ตอนที่ 95: ประตูที่ปิดไม่ได้!
ตอนที่ 95: ประตูที่ปิดไม่ได้!
สถานการณ์เริ่มมีความซับซ้อนขึ้นเมื่อระบบสแกนทางชีวภาพได้แสดงให้เห็นว่าไม่มีใครอยู่ในสถานีอวกาศ แต่ระบบช่วยชีวิตในสถานีกลับทำงานเป็นปกติไม่ว่าจะเป็นระบบกรองอากาศหรือระบบผลิตน้ำจืด
ถึงแม้ว่าสถานีอวกาศแห่งนี้จะมีคุณภาพค่อนข้างดี แต่หลังจากเวลาได้ผ่านพ้นมาหลายร้อยปีแล้ว ระบบช่วยชีวิตก็ไม่สมควรจะเปิดใช้งานได้เป็นปกติถ้าหากว่าไม่มีใครเข้ามาทำการจัดการ
หลังได้ยินบทสนทนาเซี่ยเฟยก็ตัดสินใจไม่เข้าไปในห้องบัญชาการ แต่หันหลังกลับและเดินตรงไปยังห้องโดยสาร จากนั้นชายหนุ่มก็ทำการเปิดไมโครคอมพิวเตอร์เพื่อยืนยันตำแหน่งของลูน่า
ลูน่าได้ติดตั้งระบบควบคุมระยะไกลเอาไว้ ดังนั้นเซี่ยเฟยจึงสามารถสั่งการตัวยานผ่านไมโครคอมพิวเตอร์จากระยะไกลได้ ขณะเดียวกันลูน่าก็อยู่ห่างจากเซี่ยเฟยไปเพียงแค่ไม่ไกลและเขายังได้เติมพลังงานของตัวยานเอาไว้เต็มเปี่ยม ด้วยเหตุนี้ตราบใดก็ตามที่เซี่ยเฟยออกคำสั่งลูน่าก็พร้อมที่จะมุ่งหน้ามาหาเขาได้ในเวลาเพียงแค่ประมาณ 10 นาที
เซี่ยเฟยก็ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงมีความสงสัยและกังวลเกี่ยวกับภารกิจนี้อยู่เสมอ ดังนั้นเพื่อเป็นการอุ่นใจเขาจึงเตรียมลูน่าเอาไว้ใกล้ ๆ เพื่อรับมือเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง
ทันใดนั้นเฉินตงก็เคาะประตูก่อนที่จะเดินเข้ามาภายในห้องและพูดว่า
“ดูเหมือนสถานการณ์จะแตกต่างจากที่พวกเราคาดการณ์เอาไว้ในตอนแรก ฉันได้ยินมาจากรุ่นพี่เซียวไห่ลี่ว่าเขาอาจจะส่งคนเข้าไปในสถานีอวกาศ”
“อือ” เซี่ยเฟยพยักหน้ารับก่อนที่จะเดินไปที่ห้องบัญชาการพร้อมกับเฉินตง
“สถานีอวกาศ GPP1796 ถูกเปิดใช้งานโดยไม่ทราบสาเหตุ ฉันได้รายงานเรื่องนี้ไปทางสำนักงานใหญ่แล้ว ภายใน 13 ชั่วโมงจะมียานจากสำนักงานใหญ่เดินทางมาสนับสนุนพวกเรา 2 ลำ ในระหว่างนี้สำนักงานใหญ่อนุญาตให้พวกเราเข้าไปรวบรวมข้อมูลในสถานีอวกาศได้โดยตรง ไม่ทราบว่าในบรรดาพวกคุณมีใครใช้ยานอวกาศเป็นบ้าง” เซียวไห่ลี่กล่าว
“ผมเคยเรียนรู้การใช้ระบบเรดาร์, ระบบสื่อสารและระบบควบคุมอาวุธครับ” เป๋ยไฮ่ยกมือขึ้นอย่างตื่นเต้น
“ดีมาก! ถ้าอย่างนั้นคุณกับโบซิงวาได้รับหน้าที่อยู่ในห้องบัญชาการคอยสนับสนุนพวกเราจากด้านหลัง” เซียวไห่ลี่กล่าวพร้อมกับพยักหน้า
“เอาล่ะ ฉันจะประกาศหน้าที่ของทุกคนแล้วนะ เควรอซ, เซี่ยเฟยกับฉันจะเข้าไปสำรวจสถานีอวกาศ ส่วนเฉินตง, หมานจุนและเยว่เกอเป็นทีมสำรอง ถ้ามีเหตุจำเป็นฉันจะรีบเรียกทีมสำรองทันที ส่วนโบซิงวากับเป๋ยไฮ่ทำหน้าที่เป็นทีมสนับสนุนอยู่บนยาน”
