แม่มดพรรค์ราคะ (เวอร์ชัน 1.2) - ตอนที่ 1
ค่ำคืนที่มีดวงดาวเต็มฟ้า
สถานที่แห่งหนึ่งในป่าซึ่งห่างจากชานเมือง พื้นที่ที่เคยปกคลุมไปด้วยหญ้าสูง บัดนี้ไม่มีสภาพแวดล้อมนั้นอีกแล้ว เพราะมันถูกตัดออกไป แต่ไม่มีส่วนที่ถูกตัดทิ้งให้เห็น เนื่องจากมันถูกตัดและทำลายทิ้งด้วยเวทมนตร์
เบ็คกี้เดินถอยหลังออกมาจนเกือบติดรถส่วนตัว มองดูผลงานของตัวเองด้วยความภาคภูมิใจ
ที่พื้นเบื้องหน้าคือวงแหวนเวทสีทอง ความกว้างประมาณสิบห้าฟุตและภายในวงกลมมีสัญลักษณ์ดาวห้าแฉก ทั้งหมดนี้ถูกวาดด้วยคทาเวท
วงแหวนดาวห้าแฉกนี้มีคุณสมบัติเหมือนกับเครื่องย้ายมวลสารในหนังไซไฟ
ถ้าย้อนกลับไปในอดีตได้และสมัยนั้นมีให้จดลิขสิทธิ์ทางปัญญา แม่มดที่คิดค้นวงแหวนเวทนี้ได้เป็นคนแรกต้องรวยภายในพริบตาแน่ ในเมื่อมันก้าวหน้าขนาดนี้
คุณสมบัติของมันไม่มีเพียงแค่นั้น มันยังสามารถย้อนกลับไปในอดีตได้ด้วย
เชื่อได้เลย ถ้าเด็กแว่นขี้แยมาเห็นวงแหวนเวทนี้เข้า หุ่นยนต์แมวสีฟ้าตกงานแน่ เพราะเด็กแว่นจะไม่ไปร้องขอยืมเครื่องไทม์แมชชีนอีกแล้ว เขาจะมาชักดิ้นชักงอต่อหน้าเหล่าแม่มดเพื่อขอยืมใช้แทน
เบ็คกี้หันหลังไปรูดซิปกระเป๋าในรถ หยิบขวดยาวิเศษขึ้นมาเปิดฝาแล้วดื่ม
“บ้าเอ๊ย !” เบ็คกี้ไอไม่หยุด เนื่องจากยาที่ดื่มเข้าไปมีรสชาติขมถึงขั้นเกือบทำลิ้นพิการ
แต่เธอยังคงฝืนดื่มจนหมด จากนั้นหยิบขวดน้ำเปล่ามาดื่มล้างรสชาติในปาก แต่มันยังคงไม่หายไปจากลิ้น
เบ็คกี้ดีดนิ้ว ใช้เวทมนตร์เรียกของออกมาจากกระเป๋าแทน ครั้งนี้สิ่งที่เอาออกมาเป็นหนังสือเวทมนตร์
ก่อนจะเริ่มการอ่านเพื่อร่ายเวท เธอก้มหยิบก้อนหินมาปาไล่นกฮูกที่เกาะอยู่บนต้นไม้ใกล้ๆ ไปก่อน ด้วยเกรงว่าเสียงร้องของมันจะทำให้เสียสมาธิ
แม้เห็นนกตัวนั้นบินหนีหายไปจากสายตา แต่ความจริงมันไม่ได้ไปไหนไกลอย่างที่เห็น เพราะยังคงได้ยินเสียงร้องของมันอยู่
เบ็คกี้พ่นลมออกจมูกอย่างอารมณ์เสีย แต่เธอไม่เดินไปไล่มันต่อ เพราะระยะห่างประมาณนี้ก็เบาพอแล้ว
เธอมองดูหนังสือแล้วเริ่มอ่านออกเสียง ภาษาที่เปล่งออกมานั้นค่อนข้างแปลกประหลาด มันยังให้ความรู้สึกเก่าแก่โบราณและน่าขนลุก เหมือนบทสวดในลัทธิบางอย่างที่ไม่น่าพิสมัย
ขณะร่ายเวทมนตร์ เธอเดินวนรอบวงแหวนดาวห้าแฉก พร้อมใช้คทาวาดอักขระทีละตัวกลางอากาศ เมื่ออักขระถูกสร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว มันยังคงลอยให้เห็นอยู่เหมือนเดิม
