ร้ายนักรักให้หนัก : 3 ข้าวต้มโต้รุ่ง
เมื่อตามคนเอาแต่ใจลงมาข้างล่างสิ่งที่คิดก็คือการแยกย้ายกันไป ต่างคนต่างกลับบ้านแต่เปล่าหรอกเพราะคนตัวสูงกว่ายังยืนรอเธออยู่ไม่ขยับตัวไปไหน
"ยืนรออะไรเห็นมั้ยคนขับรถเปิดประตูรออยู่แล้ว" คำบอกเล่านี้ทรายเองก็เห็นอยู่กับตาเนี่ยแหละอันที่จริงโยธราไม่ต้องบอกเขาซ้ำก็ได้
แต่ที่งงและยืนค้างอยู่คงเป็นเพราะเขาพูดเหมือนจะให้ทรายขึ้นรถไปกะเขา
"เดี๋ยวกลับเอง" อยู่ๆ ปากก็เอ่ยบอกไปเสียงห้วนเลยไม่รู้เหมือนกันว่าต้องทำไงในชีวิตจริงๆ ไม่ค่อยเจอผู้ชายเอารถหรูมารับ เอิ่ม...จะว่าไม่ค่อยก็ไม่ได้ เรียกว่าไม่มีเลยดีกว่า
"บอยมานี่" สิ้นเสียงของทรายโยธราก็หันไปเรียกลูกน้องของตนให้เข้ามาใกล้ๆ ก่อนที่เขาจะแบมือเหมือนขออะไรจากทราย
"อะ...อะไร" น้ำเสียงที่คล้ายตกใจอยู่ๆ ก็ยื่นมือมาในระยะประชิดแบบไม่ทันตั้งตัว
"กุญแจรถของเธอ เอาให้ลูกน้องไป" "ไม่เอาหนูขี่กลับเองได้"
งื้อออออยากจะตบปากตัวเองให้แตกแทนตัวเองว่าหนูจนได้ ผู้ชายตรงหน้ายิ้มกริ่ม จะยิ้มหาสวรรค์ วิมานอะไร
"อันนี้ใช่ไหมกุญแจรถ" โยธราคว้าเข้าที่พวงกุญแจในมือ ทรายที่ยังไม่ทันตั้งตัวก็เผลอพยักหน้ารับออกไปเช่นกัน
"ทะเบียนรถอะไร" ชายหนุ่มยังถามต่อ
"8775" ตอบแบบไม่ทันคิดพอตั้งสติได้ ก็เห็นลูกน้องร่างสูงเดินไปหลังบริษัทที่เป็นโรงรถมอไซค์แล้ว
"ไปกันได้แล้ว ฉันไม่มีเวลามายืนรอเธอทั้งคืนนะ" โยธรากล่าว
ชายหนุ่มพูดเสร็จก็เดินกลับไปที่รถ ทรายก็เดินตามแบบมึนๆ งงๆ ขึ้นไปนั่งฝั่งข้างคนขับ
โยธราไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่หักพวงมาลัยพุ่งออกไปทันที รถของเขาขับออกจากตัวบริษัทแต่คนขับกลับไม่ถามเขาสักนิดว่าบ้านของตนอยู่ที่ไหน
"นั่นไฟแดงเลี้ยวขวา" ทรายตัดสินใจบอกจุดหมายอีกครั้ง เขาพยักหน้ารับ แต่!!!!
เขาเลี้ยวซ้าย!!!