การประกาศหน้าที่ครั้งนี้ทำให้เซี่ยเฟยรู้สึกตกตะลึงเล็กน้อย เพราะเขาไม่คาดคิดเลยว่าเซียวไห่ลี่จะเอาเขาไปเข้าร่วมทีมด้วย
“ทำไมเซี่ยเฟยถึงได้เข้าไปสำรวจ! แต่พวกเราต้องรออยู่ข้างหลังด้วย!!” เยว่เกอกล่าวขึ้นมาอย่างไม่พอใจ
“โบซิงวาต้องทำหน้าที่คอยสนับสนุนอยู่บนยานและในบรรดาพวกน้อง ๆ ทั้งหมด เซี่ยเฟยเป็นคนที่มีความสามารถด้านความเร็วเพียงแค่คนเดียว ดังนั้นพวกเราจึงตัดสินใจเอาเขามาทำหน้าที่แทนโบซิงวา” เควรอซกล่าวพร้อมกับเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย
โดยปกติแล้วมันจะมีกระสวยอวกาศขนาดเล็กติดตั้งอยู่บนยานอวกาศเพื่อใช้ในกรณีที่จำเป็น แต่ในคราวนี้เซี่ยเฟย, เซียวไห่ลี่และเควรอซได้ใช้กระสวยอวกาศในการเคลื่อนที่ออกจากยานเพื่อมุ่งหน้าไปยังสถานีอวกาศ
สถานีอวกาศตรงหน้ามีรูปร่างคล้ายกับลูกข่าง แต่หลังจากที่มันได้ทำหน้าที่มาเป็นเวลากว่าร้อยปี มันจึงทำให้สถานีอวกาศแห่งนี้ดูคล้ายกับเศษเหล็กที่ผุพังท่ามกลางท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว
กระสวยอวกาศที่ขับโดยเควรอซทำการส่งรหัสเพื่อขอลงจอดในสถานีอวกาศ ก่อนที่พวกเขาจะค่อย ๆ ลงจอดในสถานีอย่างนุ่มนวล
หลังจากประตูของสถานีได้ปิดลงพร้อมกับระบบของสถานีได้ปรับสภาพความดันแล้ว ไฟนิรภัยในห้องโดยสารก็ส่องแสงสว่างก่อนที่ประตูจะเปิดออกเพื่อให้ทั้งสามคนเดินออกมาจากกระสวย
“อันดับแรกพวกเราควรไปที่ศูนย์บัญชาการของสถานีอวกาศก่อน” เซียวไห่ลี่สั่งการพร้อมกับยื่นเครื่องตรวจจับชีวภาพแบบพกพาไปให้เซี่ยเฟย
สถานีอวกาศแห่งนี้มีขนาดใหญ่แต่มันก็เงียบมากอย่างน่าขนลุก โดยทั่วทั้งสถานีมีกลิ่นอับอยู่เล็กน้อย เซี่ยเฟยจึงเดินดูดบุหรี่ตามหลังเซียวไห่ลี่และเควรอซอย่างตื่นตัว
“พวกเรากำลังจะเข้าลิฟต์หมายเลข 16 ทางด้านนายเครื่องตรวจจับชีวภาพมีอะไรเปลี่ยนแปลงไหม?” เซียวไห่ลี่ติดต่อไปยังโบซิงวาที่อยู่บนยานอวกาศ
“ระบบตรวจจับได้แต่พวกนาย 3 คน แต่ไม่มีสิ่งมีชีวิตอื่น” โบซิงวารายงาน
“ทำการตรวจจับชีวภาพต่อไป แต่ใช้เครื่องวัดอุณหภูมิและเครื่องตรวจสอบพลังงานเข้าร่วมด้วย” เซียวไห่ลี่กล่าวอีกครั้ง
“รับทราบ”
ทั้งสามคนเดินเข้าศูนย์บัญชาการของสถานีอวกาศหลังออกจากลิฟต์ โดยศูนย์บัญชาการมีขนาดประมาณ 500 ตารางเมตรและทั่วทั้งห้องก็มีอุปกรณ์ที่เซี่ยเฟยไม่รู้จักถูกวางเอาไว้อย่างเรียบร้อย
เซี่ยเฟยใช้นิ้วสัมผัสโต๊ะเบา ๆ ก่อนที่จะได้พบกับชั้นฝุ่นหนา ซึ่งมันแสดงให้เห็นว่าไม่มีใครเข้ามาในห้องนี้เป็นเวลานานแล้ว