ที่จริงเธอไม่อยากมาทำอะไรแบบนี้ แต่ถ้าเธอไม่ทำ เธอต้องเผชิญกับกฎแห่งชีวิต นั่นก็คือเวลา
ถ้ามีใครมาถามว่าเพราะอะไร ต้องเล่าย้อนกลับไปตั้งแต่อดีต
เหล่าแม่มดมีวิธีทำให้ใบหน้าของตัวเองสวยราวกับเทวดาช่วยกันปั้นมาให้ ไม่เพียงแค่ใบหน้า รูปร่างของพวกเธอก็เช่นเดียวกันที่ดูดี เหมือนกับว่าร่างกายนี้ถูกสร้างมาเพื่อยั่วหนูน้อยของคุณชายทั้งหลายแหล่ให้กระดกหัวมามอง
โดยวิธีจะได้ความงามนั้นมา ต้องปรุงยาวิเศษที่เป็นสูตรลับเฉพาะแล้วดื่ม
แต่ส่วนใหญ่ปรุงยาตัวนี้ไม่ได้ เนื่องจากขาดส่วนผสมสำคัญ ที่แม่มดไม่อาจไปหาเก็บตามป่าเขา หรือจะไปหาซื้อตามร้านค้าทั่วไป เพราะส่วนผสมสำคัญที่ว่านี้คือเด็กทารก !!!
เหตุผลที่ต้องใช้เด็กทารกนั้น เนื่องจากเด็กช่วงวัยนี้ยังคงมีพลังชีวิตต้นกำเนิดอยู่ จึงเหมาะมากสำหรับเอามาเป็นส่วนผสมให้แม่มดดูสาวอีกครั้ง
แน่นอนว่าจะมีพ่อแม่คนไหนบ้างล่ะที่บ้ายกลูกของตัวเองให้ไปทำเป็นยาเสริมความงาม
ด้วยเหตุนี้ แม่มดจึงต้องลักเด็กแทน แต่ไม่ว่าความลับใดก็ไม่มีทางปกปิดได้ตลอดไป
เมื่อแม่มดถูกจับได้ว่าเป็นต้นเหตุเรื่องเด็กที่หายตัวไป ชาวบ้านที่โกรธแค้นจึงช่วยกันจับตัวแล้วเอาไปเผาทั้งเป็น ชาวบ้านไม่หยุดแค่นั้น เพราะความโกรธแค้นและความเกลียดชังมีมากจนไม่สามารถดับด้วยการฆ่าแม่มดเพียงคนเดียว ชาวบ้านจึงรวมตัวกันออกไล่ล่าแม่มดทั้งหมดที่รู้จัก ไม่ว่าแม่มดคนนั้นจะทำหรือไม่ก็ตาม เหมือนคำสุภาษิตของไทยที่ว่า ปลาเน่าตัวเดียว เหม็นทั้งข้อง
ตอนแรกเหล่าแม่มดคิดว่าความเลวร้ายนี้มีอยู่ไม่กี่วัน หรือไม่กี่เดือน หรือไม่กี่ปี พวกชาวบ้านคงจะเลิกไปเอง แต่ความจริงช่างโหดร้าย เรื่องการกระทำแม่มดไม่จำกัดอยู่แค่ภายในหมู่บ้าน มันขยายออกไป จนกระทั่งทุกเมืองก็รับรู้กันหมด
ความเกลียดชังนี้มีมาก ถึงขั้นมีหนังสือคู่มือในการสังเกตว่าใครเป็นแม่มดและวิธีการทรมานให้สารภาพอย่างเป็นล่ำเป็นสัน ทำราวกับเป็นหนังสือสอนดูไก่งวงที่น่าจะนำมาชำแหละเป็นอาหารในวันขอบคุณพระเจ้าอย่างนั้นแหละ