"คุณบ้านหนูอยู่ทางนั้น" ทรายตีโพยตีพายหันไปทางข้างหลังเพราะคนละทาง
"อายุเท่าไหร่" โยธราไม่ได้สนใจท่าทางตีโพยตีพายของทราย แต่กลับกันเขาถามคำถามเหมือนเป็นการซักประวัติกับเหยื่อ เหมือนต้องการรู้จักมากกว่านี้
คนโดนถามก็นิ่งพลางคิดในใจว่าทำไมตัวเองถึงยอมมากับคนแปลกหน้า ถึงจะบอกว่าเป็นลูกค้าแต่นี่เลยเวลางานแล้วนิ ทำไมยังต้องทำหน้าที่พนักงานอยู่
"จอดรถตอนนี้เดี๋ยวทรายกลับเอง" น้ำเสียงเริ่มเคร่งเครียดขึ้นตามลำดับ
"ยังไม่ตอบคำถามผมเลยนะ" โยธราไม่สนใจกับคำพูดของทรายนัก
"คุณจะอยากรู้ไปทำไม จะให้แม่มาขอเหรอถึงได้อยากได้ประวัติเรานักอ่ะ" ทรายว่าต่อด้วยความคับข้องใจเป็นอย่างมาก
"ผมอายุ 38 ปีแล้วนะถ้าจะแต่งเมีย เมียแค่คนเดียวแต่งเองได้ไม่ต้องเดือดร้อนให้แม่ไปขอให้หรอก" เขาตอบกลับทรายด้วยท่าทีสบายๆ
"38 คุณเหรอ 38 อ่ะหลอกหรือเปล่า" จะให้เชื่อได้ยังไงหล่อเหลาป่านนี้
"ตอบคำถามของคุณมาเถอะ" โยธราถอนหายใจออกมาแรงๆ อย่างเบื่อหน่ายเพราะเวลาที่เขาบอกก็มักจะไม่มีใครเชื่อคำพูดของเขานัก
"28ค่ะ" ทรายตอบออกไป
จากนั้นทั้งรถก็เงียบ ทรายก็เริ่มจะสงสัยมากขึ้นเพราะตอนนี้เริ่มเข้าพื้นที่กรุงเทพแล้ว แม้ไม่ได้ไกลจากบ้านแต่ก็ทำให้รู้สึกตัวเองหวาดหวั่นได้เหมือนกัน
"คุณโยธรา" "เรียกผมว่าโยสิ" คนข้างเอ่ยขึ้นอย่างทันควัน เจ้าตัวก็พยักหน้ารับแบบขอไปที
"จะพาไปไหน ง่วงแล้วอยากกลับบ้านไปนอน" ถ้าใช้น้ำเสียงที่แข็งๆ ไปแล้วไม่ได้อะไรก็ลองเป็นอ่อนหวานบ้างดีกว่า
"หิวข้าว" เขากลับตอบเพียงแค่นั้นก่อนจะตบไฟเลี้ยวเข้ามาและจอดที่หน้าร้านข้าวต้มร้านหนึ่งที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงย่านเตาปูน
"กินก่อนเดี๋ยวไปส่ง" หลังจอดรถเสร็จโยเองก็คงเห็นท่าทีของคนที่นั่งข้างไม่ไหวติงเลยตอบกลับไปชัดๆ อีกครั้งเพื่อให้คนฟังสบายใจ
โยเองก็เข้าใจอยู่หรอกว่าอยู่ๆ ก็เดินดุ่มๆ เข้าไปในที่ทำงานคนร่างอวบที่อยู่ตรงหน้าเป็นอะไรที่ผิดแปลกอยู่สักหน่อย แต่เพียงแค่เขาต้องการที่จะศึกษาอะไรบางอย่างให้เข้าใจได้ท้องแท้เท่านั้นถึงต้องลงทุนลงแรงขนาดนี้
(ผิดแปลกที่ไม่หน่อยสำหรับคนที่ไม่ได้รู้จักกัน~ไรท์)
"อ้าวไอ้โยมาทำไมเสือกบอกว่ะ" เสียงผู้ชายหุ่นไร้เรี่ยกันกับโยธราเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นเขาเดินเข้ามาในร้านพร้อมหญิงสาว
"กูหิวและไม่จำเป็นต้องบอกมึง" นพยกยิ้มมุมปากนิดหน่อยก่อนจะพยักหน้าไปทางทรายที่อยู่ด้านหลัง