เซียวไห่ลี่เริ่มเปิดอุปกรณ์ในศูนย์บัญชาการทีละชิ้นและใช้ระบบตรวจจับของสถานีอวกาศเพื่อตรวจจับสิ่งมีชีวิต ขณะเดียวกันเควรอซก็นั่งลงบนเก้าอี้ของกัปตันพร้อมกับเปิดคอมพิวเตอร์เพื่อตรวจสอบบันทึกการทำงานของสถานีอวกาศ
“ในบันทึกของสถานีอวกาศมีเบาะแสอะไรไหม?” เซียวไห่ลี่ถาม
เควรอซใช้นิ้วจิ้มหน้าจอโฮโลแกรห์มอย่างช่ำชอง ก่อนที่นิ้วของเขาจะหยุดชะงักอย่างกะทันหัน
“ในบันทึกระบุว่าระบบช่วยชีวิตถูกเปิดใช้งานเมื่อ 4 วันก่อน” เควรอซกล่าว
“ลองตรวจสอบต่อไปว่าในช่วง 100 ปีที่ผ่านมามีอะไรแปลก ๆ อีกบ้างไหม” เซียวไห่ลี่สั่งการ
“ได้เลย”
ขณะเดียวกันหลังจากที่เซี่ยเฟยเล่นระบบเรดาร์แบบเก่าอยู่สักพัก เขาก็เริ่มรู้สึกเบื่อขึ้นมาเล็กน้อย เขาจึงลุกยืนขึ้นและเดินไปที่หน้าต่างเพื่อมองออกไปนอกอวกาศ
ภาพที่ปรากฏขึ้นนอกหน้าต่างมีดวงดาวส่องแสงอยู่เพียงแค่ไม่กี่ดวง แต่จู่ ๆ เซี่ยเฟยก็รู้สึกว่าท้องฟ้าทางด้านมุมบนซ้ายค่อนข้างพล่ามัวราวกับว่ามันมีอะไรบางอย่างเข้ามาบดบังการมองเห็นของเขา
เซี่ยเฟยพยายามขยี้ตาและจ้องมองไปยังบริเวณนั้นอีกครั้ง แต่ในคราวนี้ภาพพล่ามัวได้หายไปเผยให้เห็นทะเลดวงดาวอันกว้างใหญ่เหมือนเช่นเคย
“ในบันทึกไม่มีเหตุการณ์ผิดปกติอื่น ฉันว่าบางทีผู้บุกรุกอาจจะหนีไปแล้ว” เควรอซกล่าวขณะเดินไปหาเซียวไห่ลี่เพื่อตรวจสอบผลลัพธ์จากระบบตรวจจับของสถานี
“หือ?” เซียวไห่ลี่ส่งเสียงอุทานพร้อมกับขมวดคิ้ว
เซี่ยเฟยเดินเข้าไปดูหน้าจอด้วยความอยากรู้อยากเห็นและมันก็ทำให้เขาต้องขมวดคิ้วขึ้นมาด้วยความประหลาดใจเช่นเดียวกัน
บนหน้าจอคือแผนภาพโครงสร้างของสถานีอวกาศแห่งนี้ทั้งหมด โดยมีจุดสีแดงเล็ก ๆ กระพริบอยู่บนหน้าจอตลอดเวลา ซึ่งจุดสีแดงที่กระพริบนี้ได้หมายความว่าประตูอวกาศ E131 บนชั้น 19 กำลังปิดเปิดอย่างต่อเนื่องราวกับว่าประตูกำลังพยายามจะปิดแต่ปิดไม่ได้
เซียวไห่ลี่เปิดระบบเฝ้าระวังเพื่อทำการตรวจสอบสถานการณ์ในบริเวณนั้น แต่ระบบเฝ้าระวังกลับส่งสัญญาณสีแดงระบุว่าระบบเฝ้าระวังทั้งหมดในสถานีอวกาศได้รับความเสียหายและไม่สามารถเปิดใช้งานได้อีกต่อไป
เหตุการณ์นี้ทำให้ทั้งสามคนไม่พูดอะไรและบรรยากาศก็เริ่มตึงเครียดมากขึ้นกว่าเดิม
ทันใดนั้นผลของระบบตรวจจับสิ่งมีชีวิตภายในสถานีอวกาศก็แสดงออกมา โดยมันได้แสดงให้เห็นว่าทั้งสถานีอวกาศมีสิ่งมีชีวิตเพียงแค่พวกเขา 3 คน
เซียวไห่ลี่ทำการขยับมืออย่างรวดเร็วเพื่อทำการเปิดเครื่องตรวจจับพลังงานอีกครั้งและสิ่งที่ปรากฏออกมาก็ทำให้พวกเขารู้สึกประหลาดใจมากขึ้นกว่าเดิม เพราะว่ามันมีคนเข้ามาทำการดัดแปลงระบบพลังงาน
ระบบพลังงานของสถานีอวกาศในปัจจุบันถูกแบ่งออกเป็นหลาย ๆ พื้นที่อย่างอิสระ โดยไม่จำเป็นจะต้องส่งข้อมูลมาที่ศูนย์บัญชาการ
