องเวลานี้ด้วย แล้วฉันก็ไม่เคยออกเดทจะให้ฉันแนะนำยังไง แต่เดี๋ยวสิ นี่ไงล่ะแผนสำรองที่ฟ้าส่งเขามาให้ฉัน’มาร์ชคิดในใจ แล้วก็มองชายตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้าอยู่หลายรอบ
“ถ้าให้ผมแนะนำจริงๆ ผมว่ามันดูเป็นทางการเกินไปครับ”มาร์ชพูดแล้ววางท่าเหมือนเป็นเซียนการแต่งตัวไปเดท
“งั้นผมควรแต่งตัวยังไงดีครับ”ชายคนนั้นหน้าตาดูเป็นกังวลทันทีที่มาร์ชแนะนำเขา
“ผมว่าเราไปเดทควรแต่งตัวสบายๆ เน้นไปทางน่าค้นหาจะดีกว่าครับ เพราะผู้หญิงชอบผู้ชายลึกลับน่าค้นหามากกว่าครับ”มาร์ชเริ่มพูดเปิดประเด็นให้แผนของตัวเองดำเนินการ
“ชุดแบบที่คุณแนะนำมาผมไม่น่าจะมีเลยครับ”ชายคนนั้นพูดแล้วไหล่ตก แสดงให้เห็นถึงความสิ้นหวัง
“ผมพอจะมีอยู่นะครับ ผมยินดีขายให้สนใจไหมล่ะครับ”มาร์ชเสนอ ชายคนนั้นดีใจจนออกทางหน้าตา
“เอาครับ”ชายคนนั้นรีบตอบรับ เพราะกลัวมาร์ชจะเปลี่ยนใจ จากนั้นมาร์ชก็แลกเปลี่ยนข้อมูลเมนูเสื้อผ้าไปให้ชายคนนั้น แล้วชายคนนั้นก็โอนลิดให้มาร์ช ผ่านทางระบบวงแหวน ชายคนนั้นรีบกดใส่ชุดที่แลกเปลี่ยนกับมาร์ช เขาสำรวจตัวเองในกระจกเสร็จก็เดินออกจากห้องน้ำไปด้วยรอยยิ้มที่กว้างจนจะถึงหูอยู่แล้ว เขาหันมาขอบคุณมาร์ชอยู่หลายรอบ มาร์ชเลยยิ้มตอบกลับ แล้วเขาก็เดินจากไป
‘แปลกจังแหะ’ชายคนนั้นคิดในใจเล็กน้อย
“ยกโทษให้ฉันด้วยนะ ถือซะว่านายได้ทำบุญก่อนออกเดทไง การเดทของนายจะได้ลุล่วงไปได้ด้วยดี”มาร์ชพูดจบก็เดินออกจากห้องน้ำสาธารณะ แล้วตรงไปที่ป้ายจอดรถขนส่งสาธารณะ มาร์ชเลือกป้ายที่รถขนส่งจะไปทางออกนอกเมืองที่สุด
“จบแล้ว เขาไม่ได้อยู่ในรถ เขาใช้การบังคับรถระยะไกลเป็นนกต่อล่อเรามาที่นี่ เขาน่าจะยังอยู่ในตัวเมือง ไปตามหาเขาที่นั่นกัน”นักข่าวหญิงหลังจากตามรถกระบะที่ไอสไตน์ควบคุมระยะไกลมา ก็ได้รู้ว่าตัวเองโดนหลอก จึงรีบขับรถย้อนกลับเข้าไปที่ตัวเมืองอีกครั้ง ประจวบเหมาะกับที่มาร์ชก็เดินลงจากรถขนส่งสาธารณะใกล้รถที่จอดอยู่พอดี มาร์ชเห็นพวกนักข่าวขับรถสวนไปทางตัวเมืองก็ยิ้มออกมา แล้วรีบเดินขึ้นรถกระบะที่บรรทุกวัตถุดิบ แล้วให้ไอสไตน์ขับกลับร้านแปดดาวทันที ขับมาได้ครึ่งทางก็มีข้อความเด้งขึ้นตรงหน้ามาร์ช
“เจ๊ครับมีคนพบคนสวมฮู้ดสีดำ ตรงตามลักษณะที่เราตามหา บริเวณสถานีรถไฟครับ”สายข่าวรายงาน
“ไปที่นั่นกันเลย”นักข่าวหญิงรีบวางสาย แล้วขับรถไปที่สถานีรถไฟทันที
ข้อความ
ภารกิจพิเศษ หลบหนีนักข่าวสำเร็จ
ได้รับ โพชั่นค่าประสบการณ์ 100% จำนวน 1 ขวด
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 481
แสดงความคิดเห็น