โยไม่ได้ตอบอะไรเพียงแค่ยักไหล่กว้างๆ นั้นให้หนึ่งครั้ง และเดินไปโต๊ะในสุด เพราะเขาต้องการความสงบ และลูกค้าร้านนี้ก็โคตรเยอะเลย
นพหรือมานพ เป็นเพื่อนที่สนิทกันตั้งแต่ชั้นอนุบาลและเรียนด้วยกันมาตลอด แยกย้ายกันก็ตอนที่เรียนมหาลัย แม่ของโยธราหย่าร้างกับพ่อของเขาและเสียชีวิตในตอนที่เขาอายุ 20 ด้วยโรคร้ายจากนั้นโยจึงต้องไปอยู่กับพ่อแท้ๆ ซึ่ง 1 ปี มีโอกาสได้เจอเพียง 2-3 ครั้ง จากวันที่สำคัญจริงๆ แต่เขาไม่ได้รู้สึกขาดเหลืออะไร เพราะคนที่อยู่เป็นพ่อแม่ให้เขาคือพี่สาวร่วมสายเลือดที่พ่อแม่แยกเราตั้งแต่เด็กๆแล้ว ดีที่ไม่ได้ห้ามติดต่อกันด้วย
ไม่นานอาหารก็ถูกยกออกมาเสริฟ์มากมายเสียจนจะล้นโต๊ะ ทรายกะด้วยสายน่าจะเกือบ 20 อย่างมั้ง พร้อมกับเข้าต้มอีกน่าจะ 10 ถ้วย
"คุณโยทานหมดเหรอ" ทรายถามด้วยความสงสัย
"ไม่เคยหมด" อีกฝ้ายตอบกลับมาแบบนิ่มๆ แบบไม่ได้สนใจ หึ ไม่ดูตัวเองที่เขาบอกเพื่อนให้นำของมาก็เพราะผู้หญิงอวบอ้วนที่อยู่ข้างหน้านี่แหละกลัวจะหาว่าเลี้ยงดูไม่อิ่มหนำ
หลังจากที่จัดการอาหารตรงหน้าเรียบร้อยโยธราก็เอ่ยลาเพื่อนได้เวลาที่ต้องไปส่งคนตรงหน้าแล้ว นี่ก็เลยเวลาเช้าวันมา 2-3 ชม. ไม่แปลกคนตรงหน้าพอขึ้นรถได้แอร์เย็นก็เคลิ้มหลับทันที
ขับรถมาไม่นานก็ถึงพักของทรายอีกฝ่ายยังคงนั่งเงียบหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาเช็กงานและไม่ได้ปลุกคนข้างๆ จนลูกน้องของเขามาเคาะกระจก
"นายครับ วันนี้นายใหญ่จะเข้าบริษัทครับ" ลูกน้องคนสนิทบอกเขาด้วยความกระตื้อรือล้นเหมือนเคย
โยธราถอนหายใจเบาๆ ก่อนพยักหน้ารับแล้วหันไปปลุกคนที่กำลังนอนหลับสบายที่เบาะข้างให้ตื่น
"อือออ" เสียงงัวเงี่ยตื่นขึ้นก่อนจะตั้งสติแล้วมองรอบข้าง อ่าถึงบ้านแล้วนิ
"น้ำลายไหลลงเบาะผม รู้หรือเปล่าว่าเบาะมันแพงมากนะ" เขาว่ายิ้ม
"ไม่เช็ดให้หรอก" ทรายว่าก่อนจะแบมือออกไปเหมือนขออะไรสักอย่าง
"อะไร? " โยธรายังคงสงสัยสิ่งที่คนตรงหน้าทำ
"กุญแจรถกับตารางงาน" ทรายว่าเสียงยังคงง่วงงุน
"เดี๋ยวพรุ่งนี้เอามาคืนลงไปได้แล้ว ผมต้องนอนนะคุณ" เขาตอบตอนแรกก็นึกว่าทรายจะดื้อดึงไม่ลง แต่เปล่าทรายกับพยักหน้าและเดินลงจากรถเข้าไปภายในหอพักทันที
-----------------------------------------------
รู้สึกเหมือนวัยรุ่นเลยค่ะ แต่งนิยายเรื่องนี้
ฝากติดตามคุณโยกับทรายด้วยนะคะ
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 1440
ความคิดเห็น
น่ารักแบบแปลกๆ ดีครับ 55
ไรท์ก็ว่ามันแปลกๆคะ่5555
แสดงความคิดเห็น