“ไอ้หนูไม่ต้องกังวล! เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องปกติ พวกโจรสลัดกับพวกขนของเถื่อนมักจะชอบใช้วิธีนี้ในการสร้างโกดังลับเป็นของตัวเอง ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องใหญ่” เควรอซตบไหล่เซี่ยเฟยพร้อมกับกล่าวด้วยรอยยิ้ม
เซี่ยเฟยพยักหน้ารับแต่ลางสังหรณ์ของเขากลับส่งเสียงเตือนดังขึ้นเรื่อย ๆ แต่เขาก็ยังไม่ได้พูดอะไรออกไป
“โบซิงวาพวกเราพบปัญหาใหม่ ช่วยเอ็กซเรย์ดูประตูอวกาศ E131, ห้องเครื่องปฏิกรณ์และห้องควบคุมพลังงานหลักให้หน่อย”
“มันเกิดอะไรขึ้น? การใช้ระบบเอ็กซเรย์มันใช้พลังงานสูงมากเลยนะ ถ้าเราทำแบบนั้นพวกเราก็จำเป็นจะต้องปิดโล่พลังงานเป็นการชั่วคราว” โบซิงวากล่าวถามอย่างประหม่า
“ไม่มีอะไร ฉันแค่สงสัยนิดหน่อย ช่วยทำตามที่บอกที”
หลังจากนั้นไม่นานภาพที่เกิดจากระบบเอ็กซเรย์ก็ถูกส่งมายังไมโครคอมพิวเตอร์ของทั้งสามคน แต่ภาพที่ได้รับเป็นภาพที่เบลอมากจนแทบจะมองรายละเอียดไม่เห็น
ในภาพห้องปฏิกรณ์และห้องควบคุมพลังงานหลักไม่มีอะไรผิดปกติ แต่ภาพของประตูอวกาศ E131 มีความผิดปกติเล็กน้อยคล้ายกับว่ามีอะไรติดอยู่ตรงกลางประตูทำให้ประตูบานนี้ไม่สามารถปิดลงได้
“ขอภาพชัดกว่านี้ได้ไหม” เซียวไห่ลี่กล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว
“แถวนี้มีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ารบกวนรุนแรงมาก ฉันทำได้ดีที่สุดแค่นี้” โบซิงวากล่าวพร้อมกับส่ายหัว
“ถ้าอย่างนั้นนายช่วยเข้าระบบควบคุมสถานีอวกาศจากระยะไกลที พวกเราจะลงไปดูเองว่ามันเกิดอะไรขึ้นที่นั่นกันแน่” เซียวไห่ลี่กัดฟันสั่งการ
“เข้าใจแล้ว แต่ตอนนี้มันได้มีการค้นพบเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดทำให้ระดับภารกิจเลื่อนไปเป็นระดับ 3 โดยอัตโนมัติ นายต้องการให้ฉันติดต่อไปที่สำนักงานใหญ่ไหม”
“ยังไม่ต้อง เครื่องตรวจจับสิ่งมีชีวิตยังตรวจไม่พบสิ่งมีชีวิตอื่นในสถานีอวกาศ ฉันคิดว่าอย่างน้อยในตอนนี้พวกเราก็น่าจะปลอดภัย”
พวกเซียวไห่ลี่ทั้งสามคนเดินออกจากห้องบัญชาการไปที่ลิฟต์เพื่อมุ่งหน้าตรงไปยังชั้นที่ 19 ของสถานีอวกาศ
แต่ทันทีที่ประตูลิฟต์ได้ปิดลงเสียงอันตื่นตระหนกของโบซิงวาก็ดังขึ้นมาจากเครื่องสื่อสาร
“มีสถานการณ์ผิดปกติ! ประตูอวกาศ E131 ปิดตัวลงแล้วแต่เครื่องตรวจจับชีวภาพไม่แสดงอะไรขึ้นมาเลย”
การรายงานครั้งนี้ทำให้เซี่ยเฟยจมดิ่งลงไปในห้วงความคิดของตัวเอง เพราะท้ายที่สุดของที่ขวางประตูไม่น่าจะใช่สิ่งของขนาดเล็ก แต่อะไรที่ทำให้มันถูกเคลื่อนออกไปอย่างกะทันหัน?