แม่มดหลายคนจึงต้องเก็บเนื้อเก็บตัวและไม่ทำตัวแปลกประหลาดกว่าใคร เอาเข้าจริง ไม่ช่วยอะไรได้เท่าไรนัก ไม่ใช่เพราะหนังสือคู่มือในการล่าแม่มดนั้นใช้อ้างอิงได้จริง ต้นเหตุแท้จริงเป็นเพราะมนุษย์บางคนหรือบางกลุ่มอาศัยโอกาสนี้ให้เกิดประโยชน์สำหรับตัวเอง โดยการกล่าวหาลอยๆ ว่าเป็นแม่มด แม้กระทั่งคนแก่วัยใกล้ฝังหรือเด็กก็ไม่เว้น ส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิงถูกกล่าวหา หนึ่งในนั้นเป็นแม่มดตัวจริง
เมื่อรู้ตัวว่าจะถูกจับ แม่มดจึงต้องวิ่งหนีตาลีตาเหลือก แม้ว่าพวกเธอสามารถใช้อำนาจวิเศษได้ แต่ไม่ใช่ว่าจะทำได้ทุกอย่าง เพราะการร่ายเวทมนตร์ต้องใช้สมาธิอย่างสูง ห้ามมีสิ่งใดมารบกวน ยังมีเรื่องการเปล่งเสียงออกมาเป็นบทเวทอีก กว่าจะร่ายเวทได้บทหนึ่ง ถูกชาวบ้านใช้เชือกรัดคอตายไปนานแล้วมั้ง ถ้าสามารถฟื้นขึ้นมาได้ก็คงจะตายซ้ำตายซ้อนไม่ต่ำกว่าสามรอบ
ในช่วงยุคนั้น เหล่าแม่มดพยายามหาส่วนผสมตัวอื่นมาทดแทน ไม่เช่นนั้นการล่าแม่มดจะไม่จบสิ้น แต่ส่วนใหญ่ใช้ไม่ได้ผลและที่เหลือผลลัพธ์ชวนร้องกรี๊ด
หนึ่งในกรณีอย่างหลัง เคยมีกลุ่มแม่มดทดลองเอาลูกแรกเกิดของสัตว์มาใช้แทน เพราะคิดว่าอาจใช้ได้เหมือนกัน แต่ผลออกมากลับเลวร้ายสำหรับผู้ที่รักสวยรักงาม ร่างกายของพวกเธอเกิดความผิดปกติ อย่างเช่นมีลักษณะอวัยวะเหมือนกับสัตว์ที่จับมาเป็นส่วนผสม หรือปรากฏขนปกคลุมขึ้นทั้งตัว
แม้ในช่วงนั้นเป็นเรื่องยากลำบากในการดำรงชีวิตของเหล่าแม่มด แต่พวกเธอก็ยังคงดิ้นรนเพื่อจะมีชีวิตรอดต่อไป
ไม่นานเหล่าแม่มดก็ได้ค้นพบความจริงเกี่ยวกับพลังชีวิตต้นกำเนิด สิ่งนี้มันอยู่เป็นรูปลักษณ์ของน้ำในลูกตุ้มที่ห้อยอยู่ระหว่างขาของผู้ชาย แต่น้ำที่ถูกขับเคลื่อนด้วยความกำหมัดนี้ไม่สามารถเอาจากของมนุษย์ได้โดยตรง ต้องปล่อยให้น้ำนี้ไปผสมกับภายในตัวของผู้หญิงจนกลายเป็นเด็กเท่านั้นถึงจะใช้ได้
เหล่าแม่มดจึงต้องทำการทดลองและคิดค้นต่อไป จนกระทั่งค้นพบวิธีใหม่ แต่ไม่น่าอภิรมย์เท่าไรนัก เพราะวิธีใหม่ที่ว่าค่อนข้างดูเป็นหญิงบริการในซ่อง นั่นก็เพราะว่าต้องใช้เรือนร่างของตัวเองในการกักเก็บน้ำต้นกำเนิดจากสัตว์ในตำนานสิบอย่างต่อไปนี้
งูยักษ์ใต้น้ำ นกยักษ์แห่งป่าพิสดาร เสือจอมกลายร่าง จระเข้จอมหื่น กระทิงคลั่ง ออร์คจอมป่าเถื่อน มนุษย์หมาป่าตาเพชร ปีศาจม้าอเวจี มังกรยุโรป และสุดท้าย เทพเจ้ามังกร
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 624
แสดงความคิดเห็น