“มีคนอื่นอยู่ในสถานีอวกาศแห่งนี้หรอ?”
“ถ้ามันมีคน แล้วทำไมเครื่องตรวจจับสิ่งมีชีวิตถึงตรวจไม่เจออะไรเลย?”
เหตุการณ์นี้เริ่มทำให้เซียวไห่ลี่และเควรอซรู้สึกประหม่า เพราะพวกเขาไม่รู้ว่าพวกเขากำลังจะต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์แบบไหน
ทันใดนั้นเซี่ยเฟยก็ได้พบว่าข้างตัวของเขาได้มีเม็ดทรายขนาดเล็กคอยหมุนวนไปรอบ ๆ ตัวของเขาอย่างต่อเนื่อง
เมื่อชายหนุ่มพิจารณาสถานการณ์โดยละเอียด เขาก็ได้พบว่าเม็ดทรายไม่เพียงแต่จะหมุนวนรอบตัวเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น แต่ทรายพวกนี้ยังหมุนวนรอบตัวของเซียวไห่ลี่และเควรอซอยู่ด้วย
“ไม่ต้องห่วง นั่นเป็นพลังพิเศษของฉันเอง ทรายพวกนี้จะคอยทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันให้กับเรา” เควรอซหันไปกล่าวกับเซี่ยเฟยด้วยรอยยิ้ม
“นี่น่ะหรอความสามารถพิเศษควิกแซนด์ดีเฟน!” เซี่ยเฟยอุทานพร้อมกับพยักหน้ารับ
เมื่อลิฟต์ถูกเปิดออกเควรอซก็วิ่งไปด้านหน้าตามมาด้วยเซียวไห่ลี่ที่ติดตามไปอย่างใกล้ชิด แต่เพื่อความปลอดภัยเซี่ยเฟยไม่ได้มุ่งหน้าตามทั้งสองไปแต่คอยรั้งท้ายอยู่ห่าง ๆ
ท้ายที่สุดเขาก็เป็นคนที่อ่อนแอที่สุดจากทั้งสามคน แล้วมันก็ไม่มีเหตุผลที่เขาจะต้องออกไปทำหน้าที่เป็นตัวเปิด
“แย่แล้ว! มันมีอุปกรณ์รบกวนถูกติดตั้งเอาไว้ ตอนนี้พวกเราไม่สามารถติดต่อไปหาโบซิงวาได้” เซียวไห่ลี่พูดขึ้นมาอย่างตื่นตระหนกหลังจากที่ได้พบว่าไมโครคอมพิวเตอร์ของเขาดับไปแล้ว
ชิ้ง!
เมื่อได้ยินประโยคนี้เซี่ยเฟยก็เข้าใจความร้ายแรงของสถานการณ์ได้ในทันที เขาจึงเรียกใบมีดเชสซิ่งไลท์ออกมาจากแขนขวา
ทางเดินตรงบริเวณประตูอวกาศ E131 เต็มไปด้วยเลือดและมีรอยลากยาวจากด้านนอกผ่านประตูเข้าไป
ภาพที่ปรากฏเห็นได้ชัดว่ามันเคยมีคนเสียชีวิตอยู่บริเวณนี้ ก่อนที่ร่างของเขาจะถูกลากออกไปทางประตู
เซี่ยเฟยนั่งลงพร้อมกับใช้นิ้วสัมผัสเลือดที่อยู่บนพื้น ซึ่งมันก็ทำให้เขาอดที่จะขนลุกขึ้นมาไม่ได้นั่นก็เพราะว่า
เลือดที่พื้นยังอุ่นอยู่!
***************
ภารกิจแรกก็เจองานช้างเลยหร๊อ!!
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 372
ความคิดเห็น
ถ้าตรวจจับสิ่งมีชีวิตไม่ได้ หรือว่าจะเป็นพวกหุ่นสมอง AI!
เอาสิๆ หรือว่า AI จะฟื้นคืนชีพเพื่อฆ่าล้างมนุษยชาติอีกครั้ง
แสดงความคิดเห็น